ปูตินสั่งแก้กฎยิงนิวเคลียร์ง่ายขึ้น หลังยูเครนใช้มิสไซส์สหรัฐฯ โจมตีแดนหมีขาว
(20 พ.ย. 67) สำนักข่าวสปุตนิกได้เปิดเผยเอกสารแปลฉบับไม่เป็นทางการ หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ลงนามปรับลดระดับข้อจำกัดการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ส่งผลให้รัสเซียสามารถใช้นิวเคลียร์เพื่อตอบโต้การโจมตีได้ง่ายขึ้น แม้จะเป็นการโจมตีจากประเทศที่ไม่ได้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ แต่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจที่ครอบครองนิวเคลียร์
ระเบียบใหม่ของรัสเซียระบุว่า สามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ในกรณีที่รัสเซียถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธร่อน ขีปนาวุธวิถีโค้ง หรือการโจมตีทางอากาศโดยอากาศยาน โดรน หรือพาหนะบินได้อื่น ๆ
ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังยูเครนยิงขีปนาวุธ ATACMS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เข้าไปในแคว้นไบรอานส์กของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลในลักษณะนี้ สร้างความเสียหายต่อคลังกระสุนในพื้นที่ดังกล่าว
การโจมตีเกิดขึ้นในวันครบรอบ 1,000 วันของสงคราม โดยฝ่ายยูเครนระบุว่า ขีปนาวุธสามารถทำลายกระสุนปืนใหญ่จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่าสามารถยิงขีปนาวุธตกลงมาได้ 5 ลำ และอีก 1 ลำถูกทำลายในอากาศ
สถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (ISW) เผยว่ามีเป้าหมายทางการทหารและกึ่งทหารกว่า 250 จุดในรัสเซียที่อยู่ในระยะทำการของ ATACMS
ในอีกด้านหนึ่ง รัสเซียเริ่มผลิตหลุมหลบภัยนิวเคลียร์เคลื่อนที่ชื่อ "คับ-เอ็ม" (KUB-M) เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยหลุมหลบภัยดังกล่าวสามารถรองรับคนได้ถึง 54 คน เป็นเวลา 2 วัน พร้อมป้องกันคลื่นกระแทกและรังสี
กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินมอสโกว์ยืนยันว่า การพัฒนาหลุมหลบภัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมรับมือทั้งอันตรายจากธรรมชาติและเหตุการณ์ที่เกิดจากมนุษย์
ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนนโยบายและการตอบโต้ด้วยกำลังทางการทหาร ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังไม่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่นานาชาติยังคงจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด