Thursday, 10 July 2025
WEEKEND NEWS

ศาลพิพากษา สั่งปรับ 141,500 บาท พร้อมดอกเบี้ย 5% ต่อปี ฐานลูกบ้านแอบเลี้ยงสุนัขในคอนโด ทั้งที่เคยรับปากว่าจะไม่ทำแล้ว แต่ยังพบฝ่าฝืนอีก

เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2565 ในโลกออนไลน์มีการแชร์เอกสารที่ระบุว่า  คอนโดแห่งหนึ่งได้ประกาศแจ้งปรับลูกบ้าน แอบเลี้ยงสัตว์ในคอนโด เป็นเงินจำนวน 141,500 บาท โดยมีระบุว่า เรียนท่านเจ้าของร่วม,ผู้พักอาศัย เรื่องคำพิพากษาการเลี้ยงสัตว์ภายในอาคารชุด คำพิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้วันที่ 11 สิงหาคม 65

ให้จำเลยชำระเงินจำนวน 141,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปีของต้นเงินจำนวน 140,500 บาท นับจากวันที่ได้มีการฟ้องร้อง (วันที่ 8 ธันวาคม 64) จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นแก่โจทก์ ให้จำเลยชำระค่าบำรุงพื้นที่ส่วนกลางอัตราวันละ 500 บาท นับถัดจากวันฟ้องร้องเป็นต้นไป จนถึงวันที่ 24 มกราคม 65 กับในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 65

ให้จำเลยกระทำตามข้อบังคับนิติบุคคลอาคารชุด ข้อ 20(5) “ห้ามเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดภายในห้องชุดและ/หรือภายในบริเวณอาคารชุด” และระเบียบนิติบุคคลอาคารชุด ระเบียบที่ 1 ข้อที่ 9.2 ห้ามจำเลยเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดในห้องชุดและ/หรือภายในอาคารชุด และห้ามเลี้ยงสัตว์ ที่สร้างความรำคาญ น่ากลัว น่ารังเกียจ ภายในห้องชุด หรือนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในอาคารชุดโจทก์ ให้จำเลยใช้ค่าวิชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดเป็นค่าทนายความจำนวน 5,000 บาท

ชวนตามรอยลุงตู่  ‘สกายวอล์คเมืองกาญจน์’ เปิดทดลองให้เข้าชมเฟสแรก 18-26 ส.ค.นี้ ก่อนเปิดเต็มรูปแบบต้น ก.ย.65 เช็กช่องทางลงทะเบียนจองคิวออนไลน์ที่นี่

14 สิงหาคม 2565 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก เปิดเผยว่า ภายหลังที่นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนและตรวจราชการที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2565 อีกทั้งได้ไปชมความงดงามของจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ “สกายวอร์กเมืองกาญจน์” ซึ่งทางเดินทำด้วยกระจกใส ระยะทาง 150 เมตร บนความสูง 12 เมตร ทอดยาวขนานไปตามริมแม่น้ำแควใหญ่ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองใกล้ศาลหลักเมือง ขณะนี้ มีประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจ และเฝ้ารอการเปิดให้บริการ

ทั้งนี้ จังหวัดกาญจนบุรี ได้แจ้งเปิดทดสอบความพร้อมการให้บริการประชาชนเข้าชม "สกายวอล์คกาญจนบุรี" เฟสแรก ในวันที่ 18-26 สิงหาคม 2565 ก่อนเปิดเต็มรูปแบบในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ โดยให้บริการประชาชนเข้าชมช่วงทดสอบทั้ง Walk in และจองคิวออนไลน์ล่วงหน้าที่ https://shorturl.asia/s4drw หรือสแกน QR Code ตามภาพ  ซึ่งมีเงื่อนไขจำนวนผู้เข้าชม ดังนี้

วันจันทร์-ศุกร์ ลงทะเบียนออนไลน์ 100 ท่าน วอล์กอิน 50 ท่าน เข้าชมตั้งแต่เวลา 15.30 น.
 
วันเสาร์-อาทิตย์ ลงทะเบียนออนไลน์ 200 ท่าน วอล์กอิน 200 ท่าน เข้าชมตั้งแต่เวลา 14.00 น.

ดีอีเอส เตือนอย่าคิดสั้นรับจ้างเปิดบัญชีม้า หรือขายบัญชีให้แก๊งมิจฉาชีพ กร้าวถ้าตรวจสอบพบ “ไม่รอด” ต้องถูกดำเนินคดีฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนการทำความผิดฐานฉ้อโกงด้วยเช่นกัน มีระวางโทษทั้งจำและปรับ

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส)  กล่าวว่า ปัจจุบันพบผู้นำบัญชีธนาคารไปขายให้แก๊งมิจฉาชีพจำนวนมาก รวมถึงรับจ้างเปิดบัญชี  เพื่อให้มิจฉาชีพใช้เป็นบัญชีม้าในการกระทำผิดฐานฉ้อโกง โดยใช้เป็นช่องทางในการรับเงินและถ่ายโอนเงินจากการกระทำความผิด ป้องกันไม่ให้มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงมาถึงตัว เพื่อใช้หลอกหลวงประชาชน

ทั้งนี้ อยากขอเตือนผู้มีพฤติกรรมดังกล่าวให้หยุด เพราะเมื่อมีการตรวจสอบแกะรอยพบเส้นทางการเงินของแก๊งมิจฉาชีพ เจ้าของบัญชีเงินฝากที่เป็นผู้เปิดบัญชีม้าอาจต้องถูกดำเนินคดีฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนการทำความผิดฐานฉ้อโกงด้วยเช่นกัน โดยอาจถูกดำเนิน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 หรือ มาตรา 86

นอกจากนี้ กรณีที่ควรรู้ได้ว่า บัญชีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด เจ้าของบัญชีจะมีความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 

'อลงกรณ์' นำกระทรวงเกษตรขับเคลื่อน ”เพชรบุรีโมเดล” คิกออฟโครงการพืชเศรษฐกิจใหม่สาหร่ายอาหารแห่งอนาคต(Future Food)หวังสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยกล่าววันนี้(14 ส.ค.)ว่า วันนี้เป็นการคิกออฟขับเคลื่อนโครงการพืชเศรษฐกิจใหม่สาหร่าย:อาหารแห่งอนาคต(Future Food)ที่เพชรบุรีเป็นจังหวัดแรกเพื่อสร้างอาชีพเพิ่มรายได้เกษตรกรโดยกรมประมงซึ่งมีภารกิจตามกฎหมายรับผิดชอบสัตว์น้ำและพืชน้ำเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารโครงการร่วมด้วยนายสมบุญ ธัญญาผล ประมงจังหวัด ว่าที่ร้อยตรีอาณัติ หุ่นหลา เกษตรจังหวัด นส.ศิริวรรณ เครือเล็ก เกษตรและสหกรณ์จังหวัด นายประพัฒน์ ก่อสวัสดิพัฒน์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรี

การเลือกเพชรบุรีเป็นจังหวัดคิดออฟโครงการเนื่องจากมีพื้นฐานการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในพื้นที่อำเภอบ้านแหลมโดยการสนับสนุนของกรมประมงและเป็นจังหวัดตัวอย่างต้นแบบในยุทธศาสตร์และแผนกลยุทธ์การพัฒนาสาหร่ายให้เป็นหนึ่งในจังหวัดต้นแบบภายใต้แนวทาง ”เพชรบุรีโมเดล” ซึ่งจะส่งเสริมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การพัฒนาการผลิตด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นและเทคโนโลยีสมัยใหม่ การสร้างศักยภาพผู้เพาะเลี้ยงสาหร่าย การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มโดยวิสาหกิจชุมชน องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นและผู้ประกอบการภาคเอกชน  การสร้างแบรนด์และการส่งเสริมการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยกรมประมงได้ผนึกความร่วมมือกับภาครัฐภาคเอกชนภาควิชาการ มูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท และมูลนิธิเวิลด์วิว อินเตอร์เนชั่นแนลโดยได้เยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งจังหวัดเพชรบุรีที่แหลมผักเบี้ยดำเนินการวิจัยและพัฒนาสาหร่ายทะเลหลายสายพันธุ์เช่น สาหร่ายพวงองุ่น สาหร่ายลิ้นมังกร สาหร่ายผักกาด สาหร่ายโพรง สาหร่ายขนนกและสาหร่ายผมนางเป็นต้น จากนั้นจึงไปดูกิจการฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายเช่นแฟมิลิฟาร์ม เบญจมาศฟาร์มและฟาร์มเลี้ยงสาหร่ายแบบเกษตรอินทรีย์ที่ฟาร์มทะเลตัวอย่างในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบามราชินีนาถ

‘ปชป.-ภท.’ เปิดศึก 4 ตระกูลดังถือหางคนละข้าง ‘เกี่ยวข้อง-ภูเก้าล้วน-กิตติธรกุล-เอ่งฉ้วน’

58 ที่นั่งส.ส.ของภาคใต้ หลายพรรคการเมืองจดจ้องจองเก้าอี้ ทั่งรักษาฐานเดิม และขยายฐานจากเดิมที่มีอยู่แล้ว ฐานเดิมประชาธิปัตย์เคยยึดครองมาเกือบทั้งภาคมาแล้ว แต่การเลือกตั้งปี 2562 มีพรรคพลังประชารัฐ และพรรคภูมิใจไทย เข้ามาเบียดแทรก เจาะฐานประชาธิปัตย์ไปบางเขต เช่น ที่สงขลา พัทลุง สตูล หรือกระบี่ เป็นต้น

พรรคภูมิใจไทยฮึกเหิมหนัก หมายมั่นปั้นมือว่า จะต้องได้ สส.มากกว่าเดิม ตีความได้ว่าเป็นการรุกเข้าไปในฐานของประชาธิปัตย์นั้นเอง และหรือรุกฆาตเข้าไปยังพื้นที่ของพลังประชารัฐที่กำลังอยู่ในภาวะอ่อนกำลัง คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อยู่มานานร่วม 8 ปี ก็เริ่มถดถอย

เมื่อวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2565 อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และโกเกี๊ยะ-พิพัฒน์ รัชกิจประการ นำทัพหลวง หิ้วแม่ทัพใต้ ยกทีมไปเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ ทั้ง 3 เขต ที่ลานพระอาทิตย์ อบจ.กระบี่
 
การเลือกตั้งปี 2562 กระบี่ มี ส.ส. 2 คนคือ เขต 1 สาคร เกี่ยวข้อง พรรค ปชป. ส่วนเขต 2 สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง พรรคภูมิใจไทย  สมัยหน้า กระบี่ จะมี ส.ส.เพิ่มเป็น 3 คน พรรคภูมิใจไทย ได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ไว้เรียบร้อยแล้ว
 
เขต 1 โกหนึ่ง-กิตติ กิตติธรกุล เลขานุการนายก อบจ.กระบี่, เขต 2 สจ.ม้อ-ถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ  อดีต ส.อบจ.กระบี่ เขต อ.อ่าวลึก และเขต 3 โกสุทธิ์-สฤษฏพงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ โดยมีท่านขุน เอ่งฉ้วน รองนายกฯอบจ.กระบี่ เป็น สส.บัญชีรายชื่อ
 
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ ไว้แล้วเช่นกัน ได้แก่เขต 1 โกเคี่ยง ธนวัช ภูเก้าล้วน ลูกชายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่, เขต 2 สาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ และเขต 3 พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลูกสาวพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล 

แม่ทัพตัวจริงของภูมิใจไทย เมืองกระบี่คือ โกหงวน- สมศักดิ์ กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ 7 สมัย สหายร่วมรบของเนวิน ชิดชอบ
 
หนที่แล้ว โกหงวน ตั้งเป้าปั้น สฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง เป็นหัวหอกในการเจาะฐานเสียง ปชป. และโกสุทธิ์ทำได้สำเร็จ เอาชนะสุชีน เอ่งฉ้วน พรรค ปชป.ไปได้
 
ดูรายชื่อขุนพลทั้ง ปชป. และภูมิใจไทย รับประกันว่า สมัยหน้าสนามกระบี่ดุเดือดเลือดพล่านแน่นอน สายภูมิใจไทย ก็จะมี “ตระกูลเกี่ยวข้อง-กิตติธรกุล-เอ่งฉ้วน” เป็นกลไกขับเคลื่อน

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็มี “ตระกูลภูเก้าล้วน-เกี่ยวข้อง-เอ่งฉ้วน” เป็นมือไม้สำคัญ งานนี้ จุรินทร์-นิพนธ์-เดชอิศม์” จะต้องทำงานหนักเพื่อรักษา และขยายฐานไปสู่เป้าหมาย 35 ที่นั่งให้ได้

'วิมล ไทรนิ่มนวล' นักเขียนซีไรต์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า “เรื่องหนักกบาล 3 กีบ”

ตั้งแต่ออกจากครรภ์มาก็มีชีวิตอยู่มาได้ 20 ปี 30 ปี หรือมากกว่านั้น ก็ไม่ได้มีปัญหาใดๆ หนักกบาลตนเลย แต่พอไปรับความคิด-ความเชื่อขยะมาเท่านั้น อะไรต่อมิอะไรในประเทศนี้ก็หนักกบาลไปหมด ทั้งกฎหมาย จารีต ขนบ ธรรมเนียมประเพณี คุณธรรม ศีลธรรม...ที่บรรพชนสืบต่อกันมาเพื่อให้สังคมเป็นปึกแผ่นมั่นคง

แค่วันพ่อ วันแม่ ความกตัญญู การสวดมนต์ข้ามปี การวิ่งหรือกิจกรรมต่างๆเพื่อรับบริจาคไปทำประโยชน์แก่ส่วนรวม ฯลฯ ก็หนักกบาล 3 กีบอย่างสาหัส แต่วิ่งและเต้นอย่างไร้สาระไปวันๆกลับชื่นชมยกย่อง!

ถ้า 3 กีบคิดว่าการแซะ การก่นด่า การดูถูกเหยียดหยามสิ่งเหล่านี้จะสามารถทำให้สังคมนี้ล่มสลายเหมือนแซะต้นไม้ แล้วสถาปนาระบอบใหม่ขึ้นได้ ก็ขอบอกว่าเสียเวลาในชีวิตเปล่า อาจจะเสียอนาคตด้วย หากฮึกเหิมกันมากขึ้นก็อาจจะต้องไปสงบอารมณ์ในคุก

แต่ที่เสียไปแล้วแน่ ๆ ก็คือ จิตใจที่โปร่งโล่ง เปิดกว้าง มีเสรี หรือไม่ถูกกดขี่ กดทับ ปิดกั้น (คำของ 3กีบเอง) เพราะความคิด-ความเชื่อขยะที่ตนรับเข้ามาไว้ในกะโหลกนั่นเอง

เพื่อไทย ยืนยันไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการประชุมร่วมรัฐสภา 15 ส.ค.นี้ ย้ำยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง ตามหลักกฎหมาย-เจตนารมณ์ประชาชน

14 ส.ค.2565 –นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 14 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่1 ในวันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือ กฎหมายเลือกตั้ง เพื่อหาสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะครบกำหนด 180 วัน ในวันที่ 15 สิงหาคม เพื่อเป็นการคัดค้านและยับยั้งการกระทำที่เป็นขัดหลักการ และขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ครั้งที่ 1) พุทธศักราช 2564 มาตรา 91 ที่มีใจความสำคัญว่า “ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคการเมืองต้องเป็นสัดส่วนสัมพันธ์กันโดยตรงกับจำนวนคะแนนรวม” ซึ่งต้องหารที่ 100 และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ จะเป็นกระบวนการตรากฎหมายที่ไม่ชอบ ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย มีข้อสรุปร่วมกันว่า

1.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยมีความคิดเห็นตรงกันว่า จะไม่เป็นองค์ประชุมในการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 15 สิงหาคม 
2.หากเกิดกรณีเปิดประชุมร่วมรัฐสภาได้ ตัวแทนส.ส.จะเข้าร่วมประชุม โดยจะอภิปรายคัดค้านสูตรหาร 500 ให้ถึงที่สุด หากจบการอภิปรายแล้ว พรรคเพื่อไทยจะไม่เป็นองค์ประชุมและจะไม่ร่วมลงมติต่อ

สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย จัดงาน "สมัชชาคนพิการแห่งชาติและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564"

วันที่ 12 สิงหาคม 2565 ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ กรุงเทพ  สมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย จัดงาน "สมัชชาคนพิการแห่งชาติและประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564" สนับสนุนโดยกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ )

"นายชูศักดิ์ จันทยานนท์"นายกสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กล่าวรายละเอียดความเป็นมาของงานสมัชชาในปีนี้ นับเป็นเวลา 39 ปีแล้วที่สภาคนพิการจัดงานสมัชชาคนพิการแห่งชาติต่อเนื่องมาเกือบทุกปี ตั้งแต่ปี 2526 ที่จังหวัดเชียงใหม่ สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย เป็นองค์การขับเคลื่อนนโยบายและกฎหมายด้านคนพิการระดับชาติ รวมทั้งพิทักษ์สิทธิคนพิการ ซึ่งถูกรับรองฐานะไว้ในพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 มาตรา 27 รวมทั้งเป็นองค์กรร่ม (Umbrella Organization) ของคนพิการในประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิกสามัญถาวร คือ องค์การด้านคนพิการระดับชาติ 6 องค์กร ได้แก่ สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย สมาคมเพื่อคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย สมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิตแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ปกครองบุคคลออทิซึม(ไทย) ประกอบกับมีสมาชิกสามัญทั่วไป คือ สภาคนพิการทุกประเภทประจำจังหวัดใน 77 จังหวัด รวมทั้งมีสมาชิกวิสามัญ ได้แก่ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ และมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อีกทั้งยังทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่างๆ เช่น ภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ (T4A) สภาศูนย์การดำรงชีวิตอิสระของคนพิการประเทศไทย และมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ประเทศไทย เป็นต้น
ในสมัชชาคนพิการทุกๆ ปีจะมีหัวข้อที่แตกต่างกันไป โดยในปีนี้มีหัวข้อว่า “การเสริมพลังคนพิการแบบมุ่งเป้า ผ่านกลไกการปฏิรูปประเทศด้านสังคมสู่การเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาที่ยั่งยืนและเท่าเทียม” เนื่องจากในปีนี้ 2565 แผนการปฏิรูปประเทศจะสิ้นสุดกำหนดระยะเวลาการดำเนินการลง ซึ่งมีส่วนที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ 3 ประเด็นปฏิรูปสำคัญ ได้แก่  1) การปฏิรูปกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ 
2) กิจกรรมปฏิรูป (Big Rock): การปฏิรูปการขึ้นทะเบียนคนพิการ เพื่อให้คนพิการได้รับสิทธิสวัสดิการและความช่วยเหลือได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง และ 
3) การปฏิรูปการจัดสภาพแวดล้อมสาธารณะที่ทุกคนเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ (Accessibility for All Act : AAA)  
 ดังนั้นจึงต้องเร่งรัดแผนการปฏิรูปประเทศดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และนำประเด็นการปฏิรูปประเทศด้านสังคมของทั้ง ๓ ประเด็นดังกล่าวไปสู่การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
นอกจากเพื่อเร่งรัดการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปข้างต้นแล้ว วัตถุประสงค์ของงานสมัชชาคนพิการแห่งชาติ ได้แก่
1. เพื่อเป็นเวทีสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สถานการณ์และอุปสรรคการดำเนินงานของสมาชิก ทั้งองค์การคนพิการแต่ละประเภท สภาคนพิการทุกประเภทประจำจังหวัด และภาคีเครือข่าย ในการขับเคลื่อนและติดตาม กฎหมาย นโยบาย ไปสู่การปฏิบัติ รวมทั้งแนวทางที่จะทำให้คนพิการเข้าถึงสิทธิได้จริง โดยในวันนี้ 13 สิงหาคม 2565 ช่วงบ่ายจะมี การเสวนาเรื่อง “แนวทางและต้นแบบการดำเนินงานของสภาคนพิการทุกประเภทประจำจังหวัด” โดยจะให้ผู้แทนสภาคนพิการทุกประเภทประจำจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ได้มานำเสนอผลงานเด่น (Best Practices) ของแต่ละจังหวัดคนละ 3 นาที  2. เพื่อรับฟังความคิดเห็นและพัฒนาเป็นมติสมัชชาคนพิการแห่งชาติ ประกอบด้วยเรื่องสำคัญ 3 ประเด็น ได้แก่ 
2.1 ข้อเสนอต่อการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคมในส่วนที่เกี่ยวกับคนพิการ ซึ่งในช่วงเช้าต่อจากนี้ก็จะมีการอภิปรายในเรื่องดังกล่าว 
2.2 ข้อเสนอต่อร่างแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (2566-2570) ซึ่งเมื่อวานนี้รองศาสตราจารย์ ดร. ปกรณ์ ศิริประกอบ ก็ได้มาบรรยายเรื่อง “การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2566-2570)”
2.3 ข้อเสนอต่อแนวทางการขับเคลื่อนศูนย์บริการคนพิการ ซึ่งเมื่อวานนี้ผู้แทนกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการก็ได้มาร่วมการเสวนา เพื่อหารือแนวทางขับเคลื่อน MOU ที่สภาคนพิการ พก. สสส. และมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ประเทศไทย (TRIP) ลงนามร่วมกัน ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม  
โดยที่ประชุมใหญ่จะมีมติรับรองข้อเสนอทั้ง 3 เรื่อง ดังกล่าว เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
3. เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาแก่สมาชิก และสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการเสนอแนะความเห็นเพื่อประโยชน์ต่อการดำเนินงานของสภาคนพิการ ผ่านการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันพรุ่งนี้  

ทูตจีนประจำประเทศไทย 'หาน จื้อเฉียง' ซัด สหรัฐฯ ทำตัวเป็นเจ้าโลก เหยียบย่ำอธิปไตยจีน ชี้ เป็นผู้ก่อปัญหาใหญ่สุดในโลก

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม เฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่คำพูดของ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เรื่องสหรัฐเป็นประเทศก่อเรื่อง สร้างวิกฤต และยกระดับสถานการณ์ตึงเครียด โดยระบุว่า

“เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2565 เอกอัครราชทูต หาน จื้อเฉียงได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาไต้หวัน ท่านกล่าวว่า แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ นำคณะผู้แทนเยือนไต้หวันและประกาศต่อสาธารณชนว่าสหรัฐ จะพัฒนาความสัมพันธ์สหรัฐ-ไต้หวันอย่างจริงจัง และปกป้องไต้หวันโดยไม่คำนึงถึงการคัดค้านซ้ำแล้วซ้ำอีกของจีน ไต้หวันเป็นดินแดนของจีนตั้งแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ไปจนถึงมติของสหประชาชาติจนถึงความจริงที่ว่า 181 ประเทศทั่วโลกรวมถึงสหรัฐอเมริกายอมรับหลักการ ‘จีนเดียว’ ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของจีน และประเด็นไต้หวันคือกิจการภายในของจีน นี่เป็นข้อเท็จจริงที่มีความชัดเจนมากที่สุด”

“ด้านหนึ่ง สหรัฐยอมรับว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และในทางกลับกัน สหรัฐก็อ้างว่าต้องการปกป้องความมั่นคงของไต้หวัน ซึ่งเป็นตรรกะที่ไร้สาระและเอาแต่ใจตัวเอง โดยพื้นฐานแล้ว สหรัฐกำลังยุยงและสนับสนุนพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของไต้หวันให้แยกตัวออกจากจีนเป็นเอกราช เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ที่ชั่วร้ายในการ ‘ใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือเพื่อสกัดกั้นจีน’ ซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายร้ายแรงต่ออำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน และเป็นการทรยศต่อพันธกรณีระหว่างประเทศของสหรัฐ เองและการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและบรรทัดฐานพื้นฐานที่กำกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้น แน่นอนว่าจีนต้องตอบโต้อย่างแข็งขัน เราดำเนินการฝึกซ้อมทหารในน่านน้ำใกล้ไต้หวันเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายเพื่อต่อต้านการยั่วยุของสหรัฐ และเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน และเป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายต่อต้านสหรัฐ ที่เหยียบย่ำอธิปไตยของประเทศอื่นๆ และเป็นการกระทำเพื่อรักษาสันติภาพและความสงบสุขในภูมิภาค สหรัฐ ได้ทำสิ่งที่ไม่ดีไม่งามด้วยตนเอง และตอนนี้โจรกำลังเรียกร้องให้จับโจร

รัฐบาลให้ความมั่นใจ กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไม่กระทบหนี้สาธารณะ สิ้นปีคาด 61.3% ต่อจีดีพี ธนาคารรัฐพร้อมตรึงดอกเบี้ยให้นานที่สุด

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงนโยบายตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และออกมาตราการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบโควิด-19 เพื่อลดผลกระทบแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จาก 0.25% เป็น 0.75% ต่อปี ว่า ธนาคารของรัฐหลายแห่ง ได้ออกประกาศเบื้องต้น ที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด คาดว่าจะถึงสิ้นปี2565  ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตามตลาด เพื่อรักษาสภาพคล่องให้กับธนาคารในการนำเงินไปปล่อยสินเชื่อ แต่ละธนาคารจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป ขณะนี้ ธนาคารออมสิน ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน6 เดือน 0.15% เงินฝากประจำ 12 เดือน 0.20% และเงินฝากประจำ 24 เดือน 36 เดือน  0.30% ช่วยส่งเสริมการออม และให้ประชาชนได้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่กำลังเริ่มกลับมามีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ส่วนบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งมีบทบาทการค้ำประกันสินเชื่อ จะให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs โดยขยายมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้บสย.ไปถึงสิ้นปี 2565 เพื่อปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แก้หนี้ยั่งยืน ให้ลูกหนี้สามารถประคองกิจการต่อไปได้  โดยให้ชำระหนี้ 3 ระดับ ตามความสามารถในการชำระ คือ 1.ยืดหยุ่น ตัดเงินต้น  20% และตัดดอกเบี้ย 80% ผ่อนชำระ 5 ปี  2.ผ่อนน้อย เบาแรง หนี้ลดหมดแน่นอน เริ่มต้นชำระครั้งแรกเพียง 1% ของยอดหนี้ โดยนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด ส่วนวงเงินที่เหลือ ผ่อนชำระ 5 ปี 3. ดอกเบี้ย 0% ชำระครั้งแรก 10% ซึ่งจะนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด ผ่อนชำระ 7 ปี โดยมีลูกหนี้ลงทะเบียนร่วมโครงการ 6,856 ราย มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว วงเงินกว่า 1,117 ล้านบาท 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ภาพรวมการบริหารหนี้สาธารณะ ที่มีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทำให้ต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาลสูงขึ้น แต่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)มีแผนบริหารจัดการความเสี่ยง จึงไม่มีประเด็นที่ต้องกังวล โดยดำเนินการเปลี่ยนการกู้เงินระยะสั้นที่เป็นดอกเบี้ยลอยตัว (Float Rate) มาเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Fix Rate)มากขึ้น คิดเป็นสัดส่วน 82% ส่วนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนนั้นไม่มี เพราะรัฐบาลมีหนี้ต่างประเทศแค่ 1.8% และได้ทำการปิดความเสี่ยงไปหมดแล้ว ขณะที่ ปีงบประมาณ 2566 แผนการบริหารจัดการต้นทุนการกู้เงินของรัฐบาล จะเน้นกู้เงินผ่านการออกพันธบัตรระยะยาว จากปีงบประมาณ 2565 อยู่ที่ 45% ปรับเพิ่มเป็น 48% การออกตั๋วสัญญาใช้เงินจะอยู่เท่าเดิมที่ 25% ขณะที่การออกตั๋วเงินคลังและการกู้เงินระยะสั้นจากตลาด จะลดลงมาอยู่ที่ 14% จากเดิมที่ 18%


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top