‘จิรายุ’ อัด ‘บิ๊กตู่’ ปมน้ำมัน-ไฟฟ้าแพง เหตุรัฐบาลบริหารห่วย ไม่เกี่ยวสงคราม

(22 ก.ค. 65) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จำนวน 11 คน เป็นวันที่ 4 ภายใต้ยุทธการ ‘เด็ดหัว สอยนั่งร้าน’ ซึ่งเป็นการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ว่า วันนี้ตนจะมาฉายมหากาพย์การปล้นชาติกินเมืองที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากนายก ฯเพิกเฉยหมายความว่า นายกฯ ทุจริตไปด้วย แต่รัฐบาลพยายามบอกว่านายกฯ เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่อง ซึ่งนายกฯ รองนายกฯ ปลัดกระทรวง และอธิบดี สวาปามกินทั้งดิน ทั้งน้ำ ทั้งลม และทั้งไฟ โดยนายกฯ ปล่อยให้พวกพ้อง บุคคลแวดล้อมทุจริตประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง

นายจิรายุ กล่าวว่า เริ่มจากกองทุนทรัพยากรน้ำบาดาล ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จัดทำน้ำขวดบาดาลแจกจ่ายประชาชน หลังจากตนได้อภิปรายเมื่อต้นปี 65 ได้ยกเลิกโครงการไปแล้ว 2 ครั้ง แต่กลับแอบเดินหน้าโครงการต่อ โดยให้กรมทรัพยากรน้ำ 12 เขต จัดซื้อจัดจ้างขวดน้ำ เฉพาะ จ.สุพรรรณบุรี ได้งบประมาณ 4.4 ล้านบาท จัดซื้อขวดน้ำจำนวน 4.8 ขวด ที่มีฉ้อฉลว่าราคาขวดน้ำเปล่าที่กรมทรัพยากรน้ำซื้อมีราคาที่ต่างจากราคาท้องตลาดทั่วไป พร้อมทั้งข้อสังเกตงบประมาณปี 2566 ของกรมทรัพยากรน้ำดาล 10 โครงการ 1,800 ล้านบาท เหตุใดรีบเสนอโครงการทั้งๆ ที่สภายังอยู่ในระหว่างการพิจารณาวาระ 2-3

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องพลังงานที่มีราคาแพงไม่ได้เกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามยูเครนรัสเซีย แต่เป็นเพราะรัฐบาลห่วยแตกโหลยโท่ย บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดบกพร่องโทษโน้นโทษนี่ ซึ่งมาตรการรอบใหม่ลดค่าครอบชีพช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาลทั้ง 8 ข้อนั้น โดยเฉพาะขอความร่วมมือประหยัดพลังงาน วันนี้ตนขอหยิบวิธีประหยัดพลังงานที่นายกฯ บอกประชาชน คือ เตาเศรษฐีใช้แล้วดีมีแล้วรวย ที่มีสัญลักษณ์ เบอร์ 5 ที่สนับสนุนโดยกระทรวงพลังงาน กรณีที่จะขอลดค่ากลั่นและจะใช้เป็นตัวเลือกสุดท้ายนั้น ก็ยังหลอกประชาชน เพราะไม่ได้เจรจาจริง ทำให้น้ำมันแพงขึ้นทุกวันๆ และยังไม่ลดค่าการตลาดลงอยู่ที่ 1.40 สตางค์ แต่พบว่าค่าการตลาดอยู่ที่ 1.76-4.75 สตางค์ ขณะที่บริษัทไทยออยล์เพิ่มกำลังการผลิต จากเดิม 2.8 แสน บาร์เรลต่อวัน แล้วเพิ่มอีก 1.2 แสนบาร์เรลต่อวัน เพื่อการส่งออกแต่ไม่ได้ขายในประเทศเพราะได้กำไรดีกว่า

นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า ส่วนราคา LPG อยู่ที่ 35.10 บาทต่อกิโลกรัม ปรากฎว่าใช้กองทุนน้ำอุดหนุน 12.235 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ต้องขายที่ราคา 22.87 บาทต่อกิโลกรัม ล่าสุดราคาก๊าซหุงต้ม อยู่ที่ 410 บาทต่อถัง เพราะร้านค้าต้องบวกค่าขนส่งด้วย ดังนั้นทางออกต้องลดสัดส่วนการขายให้ปิโตรเคมิคอล และนำมาเพิ่มให้ประชาชน เพื่อให้ราคาถูกลง นอกจากนี้ ค่าไฟจะแพงไม่หยุด เพราะมีคนบริหารไม่เป็น วันนี้ถ้ารัฐบาลไม่โง่ที่มีค่าพิพากษากับบริษัทน้ำมันเอกชนต่างชาติ ข้อพิพาทปมรื้อแท่นขุดเจาะก๊าซอ่าวไทย สุดท้ายก็เสียค่าโง่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ กว่า 500 ล้าน จึงทำให้ค่าไฟมีราคาแพง และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต้องซื้อแหล่งพลังงานจากต่างชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิปราย นายจิรายุ ได้นำเตาเศรษฐี ออกมาโชว์ และแจกจ่ายพัดสานให้ส.ส.พรรคพท. ที่นั่งอยู่โดยรอบด้วย 


ที่มา: https://mgronline.com/politics/detail/9650000069978