Wednesday, 9 July 2025
ค้นหา พบ 49289 ที่เกี่ยวข้อง

‘เพื่อไทย’ ท้านายกฯ แจง5นโยบายที่อ้างทำแล้ว แต่ปชช.ไม่รู้สึกถึงการพัฒนา หวังรอแค่เลือกตั้งใหม่

(2 ..65) นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหาร และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้ปราศรัยถึงแนวทาง 5 ข้อในการพัฒนาประเทศซึ่งได้รับความสนใจและได้รับความชื่นชมอย่างมาก ซึ่งได้แก่เรื่อง การกระจายอำนาจ / ดึงศักยภาพคนไทยด้วย Soft Power / การใช้ Ai เพื่อการเกษตร / การปรับภาครัฐและภาคเอกชนเข้าสู่ Digital Transformation และ การเตรียมคนไทยเข้าสู่ Metaverse

แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ออกมาชี้แจงว่า ทั้ง 5 เรื่องนี้พลเอกประยุทธ์ได้ดำเนินการอยู่แล้ว ดังนั้นจึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ออกมาชี้แจงว่า ได้เข้าใจทั้ง 5 นโยบายนี้ดีพอ และได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง และทำไปถึงไหนและมีผลการดำเนินการอย่างไร เหตุใดประชาชนถึงไม่รู้สึกถึงการพัฒนาเลย

ทั้งนี้ ถ้ามั่นใจว่าได้ทำจริง ตนอยากขอให้ออกรายการทีวีแล้วขอให้ตนได้ซักถามอย่างสุภาพเพื่อให้พลเอกประยุทธ์ได้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ไม่อยากให้พลเอกประยุทธ์เข้าใจไปเองว่าได้ทำแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้ทำและอาจจะยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำ เพราะถ้าหากทำแล้วจริง ประเทศไทยน่าจะต้องพัฒนาไปกว่านี้มาก ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่แบบนี้มา 8 ปีตั้งแต่มีการปฏิวัติแล้ว แถมล่าสุดพลเอกประยุทธ์ยังจะกล้าขายฝันประกาศว่าจะพลิกโฉมประเทศไทยอย่างก้าวกระโดดไปสู่ประเทศชั้นนำของโลก ทำให้ยิ่งดูกลายเป็นเหมือนตัวตลกในสายตาของประชาชน จากผลงานบริหารเศรษฐกิจที่ยิ่งกว่าล้มเหลวสวนทางย้อนแย้งกับที่ขายฝันไว้มาตลอด

นอกจากนี้ รมว. ดีอีเอสยังได้โจมตีความนิยมของพรรคเพื่อไทยในภาคอีสาน โดยเรียกร้องประชาชนชาวอีสานอย่าได้ยึดติดนโยบายพรรคเพื่อไทยในอดีต ซึ่งเป็นเรื่องน่าขบขันอย่างมาก ทั้งนี้เพราะนโยบายในอดีตของพรรคไทยรักไทย สืบทอดมาถึง พรรคเพื่อไทย เป็นที่นิยมของคนอีสานและคนทั้งประเทศอย่างมากเพราะช่วยเหลือประชาชนได้อย่างแท้จริง ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างมาก ในขณะที่นโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่หาเสียงไว้ก่อนเลือกตั้งยังไม่ได้ทำเลยสักนโยบายเดียว เช่น ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400-425 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 20,000 บาท ข้าวเจ้าตันละ 12,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 18,000 บาท นโยบายมารดาประชารัฐ ฯลฯ แต่กลับไม่มีความละอายใจเลย แถมยังโฆษณาว่าจะออกนโยบายใหม่ซึ่งประชาชนคงไม่โง่ และน่าจะไม่มีใครเชื่อถืออีกแล้วเพราะขนาดนโยบายเก่าที่เคยหาเสียงไว้ยังไม่ได้ทำเลย

นายพชร กล่าวว่า ในทางตรงกันข้าม ความเชื่อถือของพรรคเพื่อไทยด้านการบริหารเศรษฐกิจและทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี พัฒนาเศรษฐกิจปากท้องเป็นที่ยอมรับกันอย่างมากตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย และต้องขอขอบคุณ พรรคก้าวไกล ที่ช่วยยืนยันเรื่องนี้ โดยการนำภาพอดีต นายกฯทักษิณ ชินวัตร ขึ้นในเวทีประชุมใหญ่ของพรรค อีกทั้งยังมีภาพคนเสื้อแดงที่เป็นสัญลักษณ์และฐานเสียงสนับสนุนของพรรคเพื่อไทย ยิ่งเป็นการยืนยันประวัติศาสตร์ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของพรรคเพื่อไทย และเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศจะเห็นด้วยและช่วยกันเลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลายในการเลือกตั้งคราวหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้

‘โอ๊ค’ โต้ ‘มาร์ค’ อยาก PR ตัวเองเพื่อกอบกู้พรรคก็ทำไป แต่อย่ามาใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ทวิตเตอร์ “Oak Panthongtae @oak_ptt” กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยก้าวไม่พ้นจากครอบครัวชินวัตร ว่า...

อยากจะ PR ตัวเอง เพื่อกลับมากอบกู้พรรคจากเรื่องหื่นเรื่องฉาวของรองหัวหน้าฯ ก็ทำไป อย่ามาใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ เลยครับ

‘เพื่อไทย’ โว!! ‘ท่อส่งน้ำอีอีซี’ หมัดน็อกรบ. จุดแตกหัก!! ‘กลุ่ม 16’ ไม่ยกมือให้ 'บิ๊กตู่'

(2 ..65) พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส..มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงถึงความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา151ว่า...

พรรคเพื่อไทยได้นัดหารือกับ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส..บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 เมื่อวันที่ 28 เม..65 โดยมีนายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่, นายดล เหตะกูล รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนาร่วมด้วย โดยพรรคเล็กได้สอบถามความพร้อมของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งได้บอกไปว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมมาก

มีเรื่องใหญ่หลายเรื่อง เช่น การจัดซื้อเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์, เรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว, เรื่องท่อส่งน้ำอีอีซี โดยหัวหน้ากลุ่ม 16 เป็นบอร์ดการประปา เป็นหน่วยงานที่ถือหุ้นบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกมาก่อน แบบนี้เป็นการปล้นชาติ ปล้นแผ่นดิน ถ้าพรรคเพื่อไทยมีข้อมูล และอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นจุดแตกหักของรัฐบาล ยกมือให้ไม่ได้ หากในสัปดาห์นี้ ถ้าบริษัท วงศ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด เซ็นสัญญากับกรมธนารักษ์ วันที่ 3 .. จากนั้นวันที่ 4 .. ผมและกลุ่ม 16 นัดทานข้าวเย็น ขณะนี้นายพิเชษฐ และนายมนูญ ยืนยันนัดหมายมาแล้ว ยืนยันว่า มีความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล สามารถน็อกรัฐบาลพล..ประยุทธ์ได้แน่ อย่าชิงยุบสภาไปก่อน” นายยุทธพงศ์ ระบุ

เมื่อถามว่า ถ้าไม่ใช่ พล..ประยุทธ์ เป็นนายกฯ จะเป็นพล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า หน้าที่ของพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน คือการล้มรัฐบาล เมื่อ พล..ประยุทธ์ไป จะมีช่องทางตามกฎหมาย ต้องนำรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ มาดูก่อน พรรคเพื่อไทยยังเหลือชื่อแคนดิเดตนายกฯ อยู่ ต้องมาในระบบกติกาก่อน แต่ถ้ายังเลือกนายกฯ ในกติกาไม่ได้ ต้องใช้ข้อยกเว้นพิเศษตามรัฐธรรมนูญ ก็ว่ากันไป งานนี้ถ้ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว จะยุบสภาไม่ได้ มั่นใจว่าถ้า พล..ประยุทธ์ไม่รีบยุบสภาหนีไปก่อน อาจจะตายกลางสภาได้

'ทิดกาโตะ' รับแล้ว!! มีความสัมพันธ์กับตองจริง เผย!! 'ถูกยั่วยวน - ฝ่ายหญิงบังคับขู่เอาเงิน'

(2 พ.ค.65) พงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตหลวงพี่กาโตะ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ภายในรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยยอมรับว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงสาวที่ชื่อตองจริง เนื่องจากถูกยั่วยวน รวมทั้งระบุด้วยว่าถูกฝ่ายหญิงแบล็คเมล์พยายามขอเงินตลอด

"ยอมรับว่าพาไปเขื่อน (มีสัมพันธ์บนรถ) ผู้หญิงมันยั่ว มันเย้า มันยวนเรา ตั้งแต่รอบแรกก็โดนบังคับในการขู่เอาเงินตลอด เพื่อที่จะไปในรอบต่อไป บอกว่าฉันมีหนี้ ถูกแบล็คเมล์ ตั้งใจว่าจะสึกไว้นานแล้ว"

"เรารู้ว่าเราพลาด เราเผลอใจไป แต่สังคมหลายคนก็เข้าใจ ผู้หญิงเดี่ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย พอโอนปั๊บ นึกว่าจบ ไม่จบ อยากบอกสังคมนะว่าอันนี้เป็นเงินส่วนตัวของพระกาโตะ และสึกมามีเงินติดตัวเพียง 4,000 บาทเท่านั้น ไม่ร้องครับแต่แค้น"

"ผมยอมรับพลาดจริงๆ ผมเป็นวัยรุ่น และเริ่มรู้สึกว่าโดนแบล็คเมล์เพราะเขาพยายามมาหาตลอด ผมไม่ได้หลงรัก แต่คึกคะนอง โอนไปแสนนึงนึกว่าจบ แต่ไม่จบ แล้วเขาก็บอกว่าจะไปทำงานกทม. ขอเงินซื้อโน๊ตบุ๊ก (ใบตองยอมรับว่าจริง) แล้วหลังจากนั้นก็ขอของกำนัล ขอทอง ขอแหวน ผมก็ไม่ให้เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่"

อดีตหลวงพี่กาโตะยืนยันว่า เงินที่โอนให้ฝ่ายหญิง ไม่ได้เป็นเงินของวัด แต่เป็นเงินที่ได้จากการเทศน์ของตนเอง

'วัชระ' ชี้!! 'สมคิด' เหมาะสม แคนดิเดต 'นายกฯ' ยกระดับมหาเทพศก. สร้างอนาคตใหม่ให้ประเทศไทย

"วัชระ" โพสต์เปิดใจ ตั้งแต่ชู "สมคิด" แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคสร้างอนาคตไทย ดีลอะไหล่การเมืองง่าย ชี้สเปค "สมคิด" ระดับมหาเทพศก. ฟันธง คือตัวเลือกที่ใช่ที่สุด ในหมู่ทุกพรรคการเมือง ชี้มีคอนเนคชันระดับโลก รู้ลึกรู้จริงภาคธุรกิจ และรู้ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน

นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ว่าหลังจากการประชุมใหญ่ของพรรค "สร้างอนาคตไทย" เมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีไฮไลท์ที่สำคัญ 2 ประการ คือ 1.การเปิดตัวกรรมการบริหารชุดใหญ่และคณะกรรมการสำคัญอีกหลายชุด และ 2.การพูดถึงเป้าหมายของพรรคที่จะเชิญท่านอาจารย์ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ1 ของพรรคสร้างอนาคตไทย ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า นั้น ผลตอบรับออกมาดีมากๆ

ตนในฐานะที่เป็น "ด่านหน้า" ทำหน้าที่พบปะผู้คนทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา ตนเห็นความเปลี่ยนแปลง และปฏิกิริยาทางการเมือง ที่พูดได้ว่าเป็นแรงกระเพื่อมทางการเมืองขนาดมหึมา (ของจริง) ได้อย่างชัดเจน ดังนี้...

1.ในส่วนของส.ส.ที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ และดาวฤกษ์ทางการเมือง ที่เป็นน้ำดีและมีผลงานที่ประชาชนในพื้นที่ยอมรับ ก่อนหน้านี้คุยยากแถมโทรศัพท์ "สายหลุด" เป็นประจำ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว คุยง่ายสบายใจ แถมชวนตนกินกาแฟวันหนึ่งไม่รู้กี่แก้วต่อกี่แก้ว

2.ในส่วนของผู้คนที่ไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นประเภทบุคคล 'ดี-เด่น-ดัง' ที่เราหวังจะดึงมาร่วมงานทางการเมือง ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ เช่นเดียวกัน

นายวัชระ ย้ำว่า นี่คือสัญญาณเชิงบวกที่ชัดเจนมากว่า บรรดานักการเมือง และส.ส.ทั่วประเทศต่างรู้ดีว่าประชาชนคนไทย ทั้งประเทศหมดหวังและกลัวเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ และเรื่องปากท้องของตนเองในปัจจุบัน และอนาคตมากที่สุด

"นักการเมืองเป็นพวกนกรู้ครับ ดังนั้นการที่พวกเขาจะเลือกอยู่พรรคใดนั้น? พวกเขาจะต้องเลือกพรรคที่เขามั่นใจว่าประชาชนไม่ต่อต้านและเชื่อมั่นในฝีมือมากที่สุด ซึ่งก็คือพรรค 'สร้างอนาคตไทย' ครับ" นายวัรชะกล่าว

และสิ่งนี้เป็นตัวตอกย้ำมากที่สุดว่า ท่าน "อาจารย์สมคิด" คือตัวเลือกที่ "ใช่ที่สุด" และ "โดนใจ" ประชาชนมากที่สุด ในหมู่ตัวเลือกของทุกพรรคการเมืองในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (ฟันธง) พร้อมย้ำว่า สเปคท่าน "อาจารย์สมคิด" คือ สเปคระดับ "มหาเทพ" ทางเศรษฐกิจ

1.บุคลิกและคอนเน็คชั่นระดับโลกเพียบ...ค้าขายกับนานาชาติสบายใจหายห่วงไม่อายใคร

2.กับภาคเอกชนและภาคธุรกิจในประเทศก็ "รู้ลึกรู้จริง" ไม่ต้องไปแนะนำตัวกันใหม่ให้เสียเวลา ทำงานร่วมกันได้เลย

3.อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญและมองข้ามไม่ได้เลย ก็คือท่าน "อาจารย์สมคิด" เป็นคนที่รู้จักระบบระเบียบบริหารราชการแผ่นดินเป็นอย่างดีมาก

เพราะฉะนั้นจะสามารถผสมผสานการทำงาน ระหว่างภาคเอกชนและรัฐได้เป็นอย่างดี เรื่องแบบนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเอาคนที่ไม่รู้เรื่องไม่รู้เรื่องรู้ราวในระบบราชการมาบริหารก็ติดขัดไปหมด ไอ้ครั้นจะรอให้แก้กฎหมายต่างๆอย่างที่หลายคนพูด ก็หมดเวลาแก้ไม่ทันการแล้วครับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top