กอ.รมน.ภาค4 โฟกัสฟ้อง 3 กลุ่ม ประชามติ.. แยกดินแดนปาตานี

วันนี้ขอเลียบการเมืองไปที่แนวรบด้านความมั่นคงที่กำลังร้อนฉ่าอยู่ที่ปลายด้ามขวานสักหน่อย  กองทัพภาคที่ 4 แถลงชัดเจนแล้วว่าอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็จะดำเนินการฟ้องคดีเอาผิดกับบุคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดกรรมทำประชามติจำลองแยกปาตานีเป็นเอกราช..ในงานเสวนา “สิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง (Selt Determination) กับสันติภาพปาตานี” เมื่อวันที่ 7มิ.ย.ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี..

ยังไม่รู้ว่ากองทัพภาคที่ 4 จะฟ้องร้องกล่าวโทษกี่คนและเป็นใครบ้าง  “เล็ก  เลียบด่วน” ฟังพล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์  รองแม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ทางรายการ “รู้ทันข่าว92.5” ของกรมประชาสัมพันธ์ท่านบอกกว้าง ๆ เพียงว่ามีอยู่ 3 กลุ่ม  คือ

1)กลุ่มที่จัดกิจกรรม  

2)คนที่มาร่วมงาน และ

3)ผู้ที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง..

พล.ต.ปราโมทย์ให้ข้อมูลว่า  ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการทำไประชามติจำลอง แต่เป็นการทำประชามติเรื่อง” การกำหนดใจตนเอง” เท่านั้น ไม่เลยธงเหมือนในครั้งนี้ที่ถึงขั้นถามว่าเห็นด้วยกับการแยกตัวเป็นเอกราชหรือไม่..ครั้งนี้จึงเป็นการยกระดับการเคลื่อนไหว  ที่พยายามขยายผลต่อยอดเรื่อง “สิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง” ตามข้อมติสหประชาชาติที่ 1514 ออกในปี ค.ศ. 1960  ซึ่งแม้ไทยจะร่วมรับรองแต่เราก็สงวนสิทธิเรื่องการแบ่งแยกดินแดนไว้อย่างชดเจนว่าทำไม่ได้..

ที่น่าสนใจกว่านั้น ฟังแล้วไม่สบายใจเอามากๆ คือ พล.ต.ปราโมทย์.. สถานการณ์ปลายด้ามขวานวันนี้กลุ่มบีอาร์เอ็นยังคงปฏิบัติการทางการทหารเพื่อหล่อเลี้ยงสถานการณ์  ช่วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมาเป็น “รอมฎอนเดือด”ที่สุดในรอบ 10ปี  แต่ที่น่ากลัวไปมากกว่านั้นคือความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ได้ชำแรกแทรกซึมความคิดไปยังกลุ่มต่างๆ ทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชน   เยาวชนนักศึกษา  นักการเมืองและพรรคการเมือง..ซึ่งสนับสนุนแนวคิดในลักษณะเลยธง..

ครับ...ก็น่าลุ้นกันด้วยความระทึกใจว่า..ใครบ้างที่จะถูกฟ้องร้องกล่าวโทษ และในข้อหาอะไร  แน่นอนเป็นคดีความมั่นคง แต่จะหนักหนาสาหัสแค่ไหน...และมีใครจาก3พรรคการเมืองโดนด้วยหรือไม่

3 พรรคที่ว่าคือ พรรคเป็นธรรม  พรรคประชาชาติ ที่มีตัวแทนไปเป็นวิทยากรเสวนา  และพรรคก้าวไกลที่มีรูปโฆษณาเด่นหรากว่าใครเพื่อนอย่าง นายรอมฎอน  ปันจอร์ ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อ  แต่ยกเลิกกะทันหันเหมือนนกรู้...

รายงานข่าวแจ้งว่า กอ.รมน. ภาค4 ส่วนหน้าได้จัดประชุมทีมกฎหมาย นักวิชาการ อัยการ ทหาร ตำรวจมาแล้ว 3 ครั้งเพื่อสรุปรูปคดี  ขณะที่ฝ่ายข่าวกอ.รมน.ภาค4 นั้นได้สรุปข้อมูลย้อนหลังโยงใยมาจนถึงวันจัดงานก็รู้แจ้งเห็นชัดว่าใครเป็นใคร ใครคิดอะไร..โดยเฉพาะพฤติการณ์ของนักการเมืองและพรรคการเมืองบางคนบางพรรค ที่ปลุกระดมความคิดการปกครองตนเอง  ความเป็นเอกราชมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และโหมหนักช่วงเลือกตั้งด้วยหวังผลคะแนนเสียงเข้าข่ายที่จะดำเนินการกล่าวโทษให้ยุบพรรคในข้อหาล้มล้างการปกครองได้ แต่ประเด็นนี้ทางกองทัพหรือทหารจะไม่ดำเนินการ...ปล่อยให้เอกชนหรือภาคประชาชนอาศัยช่องทางรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ไปดำเนินการกันตามความเหมาะควรกันเอง...

แม้ว่านาทีนี้  บรรดาว่าที่ ส.ส. และนักการเมืองจาก 3 พรรคตั้งการ์ดสูงเวลาให้สัมภาษณ์จนบรรดาแนวร่วมเกิดอาการหมั่นไส้รำคาญกันเอง ก็ไม่ได้ทำให้พฤติการณ์ที่บรรดาว่าที่ ส.ส. และพรรคการเมืองดังกล่าวมาลบหายไปได้...  

เล็ก  เลียบด่วน เชื่อว่าถึงที่สุดวันใดวันหนึ่งคงมีคนไปฟ้องร้องกล่าวโทษให้มีการยุบพรรคแน่นอน..เพราะมาตรา 1 ของรัฐธรรมนูญบัญญัติชัดเจนว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกัน  จะแบ่งแยกมิได้”..


เรื่อง : เล็ก เลียบด่วน