Thursday, 15 May 2025
ค้นหา พบ 48102 ที่เกี่ยวข้อง

“เลขาฯ สมช.” แจง คลาย 4 กิจกรรมก่อสร้าง ไม่ใช่สั่งย้อนหลัง สั่งตร. เอาผิดฝืนเปิดสถานบันเทิง ย้ำ ระบบรักษาตัวที่บ้านต้องรอบคอบ เผย ผู้ว่าฯ กทม. เร่งทำระบบ-เตรียมจุดพักคอย 20 จุดใน 50 เขต รับผู้ป่วยอาการไม่หนัก เล็งแบ่งวัคซีนบริจาคฉีดต่างชาติด้วย 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงการอนุมัติในหลักการอนุญาตโครงการก่อสร้าง 4 ประเภท ให้ดำเนินการต่อได้ และการเคลื่อนย้ายแรงงานในกรณีที่มีความจำเป็น โดยผ่อนคลายข้อกำหนดฉบับที่ 25 บางข้อ ว่า เป็นไปตามคำขอของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านวิศวกรรมเสนอมา โดยศปก.ศบค. หารือแล้วเห็นว่าเหมาะสม และให้ผ่อนคลาย เพราะบางกิจการถ้าปิดไซต์ก่อสร้างไปนาน ๆ อาจจะส่งผลกระทบได้ และได้เรียนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค. ทราบ ก็เห็นชอบตามนั้น ส่วนจะมีการผ่อนคลายหรือเข้มงวดมาตรการใดเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องรอฟังจากกระทรวงสาธารณสุข ที่กำลังพิจารณาอยู่ โดยจะประเมินสถานการณ์ก่อนจะพิจารณามาตรการว่า ถ้าเข้มงวดขึ้นจะทำให้การแพร่เชื้อลดลงหรือไม่ เราต้องดูรายละเอียดให้รอบคอบ เพราะเป็นห่วงผลกระทบด้านเศรษกิจเช่นกัน เนื่องจากประชาชนที่เป็นผู้ประกอบการบางส่วนเดือดร้อน แต่ทั้งนี้ หากกระทบด้านเศรษฐกิจ แต่ถ้าทางสาธารณสุขยืนยันก็ต้องว่าตามสาธารณสุข มิเช่นนั้นในระยะยาวอาจจะกระทบกับเศรษฐกิจมากกว่าเดิม

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ส่วนการผ่อนคลายกิจการก่อสร้างให้มีผลย้อนหลัง 28 มิ.ย. นั้น ในข้อเท็จจริง ข้อกำหนดได้ให้อำนาจ ศปก.ศบค. ไว้แล้ว ไม่ใช่
นายกฯ มาอนุมัติให้ย้อนหลัง เพราะในการประชุมเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้แจ้งนายกฯ ด้วยวาจาและนายกฯ ได้เห็นชอบแล้ว แต่ในการเขียนอนุมัติหลักการจะต้องรอบคอบ สำหรับการปรับยุทธศาสตร์ดูแลผู้ติดเชื้อได้หารือกับศูนย์ปฏิบัติการ กระทรวงสาธารณสุข กำลังพิจารณาเรื่องนี้ ปัจจุบันสิงคโปร์ และมาเลเซียก็ปรับแล้ว แต่เราไม่ได้ปรับตาม 2 ประเทศนี้ เพราะจะต้องดูเงื่อนไข และสภาพแวดล้อมของเรา รวมถึงฝ่ายวิชาการสาธารณสุข 

เมื่อถามถึงกรณีที่ นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่าควรจัดยาให้คนไข้โดยเร็ว และให้คำนึงถึงการรักษาคนที่ติดเชื้อก่อนจำนวนผู้ติดเชื้อ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เรารับฟังมา 2 เรื่องคือ

1.) ยาฟาวิพิราเวียร์ ที่จะแจกจ่ายเร็วขึ้น ขณะที่บางพื้นที่ใช้ยาฟ้าทลายโจรช่วยในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเบาบาง

และ 2.) การรักษาตัวที่บ้านได้เชิญผู้ว่ากทม.มาหารือเพื่อขอให้ กทม. เร่งรัดจัดระบบรักษาตัวที่บ้านให้มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับได้

ส่วนโรงพยาบาลสนามในชุมชน จะให้ผู้ติดเชื้อในเบื้องต้น ได้รับการรักษาก่อนจะไปเข้าโรงพยาบาลสนาม โดยกทม. ต้องพยายามนำผู้ติดเชื้อเข้าระบบให้ได้ และประสาน โรงพยาบาลเอกชนรับตัวไปรักษา เพราะเงื่อนไขเดิมเมื่อตรวจแล้วถ้าพบติดเชื้อต้องรับรักษา เมื่อจำนวนเตียงจำกัด จะทำให้หนักใจที่จะรับตรวจหาเชื้อ ซึ่งประชาชนที่กังวลก็ต้องเปิดช่องทางให้ได้รับการตรวจ ปัจจุบันผู้ติดเชื้อมาจาก 3 ส่วนหลัก คือ

1.) คนเดินเข้าไปตรวจ

2.) จุดบริหารตรวจหาเชื้อของกทม. 6 จุด ในพื้นที่ 6 กลุ่มเขต

และ 3.) การตรวจเชิงรุก โดยต้องพยายามนำ 3 กลุ่มนี้เข้าระบบให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งระบบการกักตัวที่บ้าน ที่โรงพยาบาลสนามชุมนชน หรือที่ศูนย์พักคอย

ซึ่งผู้ว่ากทม. จะดำเนินการให้ได้ 20 จุด ใน 50 เขต ซึ่งกลุ่มนี้เป็นคนไข้สีเขียวใกล้ระดับเหลือง ที่ต้องคัดกรองไปสถานที่ที่สูงกว่า และที่โรงพยาบาลสนามหลัก ให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หากใครจะเข้ารักษาในระบบใดต้องดูความเหมาะสมทั้งสภาพแวดล้อม บ้านพัก และที่อยู่อาศัย ถ้าไม่รุนแรงโรงพยาบาลเอกชนจะต้องจัดตั้งวอร์รูม ประสานคนที่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ยังคงมีการฝ่าฝืนและลักลอบเปิดสถานบันเทิงแบบส่วนตัวในย่านเอกมัย จะเข้าไปควบคุมอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า นายกฯ เน้นย้ำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ฝ่ายความมั่นคงให้ช่วยกำกับดูแลในเรื่องดังกล่าว และจะมีบทลงโทษ โดยสัปดาห์ที่แล้ว ได้จับกุมในบางพื้นที่ ส่วนกรณีที่ลักลอบเปิดอาจจะยากในการตรวจพบ ดังนั้นถ้าประชาชนมีเบาะแสให้แจ้งมาที่ศบค. เพื่อดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่โรงพยาบาลเอกชน ระบุว่าที่ได้วัคซีนทางเลือกช้า เป็นเพราะติดขัดขั้นตอนของรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เมื่อวันวันที่ 3 ก.ค.หน่วยงานที่รับผิดชอบได้หารือเรื่องการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ และวัคซีนโมเดอร์นา ให้ศปก.ศบค. รับทราบถึงขั้นตอน ก็เห็นว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบพยายามเร่งดำเนินการ แต่ต้องขออภัยเพราะมาตรการดำเนินการ จะต้องทำอย่างระมัดระวัง และให้ความสำคัญเรื่องกฎหมายด้วย ถ้าทำไปแล้วมีข้อผิดพลาดด้านกฎหมายหน่วยงานก็ต้องรับผิดชอบ กรณีวัคซีนไฟเซอร์ กรมควบคุมโรคได้เร่งรัดจัดหาเป็นวัคซีนหลัก ส่วนโมเดอร์นา ทางองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้เร่งรัดเป็นวัคซีนทางเลือก คาดว่าวันนี้ (5 กรกฎาคม) ถ้าอัยการสูงสุดตอบกลับมา ในวันที่ 6 ก.ค.จะสามารถนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ เพื่อเดินหน้าต่อไป

เมื่อถามถึงกรณีแพทย์บางส่วนเรียกร้องวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 3 ให้แก่บุคลากรด่านหน้ามีแนวโน้มจะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ต้องฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก เพราะข้อคิดเห็นของแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังมีความเห็นที่ต่างกัน 

เมื่อถามถึงที่มีแพทย์ระบุว่า หากฉีดไฟเซอร์เป็นเข็ม 3 ให้บุคลากรด่านหน้า แล้วป้องกันได้ผล จะแก้ตัวว่าวัคซีนซิโนแวคไม่สามารถป้องกันโควิดได้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่าว่า ขอให้ถามกระทรวงสาธารณสุข ที่จะแถลงเรื่องสำคัญในช่วงบ่ายโมงวันเดียวกันนี้ จะไปตอบแทนไม่ได้ สำหรับวัคซีนที่ได้รับบริจาคมา เช่น วัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสจากสหรัฐอเมริกานั้น เบื้องต้นอาจจะพิจารณาฉีดให้กับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยบางส่วน หรือประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์

ปทุมธานี – ผู้ป่วยโควิด 500 คนรอเตียง บิ๊กแจ๊สจับมือสาธารณสุขเพิ่มรพ. สนาม สู้วิกฤตโรคระบาด

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 เวลา 15:00 น. ที่อาคารอเนกประสงค์ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นายแพทย์อภิชน จีนเสวก รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ผู้บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของจังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่ดูสถานที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม 500 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รอคอยเตียงเพื่อรับการดูแลรักษาจำนวนกว่า 500 คน

จากสถิติผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานีวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 448 ราย มีผู้ป่วยสะสม 9,656 ราย รักษาหายแล้วกลับบ้านจำนวน 5,233 ราย อยู่ระหว่างการดูแลรักษาจำนวน 4,356 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมจำนวน 67 ราย จากจำนวนที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันที่มีจำนวนมาก ทำให้จำนวนเตียงดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลภาครัฐ และโรงพยาบาลสนามเต็ม จึงทำให้มีผู้ป่วยที่รอคอยรับการรักษาอยู่ที่บ้านกว่า 500 คน จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่ม ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้เห็นว่าวิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี มีอาคารที่มีความเหมาะสมที่สามารถจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามได้เพื่อรอรับผู้ป่วยมาดูแลรักษา ดีกว่าที่จะให้รอคอยอยู่ที่บ้าน ป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชน

ด้าน นายแพทย์อภิชน จีนเสวก รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ผู้บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นและมีอัตราการ รอคอยเตียงกว่า 500 คน บางส่วนต้องใช้การดูแลแบบ Home Isolation แต่บางส่วนจำเป็นจะต้องเข้าโรงพยาบาลสนามในกลุ่มที่ไม่พร้อมดูแลตัวเองที่บ้านในช่วงเบื้องต้น ระหว่างการรอคอยเตียง หากเรามีโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น จะทำให้ลดจำนวนผู้ป่วยที่รอคอยที่บ้านให้เข้ามาสู่กระบวนการรักษาในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ในกลุ่มที่มีโอกาสที่จะทำให้โรคลุกลามเร็วขึ้น เมื่อมาอยู่ใกล้ชิดหมอจะทำให้เขาปลอดภัยขึ้น จังหวัดปทุมธานีจึงต้องเร่งหาโรงพยาบาลสนาม เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงให้มากขึ้น เนื่องจากเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ

ส่วน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานีค่อนข้างวิกฤตแล้ว โดยเฉพาะเกิดคลัสเตอร์ใหม่ที่ตลาดไท ปัจจุบันจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเท่าไรก็เต็มหมด โรงพยาบาลภาครับก็เต็ม เมื่อมาสำรวจที่ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี ทาง อบจ.พร้อมที่จะสนับสนุนในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่นี่ โดยมีการประชุมทำแผนจัดตั้งโรงพยาบาลมา หากไม่ใช้สถานที่ของราชการแล้ว จะไปทำให้สถานที่ภายในหมู่บ้านชุมชน พี่น้องประชาชนมีความตื่นตระหนก จึงต้องมีการดำเนินการที่เร่งด่วน เพื่อให้ที่สถานที่ให้ผู้ป่วยพักรักษา จะให้เขาอยู่กับบ้านแล้วไม่ดูแลเขาไม่ได้ ทั้งนี้ อบจ.ในแต่ละวันมีการตรวจคัดกรองโควิด-19 ด้วยการเจาะเลือดแรปบิทเทสวันละกว่า 1,500 คน นอกจากนี้ยังมีการออกหน่วยตรวจคัดกรองประชาชนจุดละกว่า 1,000 คน พี่น้องประชาชนมีการตื่นตัวที่จะดูแลตัวเอง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อยังมีจำนวนเพิ่มขึ้น ไม่อยากให้พี่น้องประชาชนประมาท การ์ดอย่าตก และช่วยดูแลตัวเองและครอบครัวของท่านให้ดี นอกจากนี้ทาง อบจ.พยายามที่จะหายา และวัคซีน หวังว่าปทุมธานีจะผ่านวิกฤตครั้งที่ไปด้วยกันให้ได้ทั้งจังหวัด


ภาพ/ข่าว  ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน

ราเมศ ย้ำ พร้อมรับฟัง เตือน เกรียนคีย์บอร์ด ให้ร้ายพรรค ระวังผิดกฎหมาย

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่มีครูสอนภาษาอังกฤษได้ออกมาโจมตีพรรค ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ว่าพรรคไม่เรียกร้อง ไม่ช่วยเหลือประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า

หลักการสำคัญของพรรคที่สำคัญคือการรับฟังทุกเสียงสะท้อน ที่สื่อสารกันด้วยความตรงไปตรงมา แต่หากมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงด้วยข้อความอันเป็นเท็จ พรรคก็จำต้องออกมาชี้แจง กรณีที่มีการใช้โซเชียลมีเดีย ล่าสุดมี ครูลูกกอล์ฟ - คณาธิป สุนทรรักษ์ ที่มีคนติดตามในช่องทางโซเชี่ยลมีเดี่ยเป็นจำนวนมาก ได้ออกมาโจมตีพรรคด้วยข้อความผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงหลายเรื่อง มีความเสียหายมากเพราะมีคนที่อาศัยข้อความที่โพสต์ไปใส่ร้ายต่อ ก็ให้ระวังเพราะอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายได้

เช่นกล่าวหาว่าพรรคไม่เคยทำงาน ไม่เคยเรียกร้องหรือช่วยเหลือประชาชนเลยในช่วงโควิด อยากให้มองด้วยความเป็นธรรม พรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนพยายามทำอย่างเต็มที่ภายใต้หน้าที่ที่ได้รับ ทั้ง รัฐมนตรี ส.ส. อดีต ส.ส. ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ช่วยเหลือทุ่มเทเรียกร้องให้ประชาชนเสมอมา ล่าสุดผู้ประกอบการที่ช่วยเหลือก็พยายามช่วยเรียกร้องช่วยกันทุกวิถีทาง ตั้งแต่เริ่มแรกในช่วงการแพร่ระบาดพรรคตั้งศูนย์เพื่อช่วยเหลือในทุกด้าน เป็นพรรคแรกที่ตั้งศูนย์ ช่วยเรียกร้องไปยังผู้มีอำนาจหน้าที่ในรัฐบาลผ่านทุกช่องทาง แม้เป็นพรรคร่วมแต่เราเห็นความทุกข์ของประชาชนเสมอ จึงออกมาทำทุกอย่างช่วยกันคนละไม้ละมือรัฐมนตรีทุกคนที่ทำงานก็พยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ทุกคน ที่โพสต์ในลักษณะที่กล่าวหาว่าเหมือนไม่ทำอะไรเลย เป็นความเท็จและบิดเบือนทั้งสิ้น 

ที่กล่าวหาว่า “สนใจแต่การแบ่งเค้ก น่าสะอิดสะเอียน” ต้องถามว่าความหมายคืออะไร ถ้าการทำงานที่แบ่งเค้ก คือการหาประโยชน์ การทุจริต แบ่งผลประโยชน์กัน ก็จะเป็นการพูดที่ไม่ถูกต้อง หากมีการกระทำในลักษณะเช่นนั้น หรือหากพบเห็น ก็แจ้งดำเนินคดีกับคนที่กระทำเลย 

ที่พูดถึง คำว่า ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต นั้นในประเด็นนี้ ประชาชนเป็นใหญ่ ถูกครับ ทุกนโยบายของพรรคคิดและทำเพื่อประชาชนแทบทั้งสิ้น และต้องขอบพระคุณครูลูกกอล์ฟ ที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ และไม่อยากให้เข้าใจผิด เราเป็นคนปักษ์ใต้เหมือนกัน หากครูลูกกอล์ฟไปส่งเสียงในสวนยาง ชาวสวนยางจะโกรธครูลูกกอล์ฟและครอบครัวได้ เพราะชาวสวนยางขณะนี้อยู่ได้เพราะมี โครงการประกันรายได้ที่เป็นหลักประกันให้ชีวิตพี่น้องชาวสวนยางมีรายได้ที่อยู่ได้ น้องควรเอาสิ่งที่ดีเหล่านี้ไปส่งเสียงให้ชาวสวนยางทราบและหากมีอะไรที่เขาขาดเหลือก็มาบอกต่อพรรคได้ เช่นนี้จะสร้างสรรค์และเป็นสิ่งที่ดีมาก การสื่อสารที่ดีในประเด็นสังคมก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยสุจริต หากใส่ร้ายบิดเบือนก็ไม่ใช่ และหากพรรคไม่คิดว่าประชาชนเป็นใหญ่ มีหรือที่จะคิดอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต เป็นหลักการขั้นพื้นฐานที่การเมืองต้องเดินตามแนวทางนั้นอย่างมั่นคง และโดยส่วนตัวได้ส่งข้อความไปหาครูลูกกอล์ฟ - คณาธิป สุนทรรักษ์ เพื่อขอพูดคุย พร้อมแลกเปลี่ยนความจริงกันได้ทุกเรื่อง จะได้ชี้ให้เห็นว่ากำลังเข้าใจผิดในความเป็นประชาธิปัตย์ หากมีการสื่อสารในลักษณะนี้ พรรคจะเสียหายได้ จึงส่งเบอร์ไปให้ทางข้อความ

นี่คือความท้าทายที่จะทำให้น้องยังต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหากครูลูกกอล์ฟได้รู้ความจริง

พท.จี้รัฐฉีดไฟเซอร์ให้บุคลากรทางการแพทย์ทันที  ซัด “ประยุทธ์” หยุดรวบอำนาจแก้โควิด 

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงท่าทีของพรรคต่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทวีคูณเข้าขั้นวิกฤต สิ่งที่ ศบค.ต้องทำทันที ได้แก่

1.) บุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดต้องได้รับวัคซีน mRNA ก่อน วัคซีนไฟเซอร์ที่ระบุว่าจะเข้ามาในไทย 1.5 ล้านโดส มีจำนวนเพียงพอที่จะจัดสรรให้แพทย์พยาบาล ซึ่งเป็นด่านหน้าตรวจรักษา พวกเขาต้องมีเกราะที่แข็งแรงในการป้องกันตนเอง และจะช่วยรักษาระบบสาธารณสุขไม่ให้พังทลายลง

2.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค.ต้องหยุดรวบอำนาจ กลับมาใช้กลไกปกติในการบริหารสถานการณ์วิกฤต โดยส่วนกลางมีหน้าที่เสนอนโยบายเท่านั้น เพื่อให้ในแต่ละพื้นที่ซึ่งมีความเข้าใจสถานการณ์การระบาดแตกต่างกัน ได้บริหารจัดการได้อย่างคล่องตัว

3.) นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงบางคน รวมถึงนักวิชาการผู้ใหญ่ที่คอยปกป้องรัฐ ต้องกลับมาทำหน้าที่ดูแลประชาชน ไม่ใช่แค่เอาใจผู้บังคับบัญชา ทางพรรคเพื่อไทยจะใช้วิธีการทางกฎหมายในการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการระบาด พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารราชการที่ผิดพลาดดำเนินการทางกฎหมาย 

น.ส.อรุณี กล่าวอีกว่า

4.) รัฐต้องร่วมมือกับภาคเอกชนรับมือวิกฤตการระบาดในด้านต่าง ๆ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพ เช่น การลำเลียงผู้ป่วย การลำเลียงอาหารให้กับแคมป์คนงาน หรือสถานประกอบการที่ถูกสั่งปิด อาจใช้บริการเดลิเวรีของภาคเอกชนเข้ามาร่วมด้วย

5.) เปิดเสรีในการนำชุดตรวจ Self rapid test มาใช้ในการตรวจหาเชื้อในเบื้องต้นให้กับประชาชน จัดเตรียมหน้ากากอนามัยให้มีความพร้อม และวัคซีนคือเครื่องมือที่สำคัญในขณะนี้

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ปล่อยปละละเลย จงใจให้เกิดกระบวนการที่ล่าช้าในการแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโรค ผู้ป่วยรอเตียงอยู่ที่บ้านจนเสียชีวิตเหมือนใบไม้ร่วง นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงกลัวตัวเองเสียหน้า มากกว่ากลัวประชาชนเสียชีวิต หยุดทำให้สถานการณ์แย่ลงไปมากกว่านี้ ชีวิตประชาชนทุกคนมีค่าไม่น้อยไปกว่าพวกท่าน

เลขาธิการแพทยสภา ชี้ สงครามนี้ เราจะสูญเสีย บุคลากรการแพทย์ อีกไม่ได้แล้ว หนุนให้วัคซีนไฟเซอร์ เข็ม 3 เผย หลายโรงพยาบาล วิกฤตจนต้องปิดหน่วยบริการ ด้านชาวโซเชียลออกโรงหนุน

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Ittaporn Kanacharoen ระบุว่า ขอสนับสนุนให้วัคซีนเข็ม 3 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า

ตามที่มีการประชุมเรื่องการพิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ ที่จะได้รับ 1.5 ล้านโดส ในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ ในกลุ่มบุคคลใดบ้าง #โดยมีผู้เสนอให้บุคลากรทางการแพทย์ด้านหน้า ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มไปแล้วควรได้รับเพิ่ม ในการประชุมคณะกรรมการด้านวิชาการวัคซีน กรมควบคุมโรค ที่ผ่านมานั้น

ด้วยบุคลากรทางการแพทย์ ในด่านหน้าเสมือนเป็นทหารอาสาสู้ศึก Covid-19 ที่ต้องเสียสละตนเอง โดยมีโอกาสได้รับเชื้อจากผู้ป่วยตลอดเวลา ย่อมถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่สุด กว่ากลุ่มใด ๆ

ในการออกรบจำเป็นต้องได้รับ "เกราะป้องกันที่ดีที่สุด" เพื่อให้เขาสามารถ "อยู่รอด" ปฏิบัติงานคุ้มครองผู้ป่วยได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เชื้อระบาดอย่างรุนแรงวิกฤต จนจำนวนบุคลากร ไม่เพียงพอ อยู่แล้ว

การติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ คนหนึ่งไม่เพียงทำให้เขาหยุดงาน แต่กลายเป็นภาระของผู้ร่วมงานที่ต้องปฏิบัติงานแทน ขึ้นเวรแทน ทำงานมากขึ้น

ในขณะที่หลายแห่งเพิ่มเตียงในตึกคนไข้ เพิ่มหน้าที่ไปดูแลโรงพยาบาลสนาม และเพิ่มไปออกหน่วยฉีดวัคซีน ตามที่ทุกท่านทราบดี ซึ่งทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยเต็มกำลังและล้ามากแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ในหลายโรงพยาบาล วิกฤตจนต้องปิดหน่วยบริการ ปิด opd ปิดตึกผู้ป่วย ปิดห้องผ่าตัด ปิดห้องฉุกเฉิน กระทบต่อผู้ป่วยโดยตรง ทั้งที่ป่วยเป็น covid และไม่ใช่ covid ไม่สามารถเข้ารักษาพยาบาลได้ ส่วนหนึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างน่าเสียดาย

ในสภาวะปัจจุบันที่ผู้ป่วยจำนวนมากยังรอการรักษาพยาบาล รอเตียงที่บ้าน จนภาครัฐต้องขยายโรงพยาบาลสนาม และเตียงใน รพ.เพิ่มเติม ไม่หยุดหย่อน ซึ่งต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น

ในสงครามครั้งนี้ เราจะสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์อีกไม่ได้แล้ว ขอให้ผู้เกี่ยวข้องโปรดพิจารณาเพิ่มเกราะอย่างดี ให้กับนักรบเสื้อขาว โดยสนับสนุนให้จัดวัคซีนไฟเซอร์ ตามที่ประชุมส่วนหนึ่งให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เพื่อให้เขาไปดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ด้วยครับ โปรดอย่าค้านเลยครับ

และขอเพิ่มวัคซีนคุณภาพสูง ที่จะปกป้องพวกเขาทุกคน จากเชื้อที่กลายพันธุ์ ที่จะระบาดในระยะต่อไป โดยเฉพาะกลุ่ม mRNA ให้กับบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มเติมอย่างด่วนด้วยครับ

เพราะบุคลากรทุกคนคือกำลังสำคัญในการ ต่อสู้กับ Covid-19 ครั้งนี้ หากไม่มีกำลังพวกเขา ชีวิตของประชาชนจะเข้าสู่ความเสี่ยงอันตรายอย่างหนัก ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตจากสงครามโควิด ที่มีการสูญเสียชีวิตทุกวัน

ขณะเดียวกัน ในโลกโซเซียล มีการรณรงค์แฮชแท็ก #ฉีดPfizerให้บุคลากรการแพทย์ ตั้งแต่เมื่อค่ำคืนของวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งตอนเช้า แท็กนี้ก็ยังคงติดอยู่ในเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดก็ต้องการให้รัฐช่วยดูแลบุคลากรที่ทำงานหนักในด่านหน้า รวมถึงมีการให้มีการนำเข้าวัคซีนด่วน


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top