ณธีภัสร์ ก้าวไกล จวก รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ริดรอนสิทธิตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ยืนยัน ร่วมสู้ไปกับผู้ต้องหาอีก 19 คน เพื่อผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม
ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนผู้มีความหลากหลายทางเพศ พรรคก้าวไกล เดินทางไปพบตำรวจ สน.ลุมพินี ตามหมายเรียก จากข้อกล่าวหาฝ่าฝืน ‘พ.ร.ก.ฉุกเฉิน’ กรณีการชุมนุมที่แยกราษฎรประสงค์ เพื่อเรียกร้องการสมรสเท่าเทียม หรือ #ม็อบ28พฤศจิกา โดยมี ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, ใธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนผู้มีความหลากหลายทางเพศ, เบญจา แสงจันทร์, วรรณวิภา ไม้สน และกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไปร่วมให้กำลังใจ
ณธีภัสร์ กล่าวว่า รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการริดรอนสิทธิการแสดงออกหรือสิทธิการชุมนุมของประชาชนซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว และปัจจุบันยังคงใช้อยู่ มีผู้ที่ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.ก. ฉบับนี้ เป็นจำนวนมากทั้งที่ควรยกเลิกไปได้แล้ว
“วันนี้มาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและแสดงเจตจำนงว่าไม่หลบหนี ยืนยันว่าจะต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมร่วมไปกับพี่น้องประชาชนอีก 19 คน ที่โดนคดีเดียวกันจากการไปร่วม ม็อบสมรสเท่าเทียม คดีนี้เกิดขึ้นเพียงเพราะพวกเราไปเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมทางเพศให้กับบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศมีสิทธิสร้างครอบครัวและได้สิทธิสมรสอย่างที่ควรได้ ซึ่งบางคนโดนหมายไปแล้วหลายคดี แต่พวกเขายังยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่ลดละ”
ณธีภัสร์ กล่าวต่อว่า เมื่อประชาชนต่อสู้และเพื่อให้การต่อสู้ของพวกเขาไม่สูญเปล่า จึงหวังว่า ในวันที่ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม กลับเข้าสู่สภาอีกครั้ง ส.ส.ที่พี่น้องประชาชนไว้วางใจให้เป็นตัวแทนปากเสียงของพวกเขาและทุกท่านที่เคยอภิปรายสนับสนุน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในครั้งก่อน จะไม่ผิดสัญญากับผู้มีความหลากหลายทางเพศ กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะต้องไม่ถูกปัดตก กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะต้องไม่ถูกบิดเบือนให้เป็นกฎหมายฉบับอื่นที่ริดรอนสิทธิความเสมอภาคและความเป็นมนุษย์ของผู้มีความหลากหลายทางเพศ