‘ดร.นิว’ ซัดกลุ่มการเมือง หวังล้มล้างการปกครอง ดันยกเลิก ม.112 ใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นตัวประกัน

'ดร.นิว' ชำแหละ คณะการเมืองหนักแผ่นดิน ใช้ม.112 เป็นบันไดก้าวแรกไปสู่การล้มล้างการปกครองเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ ในขณะที่อีกพรรคการเมืองหนักแผ่นดินหนึ่งต้องการจับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างน่ารังเกียจ

2 พ.ย. 64- ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Suphanat Aphinyan หัวข้อ ม.112 กับเกมการเมืองของคนหนักแผ่นดิน โดยระบุว่า

ม.112 สามารถยกเลิกได้เหมือนกับในบางประเทศ ก็ต่อเมื่อกฎหมายไม่มีการใช้งานเป็นระยะเวลานาน ๆ เพราะผู้คนมีความเจริญถึงขั้นที่ไม่มีใครทำผิดกฎหมาย จนในท้ายที่สุดไม่มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายนั้นไปเองโดยธรรมชาติ ดังนั้นการสนับสนุนให้ยกเลิก ม.112 ที่แท้จริง คือ การไม่ทำผิด ม.112 เพื่อให้ ม.112 สูญหายไปเองตามกาลเวลา 

แต่ทุกวันนี้ประเทศไทยยังมีคนหนักแผ่นดินกลุ่มหนึ่งคอยสร้างเงื่อนไขของความจำเป็นที่ยังต้องมี ม.112 อยู่ ซึ่งคนหนักแผ่นดินกลุ่มนี้กำเริบเสิบสาน ยุยงปลุกปั่นให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของสถาบันพระมหากษัตริย์กันเป็นว่าเล่น กล้าบิดเบือนให้ร้าย หวังบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ตลอดจนปั่นกระแสโซเชียลมีเดีย บิดเบือนหลอกใช้ผู้อื่นโดยเฉพาะเด็กและเยาวชน เป็นเครื่องมือในการทำผิดติดคุกตะรางแทนตัวเอง ยกตัวอย่าง เช่น นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่คอยระมัดระวังตัวไม่ให้ตัวเองทำผิด ม.112 แต่กลับยุยงปลุกปั่นหลอกใช้ให้ผู้อื่นทำผิด ม.112 แทนตัวเอง 

โดยในปัจจุบัน "การติดคุกด้วยความผิด ม.112" เป็นการให้ข้อมูลเท็จ จากการบิดเบือนของสื่อที่ไร้จรรยาบรรณในสังคมไทย เพราะศาลยังไม่ได้มีการตัดสินผู้ที่ถูกดำเนินคดี ม.112 แม้แต่รายเดียว และการติดคุกของผู้ที่ถูกดำเนินคดี ม.112 มีสาเหตุที่แท้จริงมาจากการที่ศาลเคยให้ประกันตัวแล้ว แต่ผู้ต้องหากลับก่อเหตุซ้ำซากในลักษณะเดียวกัน จนศาลมองว่าเป็นการสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายโดยปราศจากความเคารพยำเกรงต่อกฎหมาย ศาลจึงไม่อนุญาตให้ประกันตัวอีก 

ดังนั้นการติดคุกของแกนนำม็อบสามนิ้วจึงมาจากการก่อเหตุซ้ำซาก จนถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกหลายครั้งหลายหน ไม่ใช่จากการถูกจำคุกเนื่องจากถูกตัดสินว่ามีความผิดใน ม.112 ตามที่มีการบิดเบือนจากสื่อไร้จรรยาบรรณให้เกิดความเข้าใจผิดแต่อย่างใด

การโจมตี ม.112 จึงเป็นเพียงแค่เกมการเมืองของคนหนักแผ่นดิน พรรคการเมืองกับคณะการเมืองหนักแผ่นดินกลุ่มหนึ่งต้องการบ่อนทำลายความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นบันไดก้าวแรกไปสู่การล้มล้างการปกครองเปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐ ในขณะที่อีกพรรคการเมืองหนักแผ่นดินหนึ่งต้องการจับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองอย่างน่ารังเกียจ 

พรรคการเมืองหนักแผ่นดินที่โจมตี ม.112 จึงไม่ใช่พรรคการเมืองของประชาชน โดดเดี่ยวจากประชาชน เฉไปทำสิ่งที่ประชาชนไม่ได้ต้องการ มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองและกัดเซาะความมั่นคงของสถาบันพระมหากษัตริย์ วุ่นวายกับการแก้ไข ม.112 เพื่อผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งของคนเพียงแค่หยิบมือ 

อีกทั้งยังคอยให้การสนับสนุนม็อบอันธพาลป่วนเมืองอยู่ตลอด ที่เห็นได้ชัดเจนคือ การใช้ตำแหน่ง ส.ส. ช่วยประกันตัวผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง ๆ ที่ม็อบสร้างสถานการณ์ความรุนแรง มีความพยายามอย่างชัดเจนในการก่อจลาจล และสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน

พรรคการเมืองหนักแผ่นดินเหล่านี้จึงไม่ได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาความเป็นเผด็จการของนักธุรกิจการเมืองในระบอบการปกครอง ซึ่งคอยขัดขวางการสร้างประชาธิปไตยและทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนอย่างแท้จริง แต่กลับใช้ ม.112 เป็นเกมและข้ออ้างต่าง ๆ ทางการเมืองอย่างสกปรกโสมม อีกทั้งยังมีการใช้ตำแหน่ง ส.ส. ไปประกันตัวผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นรูปธรรมของเผด็จการเสียเอง เพราะพรรคการเมืองหนักแผ่นดินเหล่านี้ประกันตัวแต่ผู้ต้องหาที่เป็นกลุ่มก้อนในขบวนการเดียวกันเท่านั้น ไม่ได้สนใจประโยชน์สุขของประชาชน และความสงบสุขของสังคมแต่อย่างใด 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พรรคการเมืองหนักแผ่นดินเหล่านี้จึงไม่ต่างจากพรรคการเมืองกบฏ ซึ่งเคลื่อนไหวประสานกับม็อบสามนิ้วก่อจลาจลในแนวทางรุนแรงที่ป่าเถื่อนอนาธิปไตย ด้วยการแอบอ้างคำว่า “ประชาชน” แต่ก็ไม่ได้รับใช้ประชาชน หากแต่รับใช้ลัทธิความเชื่อและผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มการเมืองของตน อีกทั้งยังแอบอ้างคำว่า “ประชาธิปไตย” แต่กลับสนใจแต่ความต้องการอันคับแคบและประโยชน์ของคนส่วนน้อย แล้วกลายเป็นเผด็จการที่ชั่วร้ายที่สุดเสียเอง ตลอดจนไม่เคยฟังเสียงอันแท้จริงของประชาชน และยังคงเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการกบฏป่วนชาติในรัฐสภาร่วมม็อบอนาธิปไตยนอกรัฐสภาอย่างบัดซบที่สุด