‘มัลลิกา’ ลั่น!! ‘ปชป.’ไม่โหวต ‘พิธา’ แม้ยังไม่มีมติจากพรรค ชี้ การใช้มวลชนกดดัน ส.ว.ผ่านสื่อ ถือเป็นวิธีบีบบังคับแบบเผด็จการ

(11 ก.ค. 66) นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และคณะก้าวหน้ากับพรรคก้าวไกล ใช้วิธีนำมวลชนไปกดดันสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการประชุมวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ทั้งที่แกนนำพรรคก้าวไกลได้ประกาศต่อประชาชนแล้วว่าเสียงโหวตนายกรัฐมนตรีของนายพิธาครบแล้ว โดยเฉพาะได้เจรจากับสมาชิกวุฒิสภาจนได้เสียงครบมั่นใจแล้ว

“ดังนั้น ก็ไม่มีเหตุอันใดสมควรในการที่จะระดมมวลชนมากดดัน หรือใช้วิธีให้ด้อมส้มหรือผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลบนโซเชียลมีเดีย เที่ยวไปทัวร์ลงหรือระรานกดดันผู้อื่นบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของสมาชิกวุฒิสภา กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และผู้สนับสนุนของพรรคการเมืองอื่น เพราะแสดงให้เห็นถึงการไม่ยอมรับความคิดเห็นต่างและไม่ใช่วิถีแห่งเสรีประชาธิปไตย แต่ชัดเจนว่าเป็นวิถีของเผด็จการ” นางมัลลิกา กล่าว

นางมัลลิกา กล่าวด้วยว่า โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์แม้ว่ายังไม่มีมติ เพราะยังไม่มีคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แต่ด้วยธรรมนูญและอุดมการณ์ของพรรคเรา มีรากเหง้าที่มาต้องดำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดังนั้นเชื่อว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคล้วนมีดุลพินิจเองได้ และทุกคนทราบถึงอุดมการณ์และธรรมนูญของพรรคดี ความมั่นคงต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึงคุณลักษณะที่แสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดีของชาติ ธำรงไว้ซึ่งความเป็นชาติ ศรัทธายึดมั่นในศาสนาและเคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

ดังนั้น ช่วงเลือกตั้งเราตอบคำถามสื่อต่อหน้าประชาชนว่าพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนว่า เราจะไม่แก้ไขและยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งเป็นมาตราแห่งความมั่นคงและปกป้องรักษาไว้ซึ่งพระเกียรติยศของสถาบันสำคัญของชาติ