Monday, 23 June 2025
ค้นหา พบ 48971 ที่เกี่ยวข้อง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าเราคงได้ยินคำว่า “Startup” กันอย่างหนาหู หลัง ๆ มีหลายบริษัทที่เกิดใหม่เติบโตอย่างรวดเร็วและโดดเด่นขึ้นมา ขณะที่การแบ่งขนาดธุรกิจในวงการ Startup จะใช้สัตว์ในตำนานมาแบ่งขั้นอย่างเกรงขาม ใครเป็นอะไรมาลองดูกัน

Ponies (โพนี): ธุรกิจที่มีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น แอปพลิเคชัน eko, eatigo

Centaurs (เซนทอร์): ธุรกิจมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น LINE MAN

Unicorn (ยูนิคอร์น): ธุรกิจที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น Uber, Airbnb และ Snapchat

Decacorn (เดเคคอร์น): ธุรกิจมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น Dropbox, SpaceX, Flipkart และ Pinterest

นายเเพทย์เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงรายเขต 1 พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นเกี่ยวกับการบริหารจัดการสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 เเละการจัดหาวัคซีนเพื่อป้องกันโรคในอนาคต

นายแพทย์เอกภพ กล่าวว่า "ตนมีความรู้สึกหงุดหงิดมากกับการจัดการการระบาดของโควิดโดยรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งสิ่งที่เขาได้ทำมาตลอดได้สรุปให้เห็นหลักคิดหลักการทำงานของเขาชัดเจนว่าไม่เคยให้ค่าประชาชนและไม่เคยแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดของตัวเองและพวกพ้อง ในเรื่องของกระบวนการที่สับสนอลหม่านนี้ผมได้เขียนถึงมาหลายรอบแล้ว วันนี้ผมจะเขียนถึงความมั่วซั่วในเรื่องวัคซีนกันครับ"

"จากที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่ารัฐบาลมีความล่าช้าเรื่องวัคซีนกว่าประเทศเพื่อนบ้านจนกระทั่งอยู่ดี ๆ ก็มีการเสนอข่าวว่าในเดือนกุมภาพันธ์ประเทศเราจะมีวัคซีนนำเข้าจากจีนของบริษัท Sinovac ซึ่งเหมือนเป็นข่าวดีนะครับ แต่เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน คณะกรรมาธิการสาธารณสุขได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเรื่องความคืบหน้าของการได้วัคซีนมาฉีดให้ประชาชนไทย ในวันนั้นตลอดการชี้แจงไม่มีการพูดถึงการจะซื้อวัคซีนจากจีนเลย

และยิ่งกว่านั้นเมื่อพยายามหาข้อมูลทางวิชาการของวัคซีนตัวนี้พบว่าเจอแค่ผลการทดลองในเฟส 1 และ 2 แต่ยังไม่มีผลการทดลองในเฟส 3 ซึ่งเป็นการทดลองในประชากรกลุ่มใหญ่ที่เรียกว่า Randomized Controlled Trial ออกมาในฐานข้อมูลของวารสารทางการแพทย์เลย มีแต่การนำเสนอวิธีการศึกษาที่ไม่มีผลการศึกษาเท่านั้น การนำวัคซีนที่ยังไม่มีผลการวิจัยเข้ามาแบบนี้ต้องไปดูขั้นตอนการอนุมัติของ องค์การอาหารเเละยา (อย.) ครับว่ามีการอนุมัติอย่างไร จนมีเสียงลือมาถึงหูผมว่าบางทีวัคซีนตัวนี้อาจมาจากบริษัททุนใหญ่บางบริษัทก็ได้"

นพ.เอกภพ ตั้งข้อสังเกตต่อไปว่า ตามการเสนอข่าวของหลายสำนักข่าวจะพบว่าเราจะมีการได้รับวัคซีนมาฉีดทีละชุด ๆ ในเวลาห่างกันพอสมควรและทีร้ายไปกว่านั้นคือจำนวนประชากรที่จะได้รับวัคซีนมีรวมแล้วก็แค่ประมาณ 20% กว่าของประชากรทั้งประเทศเท่านั้น โดยทั้งที่ตามหลักการแล้ว หากจะหยุดการระบาดของโคโรน่าไวรัสตัวนี้ได้ ต้องให้ประชากรมีภูมิต้านทานประมาณถึง 80% ของประชากร ดังนั้นการได้วัคซีนมาเพียง 20% อาจไม่เพียงพอต่อการหยุดการระบาดได้

โดยข้อมูลในปัจจุบันเรายังไม่รู้ว่าหลังฉีดวัคซีนไปแล้วร่างกายจะคงมีภูมิต้านทานต่อไปได้อีกนานเท่าไหร่และวัคซีนของแต่ละยี่ห้อให้ระยะเวลาคุ้มกันได้นานต่างกันมั้ย

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดของการจัดหาวัคซีนมาก็ควรจะจัดหา วัคซีนเพื่อทุกคน และกระจายไปหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายเทคโนโลยี รวมทั้งควรมีการระดมฉีดในคราวเดียวกันทั่วประเทศ และเราต้องมาดูว่าหากไม่สามารถจัดหาวัคซีนมาฉีดพร้อมๆ กันได้จะฉีดให้กลุ่มไหนก่อน

แน่นอนว่ากลุ่มเสี่ยงที่สุดคือบุคลากรสาธารณสุขควรเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการป้องกันเพื่อให้เขายังคงทำงานต่อได้อย่างปลอดภัย แล้วต่อไปเราจะเลือกกลุ่มไหนในสัดส่วนอย่างไรระหว่างกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยหนัก หรือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อคือคนวัยทำงาน

"ดังนั้นนอกจากการที่ต้องจัดหาวัคซีนให้เพียงพอสำหรับทุกคนแล้ว รัฐบาลยังต้องวางแผนการฉีดวัคซีนที่ใช้หลักการทางวิชาการมาสนับสนุนด้วย"

ทั้งนี้ เอกภพ กล่าวทิ้งท้ายว่า "หากเรารอให้ประเทศอื่นฉีดวัคซีนให้ประชากรจนเขาจัดการการระบาดได้แล้ว ประเทศเหล่านั้นจะเริ่มเดินทางไปมาหาสู่กันได้ เพราะประเทศเขาถือว่าสิ้นสุดการระบาดแล้ว ประเทศเราที่ฉีดวัคซีนให้ประชากรจนประกาศสิ้นสุดการระบาดได้ช้าก็จะเสียโอกาสในการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่อัดอั้นมานานได้ช้าด้วย โอกาสฟื้นเศรษฐกิจจากเงินต่างประเทศของเราก็ช้าไป"

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งคุมเข้มทุกโรงงานอุตสาหกรรมและกลุ่มเหมืองแร่ใน 28 จังหวัด พื้นที่เสี่ยงสูงสุด เฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการภาคเอกชนที่อยู่ในความรับผิดชอบกระทรวงอุตสาหกรรมต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและการเฝ้าระวังการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้ประกอบการเหมืองแร่ทั้ง 28 จังหวัด ที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด มีสถานประกอบการรวมกว่า 49,391 โรงงาน จำนวนคนงานกว่า 3.02 ล้านราย

รวมไปถึงโรงงานอุตสาหกรรม นิคมอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการวัตถุอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย ผู้ประกอบการตามกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องจักร และผู้ประกอบการตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมด้วย

ทั้งนี้ให้ป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคดังกล่าวในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ และลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสดังกล่าว ไม่ให้ติดต่อไปยังบุคคลอื่นที่อยู่ในหรือนอกโรงงาน

โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการในพื้นที่เสี่ยงสูงสุดพิจารณาดำเนินการ เช่น ปรับเวลาการปฏิบัติงานของคนงาน เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 , คัดกรองพนักงานทุกคน ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจสอบประวัติการเดินทาง , สุ่มตรวจหาเชื้อโควิดในพนักงาน , เตรียมสถานที่กักตัวผู้ที่ติดเชื้อ , ใช้แอปพลิเคชัน หมอชนะในการมอนิเตอร์ ความเสี่ยงจากการติดเชื้อ และให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานติดตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือติดการแถลงข่าวของรัฐบาลเพื่อปฏิบัติตามอย่างใกล้ชิด

ในส่วนของบุคลากรข้าราชการของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงาน ดังนี้

1.) ปรับเวลาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่โดยการเหลื่อมเวลาเข้าปฏิบัติการ เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19

2.) Work From Home ร้อยละ 50 ของบุคลากร โดยพิจารณาให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่แต่ละส่วนงานขยับเวลาการทำงาน เพื่อลดจำนวนผู้ปฏิบัติงานและปริมาณการเดินทาง ลดความแออัดในการใช้สถานที่ด้วยการปฏิบัติงานที่บ้าน เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้กับการทำงาน อาทิ การประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ วิดีโอคอล แอปพลิเคชันไลน์ หรืออีเมล์มาเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน เพื่อไม่ให้มีข้อติดขัด หรือเกิดปัญหากับการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน ทั้งนี้ แม้ว่าจะปรับมาตรการในการทำงาน แต่ภารกิจในการขับเคลื่อนงานของกระทรวงฯ ก็ยังจะสามารถรักษาประสิทธิภาพการทำงานให้มีความต่อเนื่อง และมุ่งหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด – 19 อย่างได้ผล

3.) คัดกรองเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติงานในกระทรวงอุตสาหกรรม (ตรวจวัดอุณหภูมิ)

4.) ประชาสัมพันธ์แนวทางป้องกันโควิด DMHTT (Distancing / Mask Wearing / Hand Washing / Testing / Thai Cha Na)

5.) รณรงค์ให้ใช้ Application หมอชนะในการ Monitor ความเสี่ยงจากการติดเชื้อ

"ตอนนี้กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการออกประกาศ และออกหนังสือขอความร่วมมือสถานประกอบการในพื้นที่เสี่ยงสูงสุด และบุคลากรของกระทรวงอุตสาหกรรมทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามแนวป้องกันและควบคุมการระบาดของโควิด-19 พร้อมเน้นย้ำการปรับมาตรการในการทำงานจะไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้"

ธนาคารโลก ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกล่าสุด คาดเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.0% ในปีนี้ ต่ำกว่าระดับ 4.2% ที่คาดการณ์ในเดือนมิ.ย.2563 จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังลุกลามต่อเนื่องทั่วโลก

ธนาคารโลก หรือ World Bank ได้ออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจฉบับล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.0% ในปีนี้ ต่ำกว่าระดับ 4.2% ที่คาดการณ์ในเดือนมิ.ย.2563 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

แม้ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวขึ้น หลังจากทรุดตัวลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาด แต่การฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้า ๆ และซบเซา

พร้อมกันนี้ เวิลด์แบงก์ ยังประเมินว่า ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุด คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวเพียง 1.6% ในปีนี้ หลังจากหดตัว 4.3% ในปีที่แล้ว หากการแพร่ระบาดยังคงลุกลามต่อไป และการฉีดวัคซีนประสบความล่าช้า

นอกจากนี้ ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.8% ในปี 2565 ขณะที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการจ้างงาน

ขณะเดียวกัน ธนาคารโลก ยังคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ อย่างสหรัฐ อเมริกา จะขยายตัว 3.5% ลดลงจากระดับ 4.0% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากหดตัว 3.6% ในปีที่แล้ว

ส่วนเศรษฐกิจยูโรโซน คาดว่า จะขยายตัว 3.6% ในปีนี้ หลังจากหดตัว 7.4% ในปีที่แล้ว ขณะที่ ญี่ปุ่น จะขยายตัว 2.5% ในปีนี้ ไม่เปลี่ยนแปลงจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และจีน จะขยายตัว 7.9% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 6.9% ในการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ เผย แพทย์และพยาบาลเป็นด่านหน้าในการจัดการโรคระบาดโควิด-19 มีความเสี่ยงสูง จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรก แต่ต้องมั่นใจเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแนวทางการจัดหาวัคซีน covid-19 โดยระบุว่า ณ ปัจจุบัน ประเทศไทย จะได้วัคซีนอย่างเร็วที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จะรับเข้ามาก่อน 2 แสนโดส และจะครบตามจำนวน 2 ล้านโดส ในเดือนเมษายน ปีเดียวกัน ในอนาคต อาจจะได้วัคซีนเร็วกว่านี้ เพราะกำลังเจรจากับผู้ผลิตอีกหลายราย

การเร่งนำวัคซีนเข้ามาก่อนนั้น ส่วนสำคัญมาจากพบการระบาดรอบใหม่ จึงจำเป็นต้องปกป้องดูแลประชาชนก่อน จำเป็นต้องมีการปรับแผน เพื่อให้ได้วัคซีนเร็วขึ้น ทั้งนี้ การพิจารณานำเข้ามานั้น วัคซีนต้องผ่านการรับรองโดยประเทศต้นทางว่ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัย เมื่อมาถึงประเทศไทยจะมีกระบวนการตรวจสอบอีกหลายชั้น เพื่อให้คนไทยได้ฉีดวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สุด

การตกลงซื้อมาคราวละ 2 ล้านโดส เป็นแผนการจัดซื้อ ซึ่งต้องเร่งหามาให้แพทย์ พยาบาล นักรบด่านหน้าก่อน เพราะกลุ่มนี้ มีบทบาทสำคัญในการจัดการโรคระบาด ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงสูงมาก ซึ่งเราจะสูญเสียบุคลากรการแพทย์ไม่ได้ จึงจัดหาวัคซีนมาปกป้อง

จากนั้น เราจะมีวัคซีนของแอสตราเซนนิกา สำหรับฉีดให้ประชาชนที่เหลือต่อไป ระหว่างนั้น จะมีวัคซีนโควิด-19 เข้ามาให้พิจารณาเพิ่มเติม ภาครัฐ จะจัดหาเข้ามาใช้แน่นอน และยืนยันว่าการฉีดเข้าร่างกายคนไทย จะเกิดขึ้นเมื่อวัคซีนนั้น ได้รับการตรวจสอบยืนยันแล้วว่าปลอดภัย มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค

ส่วนเรื่องการล็อกดาวน์ ไม่มีใครอยากให้ไปถึงจุดนั้น ซึ่งในการระบาดรอบแรก ประเทศไทยควบคุมการระบาดได้ เพราะคนไทยช่วยกัน รอบนี้ หากคนไทยยังคงความสามัคคี ร่วมแรง ร่วมใจ ทุกคนจะก้าวผ่านไปได้อย่างแน่นอน ที่สำคัญคือกรุณาปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด เกิดจากการลักลอบเข้าเมืองใช่หรือไม่ เกิดจากการไปเที่ยวบ่อนใช่หรือไม่ ล้วนเป็นกิจกรรมผิดกฎหมาย ประชาชน ต้องช่วยกัน ส่วนภาครัฐต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาด

ระหว่างที่รอวัคซีนอยู่นี้ จำเป็นต้องบริหารจัดการอุปกรณ์ป้องกัน และเวชภัณฑ์ ให้เพียงพอ ทั้งในเรื่องของการใช้ และการหามาเพิ่มในสต็อก รวมไปถึงความพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ อาทิ การตั้งโรงพยาบาลสนาม ซึ่งสามารถตั้งได้อย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหน่วยงานในการควบคุม และรักษาโรค มีแผนการตลอดว่า ถ้าเจอผู้ติดเชื้อ ใน 24 ชั่วโมงต้องทำอย่างไร ใน 48 ชั่วโมง ต้องทำอย่างไร ซึ่งปัจจุบันนี้ ปฏิบัติได้ตามแผน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top