แม่ทัพภาคที่ 3 ร่วม แถลงผลงานไฟป่าหนึ่งเดือน จุดความร้อนลดลงอย่างเห็นได้ชัด คุณภาพอากาศดีขึ้นต่อเนื่อง

จังหวัดเชียงใหม่ แถลงผลงานไฟป่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จุดความร้อนลดลงต่อเนื่อง ค่าคุณภาพอากาศดีขึ้น 93 เปอร์เซ็นต์ เผยปีหน้าเตรียมปรับแผนบริหารจัดการจุดโม่ข้าวโพดไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ลุกลามเป็นวงกว้าง 

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ ห้องประชุม ตะวัน กังวานพงศ์ ชั้น 4 อาคารยุทธศาสตร์ สำนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  พลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 /ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากองทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พลตรี วิทยา แก้วพรม รองแม่ทัพภาคที่ 3/ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานภาค 3 /รองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากองทัพภาคที่ 3 ,พลตรี ธีระ ผดุงสุนทร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33/ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 33 ร่วมกันประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 แบบบูรณาการ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม จากนั้น ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมดังกล่าวแล้ว ได้มอบหมายให้ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน 

โดยในปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ได้ปรับแผนการดำเนินงานจากปีที่ผ่านมาให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่โดย แบ่งพื้นที่การดำเนินงานเป็น 7 กลุ่มป่า และ 1 พื้นที่ป่าพิเศษ เพื่อจัดทำแผนป้องกันไฟป่าและบริหารจัดการเชื้อเพลิง ขณะเดียวกันได้มีการปรับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในที่โล่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 30 เมษายน 2567 ให้สามารถเผาได้หากมีความจำเป็น โดยผู้ที่มีความประสงค์จะเผาต้องลงทะเบียนขอรับบริหารจัดการเชื้อเพลิงผ่านระบบ Fire-D และต้องได้รับการอนุมัติจากศูนย์บัญชาการระดับอำเภอก่อน ประกอบกับการปฏิบัติการเชิงรุก “เดินเข้าหาไฟ” เป็นการดึงเชื้อเพลิงออกจากแปลงเกษตรลดการเผา ด้วยวิธีการไทยกลบหรือการรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตร เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนด้วยหลัก เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา 

จากการดำเนินงานที่ผ่านมาทำให้สถานการณ์หมอกควันไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ในห้วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 8 กุมภาพันธ์ 2567 เกิดจุดความร้อนเพียง 111 จุด ลดลงจากปี 2566 มากถึง 747 จุด ลดลงถึง 87 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ค่าคุณภาพอากาศที่เกินมาตรฐานคือ 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลดลงจาก 30 วัน เหลือเพียง 2 วัน เท่านั้น หรือลดลงมากถึง 93 เปอร์เซ็นต์  ถือว่าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน สอดคล้องกับจำนวนสถิติผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจก็ลดลงด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงที่สถานการณ์จะรุนแรงมากที่สุดนั้น นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือโดยการให้ทุกหน่วยเข้มงวดกวดขันในการลาดตระเวนเฝ้าระวังในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ป่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านว่างจากการทำการเกษตรมักจะเข้าป่า เพื่อหาของป่าตามวิถีชีวิตของชาวบ้าน ขณะเดียวกันให้ในช่วงที่จะมีการเผาซังข้าวโพดนั้นได้สั่งการให้เกษตรจังหวัดเข้าไปควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งในปีถัดไปจะมีการควบคุมการโม่ข้าวโพดอย่างเข้มข้นขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ซังข้าวโพดลุกลามไปในวงกว้าง