Sunday, 29 June 2025
ค้นหา พบ 49086 ที่เกี่ยวข้อง

‘บิ๊กป้อม’ ห่วงใยประชาชน สั่งเร่งแก้ปัญหาน้ำ ประชุม กนช. ผลักดันโครงการขนาดใหญ่ แก้ภัยแล้ง-น้ำท่วม ซ้ำซาก เห็นชอบโครงการ ป้องกันน้ำท่วม กทม. และพัฒนาเมืองต้นแบบ จ.ปัตตานี ย้ำนโยบายรายได้ท้องถิ่น พัฒนากลับคืนสู่ ประชาชนช่วยแก้ปัญหายั่งยืน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่1/2564 โดยมี นาย วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

กนช. ได้รับทราบสถานการณ์น้ำ ในปัจจุบันจากแหล่งน้ำทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำ จำนวน 48,558 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 59 ปริมาณน้ำใช้การ 24,456 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 42 อยู่ในเกณฑ์ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และได้มีการพิจารณาเห็นชอบ โครงการขนาดใหญ่ งป.ปี65 ของ กทม.จำนวน 4 โครงการ ได้แก่

1) โครงการก่อสร้างเขื่อน คลองบางไผ่จากบริเวณ คลองพระยาราชมนตรี ถึงบริเวณสุดเขต กทม.

2) โครงการ ก่อสร้างเขื่อน พร้อมระบบรวบรวมน้ำเสียคลองแสนแสบบริเวณประตู ระบายน้ำมีนบุรี ถึงประตูระบายน้ำหนองจอก

3) โครงการก่อสร้างเขื่อนคลองบางนา จากคลองเคล็ดถึงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา

และ 4) โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ จากถนนรัชดาภิเษก ถึงคลองลาดพร้าว และเนื่องจากเป็นโครงการ ที่เป็นคลองซอยเพื่อการระบายน้ำในพื้นที่กทม. ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้กทม.ใช้งบรายได้ ของกทม.เองในการดำเนินโครงการ ต่อไป

นอกจากนั้น กนช. ยังได้เห็นชอบให้ อบจ.ปัตตานี ดำเนินโครงการสถานีสูบน้ำดิบ พร้อมระบบท่อส่งน้ำ โดยให้ใช้รายได้ของตนเองในการเชื่อมต่อระบบ และดูแลบำรุงรักษา เพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน จ.ปัตตานี เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟู และพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ของภาคใต้ ต่อไปด้วย

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ กนช.ให้กำกับ ติดตาม การดำเนินโครงการ ที่ผ่านความเห็นชอบแล้วในวันนี้ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และกรอบเวลาที่กำหนด พร้อมมอบให้ สทนช. เร่งประสานงาน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีการบูรณาการทำงานร่วมกัน ในการขับเคลื่อนโครงการ ดังกล่าวให้บังเกิดผล เป็นรูปธรรม ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวย้ำว่าโครงการต่าง ๆ ที่ได้มีการเสนอขึ้นมานั้น โดยเฉพาะ หน่วยงานหรือท้องถิ่นที่มีรายได้ควรจะต้องใช้งบประมาณของตนเอง กลับมาพัฒนาท้องถิ่น เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ให้มากขึ้นด้วย

ดีแทค เข้าพบ กสทช. รายงานการให้บริการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งรอบเก็บตก ระบุ ระบบไอทีทำงานเต็มประสิทธิภาพ 100% ส่งOTP สำเร็จประมาณ 500,000 รายการ จากจำนวน 1.34 ล้านสิทธิ ในช่วงเวลา 9 นาที

นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ระบบไอทีของดีแทคสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 100% เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในช่วงลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม โดยมีอัตราเฉลี่ยในการส่ง OTP ให้ลูกค้าสำเร็จด้วยเวลาที่รวดเร็วและถูกต้องตามมาตรฐานของเรา”

ทั้งนี้ ดีแทคได้รายงานข้อมูลต่อ กสทช. ระบุว่าระบบของดีแทคสามารถส่ง OTP ประมาณ 500,000 รายการในการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งก่อนที่จะปิดให้ทำรายการในเวลาประมาณ 06.09 น. ตามที่โครงการแจ้งในเว็บไซต์ระบุสิทธิครบจำนวน โดยผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับการยืนยันสิทธิ์ตามขั้นตอนต่อไป สำหรับในครั้งนี้จะมีผู้ได้รับสิทธิ์จากโครงการคนละครึ่งจำนวน 1.34 ล้านสิทธิ

“ดีแทคได้เตรียมพร้อมล่วงหน้าอย่างเต็มที่ในการให้บริการ ซึ่งเป็นไปตามที่ กสทช ร้องขอ และที่สำคัญเราเตรียมพร้อเพื่อลูกค้าของเรา ดีแทคได้ดำเนินมาตรการต่างๆ ในการทดสอบทั้งระบบไอทีและระบบโครงข่ายเพื่อรองรับโครงการคนละครึ่ง รวมถึงทดสอบความพร้อมเทคโนโลยีทั้งระบบกับพันธมิตรผู้ที่ให้บริการหลักที่เกี่ยวข้อง และจำลองการทดสอบในสถานการณ์จริงล่วงหน้าเพื่อความมั่นใจในการให้บริการอย่างเต็มที่” นายชารัด กล่าว

‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จ่อถก กรรมการบริหารพรรค กำหนดท่าทีสู้ศึกสนามเลือกตั้ง ‘ผู้ว่าฯกทม.’ หลังถูกถามความชัดเจนหนุน ‘บิ๊กแป๊ะ’ สวมเสื้อลงชิงเก้าอี้หรือไม่ ชี้อาจยึดเกณฑ์เลือกตั้ง อบจ.ไม่ส่งลงแข่ง เลี่ยงขัดมาตรา 34

หลังจาก “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ประกาศชัดเตรียมตัวลงสู้ศึก เลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ที่คาดว่า จะมีขึ้นภายในปีนี้ อย่างเต็มตัว แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนก็คือ จะลงในนามอิสระ หรือ สังกัดพรรคการเมือง โดยตัวบิ๊กแป๊ะ มีความสัมพันธ์อันดีกับหลายพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ

ภายหลังมีความเคลื่อนไหวของบรรดาแคนดิเคตที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่า กทม.) ทั้ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน , นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม ที่ประกาศชัดเจนจะลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามอิสระ รวมถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร.ที่ได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก เปิดแฟนคลับติดตาม

ทั้งนี้ มีรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า พรรคพลังประชารัฐเริ่มมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยหลังเกิดกระแส พล.ต.อ.จักรทิพย์ บรรดาผู้สนับสนุนพรรคต่างสอบถามความชัดเจนถึงเรื่องนี้ไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรค เพื่อเตรียมพร้อม

โดยแหล่งข่าวพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร เตรียมเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เร็วๆนี้ เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว โดยมีแนวโน้มพรรคจะไม่ส่งใครสมัครลงสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรค เช่นเดียวกับการเลือกตั้ง อบจ. เพื่อป้องกันเข้าข่ายความผิดตาม มาตรา 34 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ว่าด้วยการห้ามข้าราชการเมือง ส.ส. ส.ว.หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ช่วยผู้สมัครหาเสียง และจะมีมติพรรคออกมาเป็นทางการ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนต่อท่าทีของพรรค จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะลงในสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.แบบอิสระ


ที่มา : mgronline , เพจ FC ลุงป้อม ประวิตร

กทม. ปลดล็อก 13 กิจการ กลับมาเปิดให้บริการได้ มีผล 22 ม.ค. นี้ พร้อมยังสั่งปิด 13 กิจการต่อไป

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลง ผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กรุงเทพมหานคร(ศบค.กทม.) ว่า มติที่ประชุมศบค.กทม.มติมติ ผ่อนปรน 13 สถานที่ให้เปิดกิจการและสถานที่ ตามที่สั่งปิดไปก่อนหน้านี้จากสถานการณ์โควิด-19 ดังนี้

1.) ตู้เกม โดยต้องทำความสะอาดจุดสัมผัสบ่อย ต้องสวมหน้ากาก

2.) ร้านเกม อินเทอร์เน็ต

3.) สถานดูแลผู้สูงอายุ ให้ลดเวลาทำกิจกรรม

4.) สนามแข่งขันทุกประเภท ยกเว้น สนามมวย สนามม้า แต่ทั้งนี้ห้ามมีผู้ชม

5.) ห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง ไม่เกิน 300 จัดได้โดยไม่ต้องมีมาตรการ หากเกิน 300 ต้องยื่นขออนุญาตสำนักอนามัย กทม.

6.) สนามพระเครื่อง

7.) สถานเสริมความงาม สถานที่สัก เจาะผิวหนัง

8.) ฟิตเนส ไม่ให้มีเทรนเนอร์ ยกเว้นกิจกรรมอบไอน้ำ อบตัวแบบรวม

9.) สปา ร้านนวดแผนไทย ฝ่าเท้า ไม่รวมอาบ อบ นวด

10.) สถานที่ฝึกซ้อมมวย ค่ายมวย โรงยิม เปิดได้เฉพาะฝึกซ้อม

11.) โบว์ลิ่ง สเก็ต ห้ามมีผู้ชม ห้ามแข่ง

12.) สถาบันสอนลีลาศ

และ 13.) โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ แต่ห้ามมีแข่งขันและห้ามผู้ชม

ขณะที่สถานที่และกิจกรรมที่ยังต้องปิดยังไม่สามารถเปิดได้

คือ 1.) สถานบันเทิง

2.) สนามเด็กเล่น

3.) เครื่องเล่น

4.)สนามมวย

5.) โต๊ะสนุ๊ก

6.) สนามม้า

7.) สนามชนไก่

8.) สนามปลากัด

9.) สนามชนโค

10.) สถานรับเลี้ยงเด็ก

11.) สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อาบ อบ นวด

12.) สถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก

13.) สวนสนุก

14.) สถาบันกวดวิชา

กรมส่งเสริมการค้าฯ วิเคราะห์นโยบายด้านการค้าของสหรัฐฯ ยุค ‘โจ ไบเดน’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ คาดสร้างโอกาสการร่วมมือทางการค้าการลงทุนของธุรกิจสหรัฐฯ ในไทย และช่วยเพิ่มให้ไทยเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ ได้ดีขึ้น

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ได้เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการและลงนามในคำสั่งบริหารและคำสั่งอื่นๆ รวม 15 ฉบับ

ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการประเมินนโยบายด้านการค้าของสหรัฐฯ หลังจากนี้ น่าจะส่งผลดีทำให้ความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับกลุ่มประเทศเอเชียดีขึ้น สร้างโอกาสการร่วมมือทางการค้าการลงทุนของธุรกิจสหรัฐฯ ในไทย และช่วยเพิ่มให้ไทยเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ ได้ดีขึ้น

ด้วยเหตุนี้ กระทรวงพาณิชย์ จึงได้มีการวางแผนการทำงานในปี 2564 โดยเดินหน้าขยายตลาดส่งออกในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเน้นไปที่สินค้าที่มีศักยภาพ คือ อาหารสำเร็จรูป อาหารเสริม สินค้าที่เกี่ยวกับการทำงานที่บ้าน เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน วัสดุแต่งสวน สินค้าสัตว์เลี้ยง เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ออกกำลังกาย เกมส์และความบันเทิงภายในบ้าน และสินค้าป้องกันส่วนบุคคลที่จะมีความต้องการจนกว่าโควิด-19 จะคลี่คลาย โดยตั้งเป้าหมายปีนี้จะขยายตัวที่ 4%

แต่อย่างไรก็ตามยังต้องระวังผลกระทบจากนโยบายของสหรัฐฯ ที่เน้นพึ่งพาการผลิตในประเทศมากขึ้น ทำให้อาจมีการใช้มาตรการที่ไม่ใช่ภาษีเพิ่มขึ้นตามมา เช่นเดียวกับกลุ่มสินค้าต่างๆ เช่น สินค้ากลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงการติดตามนโยบายด้านการเงินการคลังของสหรัฐฯ ที่จะมีผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่มีผลต่อค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิดด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top