Thursday, 15 May 2025
ค้นหา พบ 48101 ที่เกี่ยวข้อง

ด่วน! สั่งถอนกำลังจนท.ดับเพลิงออกจาก ‘โรงงานย่านกิ่งแก้ว’ หลังเพลิงโหมใกล้ถังน้ำมันแล้ว

สืบเนื่องจากกรณี วันนี้ 5 ก.ค. 64 ได้เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตโฟม และเม็ดพลาสติก ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยระหว่างเพลิงไหม้มีเสียงระเบิดดังขึ้น เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.30 น. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ทั้งนี้ช่วงเวลา 12.45 น. มีรายงานว่า มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ #โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ถอนกำลังออกเวลานี้ เนื่องจากไฟกำลังเข้าใกล้ถังน้ำมันแล้ว 

 

ที่มา : https://www.naewna.com/local/585199


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ส่องโปรไฟล์ 4 ยอดโค้ช นำทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยูโร 2020

เข้าถึงช่วงโค้งสุดท้าย ศึกฟุตบอลยูโร 2020 กันแล้ว ล่าสุดได้ 4 ทีมสุดท้าย ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะเตะกันในค่ำคืนวันอังคารที่ 6 ก.ค. เวลาตีสอง และคืนวันพุธที่ 7 ก.ค. เวลาตีสองเช่นเดียวกัน

ถึงตรงนี้ ต้องบอกว่า ทั้งอิตาลี, สเปน, อังกฤษ และเดนมาร์ก ถือเป็นสุดยอดทีมที่บุกป่าฝ่าดงแข้งกันมาได้ถึงรอบนี้ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับบรรดาโค้ชของทีม ไม่ว่าจะเป็น โรแบร์โต้ มันชินี่ โค้ชอิตาลี, หลุยส์ เอ็นรีเก้ โค้ชสเปน, แกเร็ธ เซาธ์เกต โค้ชอังกฤษ และคาสเปอร์ ฮูลมันด์ โค้ชเดนมาร์ก ที่ทำงานหนักจนพาทีมผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้

แต่จากนี้ จะเป็นโค้ชคนไหน ที่จะพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ และคว้าแชมป์ไปครอง เราลองไปดูโปรไฟล์พวกเขาซะหน่อยดีกว่า

ในบรรดาโค้ชทั้ง 4 คน แกเร็ธ เซาธ์เกต ถือเป็นโค้ชที่คุมทีมนานที่สุด ตั้งแต่ปี 2016 นับเป็นจำนวน 59 นัด ส่วนหลุยส์ เอ็นรีเก้ และคาสเปอร์ ฮูลมันด์ คุมทีมเป็นจำนวนเท่ากันที่ 18 นัด โดยเป็นฮูลมันด์ที่ทำผลงานได้ดีกว่า พาทีมเก็บชัยชนะไปถึง 12 นัด ส่วนเอ็นรีเก้พาทีมชนะ 8 นัด

แต่ถ้าคิดตามค่าเฉลี่ยจำนวนการคุมทีมกับการคว้าชัยชนะที่สูงที่สุด ต้องยกให้โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่คุมทีมไป 37 นัด สามารถเก็บชัยชนะไปได้ถึง 28 นัด ที่สำคัญ ยังพาทีมอิตาลีกระหน่ำประตูไปได้ถึง 90 ประตู เสียประตูเพียงแค่ 16 ประตูเท่านั้น

ยังมีสถิติที่น่าสนใจอีกอย่างคือ โค้ชทั้ง 4 คนนี้ ยังไม่เคยคว้าแชมป์ใหญ่ในรายการระดับเมเจอร์ด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ยังเป็นผู้เล่นก็ดี หรือในตอนที่หันมาเอาดีเป็นโค้ช ดังนั้น แชมป์ยูโรครั้งนี้ จะมีโค้ชที่คว้าแชมป์ใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิต น่าสนใจมาก ๆ ว่า เขาคนนั้นจะเป็นใคร

ถึงตรงนี้ ไม่ว่าใครจะเป็นทีมเต็ง ขอให้ลืมไปได้เลย เพราะรับประกันว่า ทุกทีมใส่กันเต็มแน่นอน ผลงานในสนามเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า พวกเขาสมควรจะเป็นแชมป์ยูโรหรือไม่ อีกไม่นานได้รู้กัน!


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ตม.หนองคาย บุกทลายร้านคาราโอเกะบังหน้า ค้ากามเด็กสาวลาวอายุต่ำกว่า 18 ปี

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์  ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 และ พ.ต.อ.ธานินทร์ อินทพรต ผกก.ตม.จว.หนองคาย ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ดังนี้

ตม.จว.หนองคาย ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จับกุมนายสงกรานต์ อายุ 49 ปี เจ้าของร้านคาราโอเกะ พร้อมคนต่างด้าวสัญชาติลาว จำนวน 3 ราย ที่ห้องพักรีสอร์ท ใน อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ในความผิดฐาน “เป็นผู้แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคลและเด็ก โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี, เป็นธุระจัดหาหรือชักพาไปซึ่งเด็กที่มีอายุกว่า 15 แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี, เป็นผู้ดูแลหรือจัดการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี และเป็นผู้สนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง” พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้หญิงต่างด้าวสัญชาติลาว ทราบว่า “เป็นคนเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต”

ตม.จว.หนองคาย ได้ทำการสืบสวนคนต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อหาปลายทางการลักลอบว่ามีเป้าหมายไปยังที่ใด ทำงานประเภทใด จนทราบว่า กลุ่มคนต่างด้าวสัญชาติลาวบางส่วน มักจะลักลอบเข้ามาทำงานขายบริการ ณ ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.หนองคาย ซึ่งมีการลักลอบรับคนต่างด้าวสัญชาติลาวเข้าทำงานโดยผิดกฎหมายและพบว่ามีการลักลอบค้าประเวณีแอบแฝง ซึ่งทางร้านได้ลักลอบเปิดให้นักท่องเที่ยวขาประจำมาใช้บริการกินดื่มและซื้อบริการทางเพศ โดยใช้วิธีปิดไฟภายในร้าน เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ให้หลงเชื่อว่าร้านดังกล่าวไม่ได้เปิดบริการ ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีการนำเอาหญิงชาวลาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้บริการอยู่ภายในร้านด้วย

ซึ่งทางเจ้าของร้านจะให้เด็กหญิงภายในร้าน ชักชวนลูกค้าที่มานั่งดื่มเสนอขายบริการทางเพศคิดค่าบริการครั้งละ 1,500-2,000 บาท โดยเจ้าของร้านจะคอยควบคุมและสั่งให้เด็กมาบริการแขก และหากมีการขายบริการทางเพศเจ้าของร้านจะได้ส่วนแบ่งจากการขายบริการ ครั้งละ 300 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมวางแผนให้สายลับเข้าไปใช้บริการในร้านดังกล่าว โดยได้ให้สายลับพรางตัวเข้าไปใช้บริการ โดยต่อมาหญิงชาวลาวได้ชักชวนสายลับเพื่อให้ซื้อบริการทางเพศกับหญิงบริการภายในร้านคาราโอเกะดังกล่าว พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณร้านคาราโอเกะ และบริเวณหน้ารีสอร์ท ที่จะมีการพาหญิงสาวไปเข้าพักเพื่อค้าบริการทางเพศ ต่อมา ทางร้านได้ส่งหญิงชาวลาวคือ ด.ญ.ดาว อายุ 15 ปี ไปให้บริการทางเพศกับสายลับที่รีสอร์ท เมื่อสายลับพา ด.ญ.ดาว เข้าพักที่รีสอร์ทแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม

จากการสอบถามทราบว่า ด.ญ.ดาว ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยพร้อมพี่สาว ทางช่องทางธรรมชาติ เมื่อประมาณเดือน มี.ค.64 จากนั้นได้มารับจ้างทำงานที่ร้านดังกล่าวเรื่อยมาพร้อมทั้งมีการขายบริการทางเพศให้กับนักท่องเที่ยวจริง โดยจะคิดเงินค่าบริการครั้งละ 1,500 บาท เมื่อเสร็จภารกิจจะนำเงินจำนวน 300 บาท มาให้กับเจ้าของร้านเพื่อเป็นส่วนแบ่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าจับกุมนายสงกรานต์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานค้ามนุษย์ พร้อมนำตัวส่ง พงส.สภ.โพนพิสัย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆรวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือ www.immigration.go.th

‘แรมโบ้’ กระชากหน้ากาก ‘หมอบุญ’ ซัด เป็นนายทุนในคราบหมอ จ้องหากินกับวัคซีน

5 กรกฎาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ชี้แจงตอบโต้กรณีข่าว นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลแคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ออกมากล่าวหาโจมตีการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล ว่าล่าช้า ไม่ยอมดำเนินการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ โมเดอร์น่า โดยยกย่องว่าเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด อ้างว่าวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาใช้นั้นเป็นเกรดซี และอ้างว่าประเทศเพื่อนบ้านเราได้รับไฟเซอร์กันหมดแล้ว

นายเสกสกล ระบุว่า คนในวิชาชีพหมอ ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่น่ายกย่อง ยกมือไหว้ได้ เคารพได้ เพราะรักษาชีวิตผู้คน ยกเว้นหมอบางจำพวกที่แท้จริงเป็นนายทุน เป็นนักแสวงหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ แต่อยู่ในคราบหมอ

น่าเสียใจที่หมอบุญ ซึ่งเป็นนักธุรกิจหลายประเภท ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ทั้งโรงพยาบาลเอกชน ได้ออกมาให้ข้อมูลที่บิดเบือน เจตนาจะทำให้คนเข้าใจผิดในการทำงานของภาครัฐ และการจัดหาวัคซีน ซึ่งก็ดูแลโดยทีมหมอที่ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ในยามนี้

ในความเป็นจริง หากดูไทม์ไลน์แล้ว ภาครัฐไม่ได้ล่าช้าเลย

25 ก.พ. 64 ก่อนการระบาดใหญ่ องค์การเภสัชฯ ติดต่อตรงไปแสดงความจำนงค์ ไปยัง บ.โมเดอร์นา ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อสั่งจองวัคซีนกว่า 5 ล้านโดส พร้อมสอบถามความเป็นไปได้ว่า จะได้ทัน มิ.ย. 64 หรือไม่

28 ก.พ. 64 องค์การเภสัชฯ ได้รับคำตอบกลับมา ว่าซัพพลายมีจำกัดเนื่องจากมีความต้องการสูงมาก ทำให้สามารถส่งได้เร็วสุด คือ ไตรมาสแรกของปีหน้า (มกราคม - มีนาคม 2565)

1 เม.ย. 64 องค์การเภสัชฯ สอบถามเพิ่มเติมว่า Moderna ได้ตั้งบริษัทใดเป็น Authorized dealer เนื่องจากมีผู้แสดงตัวว่า สามารถนำวัคซีนเข้าให้ไทยได้มากกว่า 2 ตัวแทน

2 เม.ย. 64 บ.โมเดอร์นา ได้แจ้งว่า อยู่ระหว่างการเจรจากับ ‘บริษัทซิลลิค’ (Zuellig Pharma LTD.) แต่เพียงผู้เดียว และหวังว่า จะสรุปสัญญากับ ซิลลิค ให้เร็วที่สุด

15 พ.ค. 64 บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา ได้ออกแถลงการณ์ว่า ‘การจัดซื้อวัคซีนของโมเดอร์นา ต้องจัดซื้อผ่านตัวแทนภาครัฐเท่านั้น ในที่นี้ คือ องค์การเภสัชกรรม’ เนื่องจากเป็นข้อกำหนดของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนฯ เพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลเอกชน จัดส่งความต้องการวัคซีนจริง พร้อม ‘วางเงิน’ เพื่อให้องค์กรเภสัช สั่งวัคซีนจากบริษัท ซิลลิค ตัวแทนจัดหน่ายวัคซีน Moderna ในประเทศไทย

2 ก.ค. 64 องค์การเภสัชฯ ได้รับเอกสารจากฝั่งของซิลลิค เพื่อแนบไปให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณา

ย้ำ เพิ่งได้รับเอกสารวันที่ 2 ก.ค. หลังจากวันที่ นพ.บุญออกมาพูด ไม่ใช่ว่าภาครัฐเพิ่งทำ หลังนพ.บุญโจมตี แต่ภาครัฐดำเนินการมาโดยตลอด เจรจามาโดยตลอดเพื่อขอให้ได้วัคซีนมาเร็วที่สุด แต่ฝ่ายเอกชนเพิ่งส่งเอกสารมาภายหลังเช่นเดียวกับวัคซีนไฟเซอร์ ลงนามใบจองไปแล้ว 20 ล้านโดส เร่งให้ได้ของเร็วที่สุดแล้ว คือ ไตรมาส 4 ปีนี้ ร่างสัญญาจะเข้า ครม.

ถ้าหมอบุญ ใจบุญต่อประเทศชาติและคนไทยจริง ทำไมไม่เร่งให้ผู้ผลิตวัคซีนทั้งโมเดอร์น่า ทั้งไฟเซอร์ รีบดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ รวมทั้งขอขึ้นทะเบียน อย. เพิ่งมาขอขึ้นทะเบียนภายหลัง ซึ่งทางการไทยก็ดำเนินการให้อย่างรวดเร็วที่สุด

ถ้าหมอบุญใจบุญจริง เมื่อองค์การเภสัชฯ ประกาศจะขายวัคซีนโมเดอร์นา ให้โรงพยาบาลเอกชน ราคา โดสละ 1,100 บาท (ราคารวมรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าขนส่ง ค่าประกันภัยรายบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) โรงพยาบาลเอกชนก็ไม่ควรจะนำไปขายต่อในราคาที่มีส่วนต่างมากเกินไป

อย่างโรงพยาบาลเอกชนของหมอบุญ ก็แจ้งว่าจะคิดบริการรวมค่าฉีดวัคซีน 1,700 บาท ต่อโดส ประกาศรับชำระค่าวัคซีนทางเลือกก่อนแล้วด้วย มีส่วนต่างราคาที่รับมาจากองค์การเภสัชกรรมถึงโดสละ 600 บาท จำนวน 5 ล้านโดส ก็คือส่วนต่าง 3,000 ล้านบาท

ยิ่งพฤติกรรมของหมอบุญที่ออกมากล่าวหา กดดันให้รัฐต้องรีบเซ็นสัญญา ทั้ง ๆ ที่ ภาครัฐก็ต้องเจรจาเพื่อให้เสียเปรียบน้อยที่สุด แต่หมอบุญกลับมีผลประโยชน์ทับซ้อนเช่นนี้ ยิ่งทำให้เห็นธาตุแท้แห่งพฤติกรรมว่า ต้องการทำเพื่อคนไทยจริง ๆ หรือเพื่อหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจจากการค้าวัคซีน

สมแล้วที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ออกมาเตือนว่า โรงพยาบาลเอกชน และผู้ซื้อ ต้องตกลงเงื่อนไขต่าง ๆ กันให้ได้ก่อน เพราะการซื้อวัคซีนดังกล่าว รัฐบาล หรือ องค์การเภสัชจะต้องไม่รับความเสี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะความเสี่ยงเรื่องการเงิน เช่น หากรัฐบาลจ่ายเงินให้ก่อน แล้วเอกชนเปลี่ยนใจไม่เอา ซื้อมาแล้วก็จะส่งผลกระทบกับรัฐบาล กรณี นพ.บุญ วนาสิน จะมาโทษกระทรวงสาธารณสุข หรือรัฐบาลไม่ได้เลย หากอยากซื้อเพื่อเอากำไร ก็ต้องไปเจรจากับบริษัทผู้ผลิตให้เรียบร้อย แล้วก็ค่อยมาแจ้งองค์การเภสัช เพื่อจะเร่งดำเนินการให้ แต่ก็อย่ามามือเปล่า

คราวที่แล้ว หมอบุญออกมาโจมตีองค์การเภสัชฯ แล้วในที่สุดลูกหลานต้องออกมาทำหนังสือขออภัย ครั้งนี้เอาอีกแล้วหรือ

บรรดาคุณหมอที่ไปช่วยงานภาครัฐจัดการวัคซีน ล้วนเป็นนักวิชาการเก่งกล้าด้วยใจบริสุทธิ์ แต่กับนายทุนธุรกิจโรงพยาบาล (ในคราบหมอ) ที่เห็นช่องทางหารายได้เพิ่ม เที่ยวไปสัญญากับประชาชนแล้วมากดดันภาครัฐว่าเป็นจระเข้ขวางคลอง เช่น การอ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโตบริษัทฯ วัคซีนต่างชาติ ถ้าจริงดังว่า ทำไมไม่ติดต่อจัดหามาให้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ตนจึงอยากเตือนหมอบุญ ว่าพฤติกรรมตอนนี้ทำให้หน้ากากหลุดไปเยอะแล้ว คนเห็นธาตุแท้ล่อนจ้อนแล้ว อย่าให้เด็กรุ่นหลังต้องไปขุดคุ้ยพฤติกรรมเกี่ยวกับธรณีสงฆ์อัลไพน์ขึ้นมาเรียนรู้กันเลยว่าใครเป็นนักบุญ ใครเป็นคนบาป ร่วมด้วยช่วยแนะนำให้แปลงธรณีสงฆ์จนมาเป็นสนามกอล์ฟอัลไพน์และหมู่บ้านจัดสรรในความดูแลของตนเอง

ยิ่งในวงการการเมืองตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันเขารู้กันดีว่า หมอที่เป็นนักล็อบบี้ยิสต์เครือข่ายใกล้ชิดนายทักษิณ วิ่งเข้าหาผลประโยชน์เพื่อธุรกิจตัวเองจนร่ำรวยมหาศาลเป็นหมอในคราบนักบุญใจบาปเป็นหมอคนไหน และเป็นหมอที่ชี้นิ้วสั่งนักการเมืองบางกลุ่มได้เพราะมีผลตอบแทนล่อจูงใจ นักการเมืองรุ่นเก่า ๆ ทุกคนรู้จักหมอคนนั้นเป็นอย่างดี

ถึงอย่างไร หากแม้นสูญเสียจิตวิญญาณความเป็นหมอ โดยเป็นนายทุนนักธุรกิจเต็มตัวแล้ว ก็อย่าได้ถึงขนาดเสียหมาไปกับการบิดเบือนข้อมูลการจัดหาวัคซีนเพื่อโจมตี ดิสเครดิตคนทำงานให้เสียกำลังใจเลย จิตแห่งความดีเพื่อประเทศชาติประชาชน ก็ขอให้มีมโนธรรมสูงกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวบ้างสักนิดจะได้ไหม อย่าถึงขั้นตัองหน้ามืดตามัว มองแต่ผลประโยชน์ส่วนต่างจากวัคซีน โดยไม่ห่วงประเทศชาติ ไม่สนใจว่าผลกระทบจากคำพูดและการกระทำของตัวเองเลย ที่จะส่งผลเสียหายให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อนายกฯ และบุคลากรที่ตั้งใจทำงาน เพียงเพื่อหวังให้ประชาชนออกมารุมกระหน่ำซ้ำเติม ตำหนิโจมตีด่าทอนายกฯ และรัฐบาลอย่างหนัก

พฤติกรรมการกระทำของหมอบุญเช่นนี้ ไม่สมควรอย่างยิ่ง การเป็นหมอของหมอบุญอย่านึกถึงแต่ผลประโยชน์ธุรกิจตัวเองมากเกินไป ประเดี๋ยวจะเสียหมอเป็นเสียหมามากกว่า


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘บิ๊กป้อม’ ติดตาม ช่วยเหลือคนยากไร้ ประชุม คกก. "สมัชชาคนจน" สั่งทุกหน่วยงานเร่งแก้ไข ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว มอบ ร.อ.ธรรมนัส ลงพื้นที่ รับข้อเรียกร้องเพิ่มเติม รัฐบาลพร้อมช่วยคนจน ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ครั้งที่ 1/2564 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุมได้รับทราบ ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ และคณะทำงานภายใต้คำสั่ง คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ซึ่งมีความคืบหน้าในภาพรวม พร้อมกำชับหน่วยงานที่รับผิดชอบ รวมถึง ผวจ.ทุกพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัด การแก้ไขปัญหาที่เป็นธรรม รวดเร็ว และรายงานให้คณะกรรมการฯ ทราบทุกเดือน

จากนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบ ข้อเสนอของสมัชชาคนจน พร้อมรับข้อเรียกร้องอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบ และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อทิ การขอใช้ประโยชน์ที่ดินทำกิน ,การของดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการขายที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ และการขอรับค่าทดแทน กรณีต้องออกจากพื้นที่ เป็นต้น 

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับคณะอนุกรรมการ และคณะทำงาน กษ.,ทส.,มท.,กค.และทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบ จะต้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหา ของสมัชชาคนจน ให้ครอบคลุมทุกมิติและให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว พร้อมรับข้อเสนอเพิ่มเติม เพื่อพิจารณา และหาแนวทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ของพี่น้องประชาชน ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำ มุ่งให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างยั่งยืน ตามเจตนารมณ์ "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"

พล.อ.ประวิตร  ยังได้ มอบหมายให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กษ./ประธานอนุกรรมการประสานงานเร่งรัดฯ ลงพื้นที่จริง เพื่อติดตาม การแก้ไขปัญหาร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ได้ข้อยุติ ซึ่งจะทำให้สมัชชาคนจนได้รับการช่วยเหลือตรงตามความต้องการ ภายใต้กรอบ กม.ที่เป็นธรรม อย่างรวดเร็ว อีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top