Tuesday, 24 June 2025
ค้นหา พบ 48993 ที่เกี่ยวข้อง

'นิด้าโพล' ชี้!! ค่าเฉลี่ยคนไทย 77.68% สนเปลี่ยนขับรถยนต์ไฟฟ้า หวังช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม แต่รับไหวเรทราคา 5 - 9 แสน

ภายใต้แคมเปญ Get to know Thai consumers เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมมือกับศูนย์สำรวจความคิดเห็น 'นิด้าโพล' สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เพื่อสำรวจความคิดเห็นและพฤติกรรมผู้ใช้รถยนต์ของคนไทย 1,000 คน ทั่วประเทศ

ซึ่งผลการสำรวจระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยมีความสนใจใน รถยนต์ไฟฟ้า (xEV) สูงถึง 77.68% โดยมองว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นการช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 28.97% และมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย 26.88% อีก 16.96% มองว่าเป็นการช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษาในระยะยาว

ทั้งนี้ หนึ่งในผลสำรวจพบว่า 80.26% คิดว่า ราคาที่เหมาะสมของรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) ควรอยู่ระหว่าง 500,000 - 900,000 บาท ขณะที่รูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) ที่คนไทยสนใจแบ่งเป็น รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) 38.69% รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (Hybrid Electric Vehicle: HEV) 30.95% และรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก (Plug-In Hybrid Electric Vehicle: PHEV) 30.36%

ส่วนปัจจัยที่ทำให้คนไทยเปลี่ยนใจมาใช้ รถยนต์ไฟฟ้า (xEV) แทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันคือ ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 22.02% แสดงถึงความกังวลและความตระหนักถึงปัญหา PM2.5 ซึ่งมีที่มาจากควันจากท่อไอเสียรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน ในขณะที่ 19.05% มองว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่เป็นมิตรมากกว่าและมาพร้อมเทคโนโลยีที่ดีกว่า

นอกจากนี้ผลการสำรวจยังระบุประเด็นสำคัญ อื่น ๆ อาทิ 57.74% จะนำ รถยนต์ไฟฟ้า มาใช้ทดแทนทุกกิจกรรมที่เคยใช้งานรถยนต์พลังงานน้ำมัน โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 3 อันดับแรกในการตัดสินใจซื้อ คือ ความคุ้มค่า ความปลอดภัย และศักยภาพของรถ

และคนไทย 99.31% มีความเห็นเชิงบวกต่อรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน และมีมุมมองที่เปิดกว้างต่อเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่จากจีน โดยส่วนใหญ่ยอมรับว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีจากจีนนั้น มีความน่าสนใจน่าติดตามในราคาที่เข้าถึงง่าย

ณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตอกย้ำจุดยืนที่ชัดเจนตามกลยุทธ์ consumer-centric ในการรับฟังทุกความเห็นของผู้บริโภคมาวางแผน พัฒนา และส่งมอบผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการให้บริการอันล้ำสมัยเข้าสู่ตลาดไทย

รวมไปถึงการร่วมพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า (xEV) พร้อมผลักดันเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสร้าง Ecosystem ของรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพการบริการ ส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคชาวไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของไทย ให้ก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในอนาคต

รมว.สธ. ‘อนุทิน ชาญวีรกุล’ สั่งกระทรวงสาธารณสุข เสนอคณะรัฐมนตรี ยกเว้นค่าธรรมเนียมประกอบกิจการรายปีแก่ร้านนวด สปา กว่า 10,000 แห่ง เป็นระยะเวลารวม 2 ปี เพื่อเยียวยากิจการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าได้สั่งการให้นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ในฐานะผู้กำกับดูแลมาตรฐานและขึ้นทะเบียนร้านนวด ร้านสปา มากกว่า 10,000 แห่ง ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19

จัดทำข้อมูลความเดือดร้อน และผลกระทบ รายงานต่อคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งเสนอให้ขยายการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี จากเดิม 1 ปี เป็น 2 ปี เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการ

นายแพทย์ธเรศ กล่าวว่า หลังการระบาดระลอกแรก และมีการผ่อนคลายให้เปิดกิจการได้ ช่วงกลางปี 2563 ก็พบว่ามีกิจการที่สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้เพียง 4,000 กว่าแห่งเท่านั้น และจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ในเดือนธันวาคม 2563 กรม สบส.ได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนที่ผู้ประกอบการได้รับ จึงมีมติในการประชุมคณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพฯ

ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ให้เพิ่มระยะเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปี อีก 1 ปี รวมกับระยะเวลาที่เคยเสนอไปในคราวก่อน รวมเป็น 2 ปี เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ประกอบการ

“ขณะนี้กระบวนการอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดทำวาระเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบ นอกจากนี้ กรม สบส. จะมีการพูดคุยหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการเพื่อหามาตรการในการเยียวยาด้านอื่นๆ ต่อไป” อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าว

กระทรวงการคลัง เตรียมเปิดลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง รอบเก็บตก อีกประมาณ 1 ล้านสิทธิ ช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ ยืนยัน ยังไม่มีแผนขยายเวลาและเพิ่มวงเงินเป็น 5,000 บาท ตามที่เอกชนเสนอ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเปิดให้คนไทยลงทะเบียนข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” ในรอบเก็บตก อีกครั้งช่วงกลางเดือนม.ค.นี้ เพราะตอนนี้ได้รับทราบรายงานแล้วว่า มีสิทธิคงเหลือรวมประมาณ 1 สิทธิ จากการดำเนินโครงการในเฟสแรก และเฟส 2 รวมทั้งยังมีสิทธิตกหล่นจากผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมเฟส 2 แต่ไม่ได้ใช้จ่ายภายใน 14 วันด้วย

ซึ่งจะต้องมาสรุปตัวเลขอีกครั้ง ขณะที่ข้อเสนอของทางภาคเอกชน ที่เสนอให้รัฐบาลพิจารณาขยายเวลาโครงการคนละครึ่งออกไปอีก 3 เดือน และเพิ่มวงเงินเป็นคนละ 5,000 บาท นั้น กรณีนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณา เพราะยังเหลือเวลาอยู่ 3 เดือน หลังจากนั้นจึงจะประเมินกันใหม่อีกครั้ง

สำหรับโครงการคนละครึ่ง เฟส 2 ได้เปิดให้ประชาชนได้เริ่มใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 นั้น จากข้อมูล ณ วันที่ 3 ม.ค. 2564 มีผู้ใช้สิทธิรวมทั้งหมด 12,050,115 คน โดยเป็นการใช้จ่ายของกลุ่มผู้ได้รับสิทธิเดิมจำนวน 9,536,644 คน ใช้จ่ายสะสม 52,358.3 ล้านบาท และผู้ได้รับสิทธิใหม่จำนวน 2,513,471 คน ใช้จ่ายสะสม 1,073.6 ล้านบาท รวมยอดการใช้จ่ายสะสม 53,431.9 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 27,353.4 ล้านบาท

และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 26,078.5 ล้านบาท จังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา ชลบุรี เชียงใหม่ และนครศรีธรรมราช ตามลำดับ และมีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1.1 ล้านร้านค้า โดยผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

ต้อนรับวันเด็กแห่งชาติ รวมมิตรทั่นผู้นำ...ผู้คล้ายตัวการ์ตูน

วันนี้วันเด็กแห่งชาติ นึกถึงเรื่องราวเด็กๆ ก็ทำให้นึกถึงบรรดาการ์ตูนที่เป็นของคู่กัน ใครมีตัวการ์ตูนในดวงใจอะไรกันบ้าง? สำหรับเรามีเพียบ!  The States Times นึกสนุก ลองหยิบตัวการ์ตูนในตำนาน มาเทียบเคียงกับเหล่าทั่นผู้นำของประเทศไทย ทั้งปัจจุบันและในอดีต มีท่านไหนเหมือนตัวการ์ตูนตัวใดบ้าง ไปดูกัน!

ลุงสมชาย & โนบีตะ

อดีตนายกรัฐมนนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย ทั่นสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ด้วยลุคที่ผู้คนเห็นเป็นประจำ นั่นคือ การสวมแว่นตา ดูไปดูมา ท่านคล้าย...เจ้าโนบีตะ ตัวการ์ตูนในตำนานจากเรื่องโดราเอมอน เด็กชายสวมแว่นที่มีแมวจากโลกอนาคตเป็นเพื่อนซี้ พร้อมประโยคอันแสนจดจำ ‘โดราเอมอนช่วยด้วยยยยยย’

ลุงแม้ว & ป็อบอาย

ลุงแม้ว หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของเมืองไทย แถมยังอยู่ในตำแหน่งตั้งเกือบ 6 ปีแน่ะ เรียกว่าได้มอบคำขวัญวันเด็กกันอยู่หลายรอบ ส่องรูปพรรณสัณฐานใบหน้าของลุงแม้วแล้ว คลับคล้ายคลับคลาตัวการ์ตูนกะลาสีเรือในตำนาน นามว่า ‘ป็อปอาย’ ใครที่ยังจำได้ ป็อปอายต้องกินผักเขียวกระป๋อง แล้วจะทรงพลัง งานนี้เห็นลุงแม้วถือแก้วไวน์ออกสื่อโซเชี่ยลอยู่บ่อยๆ ก็ไม่แน่ใจว่า จะชอบกินผักด้วยหรือเปล้าน๊า??

น้าปู & มู่หลาน

ประเทศไทยเคยมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกและคนเดียวเมื่อปี พ.ศ. 2554-2557 เธอคือ น้าปู เอ้ย! นายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเป็นนายกฯ ของเมืองไทยลำดับที่ 28 เห็นใบหน้าของอดีตนายกฯ ปูแล้ว เธอดูคล้ายๆ มู่หลาน ตัวการ์ตูนหญิงยอดนักสู้ที่ต้องออกรบเพื่อปกป้องบิดาของตัวเอง แหม่ พล็อตคุ้นๆ นี่ถ้ารบเพื่อพี่ชายล่ะก็ เป๊ะปังปุลิเย่!!

น้ามาร์ค & เดคิสุงิ

น้ามาร์ค หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี พ.ศ. 2551 – 2554 เป็นนายกฯ คนที่ 27 ของประเทศไทย ใครๆ ก็มักเห็นภาพน้ามาร์คในมาดเนี้ยบๆ เป็นประจำ ทำให้นึกถึงตัวการ์ตูนในเรื่องโดราเอมอน นามว่า เดคิสุงิ มาดเนี้ยบ เรียนเก่ง และดูผู้ดี๊ผู้ดี นี่มันภาพอวตารของน้ามาร์คช้าดดดๆ!!

คุณปู่จิ๋ว & จอมมารบู

ยังจำคุณปู่จิ๋วหวานเจี้ยบได้หรือเปล่า หลานๆ เด็กๆ ยุคนี้อาจไม่คุ้นเคยอดีตนายกรัฐมนตรีท่านนี้ ในอดีต พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ หรือคุณปู่จิ๋ว เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยในช่วงปี พ.ศ. 2539 - 2540 ใครที่คุ้นๆ ก็มักจะนึกถึงยุควิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งนั่นแหละ ไม่นาเชื่อว่า คุณปู่จิ๋วจะมีความละม้ายคล้าย จอมมารบู ตัวการ์ตูนจากเรื่องดราก้อนบอล แม้จอมมารบูจะรับบทตัวร้าย แต่ก็เป็นตัวร้ายที่ดูน่ารัก มาในตัวม่วงกลม หน้าตาน่าเอ็นดู เห็นแล้วไม่อยากปะทะ แต่อยากยิ้มให้ซะมากกว่า 

ลุงตู่ & สึบาสะ

ปิดท้ายที่ลุงตู่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศไทย ลุงตู่มาดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 โดยเป็นนายกฯ คนที่ 29 ของประเทศ นอกจากเรื่องบริหารบ้านเมืองแล้ว ลุงตู่ยังแต่งเพลงได้เก่งไม่เป็นสองรองใคร แถมยังชอบกีฬาตระกร้อ และฟุตบอล ดูจากช็อตซัลโวลูกฟุตบอลช็อตนี้ ช่างคล้ายกับตัวการ์ตูนนักฟุตบอลขวัญใจเด็กๆ ยุค 90 นั่นคือ โอโซระ สึบาสะ จากเรื่องเจ้าหนูสิงห์นักเตะ พอมาเล็งเทียบท่าทางกันแล้ว สงสัยคงต้องเรียก ลุงตู่สิงห์นักเตะ ส่วนจะเตะฟุตบอลอย่างเดียว หรือเตะคนเอาลุงตู่มาเป็นตัวการ์ตูนด้วย อันนี้ก็ขอกราบลา!!!  (อิอิ)

9 มกราคม พ.ศ. 2472 ครบรอบ 92 ปี พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ วางศิลาฤกษ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า

สำหรับชาวกรุงเทพแล้ว หลายคนคุ้นเคยกับสะพานพระพุทธยอดฟ้ากันเป็นอย่างดี ทั้งจากภาพลักษณ์ของสะพานที่งดงาม หรือเป็นสะพานที่ใช้สัญจรไปมาระหว่างฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนคร แต่หากย้อนเวลากลับไปกว่า 92 ปี วันนี้ถือเป็นสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จฯ วางศิลาฤกษ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า

กล่าวสำหรับสะพานพระพุทธยอดฟ้า ถูกสร้างในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสสถาปนากรุงเทพมหานครครบ 150 ปี โดยมีพระราชดำริที่จะสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงความรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช อันเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และทรงเป็นผู้สถาปนากรุงเทพมหานคร

สะพานพระพุทธยอดฟ้าถูกออกแบบเป็นสะพานเหล็กยาว 229.76 เมตร กว้าง 16.68 เมตร ท้องสะพานสูงเหนือน้ำ 7.50 เมตร สามารถยกตอนกลางให้เรือใหญ่แล่นผ่านได้ โดยเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2472 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์ และโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสะพานว่า สะพานพระพุทธยอดฟ้า กระทั่งกาลเวลาผ่านมาถึงปัจจุบัน สะพานอันงดงามแหง่นี้ก็ยังคงดำรงอยู่ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในด้านการสัญจรเรื่อยมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top