'บิ๊กตู่'ฮึ่มกลุ่มเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวาย ถามคนไทยรับได้หรือไม่ ขอใช้มาตรการสังคมตักเตือน ลั่นคำว่าสถาบันฯต้องอยู่คู่กับไทยตลอดไป เผย จัดซื้อวัคซีนปีหน้า 60 ล.โดสแล้ว พร้อมขอให้รอดูสถานการณ์หลังมีการวิจัยพัฒนาวัคซีนใหม่ออกมาอีก

ที่โรงแรมโซฟิเทลกระบี่ โภคีธรา แอนด์ สปา รีสอร์ท จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีมีการเดินหน้าเปิดประเทศและเป็นไปด้วยดี ห่วงหรือไม่ว่าการเคลื่อนไหวชุมนุมจะทำให้เสียบรรยากาศ ว่า ให้สังคมช่วยกันพิจารณา เพราะนายกฯ มีอย่างเดียวคือการบังคับใช้กฎหมายอย่างระมัดระวัง เป็นไปตามขั้นตอนและเป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ทุกประการ ดังนั้นต้องไปดูวัตถุประสงค์การสร้างความวุ่นวายนั้นเพื่ออะไร แล้วคนไทยยอมรับได้หรือไม่ ถ้ายอมรับไม่ได้มาตรการสังคมต้องตักเตือนกัน อย่าให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียว

"ผมเน้นย้ำคำว่าสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ต้องคงอยู่คู่กับไทยตลอดไป"นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีการโหนเรื่อยๆ กังวลว่าจะบานปลายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่กังวล แต่เป็นความห่วงใยมากกว่า อย่าเรียกว่ากังวล เพราะถ้ากังวลคงกังวลหลายเรื่องที่ทุกอย่างประดังประเดถมเถเข้ามาในสถานการณ์วันนี้ ทั้งราคาน้ำมัน หนี้ครัวเรือน เกษตรกรให้มีรายได้ที่ดีขึ้น รวมถึงปัญหาอะไรต่างๆ

 

นอกจากนี้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังประชุมครม.สัญจร ถึงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติมว่า ปีหน้าจัดซื้อมีการลงนามสัญญาไปแล้ว 60 กว่าล้านโดสก่อน และคิดว่าปีหน้าที่เราจำเป็นต้องรอสถานการณ์นิดหนึ่ง เพราะมีการผลิตวัคซีนชนิดใหม่ขึ้นมาอีกแล้วการวิจัยและพัฒนาขึ้นมาใหม่จะเห็นว่าหลายประเทศมีแบบมีแบบพ่นจมูกก็มีก็ต้องติดตามกันมีโอกาสตรงไหนเราก็ทำตรงนั้น ที่ผ่านมาเราก็ดำเนินการมาจนถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าเราทำได้ดีถ้าเปรียบเทียบกับงบประมาณในเรื่องของการเยียวยาประชาชน ต้องขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าประเทศไทยเป็นประเทศอันดับ 2 ในเอเปกที่ดูแลประชาชนได้ดีที่สุดรองจากชิลี ทั้งหมด 21 ประเทศ ซึ่งรวมทั้งประเทศมหาอำนาจด้วย เราใช้งบประมาณไปถึง 25% ของจีดีพีในการดูแลเยียวยาตรงนี้ เพราะเราเป็นห่วงประชาชนจริงๆ