Thursday, 26 June 2025
ค้นหา พบ 49021 ที่เกี่ยวข้อง

'UrboyTJ' ขอรักษาตัว หลังป่วยซึมเศร้า เหล่า 'แฟนคลับ-คนดัง' ให้กำลังล้นหลาม

(25 มิ.ย.65) นายจิรายุทธ ผโลประการ หรือเต่า ทีเจ โพสต์ข้อความผ่านอินสตราแกรม UrboyTJ ว่า "สวัสดีครับ ผมชื่อ เต๋า ทีเจ จิรายุทธ ผโลประการ ผมมีเรื่องจะมาบอกครับ ผมเป็น depression ซึมเศร้า, bipolar ผมรู้สึกหมดไฟในการใช้ชีวิตมาหลายเดือนมากแล้ว แต่ไม่มีใครฟังผมเลย ในสิ่งที่ผมพูด ในสิ่งที่ผมแสดงออกไป

เมื่อคืนผมตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่โชคดีที่ทำไม่สำเร็จ และผมคิดว่าผมคงไม่สามารถทำงาน entertain คนดูได้ ถ้าชีวิตผมยังมืดดำอยู่แบบนี้ ผมขออนุญาตเข้ารับการรักษาตัวโดย 1. โรงพยาบาล 2. พบ psychotherapist และทำการเปลี่ยนยาเคมีในสมองและหาทางแก้ปัญหา ผมไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน ผมอาจจะหาย หรือไม่หายก็ได้ แต่ตอนนี้ผมขอหายไปก่อนเพื่อรักษาตัวครับ ขอโทษทุกคน ถ้าผมยังรักตัวเองไม่ได้ ผมก็รักคนอื่นไม่ได้หรอกครับ"

ขณะที่นักแสดง ศิลปิน และแฟนเพลงจำนวนมาก เข้าไปแสดงความคิดเห็นและส่งกำลังใจให้เต๋า ทีเจ ทั้งโต้ง ทูพี, ฟลุค จิระ, เขื่อน เคโอติก, ป็อบปี้ วง 3.2.1, โอ๊ต ปราโมทย์, ป๊อบ ปองกูล, วี ไวท์โอเลต, ใบเตย อาร์สยาม, ซี ศิวัฒน์

อดีตส.ส. แนะ 2 วิธี ลาออกแคนดิเดตนายกฯ หลัง 'ผู้ว่าฯ ชัชชาติ' บอกไม่รู้จะลาออกกับใคร

25 มิ.ย. 2565 - จากกรณี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยว่าตอนนี้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ เพราะไม่รู้จะไปลาออกกับใคร ไม่รู้จะไปยื่นใบลาออกกับใครเหมือนกัน ตอนนี้ก็คือมี 2 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม.ด้วย และตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย แต่เราลาออกจากพรรคเพื่อไทยมา 3 ปีแล้ว เลยมี 2 ตำแหน่ง แต่ตำแหน่งหลังไม่มีเงินเดือน"

'บิ๊กตู่' ชื่นชม คนไทยส่วนใหญ่ยังสวมหน้ากาก ย้ำ!! ศบค. พิจารณาอย่างรอบคอบ-รัดกุม

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมที่คนไทยส่วนใหญ่ ยังให้ความสำคัญและเห็นประโยชน์การสวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย ด้วยความสมัครใจ เพื่อประโยชน์ด้านสุขอนามัยของตนเอง และผู้อื่น 

'โจ ไบเดน' ออกประณาม ศาลสูงสุดสหรัฐฯ หลังคว่ำคำพิพากษารับรอง ‘สิทธิการทำแท้ง’

ศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีคำพิพากษาคว่ำคำตัดสินคดี Roe v. Wade ในปี 1973 ซึ่งรับรองสิทธิตามรัฐธรรมนูญของผู้หญิงในการทำแท้งเมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) ขณะที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ออกมาประณามคำตัดสินดังกล่าวว่าจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อชีวิตสตรีหลายล้านคน และกระพือความตึงเครียดในสังคมอเมริกัน

ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ซึ่งเวลานี้ประกอบด้วยองค์คณะที่เป็นผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยมเป็นส่วนใหญ่ มีคำวินิจฉัย 6 ต่อ 3 เสียงยืนกฎหมายของรัฐมิสซิสซิปปีที่ห้ามการทำแท้งหลังจากตั้งครรภ์เกิน 15 สัปดาห์ และ 5 ต่อ 4 เสียงให้กลับคำพิพากษาในคดี Roe v. Wade โดยมีผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยม 1 คน คือ “จอห์น โรเบิร์ตส” เลือกที่จะสนับสนุนกฎหมายของรัฐมิสซิสซิปปี โดยไม่จำเป็นต้องคว่ำคำตัดสินในคดี Roe

คำตัดสินครั้งนี้ได้ก่อแรงกระเพื่อมขึ้นในสังคมอเมริกันอย่างรุนแรง และจุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความชอบธรรมของศาลสูงสุดซึ่งควรจะเป็นหลักให้แก่ระบอบประชาธิปไตยอเมริกัน แต่กลับมีคำวินิจฉัยเอียงเองไปในทางอนุรักษนิยมสุดขั้วมาแล้วหลายคดี

คณะผู้พิพากษาลงความเห็นว่า คำวินิจฉัยในคดี Roe ซึ่งระบุว่าผู้หญิงมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะยุติการตั้งครรภ์ได้จนถึงจุดที่ทารกจะสามารถมีชีวิตรอดและเติบโตได้ภายนอกมดลูก ซึ่งอยู่ที่ราวๆ 24-28 สัปดาห์หลังการปฏิสนธิ “เป็นคำตัดสินที่ผิดพลาด” เนื่องจากรัฐธรรมนูญอเมริกัน “ไม่ได้มีข้อความที่ระบุชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิในการทำแท้ง”

คำพิพากษานี้จะส่งผลให้รัฐต่างๆ ทั่วอเมริกามีอำนาจออกกฎเกี่ยวกับการทำแท้งได้เอง และนั่นหมายความว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมอาจต้องเดินทางไปยังรัฐอื่นๆ ซึ่งอนุญาตให้มีการทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย ซื้อยาขับเลือดทางออนไลน์ หรือแม้กระทั่งพึ่งคลินิกทำแท้งเถื่อนซึ่งเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง

เวลานี้มีอยู่ 26 รัฐในอเมริกาที่ประกาศจุดยืนว่าพร้อมจะออกกฎห้ามการทำแท้งหรือกำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าว ขณะที่มิสซิสซิปปีเป็นหนึ่งใน 13 รัฐที่กฎหมายห้ามทำแท้งมีผลบังคับทันทีที่คำพิพากษาในคดี Roe ถูกยกเลิก

ขณะเดียวกัน กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านการทำแท้งได้เริ่มเสนอไอเดียให้ศาลสูงสุดออกคำวินิจฉัยว่ารัฐธรรมนูญอเมริกันห้ามการทำแท้งด้วย ทว่าแนวคิดนี้ถูกปฏิเสธทันควันโดยผู้พิพากษา เบร็ตต์ คาวานอห์ ที่ยืนยันว่า “รัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุห้าม หรืออนุญาตให้มีการทำแท้ง”

คาวานอห์ ย้ำว่า คำตัดสินของศาลสูงสุดในวันนี้ไม่ได้ห้ามชาวอเมริกันเดินทางไปยังรัฐอื่นเพื่อทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย และไม่มีบทลงโทษย้อนหลังสำหรับผู้ที่ได้ทำแท้งไปแล้ว

ปคม. ฝากขังหนุ่ม 'คอสเพลย์อวตาร' คัดค้านประกันตัว หวั่นหลบหนีคดี

กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม) หิ้วหนุ่มภัยสังคม 'คอสเพลย์อวตาร' ฝากขังผัดแรก พร้อมค้านประกันตัว พบเหยื่อนับร้อย เป็นเด็กสาวอายุต่ำกว่า 15 ปี 26 ราย เตรียมประสานผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดี

วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ ห้องควบคุมผู้ต้องหา ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม. คุมตัว นายปิยบุตร อุไรงาม อายุ 27 ปี พนักงานคอลเซ็นเตอร์บริษัทสื่อสารแห่งหนึ่ง ที่ก่อเหตุล่อลวงน้องไข่มุก อายุ 14 ปี ถ่ายภาพโป๊ก่อนข่มขู่แบล็กเมล จนเหยื่อเกิดเป็นความเครียดตัดสินใจผูกคอตาย ไปฝากขังที่ศาลอาญาผัดแรก โดยท้ายคำร้องทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันตัวเนื่องจากมีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวแล้วจะหลบหนี

สำหรับคดีนี้มีตำรวจนายหนึ่ง ยศ ด.ต. พร้อมครอบครัว เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. ว่า ลูกสาวอายุ 14 ปี ถูกผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นบัญชีแอคเคานท์แอปพลิเคชั่นดิสคอร์ด และทวิตเตอร์ปลอม หรือ อวตาร ทักมาตีสนิท ก่อนล่อลวงให้ส่งภาพโป๊แลกกับเงิน แต่เมื่อได้ภาพไปแล้ว กลับนำภาพดังกล่าวมาข่มขู่แบล็กเมลด้วยการให้วิดีโอคอล แล้วสั่งให้ทำในสิ่งที่ต้องการในทางลามกอนาจาร หากไม่ยอมทำตามจะนำภาพไปเผยแพร่ จนทำให้ลูกสาวเกิดความเครียดตัดสินใจฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top