Tuesday, 8 July 2025
ค้นหา พบ 49286 ที่เกี่ยวข้อง

‘ช่างภาพจิตอาสา’ เผย ในหลวงรับสั่ง ขบวนเสด็จพระราชดำเนิน งานพิธียกฉัตร จ.อุบลราชธานี ไม่ต้องปิดถนน - ร้านค้าเปิดขายได้ตามปกติ

เพจเฟซบุ๊กกรมประชาสัมพันธ์ เขต 2 กรมประชาสัมพันธ์ ได้เผยแพร่เรื่องเล่าจากนายพงศธร โชติมานนท์ นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ ช่างภาพจิตอาสา งานพิธียกฉัตรฯ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ไกด์อุบลว่า บรรยากาศก่อนจะถึงวันสำคัญของชาวอุบลฯ ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงประกอบพิธียกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง พระประธานพระวิหาร วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 30 เมษายน เต็มไปด้วยข่าวลือว่า บริษัทร้านค้าตามเส้นทางเสด็จฯ จะต้องปิดมิดชิด และมีการปิดถนนตลอดวันด้วย ซึ่งเมื่อถึงวันงานจริง กลับไม่มีประกาศจากหน่วยงานใดๆ ว่าจะต้องปิดร้านค้า หรือจะปิดการจราจรห้วงเวลาใดเลย

โดยนายพงศธร ได้ประจำจุดรับเสด็จฯ สี่แยกกิโลศูนย์ ถนนชยางกูร ได้ความว่า ก่อนถึงวันงาน มีการประชุมช่างภาพจิตอาสาแล้ว ได้รับข้อมูลมาว่า ในหลวงทรงโปรดฯ ไม่ให้ปิดการจราจร รวมทั้งร้านค้าต่างๆ สามารถเปิดกิจการได้ตามปกติ ซึ่งตนคิดว่าจะเป็นไปได้หรือ เพราะเกี่ยวพันกับเรื่องถวายการอารักขาความปลอดภัยด้วย แต่ก็เก็บไว้ในใจ กะว่าถึงวันงานก็จะเห็นเอง

อัปเดต รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ล่าสุด เริ่มวิ่งทดสอบระบบบนเส้นทางจากถนนศรีนครินทร์ เข้าสู่ถนนเทพารักษ์ เป็นครั้งแรก ระบุ ช่วงนี้จะมีวิ่งทดสอบบ่อยขึ้น

เพจโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง เปิดเผยความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีเหลืองล่าสุด โดยระบุว่า ใกล้ได้ใช้กันแล้ว รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง เริ่มวิ่งทดสอบระบบ
#ชาวเทพารักษ์ มีเฮ!!!
#ช่วงนี้แอดมินมีแวว ได้ไปเที่ยวสมุทรปราการ....
#เชื่อมต่อกรุงเทพมหานครและสมุทรปราการด้วยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองฯ

ทดสอบการเดินรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง  

ครั้งแรกสำหรับการทดสอบเดินรถ บนเส้นทางจากถนนศรีนครินทร์ เข้าสู่ถนนเทพารักษ์ 

‘บอม โอฬาร วีระนนท์’ แชร์10 สิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทบาทบอร์ดส่งเสริม สสว. ชี้เป็นหน้าที่อันทรงเกียรติ ย้ำ ประเทศนี้ควรมี  ‘กระทรวง SMEs’ เพื่อช่วยคนตัวเล็กอย่างจริงจัง

นายโอฬาร วีระนนท์ กรรมการบริหาร พรรคสร้างอนาคตไทย และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ยักษ์เขียว จำกัด (YAK GREEN) โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ถึงประสบการณ์การทำหน้าที่บอร์ดส่งเสริมสสว.อย่างน่าสนใจว่า 

“ 10 สิ่งที่ได้เรียนรู้ กับการทำหน้าที่เป็นบอร์ดส่งเสริม สสว. ”
บันทึกความทรงจำ การสิ้นสุดหน้าที่การเป็นบอร์ดส่งเสริม สสว. กับ หน้าที่ท้าทายบทต่อไป

ตลอดระยะเวลา 1 ปี 10 เดือน ที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่อันทรงเกียรติ ในการสนับสนุนคนตัวเล็กทั้ง SMEs และ Startup ของประเทศไทย ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. 2563 เป็นต้นมา จนถึงวันสุดท้ายที่ผมลงนามในใบลาออกจากตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ในวันที่ 19 เม.ย. 2565 รวมถึงได้รับความไว้วางใจ ได้รับแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการ, คณะอนุกรรมการตรวจสอบ, สสว. ระหว่างวันที่ 29 มิ.ย. 2564 - 19 เม.ย. 2565 นั้น ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี มีเรื่องราวต่างๆ มากมาย ที่ได้มีส่วนร่วม และเรียนรู้ ขอบันทึกส่วนหนึ่งของความทรงจำเพื่อเตือนใจตนเอง และอาจเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจ ดังนี้

“ 10 สิ่งที่ได้เรียนรู้ กับการทำหน้าที่เป็นบอร์ดส่งเสริม สสว. ”
1.เมื่อได้รับโอกาส จงทำมันให้ดีที่สุด
คณะกรรมการส่งเสริม ถือเป็นหนึ่งในบอร์ดสูงสุด ที่ร่วมกำหนดนโยบายของประเทศในมิติของการส่งเสริม SMEs มีคณะกรรมการทั้งสิ้น 30 ท่าน เท่ากับจำนวนรัฐมนตรีของประเทศไทย โดยมี
- นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเป็นประธานกรรมการ 
- มีรองนายกรัฐมนตรี นั่งเป็นรองประธาน 
- มีรัฐมนตรีว่าการ 4 กระทรวงได้แก่ รมว.กระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม
- ปลัดกระทรวงอีก 4 กระทรวง คือ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงแรงงาน, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ กระทรวงอุตสาหกรรม 
- ผู้นำสูงสุดของ 4 องค์กรที่ดูแลเรื่องงบประมาณ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจไทย ได้แก่ ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ, เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ, เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
- ประธานสภา / สมาคม หลักของประเทศ 5 องค์กรหลัก คือ สภาเกษตรกรแห่งชาติ, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ สมาคมธนาคารไทย
- ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคต่างๆ อีก 10 คน ในที่นี้เป็นภาคเอกชน 7 ท่าน (ผมเป็น 1 ใน 7 ผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน) 
- ผู้อํานวยการ สสว. ทำหน้าที่เป็นกรรมการและเลขานุการ
จะเห็นได้ว่าคณะกรรมการล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูงสุดของประเทศ ดังนั้นการที่เราได้รับเกียรติเข้าไป ก็แปลว่า เราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่น้อยกว่าผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านเช่นกัน ดังนั้นการทำการบ้าน การเตรียมข้อมูล และการกล้านำเสนอแนวคิดที่เป็นประโยชน์ในภาพรวม ที่ไม่ใช่แค่ประโยชน์ส่วนตน เป็นสิ่งที่เราต้องพึงรำลึก และใช้ทุกนาทีที่มีโอกาสอย่างดีที่สุดเสมอ

2.เมื่อโอกาสไม่มี ผู้สร้างเวทีต้องเป็นเราเอง
- ในฐานะคนตัวเล็ก ที่อยู่ในเวทีใหญ่ๆ แน่นอนว่า ถ้าเทียบกับผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนแล้ว ต่อให้เราเป็นคนที่เล็กที่สุดในวง และไม่มีโอกาสแบบเป็นทางการในการนำเสนอ แต่หากเราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราต้องการนำเสนอ ว่าเป็นผลดีต่อผู้คน ธุรกิจ และสังคมในภาพรวม อย่ารีรอในการสร้างโอกาส ให้สมกับเป็นตัวแทนของกลุ่มคนที่เราได้รับการคัดเลือกมา และใช้มันอย่างมีประสิทธิภาพ

3.อย่าเสียเวลาโฆษณาตนเอง
- การประชุมในระดับสูงนั้น เราแนะนำตัวสั้นๆ ก็เพียงพอ ไม่ต้องโฆษณาตนเองมาก เพราะทุกคนที่ถูกคัดสรรมา ล้วนมีคุณสมบัติที่มากพอ มีดีในมุมของตน เป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับ และต่างถูก Screen ประวัติมาอย่างดี ดังนั้น จงใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ต่อที่ประชุมและประเทศอย่างสูงสุด จะได้รับการยอมรับกว่ามากนัก

4.เจาะลงไปที่แก่นของเนื้อหา โดยเน้นที่คุณค่าที่ผู้ฟังได้รับ
- จงใช้เวลาทุกวินาทีอย่างมีคุณค่า เจาะลงไปที่เนื้อหา แต่นำเสนออย่าง High Impact ด้วยความมั่นใจ จริงใจ สั้น กระชับ มี Key word ให้คนจดจำได้ ตัดประเด็นที่ซ้ำซ้อนออกไป เหลือแต่แก่นที่เป็นหัวใจของการนำเสนอ ที่เราเชี่ยวชาญ รู้จริง และทำข้อมูลมา เพื่อต้องการให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเอง ธุรกิจ และสังคม

5.สิ่งที่เราเห็นจากสื่อ อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นจริงๆ
- อีกมุมหนึ่งที่ผมได้เห็นและเรียนรู้ จากการเข้าร่วมประชุมกับลุงตู่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีของไทยนั้น ผมบอกได้จากใจว่าในทุกครั้งที่ผมมีโอกาสเข้าร่วมประชุมร่วมกันในฐานะบอร์ดส่งเสริม สสว. นายกฯ มีความตั้งใจดีจริงๆ มีการทำการบ้าน อ่านข้อมูลก่อนเข้าร่วมประชุม ตามทันเนื้อหาที่ยากและซับซ้อนได้เป็นอย่างดี ในหลายครั้งนายกฯ พยายามสร้างความมีส่วนร่วมให้กรรมการต่างๆ แสดงความคิดเห็น ให้เกียรติผู้อื่นอย่างเหมาะสม ไม่ได้เป็นดังภาพที่เราเห็นผ่านสื่อ Social Media ต่างๆ เสมอไป ส่วนผลงานการบริหารในมิติอื่นๆ เป็นอย่างไรนั้น เราทุกคนตัดสินกันด้วยตนเองได้

6.ข้อควรระวังเมื่อเราขึ้นสู่บทบาทที่สูงขึ้น คือ “คนรอบข้าง” และ “ข้อมูลที่รายล้อม”
- คบทุกคนได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ควรคบ, ใช้ทุกคนได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ควรใช้ เป็นสิ่งที่ควรตระหนักไว้เสมอ เมื่อเป็นคณะกรรมการระดับสูงในทุกองค์กร เราอาจไม่ได้มีเวลาในการลงไปติดตามงานทุกอย่างด้วยตนเอง ดังนั้นสิ่งที่จะมาถึงเรา ล้วนเป็นข้อมูลที่ถูกส่งและกลั่นกรองมาจาก “ทีมงาน และคนรอบข้าง” เราจะรู้ได้อย่างไรว่า “ข้อมูลนั้น ถูกต้องและเหมาะสม” และมีมุมมองใด ที่สำคัญ ที่เราควรเจาะลงไป ควร Benchmark กับใคร ในหรือต่างประเทศ ใช้ตัวอะไรเป็นชี้วัด ทั้งในมุมของผลงาน การสื่อสารทั้งในองค์กรและออกสู่สังคมในวงกว้าง อะไรคือสิ่งที่สะท้อนกลับมาให้เราสามารถพัฒนา ปรับปรุงได้อย่างเหมาะสม เพราะสิ่งใดที่วัดผลไม่ได้ ย่อมพัฒนาไม่ได้ และแน่นอนว่า การได้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ย่อมทำให้การตัดสินใจคลาดเคลื่อนไปได้เช่นกัน

7.เรียนรู้ เพื่อพัฒนา
- ทุกครั้งที่เราได้โอกาสในการทำงานกับผู้คนในทุกระดับ จงเรียนรู้ในทุกขณะอย่างดีที่สุด ยิ่งมีโอกาสทำงานกับคนเก่งๆ ยิ่งต้องเรียนรู้ที่จะฟัง เก็บข้อมูล บางสิ่งเราสามารถแนะนำพัฒนาได้ อย่ารีรอที่จะทำ หลายสิ่งอาจต้องรอเวลา ก็ต้องรู้จักจังหวะเวลา เร็วช้า หนัก เบา ทำงานเป็นทีมให้เป็น และสร้างสายสัมพันธ์ที่ดี กับผู้คนรอบข้างอยู่เสมอ

โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดสูตร "ผงนัวจากกัญชา" ช่วยชูรสอาหาร รวมทั้งช่วยเจริญอาหาร ให้เลือดลมไหลเวียนดี

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 65 เภสัชกร(หญิง)ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วย ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยเจ้าพระยาอภัยภูเบศร อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่าตามที่เขตสุขภาพที่ 6 กำหนดจัดงานบูรพารวมกัญ มหัศจรรย์กัญชา สร้างสุขภาพ สร้างงาน สร้างรายได้ มีการประชุมวิชาการ บูธนิทรรศการ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จัดคลินิคกัญชาทางการแพทย์ ร่วมกันกับจังหวัดอื่นๆในเขต 6 ระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค.65 เวลา 09.00น. – 18.00น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี นั้น

ทางโรงพยาบาลได้เตรียมสูตรผงนัวจากกัญชานำไปแจกจ่ายให้ประชาชนได้เรียนรู้ด้วย โดย "ผงนัวอภัยภูเบศร" เป็นภูมิปัญญาการใช้เสริมรสชาติอาหารของไทย

ผงนัวก็คือผงปรุงรสที่ไม่ได้สังเคราะห์ เป็นการใช้สมุนไพรหลากหลายชนิด ต่างรสชาติมาผสมให้เกิดความลงตัว และช่วยให้อาหารอร่อยขึ้นได้ ซึ่งมีหลายสูตรด้วยกัน

ประโยชน์ของผงนัว การใช้ผงนัวช่วยลดปริมาณการใช้ผงชูรสได้ ช่วยให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อมมากขึ้น และ ยังได้รับประโยชน์จากสมุนไพรและผักพื้นบ้านอีกด้วย
.
หลักการเลือกวัตถุดิบผงนัวให้ใช้ผัก รสมันหวาน ใช้สำหรับ ต้ม ผัด หมัก แกงและย่าง ผักรสเปรี้ยว ใช้กับต้มยำ ยำ ลาบ อ่อม แจ่ว

ส่วนผสมจะมีสัดส่วนที่ต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ว่าจะนำไป ผัด แกง ทอด ย่าง ยำ หรืออื่นๆ ตามวิวัฒนาการการปรุงอาหาร ดังนั้น การผลิตผงนัวจึงไม่มีสูตรตายตัว

ขณะที่กัญชา เป็นสมุนไพรหนึ่งที่ช่วยในการเสริมรสชาติของอาหารได้ เนื่องจาก มีสารกลูตามิกแอซิด ที่จับกับตุ่มรับรสบนลิ้น ทำให้สามารถรับรสอาหารที่ดีขึ้น และช่วยให้รสอาหารกลมกล่อม มักใช้เป็นเครื่องปรุง ร่วมกับเครื่องเทศสมุนไพร ปรุงอาหารประเภท "ต้ม ยำ ตำ แกง" ช่วยเจริญอาหาร ให้เลือดลมไหลเวียนดี บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปวดเมื่อยตามร่างกาย รวมถึงอาการนอนไม่หลับ สมุนไพรที่นิยมใช้ในตำรับผงนัว เช่น ใบหม่อน ผักไชยา หอมใหญ่ กระเทียม รากผักชี หญ้าหวาน เกลือ
 

‘วรวุฒิ อุ่นใจ’ ย้ำ ‘พรรคกล้า’ ชู แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงแก้วิกฤตชาติ ให้โอกาสคนตัวเล็กเติบโตมั่งคั่งอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า ในฐานะประธานทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า ประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งแม้โควิดที่เข้าสู่ปีที่ 3 จะเริ่มคลี่คลาย แต่ก็เจอภัยสงคราม รัสเซีย-ยูเครน ขย่มซ้ำเราเหมือนจะอยู่ในภาวะสงครามโลกทางเศรษฐกิจเรียบร้อยแล้ว และยังมีความเสี่ยงที่สถานการณ์จะบานปลายได้อีกมาก และการเกิดขั้วอำนาจใหม่ทำให้ไทยต้องปรับตัวขนานใหญ่จากนี้ไป

นายวรวุฒิ กล่าวว่า ทางออกเศรษฐกิจไทย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นนโยบายปฏิบัติ ใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.เน้นการพึ่งพาตนเอง เน้นการบริโภคด้วยวัตถุดิบในประเทศ เน้นเทคโนโลยีเป็นของตนเอง เน้นการสร้างตลาดคุณภาพที่ยั่งยืน ทั้งภายในและต่างประเทศ 2.เน้นการลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ จนถึงการใช้ชีวิตในทางประเทศที่ล่อแหลมต่อภาวะสงคราม คือวางตัวเป็นกลางค้าขายได้ทุกฝ่าย พรรคกล้าใช้หลักการเศรษฐกิจพอเพียง ต่อยอดพัฒนาเป็นแนวทางเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก ที่เน้นพัฒนาเอสเอ็มอี และชาวนาเกษตรกรไทย ให้แข็งแรงเติบโตได้ ไม่ถูกจำกัด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top