Friday, 16 May 2025
SPECIAL

นราธิวาส - ทหารพราน 45 นำกำลังพลลุยน้ำ! แจกจ่ายอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่ อ.ระแงะ ขณะที่ภาพรวมมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 7 ตำบล 59 หมู่บ้าน

พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพลและผู้แทนอำเภอระแงะ ที่ร่วมกันประกอบอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน ที่วัดชัยรัตนาราม หรือวัดบ้านไท อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส  เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตเบื้องต้น หลังประสบอุทกภัยน้ำเข้าท่วมบ้านเรือน ประชาชนได้รับความยากลำบากอยู่ในขณะนี้ โดยเมนูเป็นข้าวผัดพริกแกงไก่ ไข่ดาว จำนวน 1,000 กล่อง ทั้งไข่เป็ดและไข่ไก่ ส่วนหนึ่งเป็นวัตถุดิบที่ได้มาจากโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายในบริเวณหน่วยฯ พร้อมน้ำดื่มของหน่วยฯ ที่ผลิตเอง

จากนั้น พันเอก ทวีรัตน์  เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 พร้อมด้วยนายกิตติพงษ์  อำพันธ์ นายอำเภอระแงะ พันตำรวจเอก ปิยภัทร  ทองพันเลิศกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรระแงะ และผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินลุยน้ำในพื้นที่บ้านปลักเข้ บ้านไท ตำบลตันหยงมัส  นำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้กับประชาชนถึงบ้าน โดยภาพพื้นที่บ้านไท รวมระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 

 

สตูล - จัดโครงการปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง’ เนื่องในโอกาสมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงกาคม 2565

วันนี้ 28 ก.พ. 2565 ที่ชุมชนบ้านหัวทาง หมู่ที่ 3 ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการปลูกป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565” 

โดยมีนาวาตรีหญิงโนสมา หลีเส็น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูลโดยนายถาวรศักดิ์ รัตนชูศรี สหกรณ์จังหวัดสตูลกล่าวรายงาน พร้อมทั้งมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้นำในท้องถิ่น ร่วมกิจกรรม ต้นไม้ที่ปลูกมีต้นโกงกางจำนวน 900 ต้น บนพื้นที่บ่อกุ้งร้างเพื่อคืนสภาพป่าให้กับธรรมชาติ ยังมีการปล่อยกุ้งกุลาดำ 200,000 ตัว ให้น้ำมีชีวิตให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีอาหาร โดยได้รับความอนุเคราะห์จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสตูล   

สืบเนื่องจากในปีนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงมายุครบ 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 และด้วยปณิธานของพระองค์ที่ว่า “ในหลวงเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า” 

จัดยิ่งใหญ่ Miss Tourism World Thailand 2021 ทูตการท่องเที่ยว และทูตการกีฬาประจำปี 2021 

(26 ก.พ.65)​ ณ เลเจนด์ สยาม (พัทยา) บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนหลักการประกวด Miss Tourism World Thailand 2021 (MTW) ซึ่งเป็นการประกวดที่เชื่อในศักยภาพของความสวยที่เป็นได้มากกว่าความงามแค่ภายนอก ความงามที่ทรงคุณค่า คือความงามที่สามารถสร้างพลังทางเศรษฐกิจให้กับ ชุมชน,จังหวัด และประเทศได้ MTW จึงตามหาผู้หญิงยุคใหม่ ที่มีความเข้าใจในเรื่องของ Digital economy และ social media economy ซึ่ง concept นี้ได้สอดรับกับนโยบายการเพิ่มศักยภาพทางดิจิตอล เพื่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ

การประกวดดังกล่าว จึงเกิดขึ้นเพื่อตามหาสาวงาม เก่ง มากความสามารถ มาเป็นทูตการท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดของประเทศ ต่อยอดการสร้างสรรค์การใช้สื่อดิจิตอลรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้สามารถแนะนำการท่องเที่ยว กีฬา และสร้างยอดขายให้กับสินค้าในแต่ละจังหวัดได้

โดยผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Tourism World Thailand และเอเชีย คือ คุณเบญจา กัลยาวินัย และ คุณธวัช อุยสุย กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็มทีดับบลิว (เอเชีย) จำกัด  ที่จัดขึ้นมาเป็นปีที่ 5 ซึ่งในปีนี้ได้ บริษัท ณุศาศิริฯ เป็นผู้สนับสนุนหลักการประกวดเป็นเวทีที่สร้างความต่างฉีกกรอบเดิมๆ ของการประกวดนางงามจนหมดสิ้น ด้วยรูปแบบการประกวด การนำเสนอความสามารถของเหล่าสาวงามไม่ได้เน้นเพียงความสวยงามแค่รูปร่าง หน้าตา  หากแต่เฟ้นหาผู้หญิงยุคใหม่ ที่มีความเข้าใจในเรื่องของ Digital economy และ social media economy เพื่อสอดรับกับนโยบายการเพิ่มศักยภาพทางดิจิตอล เพื่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ และมาเป็นทูตการท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัด ส่งเสริมและสนับสนุนภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้ชุมชนของตนเอง พร้อมกันนี้ยังมีแพลตฟอร์ม SAFE T TRAVEL (ONE STOP SERVICE TRAVEL PLATFORM) แพลตฟอร์มบริการด้านการท่องเที่ยว (จองครบจบในที่เดียว) ที่มารวมพลังช่วยกันขับเคลื่อน เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยหลังวิกฤติโควิด

ส่วนรอบชิงชนะเลิศนี้ ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายวงการ มาร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน อาทิ คุณศิริญา เทพเจริญ รองประธานกรรมการบริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริฯ, คุณเบญจา กัลยาวินัย ผู้ถือลิขสิทธิ์ Miss Tourism World Thailand และเอเชีย, คุณธวัช อุยสุยกรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็มทีดับบลิว (เอเชีย) จำกัด คุณโอม อัชชา ,คุณ ฟ้าใส ปวีณสุดา ,คุณ ออร์แกน ราศี ,คุณม้า อรนภา กฤษฏี ,คุณ นรินทร ณ บางช้าง​ (ผู้จัดการทั่วไป เลเจนด์สยาม พัทยา) และพิธีกรดำเนินการประกวดโดย ลิซ่า อลิซเบธ แซดเลอร์ และกีรติ ศุภดิเรกกุล

งานประกวดที่เต็มไปด้วยความคึกคัก ท่ามกลางบรรยากาศยิ่งใหญ่ของเลเจนด์ สยาม พัทยา แหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของภาคตะวันออก ด้วยเวทีแสงสีเสียง ตระการตา จากสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบจากทั่วประเทศ 49 คน คัดเลือกรอบแรกลงเหลือเพียง 25 คน เข้าประกวดรอบชุดว่ายน้ำ และคัดเข้ารอบเพียง 10 คน เพื่อนำเสนอความสวยงามในชุดที่ผลิตจากกัญชา จนถึงคัดรอบสุดท้ายเหลือเพียง  5 คน ซึ่งได้แก่สาวงามจาก จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดภูเก็ต จังหวัดสตูล จังหวัดตรัง และ​ กรุงเทพมหานคร

จนในที่สุด ได้สาวงามที่ชนะเลิศ Miss Tourism World Thailand 2021 (MTW) ประจำปีเพื่อเป็นทูตการท่องเที่ยวของประเทศคือ MT 22 น.ส พัชมน นวกิจธนาคา จากจังหวัดสมุทรสงคราม สาวสวยจากสมุทรสงคราม ผู้เดินตามความฝันของตัวเองสำเร็จในครั้งนี้ ด้วยประสบการณ์การเตรียมตัวมาอย่างเต็มที่ ทำให้มีจุดผิดพลาดน้อยที่สุด เปิดใจว่า เธอเองทำการบ้านอย่างหนักกว่าจะมาถึงวันนี้ การเป็นสาวยุคใหม่ที่ต้องทันต่อสถานะการณ์โลกยุคดิจิทัล การนำระบบดิจิทัลมาพัฒนา ทั้งในชีวิตส่วนตัวและสังคม ต้องเดินไปควบคู่กัน ทำให้เธอได้มาครองมงกุฎชนะเลิศในวันนี้

สำหรับรางวัลชนะเลิศ ได้มงกุฎ สายสะพาย เงินรางวัล 5 แสน MT 22 น.ส.พัชมน นวกิจธนาคม จังหวัดสมุทรสงคราม

รองชนะเลิศอันดับ 1 สายสะพาย เงินรางวัล 1​แสน MT 01 น.ส.ณัฐธิดา พวงเกษม จังหวัดกรุงเทพมหานคร

รองชนะเลิศอันดับ 2 สายสะพาย เงินรางวัล 1​แสน MT 73 น.ส.มณีรัตน์ พิชัยรัตน์ จังหวัดตรัง

รองชนะเลิศอันดับ 3 สายสะพาย เงินรางวัล 1​แสน MT 67 น.ส. ภัทรพร เกตุแก้ว จังหวัดภูเก็ต

รองชนะเลิศอันดับ 4 สายสะพาย เงินรางวัล 1​แสน MT 72 น.ส.อัสนาวีย์ มูหะหมัด จังหวัดสตูล

ผู้ว่าสมุทรปราการ เปิดโครงการ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันการท่องเที่ยว “เที่ยวบางกะเจ้า เรารักษ์ความสะอาด” ส่งเสริมความสะอาดรักษาสิ่งแวดล้อม

สมุทรปราการ​ -​ นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการ กิจกรรมส่งเสริมความสะอาดและรักษาสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยว "เที่ยวบางกะเจ้า เรารักษ์ความสะอาด" ณ สวนสุขภาพลัดโพธิ์ ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี นายคมสันต์ สุมะนาถ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวเข้าร่วม

จังหวัดสมุทรปราการ เป็นจังหวัดซึ่งมีศักยภาพโดดเด่นหลายด้าน มีความพร้อมทั้งด้านการคมนาคมที่สามารถรองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศได้เป็นอย่างดี และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพมหานครที่มีความหลากหลายทั้งเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยเฉพาะพื้นที่บางกะเจ้า ซึ่งนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น กรีนแลนด์ดินแดนแห่งอากาศบริสุทธิ์ใกล้เมืองกรุง

เป็นที่ทราบกันดีว่ากระแสการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นั้น เป็นเรื่องที่หลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยกำลังตื่นตัวและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จึงได้มีการส่งเสริมและต่อยอดไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพและความสำคัญของการท่องเที่ยวในเรื่องนี้ จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความสะอาด และรักษาสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยว "เที่ยวบางกะเจ้า เรารักษ์ความสะอาด" ขึ้น เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดการบูรณาการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้... 

ความทุกข์ เป็นโรคอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในใจของใครแล้ว ก็มักจะเป็นโรคเรื้อรัง ถ้าไม่มีการเยียวยารักษา โรคนั้นก็มักตั้งอยู่นานๆ เรียกว่าตรมตรอมใจ แล้วมีความทุกข์เรื่อยไปตลอดชีวิต

ความทุกข์ เป็นโรคอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในใจของใครแล้ว ก็มักจะเป็นโรคเรื้อรัง

ถ้าไม่มีการเยียวยารักษา โรคนั้นก็มักตั้งอยู่นานๆ เรียกว่าตรมตรอมใจ แล้วมีความทุกข์เรื่อยไปตลอดชีวิต

- หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ -

สถาบันพระปกเกล้า จับมือภาคีเครือข่ายจังหวัดเชียงราย ร่วมขับเคลื่อน “ญาญอ ผ้าทอแห่งวัฒนธรรม” ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ มุ่งสร้างรายได้สู่ชุมชน

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ห้องประชุมแสนหวี อาคารหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายดร.ถวิลวดี บุรีกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า เป็นผู้แทนเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ร่วมพิธีลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงความร่วมมือ (LOI) การขับเคลื่อนโครงการ “ญาญอ ผ้าทอแห่งวัฒนธรรม” ร่วมกับภาคีเครือข่ายในจังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย สำนักงานเกษตรอำเภอแม่สรวย สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแม่สรวย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนตำบลวาวี ซึ่งเป็นโครงการของนักศึกษาหลักสูตรผู้นำยุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย รุ่นที่ 11 กลุ่มไก่ฟ้า สถาบันพระปกเกล้า เพื่อช่วยเหลือและลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจให้แก่ชาวบ้านกลุ่มปกาเกอะญอ บ้านทุ่งพร้าวกะเหรียง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย


ดร.ถวิลวดี กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้าจัดเป็นหลักสูตรนี้ เพื่อต้องการสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีจิตวิญญาณของประชาธิปไตย มีความห่วงหาอาทร ให้กับประชาชนทั่วไป มีความเคารพในความเป็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล โดยมีอุดมการณ์ของการให้การศึกษาหลักสูตร คือ ทำให้นักศึกษาติดดิน และเข้าใจในเรื่องของสิทธิมนุษยชน และช่วยกันทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประเทศโดยเฉพาะเรื่องของความเหลื่อมล้ำที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศในตอนนี้ 

ทั้งนี้คนรุ่นใหม่คงจะทำประสบความสำเร็จ หากปราศจากการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งกลุ่มสตรีชุมชนบ้านทุ่งพร้าว มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เกษตรอำเภอแม่สรวย วัฒนธรรมจังหวัด ซึ่งมองว่าเราได้รับความร่วมมือที่ดีที่ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือในครั้งนี้ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เชื่อว่าเกิดจากความใส่ใจของนักศึกษา และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเราเอาใจทำ และใช้ใจทำ มันถึงได้เกิดมาเป็นวันนี้ และได้เห็นความสำเร็จ

ด้าน ผศ.ดร.มิ่งขวัญ สมพฤกษ์ คณบดีคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย กล่าวว่า สิ่งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการร่วมมือของฝ่ายต่างๆ เพราะอย่างที่เราทราบดี ปัญหาความเหลื่อมล้ำความยากจนของประชาชนในท้องถิ่นยังคงมีอยู่มาก และหากเราได้ความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงความเชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยที่เราสามารถให้ความช่วยเหลือในจุดนี้ได้ ในอนาคตจะเป็นสิ่งที่ดี ที่จะสามารถช่วยเหลือให้ชาวบ้านทั้งหมดในหลายชุมชนเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ประยุกต์ใช้สิ่งที่มีในหมู่บ้านของเขาให้เกิดประโยชน์ สร้างมูลค่า และสามารถแก้ปัญหาความยากจนให้กับเขาได้

เพจรถเมล์กรุงเทพ จัดทริปนั่งเมล์ไฟฟ้า ไร้มลภาวะสู่ สมุทรสงครามกับ ไทย สมายล์ บัส รถเมล์พลังงานไฟฟ้า 100%

วันนี้ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เพจรถเมล์กรุงเทพ BANGKOK BUSES ร่วมกับ ไทยสมายล์บัส  รถรักษ์โลก ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% จัดกิจกรรม ทริป แชะ - ชิม - ช้อป - ทำบุญ จากกรุงเทพมหานคร มุ่งสู่ จ.สมุทรสงคราม



‘SOFT POWER’ จะ Soft อะไร...กันหนักหนา ?

คำว่า “Soft Power” ได้ยินกันบ่อยในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา จากปรากฏการณ์ ลิซ่า BLACKPINK ที่โด่งดังไปทั่วโลก หรืออาคาร Thailand Pavilion ในบริเวณงาน EXPO ที่ดูไบ รวมไปถึงเวทีประกวดนางงามต่าง ๆ ที่นำคำว่า Soft Power มาใช้ ไปจนถึงการอ้างว่า Soft Power คือทางรอดของเศรษฐกิจไทย

อาคาร Thai Hospitality

ทำไมงานบันเทิง เช่น ลิซ่า BLACKPINK จะมีอำนาจอันนุ่มนวล (Soft Power) หรือการแนะนำของดีเมืองไทย และการประกวดนางงามจะมีอำนาจอะไร ความหมายที่แท้จริงคืออะไร...?? 

ย้อนไปเมื่อครั้งที่ Gangnam Style ได้รับความนิยมถล่มทุกพื้นที่ในโลก ในปี 2012 ผู้คนจากทั่วโลกเริ่มสนใจเกาหลีใต้ ทั้งในมิติของดนตรี วัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมือง และทำให้เกิดกระแสเกาหลีนิยมในอเมริกา ในระดับที่วง BTS มีซิงเกิลขึ้นอันดับหนึ่งของ Billboard ตามด้วยภาพยนตร์ Parasite (2019) ได้รางวัลออสการ์ถึง 4 รางวัล รวมทั้งสาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แล้วตอกย้ำศักยภาพของอุตสาหกรรมภาพยนตร์เกาหลีอีกครั้งในปี 2021 เมื่อนักแสดงเกาหลี ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงสมทบยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Minari อีกทั้งความนิยมต่อซีรีส์ Squid Game ที่แรงจนไม่มีกำแพงใดจะขวางกั้นเชื้อชาติของผู้ชมได้

เหตุการณ์เหล่านี้ เปลี่ยนทัศนะของผู้คนในประเทศตะวันตก จากที่เห็นว่ายังอยู่ในความเชื่อเก่า ๆ และรสนิยมล้าหลัง มาเป็นโลกทัศน์ใหม่ ได้เห็นความทันสมัย ความประพฤติและกรอบความคิดของชาวเกาหลีใต้ อคติที่เคยมีต่อแบรนด์เกาหลีใต้เริ่มลดลง ความนิยมต่ออาหารเกาหลีเพิ่มขึ้น และหากไม่มีโควิด-19 เป็นอุปสรรค ยอดนักท่องเที่ยวสู่เกาหลีต้องเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

แต่ความนิยมต่อสิ่งเหล่านี้ ถือว่าเป็น อำนาจ (Power) หรือไม่? 

คำว่า “อำนาจ” หมายถึงอิทธิพล หรือวิธีการ ที่จะให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ คำว่า soft power ปรากฏให้เห็นในช่วงยุค 1980s หรือกว่า 30 ปีมาแล้ว โดย โจเซฟ นัย (Joseph Nye) อาจารย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ให้นิยามว่า เป็น “การใช้อำนาจที่ไม่ใช่กำลังทางกายภาพ เช่นกองทัพ หรืออาวุธ แต่ใช้วิธีการชักจูง เกลี้ยกล่อม ทำให้หลงใหล เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ที่ต้องการ” และอธิบายว่า soft power คือการโฆษณาชวนเชื่อ (propaganda) ที่ไม่รู้ว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ อาจารย์โจเซฟ ได้อธิบายคำศัพท์นี้อีกครั้งในช่วงเข้าสู่ สหัสวรรษ 2000 ทำให้คำว่า soft power แพร่หลายยิ่งขึ้น

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตาผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณบ้านภูดิน ตำบลโคกก่อ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม

วานนี้ (วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริพร กระจ่างหล้า รักษาการผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ / หัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์  พร้อมด้วยนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณบ้านภูดิน ตำบลโคกก่อ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม



โดยมอบเงินสด คนละ 3,000 บาท จำนวน 40 คน พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคทั้งรายครอบครัว และรายบุคคล รวมงบประมาณเป็นเงินทั้งสิ้น 139,000 บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นเก้าพันบาทถ้วน) โดยมี นายประศาสตร์ ธุระนิตย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกก่อ พร้อมด้วยนายสมเพ็ชร งามศิริจิตต์ ประธานมูลนิธิมหาสารคามการกุศล ร่วมในพิธี ณ บริเวณบ้านภูดิน ตำบลโคกก่อ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม


ใครเจ๋งกว่า? เปรียบเทียบแสนยานุภาพทาง ‘ทหาร’ ระหว่าง ‘Russia VS Ukraine’

ขณะที่เขียนบทความนี้ (วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565) ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียได้ลงนามรับรองสถานะความเป็นรัฐเอกราชในพื้นที่โดเนตสค์-ลูฮันสก์ ในภูมิภาคดอนบาสของ Ukraine พร้อมส่งกองกำลังทหารเพื่อ “รักษาสันติภาพ” เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว อันเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียเคลื่อนไหวอยู่ โดยรัสเซียได้ฉีกสนธิสัญญากรุงมิสก์ (Minsk Protocol) เพื่อยุติสงครามชายแดนระหว่าง Russia กับ Ukraine การส่งทหารเข้าไปในดินแดนของยูเครนครั้งใหม่นี้เป็นการเพิ่มความตึงเครียดของสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย ยูเครน และชาติตะวันตก โดยเฉพาะ NATO ให้มากยิ่งขึ้น

ยูเครนเคยเป็นรัฐภายใต้สหภาพโซเวียตตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และประกาศเอกราชหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2534 หลังจากนั้นก็มีการปะทะตามแนวชายแดนระหว่าง Russia กับ Ukraine จนกระทั่งสามารถเจรจาสงบศึกด้วยการทำสนธิสัญญากรุงมิสก์ (เมื่อ 5 กันยายน พ.ศ. 2557) ในการแถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ความยาวเกือบหนึ่งชั่วโมง ประธานาธิบดีปูติน ผู้นำรัสเซียได้กล่าวถึงเหตุผลในการส่งกองกำลังทหารเข้าในพื้นที่โดเนตสค์-ลูฮันสก์ ของยูเครนไว้หลายประเด็นได้แก่

(1) เพื่อรับรองภูมิภาคดอนบาส (สาธารณรัฐโดเนตสค์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์)

(2) ยูเครนไม่ทำตามข้อตกลงที่เคยให้ไว้ในปี พ.ศ. 2537 ว่าจะไม่เข้าร่วมกับฝ่ายพันธมิตรตะวันตก

(3) การป้องกันภัยคุกคามจากโลกตะวันตกต่อรัสเซีย 

เมื่อดูแสนยานุภาพของทั้งสองชาติเปรียบเทียบกันในมิติต่าง ๆ พอจะสรุปได้ดังนี้
>> Russia vs Ukraine (อัตราส่วน)
ประชากร : 145,478,097 vs 41,167,336 คน (ราว 3.53 : 1)
GDP : US$ 4,328,000,000,000 vs 622,000,000,000 (ราว 6.95 : 1)
งบประมาณกลาโหม : US$ 61,000,000,000 vs 6,000,000,000 (ราว 10.16 : 1)
กำลังทหารประจำการ : 1,014,000 vs 255,000 นาย (3.97 : 1)
กำลังสำรอง : 2,000,000 vs 250,000 นาย (8 : 1)
ประชากรในวัยพร้อมรบ : 3,014,000 vs 1,155,000 คน (ราว 2.6 : 1)

>> กองกำลังทางบก
ทหาร : 280,000 vs 125,600 นาย (2.22 : 1)
รถถัง : 13,367 vs 2,119 คัน (6.30 : 1)
ปืนใหญ่ (ลากจูง+อัตตาจร) : 5,934 vs 2,040 ระบบ (2.9 : 1)
ยานรบหุ้มเกราะ : 27,100 vs 11,435 คัน (2.36 : 1)

>> กองกำลังทางเรือ
ทหาร : 150,000 vs 15,000 นาย (10 : 1)
เรือผิวน้ำ : 74 vs 2+13 (ขนาดเล็ก) = 15 ลำ (4.93 : 1)
เรือดำน้ำ : 51 vs 0 (51 : 0)

หนองบัวลำภู - ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชน!! ลงพื้นที่ส่งต่อความห่วงใย ความสุข เพื่อพี่น้องประชาชน

พล.ต.ณรงค์ สวนแก้ว ผบ.พล.ร.3 พร้อมด้วย พ.อ.ณรงค์ วิชญาณวรวุฒิ ผบ.ร.8 ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พร้อมมอบผ้าห่มกันหนาว และ เครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการทุพพลภาพ ในพื้นที่บ้านอ่างบูรพา ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู  

สำหรับผลการดำเนินการในห้วงที่ผ่านมา หน่วยได้ลงพื้นที่มอบผ้าห่ม และเสื้อกันหนาวให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้จัดกิจกรรมอาร์มี่ เดลิเวอรรี่ ส่งมอบความสุข โดยการประกอบอาหาร จากรถครัวสนาม เพื่อนำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

 

ชลบุรี - กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 รับการตรวจราชการ จากกรมจเรทหารเรือ ประเภทการตรวจพิเศษ อยู่ในเกณฑ์ดี คะแนนรวม 89.14%

ณ กองบัญชาการ ทัพเรือภาคที่1 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พลเรือตรี ประวุฒิ รอดมณี เจ้ากรมจเรทหารเรือ / ประธานกรรมการตรวจราชการ และ คณะตรวจราชการ ได้เดินทางมา ตรวจราชการ ประเภทการตรวจพิเศษ กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่1

โดยมี พลเรือตรี อาทร ชะระภิญโญ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่1/ผู้บัญชาการกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่1 ให้การรับรอง และ นำกำลังพล กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาค 1 เข้ารับการตรวจฯ

สำหรับผลการตรวจฯ นั้น อยู่ในเกณฑ์ดี ได้คะเเนนรวม 89.14% สร้างความเชื่อมั่น และ มั่นใจ ให้กับผู้บังคับบัญชา ว่า กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่1 จะสามารถตอบสนองภารกิจที่ได้รับมอบ ตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เป็นอย่างดี และ มีความพร้อมรับภารกิจที่ได้รับหมอบหมาย ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ  รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รักษากฏหมาย และ ให้ความช่วยเหลือดูแลพี่น้องประชาชนเมื่อยามมีภัย ตลอด 24 ชม.

ปทุมธานี - ‘บิ๊กแจ๊ส’ เร่งดำเนินการขุดลอกปรับภูมิทัศน์ เทน้ำอีเอ็มปรับสภาพน้ำ ตามโครงการพระราชดำริ

ที่คลองเปรมประชากร บริเวณหน้าวัดเปรมประชา ตำบลบางพูน อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี  พร้อมด้วยนายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี , นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี , พล.ต.ท.อดุลย์ รัตนภิรมย์ ที่ปรึกษาพิเศษนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี , นายธนศักดิ์ แป้นมุข ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง อบจ.ปทุมธานีได้ตรวจสอบการดำเนินการโครงการกำจัดผักตบชวาวัชพืชสิ่งปฏิกูล และตกแต่งภูมิทัศน์ริมตลิ่ง 2 ฝั่งคลองเปรมประชากร ระยะทาง 15 กิโลเมตร และเทน้ำหมักชีวภาพช่วยบำบัดน้ำเสีย ร่วมกับสถานีพัฒนาที่ดินปทุมธานี  โดยมีเรือโป๊ะรถแบคโฮจำนวน 2 เครื่องกำลังดำเนินการขุดลอกคูคลองและตัดต้นไม้ปรับภูมิทัศน์พร้อมประชาสมพันธ์ชาวบ้านให้รับทราบโครงการร่วมถึงการการตัดแต่งต้นไม้ที่กีดขวางบริเวณหน้าบ้านที่อาจจะเกี่ยวสายไฟฟ้าจนเป็นอันตรายเมื่อมีลมพายุพัดมักเกิดไฟฟ้าดับ

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากคลองเปรมประชากรมีประวัติศาสตร์และเป็นโครงการพระราชดำริฯ ต่อมาพลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ เลขาธิการพระราชวัง ได้เรียกประชุมหลายภาคส่วน โดยตนเองได้ร่วมประชุมด้วย ซึ่งคลองแห่งนี้ มีมาตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้ขุดขึ้น ตั้งแต่ตำบลบางกระสั้น อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่านปทุมธานีไปถึงเขตดุสิตกรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นการย่นระยะทางเดินเรือในสมัยก่อนที่แม่น้ำเจ้าพระยามีสภาพคดเคี้ยว ซึ่งทางคุณขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) คุณสุจิตต์ วงษ์เทศ เคยดำเนินการที่จะลอกคลองเปรมประชากร ให้สวยงามเป็นประวัติศาสตร์ หลังจากที่ได้รับนโยบายของท่านพลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล มาแล้ว ทาง อบจ.ได้ลงพื้นที่มาสำรวจ พบว่าคลองเปรมประชากร แต่ละพื้นที่มีปัญหาไม่เหมือนกัน จึงได้เริ่มดำเนินการที่ตำบลบางพูน ย้อนขึ้นไปจนสุดเขตจังหวัดปทุมธานี ถึงตำบลบางกระสั้น อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้คลองทั้งสองฝั่งสะอาดเรียบร้อย จากนั้นจะดำเนินการต่อจากตำบลหลักหกบริเวณหลังเมืองเอก ไปจนถึงหลักสี่ กรุงเทพมหานคร อุปสรรคที่พบในการดำเนินการคือมีสะพานกว่า 100 สะพาน ทำให้ต้องเคลื่อนย้ายเรือโป๊ะรถแบคโฮจำนวน 2 เครื่อง ในการดำเนินการรวมระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร หากไม่มีอุปสรรคเพิ่มเติมคาดว่า 15 วันก็จะแล้วเสร็จ

หลังจากนั้นจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะว่าเราต้องดำเนินการช่วยกันหลายหน่วยงาน ไม่ใช้ อบจ.จะดำเนินการหน่วยงานเดียว ทุกภาคส่วนจะมีการร่วมมือกัน ซึ่งทาง อบจ. ได้น้ำหมักชีวภาพช่วยบำบัดน้ำเสียและปรับสภาพน้ำในคลองเปรมประชากร เนื่องจากมีบางจุดมีกลิ่นเหม็น โดยเราได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ผมคาดว่าภายใน 7 วันนี้สภาพน้ำในคลองจะสะอาดขึ้น ต่อไปจะมีการรณรงค์ให้ปลูกต้นไม้ทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อให้มีภูมิทัศน์สวยงาม โดยเราได้ดำเนินการทำไปเป็นช่วง ๆ เนื่องจากมีช่วงที่เรายังทำไม่ได้เพราะมีพี่น้องประชาชนบุกรุกเข้ามาอาศัยริมคลอง จึงต้องฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมาช่วยกันให้เป็นรูปธรรม เพราะทาง อบจ.ปทุมธานีคงไปทำไม่ได้บางอย่างก็อยู่เหนือความรับผิดชอบของเรา เมื่อหลายฝ่ายช่วยกันแล้วผมเชื่อว่าภูมิทัศน์คลองของเราจะสวยงามกลับมา

ในส่วนของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ขอให้อย่าพึ่งประมาท เนื่องจากทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ประการเพิ่มเติมว่ามีพื้นที่ 28 จังหวัดสีแดง มีจังหวัดปทุมธานีรวมอยู่ด้วย ซึ่งจังหวัดปทุมธานีเคยหลุดล้นจังหวัด 1 ใน 10 ที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดมานานกว่า 6-7 เดือนแล้ว จนมีเชื้อโอไมครอนเข้ามา อยากให้พิจารณาว่าจังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดปริมณฑลเหมือนกันจังหวัดนนทบุรีซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อ 800 กว่าคน สมุทรปราการที่มียอดติดเชื้อ 900 กว่าคน กรุงเทพ 3,000-4,000 คน แต่ปทุมธานียังคงจำนวนผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 300 – 400 คน ขอให้พิจารณาอย่าพึ่งถอดจังหวัดปทุมธานีออกจากจังหวัดสีฟ้า ผมเชื้อว่านโยบายที่เราทำมาจะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงให้ได้ จะทำให้ยอดผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 300 ให้ได้ ทาง อบจ.จะดำเนินการทำเต็มที่ ทั้งฉีดพ่นฆ่าเชื้อภายในภายนอกอาคาร การตรวจ ATK การฉีดวัคซีน ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าประมาท เมื่อเจอเบาะแสใครที่เป็นกลุ่มเสี่ยงรีบแจ้งมาเรามีชุดเคลื่อนที่เข้าไปแก้ปัญหาไปตรวจให้เอาสมุนไพรไปแจก

 

นครนายก – จัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์ เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม และการขับเคลื่อนวาระจังหวัดนครนายก “นครนายกปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน”

ที่บริเวณด้านหน้าวิทยาลัยเทคนิคนครนายก ถนนสาย 305 รังสิต-นครนายก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก จัดกิจกรรมสัปดาห์รณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณทางข้าม และการขับเคลื่อนวาระจังหวัดนครนายก “นครนายกปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน” โดยมี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เป็นประธานเปิดงาน นายภราดล รุ่งโรจน์ธีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครนายก กรรมการและเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครนายกกล่าวรายงาน ในพิธีได้มีหัวหน้าส่วนราชการ ขนส่ง ทางหลวง ตำรวจ ผู้บริหารสถานศึกษา และนักศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก รับมอบหมวกนิรภัยจากบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ และได้ร่วมทำกิจกรรม ทาสีบริเวณทางข้าม เยี่ยมชมนิทรรศการจากส่วนราชการและการรณรงค์ในสถานศึกษาให้มีความปลอดภัยบริเวณทางข้าม โดยใช้ธงสีเขียวเป็นสัญลักษณ์

พร้อมเร่งมาตรการด้านผู้ใช้รถใช้ถนน โดยให้ดำเนินการสร้างการรับรู้และความตระหนัก ด้านความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะผู้ขับขี่ให้มีจิตสำนึกและตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นจากการขับรถที่ไม่มีวินัยและไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด และมอบแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งดำเนินการปรับปรุง แก้ไขด้านกายภาพของถนนในความรับผิดชอบ รวมทั้งตรวจสอบและปรับปรุง แก้ไขเครื่องหมายจราจร สัญญาณไฟและป้ายเตือนให้มีความชัดเจนบริเวณทางข้าม ทางร่วม ทางแยก และจุดคับขันต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย ใช้ความระมัดระวัง และลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน

 

 

สมุทรปราการ - ผบ.ทร.บรรยายพิเศษ นักเรียนนายเรือ ย้ำ! “ถ้าตั้งเข็มทิศตรงแต่แรกแล้วจะทำให้เดินถูกทิศถูกทาง เป็นทหารเรือที่ดีในอนาคต”!!

พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) บรรยายพิเศษ ให้นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 1-4 ก่อนเดินทางไปฝึกภาคทะเล โดยมีพลเรือโท ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของโรงเรียนนายเรือ ตลอดจนครูอาจารย์และนักเรียนนายเรือ ให้การต้อนรับ ณ หอประชุมภูติอนันต์ กองบัญชาการโรงเรียนนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อบรรยายพิเศษแก่ นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 1 - 4 รวมถึงนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ครูอาจารย์ของโรงเรียนนายเรือ ที่เป็นนายทหารสัญญาบัตรที่สำเร็จการศึกษาจาก โรงเรียนนายเรือทุกนายเข้ารับฟัง รวมจำนวนทั้งสิ้น 411 นาย  ซึ่งเป็นการบรรยายพิเศษแบบใกล้ชิด แบบรุ่นพี่แนะนำรุ่นน้อง โดยเป็นการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในการรับราชการ เพื่อให้นักเรียนนายเรือ และนายทหารรุ่นน้อง นำไปปรับใช้

ทั้งนี้ ในการฟังบรรยายดังกล่าวได้มีการตรวจ ATK. และปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(Covid-19) ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

สำหรับเนื้อหาที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ ถ่ายทอดแก่นักเรียนนายเรือในวันนี้ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักเรียนนายเรือ เพื่อให้เป็นคนดีของกองทัพเรือ และประเทศชาติ โดยได้ฝากวลีสำคัญหนึ่งที่ว่า “การเดินทางชีวิตในอนาคตของพวกเรานั้นเปรียบได้กับเรือ ถ้าตั้งเข็มทิศเรือตรงแต่แรกแล้ว จะทำให้เราเดินถูกทิศถูกทางได้ต่อไป และความผิดพลาดของเข็มทิศเพียงเล็กน้อยในวันนี้ จะเป็นปัญหาใหญ่ในภายหน้า นอกจากนี้ในอนาคตเข็มทิศนี้อาจมีสิ่งยั่วยุต่างๆ ซึ่งอาจทำให้เบี่ยงเบนผิดทิศทางไปได้อีก เราจึงจำเป็นต้องน้อมนำพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรฯ ที่ว่า “ให้ทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยสติรู้ตัว ปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนอื่น” มาใช้และเตือนตัวเองอยู่เสมอ ต้องป้องกันอย่าให้มีผลกระทบ และมุ่งมั่นทำความดีตรงไป จนตลอดชีวิตราชการ”  ทั้งนี้ด้วยนักเรียนนายเรือถือเป็นบุคลากรที่จะก้าวเป็นกำลังสำคัญ เป็นผู้นำกองทัพในอนาคต จึงต้องมีความคิดที่ดีตั้งแต่ต้น เพื่อจบการศึกษาไปเป็นนายทหารจะได้มีคุณสมบัติที่ดี เป็นผู้มีความจงรักภักดี มีคุณธรรม มีความรู้  มีความเป็นผู้นำทางทหาร เป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ และมีความละเอียดรอบคอบไม่ประมาท

การพบนักเรียนนายเรือของ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในวันนี้ ยังถือเป็นสัญญาณให้แก่กำลังพลในกองทัพทั้งหมดอีกด้วยว่า จงยึดมั่นอย่าหวั่นไหวกับข่าวไม่ดีที่เกิดขึ้น และก็อย่าประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ดี เพราะจะมีผลกระทบกับภาพลักษณ์กองทัพเรือ ที่บรรพบุรุษของเราสร้างมาด้วยความยากลำบาก ให้ทหารเรือทุกนาย มีความมั่นใจในการทำดี ช่วยกันทำดีต่อไปเพื่อส่วนรวม ร่วมกันพัฒนากองทัพเรือต่อไปเพื่อให้เป็นที่เชื่อมั่นและภาคภูมิใจของประชาชน

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กองทัพเรือ ครู อาจารย์ และนักเรียนนายเรือ ร่วมร้องเพลงพระนิพนธ์ถวายให้กับ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระองค์ท่าน ในหอประชุมภูติอนันต์ โรงเรียนนายเรือ จำนวน 3 เพลง ได้แก่ เพลงดาบของชาติ เพลงเดินหน้า และเพลงดอกประดู่ โดยพร้อมเพรียงกัน และยังได้ร่วมร้องเพลง “มาร์ชสามสมอ” ในแถวทหาร ที่ทำเป็นรูปสามสมอ บริเวณกลางลานสวนสนาม หน้าประชุมภูติอนันต์ อีกด้วย

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top