Friday, 27 June 2025
ค้นหา พบ 49042 ที่เกี่ยวข้อง

‘พุทธิพงษ์’ เดินหน้าแจ้งความเอาผิดคนโพสต์หมิ่นสถาบันต่อเนื่อง พบเพจ ‘แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ-ปวิน’ โดนอีก ยื่นขอคำสั่งศาลยื่นลบ 136 ข้อความไม่เหมาะสมออก

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ได้กำชับกองป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ปท.)และกองกฎหมายฯกระทรวงดิจิทัล ให้ดำเนินการติดตามตรวจสอบ ผู้กระทำความผิดโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทางสื่อสังคมออนไลน์และรวบรวมหลักฐานยื่นแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) อย่างต่อเนื่อง

โดยทางกองกฎหมายฯ กระทรวงดิจิทัลฯ ได้แจ้งความเอาผิดผู้กระทำความผิด ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ในช่วงวันที่ 4–15 มกราคม 2564 รวม 11 URLs เป็นผู้กระทำความผิดทาง Facebook 9 URLs และทาง YouTube 2 URLs พบชื่อบัญชีผู้กระทำความผิด

อาทิ บัญชีเฟซบุ๊ก เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, บัญชี Pavin Chachavalpongpun (นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์) และยูทูปแชนแนล ชื่อ FAIYEN CHANNEL(วงไฟเย็น) ที่เข้าข่ายกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 โพสต์พาดพิงสถาบันหลักของชาติ

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ปท.สรุปคำสั่งศาล ในช่วงเดียวกัน พบมีการกระทำผิด จำนวน 9 คำสั่งศาล รวม 136 URLs(รายการ) โดยมีทั้ง Facebook, YouTube, Twitter และเว็บอื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างต่อเนื่องจริงจัง

"ฝากแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ขอให้ใช้วิจารณญาณในการใช้งาน ไม่โพสต์หรือแชร์ส่งต่อข้อความที่ไม่เหมาะสมเพราะจะถือเป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯด้วยเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตรวจสอบพิสูจน์ตัวตนได้ทั้งหมด" รัฐมนตรีดีอีเอส กล่าว

‘ชัชชาติ’ โพสต์แฉ กทม.หนี้ท่วม 9 พันล้านบาท ค้างจ่ายเอกชน หลังซื้อใจให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าฟรี ระบุ ยังไม่รู้เอาเงินที่ไหนจ่าย

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เมื่อวานช่วงบ่ายมีเวลาว่าง เลยถือโอกาสไปนั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวเล่น นั่งจากหมอชิต ไปถึงพหลโยธิน 24 ลงไปเดินเล่น คุยกับพี่วินมอเตอร์ไซค์ แล้วนั่งกลับมา แวะซื้อขนมที่เซ็นทรัลลาดพร้าว และ นั่งกลับมาที่หมอชิต เพราะตอนนี้ทาง กทม. ยังให้ขึ้นฟรีอยู่ ไม่ต้องเสียค่าโดยสารตั้งแต่สถานีห้าแยกลาดพร้าวเป็นต้นไป

ทั้งนี้ รถไฟสายสีเขียวส่วนต่อขยาย มีสองส่วน ส่วนเหนือ จากหมอชิต(หรือจตุจักร) ไปคูคต และส่วนใต้จากบางจากไป เคหะฯสมุทรปราการ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้เดิมทาง รฟม.ของกระทรวงคมนาคมเป็นคนสร้าง แต่ครม.มีมติโอนให้ กทม.เป็นผู้ดำเนินการเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561

ทาง กทม.ทยอยเปิดการเดินรถไฟตามสถานีต่างๆ มาตั้งแต่ปลายปี 2561 และ ให้ประชาชนนั่ง “ฟรี” โดยไม่เก็บค่าโดยสาร แต่ กทม.ต้องจ่ายค่าจ้างเดินรถให้ทางเอกชนตลอดเพราะเอกชนเขามีค่าใช้จ่ายในการเดินรถ (ส่วนรายละเอียดว่าค่าจ้างเป็นอย่างไร สัญญาจ้างเป็นอย่างไร หาไม่ได้จริงๆ ครับ)

เมื่อเช้ามีข่าวว่าค่าจ้างสำหรับการเดินรถให้ประชาชนนั่ง “ฟรี” ตอนนี้มียอดหนี้ที่ กทม.ค้างชำระถึงเก้าพันล้านบาทแล้ว และ ยังไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย เห็นว่าจะไปขอจากทางรัฐบาลให้ช่วยออกให้ (แต่สุดท้ายก็เงินพวกเราทั้งนั้นแหละครับ) ซึ่งก็อาจจะไม่ง่าย เพราะจ้างไปก่อนแล้วและเท่าที่ดูมติครม.เมื่อปี 2561 มีแต่เรื่องโอนรถไฟฟ้า แต่ไม่มีระบุว่า กทม.ไม่ต้องเก็บค่าโดยสาร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลกสำหรับการบริหารว่า สามารถจ้างไปก่อนเกือบหมื่นล้านบาทโดยยังไม่รู้ว่าจะเอางบประมาณที่ไหนจ่าย

ถ้าพวกเรามีโอกาสต้องไปแถวนั้น ทั้งหมอชิต หรือ อ่อนนุช ก็ไปนั่งรถไฟฟ้าฟรี กันนะครับ เพราะเหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวก็จะเริ่มเก็บค่าโดยสารในส่วนต่อขยายแล้วและสุดท้ายแล้วพวกเราต้องร่วมกันจ่ายเกือบหมื่นล้านบาทอยู่ดี”

‘ราเมศ’ ซัดกลับ ‘วิโรจน์’ ปมให้ ‘ชวน’ถอนแจ้งความมือคีย์บอร์ดตัดต่อภาพ แยกสร้างสรรค์-เสียหายด้วย แนะควรมีสติปัญญาในการพูด ใช้โซเชียลให้เกิดประโยชน์ ตั้งฉายาเป็นส.ส.ทวิตเซ่อ พร้อมท้าคุยโฆษกก้าวไกล

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และโฆษกพรรค ได้เขียนบทความถึงนายชวน หลีกภัย เพื่อให้ไปถอนแจ้งความเรื่องที่มีการตัดต่อภาพนายชวนจนก่อให้เกิดความเสียหายว่า โฆษกพรรคก้าวไกลถือว่าทำตัวไม่สมกับความเป็น ส.ส.ที่ทำหน้าที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยควรมีความรู้ว่าการใช้ช่องทางกระบวนการทางกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิของตนคือแนวทางที่ถูกต้องตามหลักนิติรัฐ

นายราเมศ กล่าวว่า เราเข้าใจในสถานะของความเป็นนักการเมือง นายชวนเป็นนักการเมืองมายาวนาน การตรวจสอบการกล่าวถึงในมุมมองต่าง ๆ ทำได้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นคนของประชาชนอยู่กับประชาชนมาตลอดชีวิตเปิดกว้าง เปิดรับ ปรับตัว เข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในด้านเทคโนโลยีตลอดเวลา โดยข้อเท็จจริงที่ได้มีการตามเก็บข้อมูลของฝ่ายกฎหมายมีการกระทำการผ่านสังคมโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการให้ร้าย ใส่ร้าย ทำให้เกิดความเสียหายอยู่เป็นจำนวนมาก แต่หลายกรณีมีการตักเตือนให้หยุดการกระทำก็มีอยู่มากเช่นกัน

กรณีล่าสุดที่มีการตัดต่อภาพมีการกระทำที่เกินเลยขอบเขต ภาพตัดต่อจำนวนมากทำให้เกิดความเสียหายประกอบข้อความที่ให้ร้ายกล่าวหานายชวน ว่าสั่งให้ใช้ความรุนแรง สั่งให้ตำรวจทำร้ายประชาชน ใช้ภาพตัดต่อเป็นภาพลามกอนาจาร ตัดต่อในลักษณะไม่เหมาะสมในทางเพศ ตัดต่อในลักษณะที่มุ่งหวังชี้นำให้มีการใช้ความรุนแรง และที่ไม่สามารถเปิดเผย ต่อสาธารณะได้คือการตัดต่อภาพนายชวน หลีกภัยไปในลักษณะก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบัน

ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่ยอมไม่ได้ และมาตรา 16 ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คือกระบวนการในการคุ้มครองประชาชนทั้งประเทศหากมีใครนำข้อมูลที่มีการตัดต่อเติมหรือดัดแปลงแล้วนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่จะทำให้ประชาชนเข้าถึง เข้าไปดูได้ เมื่อเป็นภาพตัดต่อที่ทำให้บุคคลอื่นเสียหายก็ถือว่ามีความผิด การใช้กระบวนการทางกฎหมายคือช่องทางที่ดีที่สุดในระบบประชาธิปไตย

ตนมีสติปัญญาพอที่จะวินิจฉัยได้ว่าภาพตัดต่อเป็นพื้นสีเขียว ไม่ได้มีความผิดหรือภาพที่ตัดต่อแบบสร้างสรรค์สามารถทำได้ เพราะไม่เสียหาย แต่โฆษกพรรคก้าวไกลก็ควรมีสติปัญญาในการพูดเช่นกัน ข้อมูลในสำนวนมีภาพใดบ้างข้อหาอะไรบ้างก็ไม่รู้ แต่ออกมากล่าวหาว่าใจไม่กว้างไม่เข้าใจสังคมโซเชียลมีเดีย ไม่ปรับตัวให้เข้ากับการใช้สิทธิและเสรีภาพ ข้อความที่ได้ออกมาจากโฆษกพรรคก้าวไกลถือว่าเป็นการบิดเบือนเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น โดยเฉพาะกล่าวหาว่าตนไปท้าทาย ข่มขู่ แบ่งแยกประชาชน อันที่จริงข้อความนี้เป็นหมิ่นประมาทแต่ตนใจกว้างพอไม่ติดใจที่จะดำเนินการแต่ก็ขอร้องว่าอย่ามาท้าทาย ทั้งมาดูถูกเหยียดหยามว่าถ้าเป็นโฆษกพรรคก้าวไกลแบบนี้ไม่พ้นโปร เป็นข้อความที่ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนไม่เคยไปพาดพิงโฆษกคนนี้ แต่อยากจะเตือนว่าการทำงานการเมืองไม่ควรทำตัวในลักษณะดูถูกคนอื่น

"ผมคงไม่ไปอยู่พรรคก้าวไกลที่สืบทอดมาจากพรรคอนาคตใหม่ สรุปก็เป็นอนาคตหมด ผมอยู่พรรคประชาธิปัตย์นี่คือความภูมิใจคือพรรคที่เป็นสถาบันยึดมั่นในการครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข พรรคผมไม่เคยถูกยุบ พรรคผมยึดมั่น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวอีกว่า การที่บอกว่าเป็นคนเข้าใจสังคมโซเชียลมีเดียคือจะทำอะไรในพื้นที่นี้ได้ทำผิดกฎหมายได้ใช่หรือไม่ ตนไม่กล้าไปสอน แต่อยากบอกว่าเป็น ส.ส.ควรให้ข้อมูลต่อประชาชนว่าเมื่อวิวัฒนาการของสังคมเปลี่ยนแปลงไปเทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น การสื่อสารที่รับรู้ข้อมูลเร็วขึ้นในสังคมออนไลน์ควรที่จะใช้ในทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์ไม่ใช่ใช้ในทางที่เป็นโทษ นี่คือการปรับตัวไปในทางที่ดี ยิ่งคนเป็นผู้นำควรทำตัวเป็นแบบอย่างอย่านำข้อมูลในการสื่อสารผิด ๆ ถูก ๆ ให้กับพี่น้องประชาชน บางคนทำตัวเป็น ส.ส.โซเชียล ส.ส.ทวิตเตอร์ แต่ดูจากการสื่อสารแล้วควรได้รับฉายาเป็น ส.ส.ทวิตเซ่อ มากกว่า และขอท้าโฆษกพรรคก้าวไกลว่านัดได้เลยห้องประชุมกรรมาธิการที่สภา มาคุยกันถึงเรื่องที่ตนไปแจ้งความว่าภาพที่ถูกตัดต่อให้เกิดความเสียหายนั้นมีอะไรบ้าง

‘อนุทิน’ รมว.สาธารณสุข เผยกัมพูชาขอบคุณรัฐบาลไทยช่วยดูแลชาวกัมพูชาในประเทศไทย ช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยไทยเสนอตัวเป็นที่ตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ พร้อมสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับภูมิภาคอาเซียน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังให้การต้อนรับ นายอูก ซอร์พวน (H.E. Mr. Ouk Sorphorn) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย ว่า

เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประจำประเทศไทย ได้เข้าพบหารือข้อราชการ พร้อมขอบคุณรัฐบาลไทยที่ดูแลชาวกัมพูชาในประเทศไทยเป็นอย่างดี โดยเฉพาะแรงงานกัมพูชาในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และขอให้ดูแลชาวกัมพูชาที่ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลไทยมีนโยบายดูแลผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทุกคนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้เสนอตัวเป็นที่ตั้งศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases (ACPHEED) โดยอยู่ระหว่างการคัดเลือกประเทศที่เหมาะสม ซึ่งไทยมีความพร้อมในการสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับภูมิภาคอาเซียน ให้สามารถตอบโต้ต่อภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และโรคอุบัติใหม่ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และได้ขอให้กัมพูชาสนับสนุนให้ไทยเป็นที่ตั้งของศูนย์ดังกล่าวด้วย

‘นิพิฏฐ์’ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เตรียมยื่นกระทรวงการต่างประเทศ ขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นห้าม ‘ปวิน’ ในฐานะผู้ลี้ภัยแสดงความเห็นทางการเมือง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ถึงนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ซึ่งมีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองของไทย ระบุว่า

ผมไม่รู้จักอ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ และไม่ประสงค์จะรู้จักเธอ แต่ก็พอจะรู้ว่าเธอมีความคิดทางการเมือง และรสนิยมการใช้ชีวิตไปทางไหน การใช้ชีวิตของเธอหากไม่กระทบกับสังคมโดยรวมเธอจะมีจริตไปทางไหนก็แล้วแต่เธอ เอาตามรสนิยมที่เธอชอบว่างั้นเถอะ ไม่ว่ากัน วันก่อนเห็นเธอโพสต์รูปโชว์ก้นอยู่ ผมก็ได้แต่หายใจยาวกับอาจารย์คนนี้

วันดี คืนดี เธอก็เข้ามาคอมเม้นท์ในเฟสบุคส์ของผมแบบไม่ได้รับเชิญ ผมนี่ใจหายแว๊บเลย แต่ก็ไม่ติดใจอะไรเธอ เนื่องจากเฟสบุคส์ผมเป็นพื้นที่สาธารณะ เธอจะคอมเม้นท์อะไรก็แล้วแต่เธอ แต่.. ผมว่าระยะหลังนี่เธอจะพล่านมากไปหน่อย อาจคิดถึงบ้านหรืออย่างไรก็ไม่รู้ เธอมักทำอะไรที่ไม่สมกับอายุ และไม่สมกับเป็นครูบาอาจารย์ อารมณ์เธอวูบวาบเหมือนคนกำลังจะหมดประจำเดือน

ผมทราบว่าเธอได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในประเทศญี่ปุ่น การเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองนี่ เขาห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองนะ แต่เธอก็แสดงความเห็นทางการเมืองอย่างร้อนแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะการเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมก็สงสัยว่า แล้วกระทรวงการต่างประเทศไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยหรือ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ท่านสบายดีอยู่หรือ

สัปดาห์หน้า ผมจะทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามเธอในฐานะผู้ลี้ภัยแสดงความเห็นทางการเมือง เพราะการแสดงความเห็นของเธอหลายครั้ง กระทบถึงความสัมพันธ์อันดีที่ไทยมีอยู่ยาวนานกับประเทศญี่ปุ่น ลองดูซิว่า ท่านรัฐมนตรีจะตอบว่าอย่างไร อ้อ!! แล้วถ้าเธอไม่อยู่ในสถานะผู้ลี้ภัย ก็ทำเรื่องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเสียเลย ผมไม่ได้เป็นส.ส.กับเขาหรอกจึงไม่มีโอกาสไปสอบถามในสภาครั้นจะหวังพึ่งส.ส.ในสภา ก็อย่าพึ่งเขาเลย ทำในฐานะประชาชนดีกว่า ถามกันทางนี้แหละ ท่านรัฐมนตรีตอบมาอย่างไร จะนำมาแจ้งให้ทราบครับ

อ้อ!! อ.ปวิน นี่เธอเป็นผู้ชายนะ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top