Monday, 19 May 2025
ค้นหา พบ 48181 ที่เกี่ยวข้อง

คลังชง ครม. รับทราบแผนแก้หนี้สินประชาชน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมรายงานในที่ประชุม ครม. วันที่ 29 มิ.ย.นี้ รับทราบความคืบหน้านโยบายแก้หนี้ครัวเรือน โดยในส่วนของสถาบันการเงินของรัฐได้ทำไปแล้วหลายมาตรการ เช่น ธนาคารออมสิน ได้ออกมาตรการ ยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ส่วนธนาคารอื่นๆ ก็กำลังวางแผนเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วเช่นกัน

ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้หนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาภายในปลายปีนี้นั้น และยังมีผู้สนใจลงทะเบียนในโครงการน้อย จากเป้าหมาย 4 ล้านสิทธินั้น ขอให้รอดูไปก่อนเพราะขณะนี้โครงการเพิ่งจะเริ่มต้น ส่วนเรื่องการเพิ่มวงเงินในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ให้ถึง 6,000 บาทต่อคนตามที่เอกชนเสนอนั้น ขอพิจารณาก่อนแต่ตอนนี้ยังยึดตัวเลขเดิมคือ 3,000 บาทต่อคน

ทั้งนี้ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หาทางแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนรายย่อยให้กับประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ได้แก่

1.) หนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จำนวน 3.6 ล้านคน รวมถึงผู้ค้ำประกัน 2.8 ล้านคน

2.) หนี้ครู/ข้าราชการ 2.8 ล้านบัญชี

3.) หนี้เช่าซื้อรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ 27.7 ล้านบัญชี

4.) หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 49.9 ล้านบัญชี และ 5.ปัญหาหนี้สินอื่น ๆ ของประชาชน 51.2 ล้านบัญชี

“บิ๊กตู่” ถกด่วน ศบศ. ด่วน เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบภายหลัง หลังยกระดับควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19

ที่ตึกภักดีบดินทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 หรือ ศบศ. เป็นการด่วนเพื่อหามาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจ ภายหลังมีคำสั่งยกระดับมาตรการเป็นการชั่วคราว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งหมดรวม 10 จังหวัด จากเดิมกำหนดประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบ VDO Conference

โดยที่ประชุม รับทราบรายงานจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช.) ภายหลังรัฐบาลประกาศยกระดับมาตรการฯโดยประเมินว่าจะมีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ 6 จังหวัด ได้แก่ กทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และ 4 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้งการพิจารณารูปแบบการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการในระบบประกันสังคม เป็นผู้ประกันตนในมาตรา 33 ซึ่งคาดว่าภาครัฐจะพิจารณาให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 1-2 พันบาทต่อเดือน รวมถึงให้กองทุนประกันสังคมจ่ายค่าทดแทนกรณีเหตุสุดวิสัยร้อยละ 50 ในระยะเวลา 1 เดือน ขณะที่ผู้ประกอบการและนายจ้างที่ได้รับผลกระทบ คาดว่าจะเป็นรูปแบบจ่ายค่าทดแทนในสาขาที่ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต้องจับตาโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ก.ค.นี้ ว่าจะมีการปรับอย่างไรหรือไม่ หรือจะมีการพิจารณาเพิ่มวงเงินในมาตรการเราชนะ และ ม33 เรารักกัน ที่กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.2564 หรือไม่

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้พูดคุยอะไรกับสื่อมวลชน ภายหลังถูกวิพากวิจารณ์อย่างหนักในการแถลงข่าวหลังประชุมทีมคณะแพทย์เมื่อวันศุกร์ที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา

'แอสตร้าเซนเนก้า' ย้ำส่งมอบวัคซีนโควิดให้ไทยตามกำหนด ระบุ สัปดาห์นี้จะส่งมอบครบ 6 ล้านโดส ตามคำสั่งซื้อ 61 ล้านโดส พร้อมเริ่มส่งออกต่างประเทศ

นายเจมส์ ทีก ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว 4.7 ล้านโดส และจะทำการส่งมอบวัคซีนครบ 6 ล้านโดสภายในสัปดาห์นี้ ภายใต้แผนการจัดหาวัคซีนทั้งหมด 61 ล้านโดสให้กับประเทศไทย

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ จะเริ่มส่งออกวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยไปยังประเทศต่าง ๆ ในต้นเดือน ก.ค. 64 โดย 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตวัคซีนภายในประเทศได้สำรองไว้เพื่อผลิตให้กับประเทศไทยตามคำสั่งซื้อรวม 61 ล้านโดส ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของวัคซีนจำนวน 180 ล้านโดสที่ผลิตโดย บริษัท สยามไบโอไซแอนซ์ ส่วนกำลังการผลิตที่เหลืออีกประมาณ 2 ใน 3 จะจัดสรรเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป

“แอสตร้าเซนเนก้ามีความยินดีที่ได้เห็นการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศไทยคืบหน้าไปเป็นอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าหากเราร่วมมือกัน ในไม่ช้าก็จะสามารถควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ แอสตร้าเซนเนก้ามุ่งมั่นสานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลไทย เพื่อสนับสนุนการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพให้ครอบคลุมทั่วประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเร็วที่สุด”

นายลีออน หวัง รองประธานบริหาร ฝ่ายการต่างประเทศ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า กล่าวว่า การรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในระดับภูมิภาคและระดับโลกเป็นเรื่องที่ต้องประเมินและปรับแนวทางการรับมือให้มีความชัดเจน ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในฐานะแหล่งผลิตวัคซีน เพื่อใช้ยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วภูมิภาคนี้ และเพื่อสุขภาพของประชาชนรวมถึงเศรษฐกิจของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าได้สร้างประโยชน์อันยิ่งใหญ่ในการช่วยชีวิตผู้คนมากมายนับตั้งแต่เริ่มต้นฉีดให้กับประชาชนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และยังช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19 ในระดับที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ผลการทดลองทางคลินิกยืนยันว่า ผู้รับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าสามารถทนต่อผลข้างเคียงของวัคซีนได้ดีและวัคซีนยังช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19 ในทุกระดับความรุนแรง

นอกจากนี้ จากข้อมูลการใช้วัคซีนในประชากรหลายสิบล้านคนทั่วโลก ยังแสดงให้เห็นว่า วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิผลลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ในระดับที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้มากถึง 80% หลังจากการฉีดเข็มแรก

แอสตร้าเซนเนก้ากำลังจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกโดยไม่หวังผลกำไรในช่วงการระบาดใหญ่นี้ โดยได้จัดส่งวัคซีนมากกว่า 600 ล้านโดสให้แก่ 168 ประเทศทั่วโลก


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายกฯ ส่งสาร 89 ปี สถานปนาสำนักนายกฯ ย้ำความสำเร็จภารกิจอยู่ที่ร่วมมือร่วมใจด้วยหัวใจเป็นข้าราชการที่ดี เพื่อประโยชน์สุข พาปชช.ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีสารเนื่องในโอกาสวันสถาปนาสำนักนายกรัฐมนตรี ครบรอบปีที่ 89 วันที่ 28 มิ.ย.2564 ผ่านเพจเฟซบุ๊กสํานักงานปลัดสํานักนายกรัฐมนตรีว่า ตนขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรีทุกคน ตลอดระยะเวลา 89 ปี สำนักนายกรัฐมนตรีมีบทบาทสำคัญในการอำนวยการการบริหารราชการแผ่นดินในทุกมิติ เชื่อมประสานส่วนราชการ ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในภาคส่วนอื่นเพื่อขับเคลื่อนการนำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติอย่างมีเอกภาพ โดยมุ่งหวังให้พี่น้องประชาชนกินดี อยู่ดีมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น 

รวมทั้งพัฒนาประเทศให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญในการบูรณาการภารกิจการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้ประเทศชาติก้าวพันผ่านวิกฤติโรคระบาดและพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความสำเร็จในการขับเคลื่อนภารกิจของสำนักนายกรัฐมนตรีเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรในทุกสังกัด ที่ปฏิบัติงานด้วยหัวใจของการเป็นข้าราชการที่ดี มีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่และมุ่งมั่นตอบสนองความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อผลักดันให้การปฏิบัติราชการสอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนโยบายรัฐบาล

ในขณะเดียวกันสำนักนายกรัฐมนตรียังเป็นต้นแบบในการยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการของภาครัฐปรับรูปแบบการทำงานตามแนววิถีใหม่ (New Normal) เน้นการทำงานเชิงรุก เพื่อให้การอำนวยการ กำกับ ติดตาม การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีเอกภาพ สามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน อย่างทันท่วงที และเกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนอย่างยั่งยืนตลอดมา

“ในโอกาสนี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อีกทั้งเดซะพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้ผู้บริหารและบุคลากรในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ เจริญก้าวหน้า ็ในหน้าที่ราชการมีกำลังกายกำลังใจที่ข้มแขง สมปรารณณาทุกประการโดยทั่วกัน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคงสืบไป” นายกรัฐมนตรีกล่าว

"วิษณุ" ชี้ ร่างแก้ไข รธน. ฉบับปชป. เดินไปได้ เชื่อมือ บัญญัติ-ชินวรณ์-ไพบูลย์  รู้ช่องขยายหลักการระบบลต. 2 ใบ  ยัน มาตรการเข้มโควิด ไม่กระทบประชุมสภา ถกงบฯ65 ทั้งปัด ประกาศ ศบค. ลักหลับ ชี้  ปมห้ามนั่งกินในร้าน เหตุ ต้องถอดหน้ากาก ถือว่าอันตราย 

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาธิปัตย์ถูกวิจารณ์ว่าเนื้อหาไม่ครอบคลุมถึงการแก้ไขระบบเลือกตั้ง2 ใบ ว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการ และส.ส.ที่จะต้องไปหาทางออกเอาเอง ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาที่จะขัดรัฐธรรมนูญ แต่เป็นปัญหาที่อาจจะโดยตรงขีดเส้นใต้ว่าอาจจะด้วย เพราะอาจจะไม่ก็ได้ แต่ที่สงสัยคืออาจจะขัดต่อข้อบังคับ ซึ่งการขัดต่อข้อบังคับ อาจจะมีวิธีการทำอย่างอื่นได้ เช่น ข้อบังคับคือว่าจะต้องเสนอแก้ไขในหลักการอะไร เมื่อหลักการนั้น คือมาตรา 83 หรือ 91 ซึ่งไปกระทบกับมาตราอื่นเข้ามันอาจจะเกิดปัญหาที่บางคน อาจจะเห็นว่าไปกระทบกับมาตราอื่นไม่ได้ ก็คือไม่ได้เขียนไว้ แต่ในความเป็นจริงกระทบได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าแก้ไขเพียง 2 มาตรา แต่ในชั้นแปรญัตติไปกระทบมาตราอื่นๆอีก 4  มาตรา ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เชื่อว่าได้ เพราะเขาเคยทำมาแล้ว 

เมื่อถามว่า ส่วนตัวมองว่าร่างของพรรคประชาธิปปัตย์ (ปชป.) ยังไปได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ และในที่สุดที่สำคัญกว่านั้นคือการทำกฎหมายลูกเพราะหลายอย่างไปเขียนรายละเอียดไว้ในกฎหมายลูก ซึ่งเป็นเทคนิคของการเขียนกฎหมายเพราะมีคนอย่างนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งคนเหล่านี้คงคิดออก 

เมื่อถามว่า เคยมีตัวอย่างหรือไม่ ที่ขอแก้ไข 2 มาตรา แต่เอาเข้าจริงไปขยายอีก 4 มาตรา นายวิษณุ กล่าวว่า มีแต่ไม่ประทบอะไร เพราะไปเขียนในบทเฉพาะการ ซึ่งมีวิธีเขียน ซึ่งเขาเหล่านั้นเก่งกว่าตน เขาก็มีวิธีเขียน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในขณะเดียวกันก็อาจจะแก้ไขไม่ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า "คือได้นั้นได้ แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็จะไม่ยอมแล้วเถียงว่าไม่ได้ แล้วก็ดึงไปศาลรัฐธรรมนูญ เลยจะเสียเวลา" 

เมื่อถามว่า ถือว่าเป็นความผิดพลาดของรัฐสภาหรือไม่ เพราะแทนที่จะโหวตรับร่างของพรรคการเมืองที่เสนอ 6  มาตรา แต่กลับไปรับร่าง 2 มาตราแทน นายวิษณุ กล่าวว่า "ไม่ใช่ ผมไม่ถือว่าเป็นความผิดพลาดอะไร แต่อาจจะเสียเวลา เพราะถ้าคิดเสียเวลาก็เสียเวลาได้ทุกเรื่อง" 

นอกจากนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19  ของศบค. จะส่งผลต่อการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 หรือไม่ ว่า ไม่เป็นอะไร เพราะกมธ.งบประมาณไปประชุมโดยใช้สถานที่อื่นนอกสภาฯ ได้ และยังประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ได้ ส่วนกรณีรวมตัวไม่เกิน 20 คนนั้น ก็ขออนุญาตเพื่อการยกเว้นได้ ซึ่งมีหลายการประชุมที่จัดประชุมเกิน20 คน คือ ประชุมครม., ประชุมคณะกรรมการต่าง ๆ ดังนั้นก็จะไม่กระทบต่อการประชุมสภาฯ แต่อย่างใด 

อีกทั้งได้กล่าวถึง ข้อกำหนดของ ศบค. ที่ประกาศเมื่อตี 1 วันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถูกวิจารณ์ว่ากระทันหันเกินไปจนประชาชนไม่ได้เตรียมตัว ถือเป็นการประกาศแบบลักหลับว่า "ไม่ได้ลักหลับ เขาก็เกริ่นให้รู้ โธ่ จะลักหลับอะไร ใครๆ ก็รุมด่ารัฐบาลอยู่ว่า แพลมออกมาจนพวกคนงานเขาหนีออกไปหมดแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 25 มิ.ย. แล้วเป็นสัญญาณให้รู้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ทางหมอเขาขอว่าจะต้องทันที เพราะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลกระทบทางเศรษฐกิจ และผลกระทบในทางสุขภาพ เพราะโควิดมันรุนแรงมาก โดยเฉพาะสายพันธุ์เบต้าที่ระบุไว้ในข้อกำหนด ส่วนเหตุผลที่ต้องห้ามนั่งกินในร้านอาหารก็คือการบริโภคอาหาร นั้นมันเป็นเหตุให้ต้องถอดหน้ากากอนามัย นี่คืออันตราย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top