#53 ‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020
???? #เฟส53ช่วยต่อไม่รอแล้ว
‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020
.
.
.

???? #เฟส53ช่วยต่อไม่รอแล้ว
‘แอโร่ซอฟ’ ช่วยผู้ประกอบการรายย่อยคนไทย เปิดโอกาสให้โปรโมทฟรีช่วงบอลยูโร 2020
.
.
.
ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ประชุมร่วมกับ กอ.รมน. หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เหล่าทัพ และ ตร. ผ่านระบบ VTC เพื่อติดตามการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาโควิด-19
โดยพล.อ.ชัยชาญ ได้ย้ำถึงข้อสั่งการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมขอขอบคุณทุกเหล่าทัพและ ตำรวจ ที่สนับสนุนรัฐบาลจัดกำลังพลเข้าควบคุมแคมป์คนงานและพื้นที่ชุมชนเสี่ยงสูงที่ผ่านมา รวมทั้งสนับสนุนการจัดตั้งและบริหารจัดการสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐ (SQ) 35 แห่ง และสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (ASQ) 146 แห่ง ต่อเนื่องตั้งแต่ มี.ค. 63 เป็นต้นมา โดยขอให้เตรียมการส่งมอบภารกิจการบริหารจัดการสถานที่กักกันโรคทางเลือก (AQ) ให้ สธ.ดำเนินการต่อตั้งแต่ 1 ก.ค. 64 เป็นต้นไป
นอกจากนั้น นายกฯ และรมว.กลาโหม ยังได้กำชับให้ หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และทุกเหล่าทัพ เตรียมความพร้อมรับทหารกองประจำการผลัดที่ 1/64 ที่จะทยอยเดินทางเข้าประจำหน่วยทหารทั่วประเทศพร้อมกัน ระหว่าง 1-3 ก.ค.64 โดยให้มีการคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการควบคุมที่สาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งการจัดเตรียมสถานที่และกระบวนการรับตัวทหาร ตั้งแต่การรายงานตัวในพื้นที่จังหวัดอำเภอ การจัดยานพาหนะและการเคลื่อนย้ายทหารเข้าหน่วย การปรับสภาพและคัดกรองเฝ้าระวังควบคุมโรคใน 14 วันแรก
โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง รวมทั้งมาตราการควบคุมโรคระหว่างการฝึกและการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน หากพบการติดเชื้อให้คัดแยกและส่งเข้ารับการรักษาที่ รพ.สนาม ทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประสานกระทรวงสาธารณสุข ขอรับการสนับสนุนวัคซีนฉีดให้กับทหารที่เข้าประจำการใหม่ทั้งหมดโดยเร็ว เพื่อมิให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในหน่วยทหาร
พล.อ.ชัยชาญ ยังได้ย้ำให้ทุกเหล่าทัพ ที่จัดกำลังพลเข้าไปเข้าไปควบคุมแคมป์คนงาน หรือพื้นที่ชุมชนแพร่ระบาด ขอให้สร้างความเข้าใจกับแรงงานและเจ้าของสถานประกอบการถึงเหตุผลความจำเป็นในมาตรากรชั่วคราวที่กำหนด พร้อมทั้งเร่งรวบรวมความต้องการวัคซีน เสนอ สธ. เพื่อเร่งฉีดให้กับกำลังพลที่ลงปฏิบัติงานในพื้นที่โดยเร็ว และขอให้พิจารณาจัดตู้ปันสุขในพื้นที่รอบหน่วยทหารและจัดรถครัวสนามสนับสนุนชุมชนในพื้นที่ควบคุมที่มีการแพร่ระบาดโดยทั่วถึง เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากมาตรการควบคุมโรคที่กำหนด ในสถานการณ์วิกฤตของการแพร่ระบาดของโรคที่กำลังเกิดขึ้น
รมว.เฮ้ง ลงพื้นที่เตรียมกำลังแรงงานพร้อมเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เตรียมความพร้อมกำลังแรงงาน สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล ในการเปิดประเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดภูเก็ต ณ ห้องประชุมตึก 3 ชั้น สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 21 ภูเก็ต โดยมี นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายสุทา ประทีป ณ ถลางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จังหวัดภูเก็ต
นายประทีป ทรงลำยอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย โดย รมว.แรงงาน กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และท่านรองนายกรัฐมนตรี ท่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานมีความห่วงกังวลและต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลายประเทศใช้มาตรการการล็อกดาวน์หรือปิดเมือง เพื่อจำกัดการเคลื่อนที่ของผู้คนและลดการสัมผัสใกล้ชิด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบุคคลที่อยู่ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอย่างกะทันหัน ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน จึงได้กำหนดมาตรการและการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องผู้ใช้แรงงาน จึงได้เร่งรัดให้ทุกจังหวัดสำรวจความต้องการการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตน เพื่อเป็นการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการมีงานทำให้กับผู้จบการศึกษาใหม่ การพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อรองรับวิถีใหม่ โดยการ Up skill และการ Re skill การคุ้มครองสิทธิแรงงาน และการสร้างหลักประกันทางสังคม รวมถึงมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการอีกด้วย ในวันนี้ผมจึงได้ลงพื้นที่มาเพื่อประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามรายงานสถานการณ์ด้านแรงงาน และการดำเนินงานตามภารกิจกระทรวงแรงงานเพื่อเตรียมการรองรับการเปิดเมืองภูเก็ต และตรวจเยี่ยมกิจกรรมที่สอดรับการเปิดเมือง เช่น การประเมินความรู้ความสามารถสาขาช่างไฟฟ้า ทดสอบมาตรฐานสาขาช่างไฟฟ้า มอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้ผ่านการประเมินความรู้ความสามารถสาขาช่างไฟฟ้า สาธิตบาริสต้า อบรมภาษาอังกฤษผ่านระบบซูม
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้มีการดำเนินการของหน่วยงานในพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับมาตรการดังกล่าว ได้แก่ การเตรียมตำแหน่งงานว่างรองรับสำหรับผู้ว่างงาน การฝึกอาชีพอิสระ โดยเฉพาะภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ การ Up - skill/Re - skill/New - skill เพื่อยกระดับศักยภาพกำลังแรงงานให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ สร้างความรับรู้ความเข้าใจ ให้คำปรึกษาด้านแรงงานแก่สถานประกอบการเกี่ยวกับใช้ระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง การดูแลสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ถูกเลิกจ้างว่างงานจากผลกระทบโควิด-19 ตลอดจนการส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายรัฐบาล ในการเปิดประเทศตามโครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับมาโดยเร็ว
รมว.แรงงาน ยังได้กล่าวส่งความห่วงใยและให้กำลังใจข้าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดชายแดนภาคใต้และทุกจังหวัดในภาคใต้ที่เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom โดยขอให้ทุกคนระมัดระวังดูแลรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงปลอดภัยจากการที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่ในตรวจแรงงานต่างด้าว การตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ ซึ่งกระทรวงแรงงานมีหน้าที่ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานให้ทันสมัย ทั้งการรับสมัครงาร อบรมฝึกอาชีพ แรงงานสัมพันธ์ การสร้างหลักประกันความมั่นคง ความปบอดภัยในการทำงานอีกด้วย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564 ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) ด้วยระบบ Zoom Cloud Meetings โดยมีนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) อธิบดีกรมเจ้าท่า ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมประชุม โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ทำหน้าที่ ฝ่ายเลขานุการ
นายศักดิ์สยามฯ กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กระทรวงคมนาคม จัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ เพื่อพัฒนาการขนส่งทางทะเลของไทยให้มีประสิทธิภาพ ดังนั้น กระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายที่จะให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติขึ้นมาใหม่ เนื่องจากอดีตถึงปัจจุบัน กองเรือพาณิชย์ของไทยที่ทำการขนส่งสินค้าทางทะเล มีขนาดเล็ก มีระวางบรรทุกน้อย ไม่สามารถขนส่งระยะไกล เรือสินค้าไทยมีสัดส่วนในการขนส่งสินค้าเข้า-ออกจากประเทศเพียงร้อยละ 9 และไทยต้องพึ่งพาเรือสินค้าต่างชาติถึงร้อยละ 91 ทำให้ไทยขาดดุลค่าระวางขนส่งสินค้าสูงถึงประมาณร้อยละ 90 คิดเป็นเงินประมาณ 1.33 ล้านล้านบาทต่อปี
เมื่อกระทรวงคมนาคมมีแผนการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาค ตำแหน่งที่ตั้งของประเทศ ความเป็นศูนย์กลาง การเป็นทางผ่านของการขนส่งระหว่างภูมิภาคของโลก ย่อมเป็นความได้เปรียบและเป็นโอกาส ในขณะที่กระทรวงคมนาคม ได้เร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมาอย่างต่อเนื่อง การผลักดันการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ จะช่วยให้ไทยลดการพึ่งพาเรือต่างชาติ ลดต้นทุนการขนส่ง ลดการขาดดุลค่าระวาง และเสริมศักยภาพ การแข่งขันให้กับเรือไทย ตลอดจนช่วยให้มีการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งให้คุ้มค่า การขนส่งสินค้านำเข้าส่งออกทางทะเลจะมั่นคงและมีเสถียรภาพมากขึ้น
ดังนั้น กระทรวงคมนาคม จึงแต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติขึ้น และได้กำหนดให้มีการประชุม ครั้งที่ 1 ในวันนี้ เพื่อให้คณะกรรมการ เป็นกลไกเร่งรัดการดำเนินงาน และการขับเคลื่อนเพื่อจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติให้สำเร็จโดยเร็วต่อไป
นายศักดิ์สยาม กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมในวันนี้ ได้พิจารณากรอบแนวทางในการดำเนินงานจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ และทางเลือกรูปแบบการดำเนินงาน รวมทั้งเห็นชอบแผนการดำเนินงาน (Action Plan) เพื่อเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งได้มอบหมายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมในการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ และนำเสนอผลการศึกษาให้คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติพิจารณาก่อนนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งบริษัท สายการเดินเรือแห่งชาติ จำกัด โดยมีนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะทำงาน เพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล แนวทางและรูปแบบการจัดตั้งบริษัท สายการเดินเรือแห่งชาติ จำกัด ที่มีความเหมาะสม รวมทั้งประเด็นข้อกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยบข้อง เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติต่อไป
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ได้มีข้อสั่งการให้นำเสนอความก้าวหน้าของการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ ภายใน 1 เดือน และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้
1.) มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย และกรมเจ้าท่า เชิญสถาบันการศึกษา เพื่อหารือเกี่ยวกับความพร้อมในการจัดเตรียมบุคลากรด้านพาณิชย์นาวี สำหรับรองรับ จัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ
2.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร จัดตั้งคณะอนุกรรมการในแต่ละด้านเพื่อขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติต่อไป
3.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบ การลงทุนและการถือหุ้นของบริษัทเดินเรือในประเทศต่าง ๆ เพื่อนำมาเป็นแนวทางและรูปแบบการจัดตั้ง สายการเดินเรือแห่งชาติต่อไป
4.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ศึกษาแนวทางการกำหนดสิทธิประโยชน์ และการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนและจดทะเบียนเรือในประเทศไทย
5.) มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในรูปแบบการดำเนินงานของ บริษัท สายการเดินเรือแห่งชาติ จำกัด ในกรณีที่รัฐบาลถือหุ้นบุริมสิทธิ เพื่อให้มีความคล่องตัว ในการดำเนินงานและมีอำนาจในการตัดสินใจ
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ซึ่งจะเริ่มโอนเงินให้ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ ว่า กระทรวงการคลังพร้อมโอนเงินโครงการคนละครึ่ง เข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง ให้ผู้มีสิทธิ 25.5 ล้านคน ได้เริ่มใช้วันแรก 1 ก.ค. นี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ในการโอนเงินลงไปให้นั้น ในรอบแรกจะโอนก่อน 1,500 บาท เพื่อใช้จ่ายระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย. 64 และรอบที่ 2 โอนวันที่ 1 ต.ค. อีก 1,500 บาท เพื่อใช้เดือน ต.ค.-ธ.ค. 64
ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้จะเริ่มใช้จ่ายได้ 1 ก.ค. นี้ เช่นกัน โดยมีผู้ผ่านสิทธิแล้ว 4.2 แสนคน และคลังยังได้ปรับเงื่อนไขให้สามารถใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 10,000 บาท ซึ่งจะเสนอ ครม. เพื่อให้เริ่มทันวันที่ 15 ก.ค. นี้ เพื่อจูงใจให้คนเข้ามาร่วมโครงการมากขึ้น
ทั้งนี้ คลังขอย้ำว่าสำหรับประชาชนที่ได้รับเอสเอ็มเอส ระบุข้อความลงทะเบียนสำเร็จ โปรดใช้สิทธิผ่านแอปเป๋าตัง เริ่มวันที่ 1 ก.ค. 64 หากเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง แล้วขึ้นข้อความว่าไม่พบข้อมูลการลงทะเบียน หรือระบบกำลังดำเนินการตรวจสอบ ขอให้อัปเดตแอปพลิเคชันเป๋าตัง เป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนเข้าใช้งาน เมื่ออัปเดตแอปพลิเคชันเป๋าตังเป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันแล้ว จะได้รับข้อความ โครงการคนละครึ่ง สามารถใช้ได้ 1 ก.ค. 64
โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9