เปิดเรื่องราว ‘Lykov’ ครอบครัวเก่าแก่ ที่หันหลังให้กับความศิวิไลซ์ เอาชีวิตรอดจากธรรมชาติหฤโหดสุดเหน็บหนาวใน Siberian 42 ปี

พื้นที่ Abakan ในดินแดน Tashtypsky เขต Khakassia ทางตอนใต้ของ Siberia (วงกลม)

Siberian ดินแดนทางเหนือสุดของทวีปเอเชียตั้งแต่เทือกเขาอูราลไปจนจรดมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งอยู่ในเขตของประเทศรัสเซียปัจจุบัน พื้นที่ 13.1 ล้านตารางกิโลเมตร (5,100,000 ตารางไมล์) ของ Siberian ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ (ราว 77%) ของรัสเซีย และเกือบ 9% ของพื้นผิวโลกทั้งหมด และเป็นดินแดนที่ขึ้นชื่อถึงความหฤโหดของความหนาวเย็นในฤดูหนาว ยุคอดีตสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี 1929 ถึง 1953 มีนักโทษทางการเมืองหลายล้านคนถูกส่งมายังค่ายกักกันและเรือนจำใน Siberian

Karp Lykov

ในปี 1936 ครอบครัว Lykovs ซึ่งเป็นสมาชิกของ Old Believers ซึ่งเป็นนิกายหนึ่งของ Russian Orthodox นำโดย Karp Lykov หัวหน้าครอบครัวได้หลบหนีเข้าไปในส่วนลึกมากของพื้นที่ Abakan ในดินแดน Tashtypsky เขต Khakassia ทางตอนใต้ของ Siberian เพื่อหลบหนีการปราบปรามผู้ที่มีความเชื่อทางศาสนาภายใต้ระบอบการปกครองของสหภาพโซเวียต พวกเขาตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากชุมชนที่ใกล้ที่สุดมากกว่า 150 ไมล์ ในพื้นที่ป่าของเทือกเขา Sayan

Karp, Agafia และ Natalia Lykov ถ่ายในปี 1978 สวมใส่เสื้อผ้าที่ได้รับมา

ครอบครัวที่มีสมาชิก 6 คนใช้เวลา 42 ปีในการแยกตัวออกจากสังคมมนุษย์อาศัยในพื้นที่ซึ่งไม่มีคนอาศัยอยู่ สมาชิกของครอบครัวประกอบด้วย

1. Karp Osipovich Lykov (c. 1901–16 กุมภาพันธ์ 1988) (Карп Лыков) พ่อ
2. Akulina Lykov (c. 1900–16 กุมภาพันธ์ 1961) (Акулина Лыкова) แม่
และลูก ๆ อีก 4 คน
3. Savin (c. 1927– 1981) (Савин)
4. Natalia (c. 1934–1981) (Наталия)
5. Dmitriy (1940–1981) (Дмитрий)
6. Agafia (born 1944) (Агафья)

ครอบครัว Lykov เดินเท้าเปล่า

หลังจากที่พี่ชายของ Karp Lykov ถูกสังหารโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจของสหภาพโซเวียต Karp และ Akulina Lykov พร้อมลูกสองคน Savin และ Natalia ก็หลบหนีออกจากบ้านเกิดที่เมือง Lykovo (Tyumen Oblast) ไปทางตะวันออก ต่อมาพวกเขามีลูกอีก 2 คนคือ มีเด็กอีกสองคนคือ Dmitriy และ Agafia การหลบหนีของพวกเขาจบลงที่ตอนใต้ของ Siberia ซึ่งอยู่ห่างจากชุมชนที่ใกล้ที่สุด 250 กิโลเมตร (160 ไมล์) และอยู่ห่างจากชายแดนมองโกเลียประมาณ 160 กิโลเมตร พวกเขานำสิ่งของจำเป็นเพียงไม่กี่อย่างได้แก่ กาต้มน้ำ เมล็ดพืช กังหันล้อหมุน และส่วนประกอบของเครื่องทอผ้า

พวกเขาสวมเสื้อผ้าและรองเท้าจนพัง สิ่งของดั้งเดิมหลายชิ้นเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างขึ้นในป่า พวกเขาเปลี่ยนรองเท้าที่ชำรุดด้วยรองเท้าที่มีพื้นเป็นเปลือกไม้ และใช้ป่านที่ปลูกจากเมล็ดพืชมาทดแทนเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น อย่างไรก็ตามโลหะก็ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ เมื่อกาต้มน้ำชำรุดเสียหาย และอาหารก็กลายเป็นเรื่องที่ต้องดิ้นรนค้นหาทุกวัน ครอบครัวนี้อาศัยอยู่อย่างอดอยากต่อเนื่องตลอดมา โดยส่วนใหญ่มีชีวิตรอดจากมันฝรั่งบดผสมกับเมล็ดป่านและข้าวไรย์บด ชีวิตไม่มีความแน่นอนจนพวกเขาต้องประชุมครอบครัวเป็นประจำทุกปีเพื่อหารือกันว่า ควรเพาะเมล็ดพันธุ์สำหรับปีต่อไป หรือกินเป็นอาหารเพื่อยังชีพตอนนั้น ในปี 1961 Akulina ผู้เป็นแม่ก็เสียชีวิตลงด้วยสาเหตุจากความอดอยาก สมาชิกครอบครัวแต่ละคนมีจุดแข็งและความรอบรู้ของตนเอง พวกเขาแต่ละคนจะจัดการส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของพวกเขา Dmitriy ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กที่เกิดในป่า โตพอก็ออกล่าสัตว์ บางครั้งเขาก็หายไปหลายวัน หลับนอนโดยไม่มีที่พักพิงภายใต้อุณหภูมิที่เย็นจัด โดยไม่มีกับดักหรืออาวุธสมัยใหม่ เขาอาศัยกับดักที่ซ่อนอยู่ด้วยการขุดเอง หรือติดตามล่าเหยื่อจนในที่สุดก็จัดการได้เมื่อพวกมันอ่อนล้าหมดแรง

วันหนึ่งในปี 1978 นักธรณีวิทยากลุ่มหนึ่งนั่งเฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งไม่เคยมีการสำรวจมาก่อน เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นพื้นที่โล่ง เนื่องจากไม่มีบันทึกการอยู่อาศัยของมนุษย์ในบริเวณนี้ พวกเขาจึงวนเวียนอยู่สองสามครั้ง หลักฐานนั้นน่าสนใจ สวนที่ใหญ่พอที่จะสังเกตได้จากบนอากาศนั้นมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สร้างได้ พวกเขาหาที่ลงจอดและออกเดินทางเพื่อตรวจสอบ สิ่งที่พวกเขาพบนั้นท้าทายความเชื่อมาก เมื่อไปพบกับบ้านหลังหนึ่งซึ่งต่อมาได้ถูกบรรยายไว้ว่า “ไม่ใหญ่ไปกว่าโพรง เต็มไปด้วยเขม่าดำคล้ำ และเย็นเหมือนห้องใต้ดิน คับแคบ สกปรก มีห้องเดียว พื้นปูด้วยเปลือกมันฝรั่งและลูกสน มีหญิงสาวสองคนที่แลดูกำลังหวาดกลัวอยู่ที่มุมห้อง กลุ่มนักธรณีวิทยาต้องการมอบอาหาร ชา ขนมปัง ขนมหวาน และสิ่งอื่น ๆ ที่ Karp ชายชรารู้ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เป็นสิ่งที่ลูก ๆ ของเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

Karp กับ Agafia ลูกสาวในช่วงกลางทศวรรษ 1980 ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 1988

ยิ่งไปกว่านั้นลูก ๆ ของครอบครัว Lykov ไม่เคยพบใครเลยนอกจากพ่อแม่ของพวกเขา พวกเขารู้ว่า มีสถานที่ห่างไกลที่ผู้คนอาศัยอยู่ตามตึกสูง พวกเขาได้ยินมาว่า มีประเทศอื่นนอกเหนือจากสหภาพโซเวียต แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องราวที่ห่างไกลสำหรับพวกเขามาก พวกเขาเรียนรู้ที่จะเขียนและอ่านจากแม่ และหนังสือเล่มเดียวที่พวกเขาเคยเห็นคือ พระคัมภีร์ไบเบิลและพระกิตติคุณที่พ่อแม่ของพวกเขานำติดตัวไปด้วย กลุ่มนักธรณีวิทยาได้ถอยออกจากบ้านเพื่อให้ครอบครับ Lykov  มีเวลาปรับตัวเข้ากับผู้มาเยี่ยมที่ไม่คุ้นเคย เพื่อเพิ่มโอกาสเชิงบวกในการติดต่อครั้งแรก พวกเขารอให้ครอบครัว Lykovs มาหาพวกเขา ที่นั่นพวกเขาได้เรียนรู้เรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของ Lykovs หญิงสาวทั้งสองพูดภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง พวกเขาเคยได้ยินแนวคิดเกี่ยวกับเมืองและประเทศต่าง ๆ ผ่านเรื่องราวที่พ่อแม่เล่าให้ฟัง แต่สื่อการอ่านเพียงอย่างเดียวของพวกเขาคือหนังสือเกี่ยวกับศาสนาและพระคัมภีร์ เมื่อนักธรณีวิทยาคนหนึ่งเสนอขนมปัง หญิงสาวคนหนึ่งตอบว่า “เราไม่ได้รับอนุญาต” อันที่จริงเธอไม่เคยรู้หรือได้ยินเกี่ยวกับอาหารประเภทนี้มาก่อน ความบันเทิงหลักของครอบครัวคือให้ทุกคนเล่าความฝันของตน

Agafia ลูกสาวผู้เหลือรอดชีวิตเพียงคนเดียวของครอบครัว Lykov

แม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและโลกก็รู้จักพวกเขา แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับสิ่งใหม่ ๆ เข้าสู่วิถีชีวิตของพวกเขา หลังจากการค้นพบไม่นาน Savin และ Natalia ก็เสียชีวิตด้วยสาเหตุที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการขาดอาหารที่รุนแรงของพวกเขา ในปีเดียวกันนั้นเอง Dmitriy ก็เสียชีวิตด้วยโรคปอดบวมหลังจากปฏิเสธที่จะรับการขนส่งทางอากาศไปยังโรงพยาบาล Karp ชายชราผู้เป็นพ่อเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวในปี 1988 และในปี 2022 Agafia ลูกสาวผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของครอบครัว Lykov ยังคงอาศัยอยู่ตามลำพังในถิ่นทุรกันดารบนความสูง 2,000 เมตรที่ครอบครัว Lykov ได้มาตั้งรกรากตั้งแต่ปี 1936


👍 ติดตามผลงาน อาจารย์ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล เพิ่มเติมได้ที่ : https://thestatestimes.com/author/ดร.ปุณกฤษ%20ลลิตธนมงคล