Tuesday, 10 June 2025
NEWS FEED

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสภาผู้แทนราษฎร จัดโครงการสัมมนาเชิงวิชาการ “แนวทางการบูรณาการโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ”

ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 61 ที่เห็นชอบในหลักการกำหนดเลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติเลขหมายเดียว (Nation Single Emergency Number) ซึ่งมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ โดยให้บูรณาการความร่วมมือกันระหว่างองค์กรทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ในการใช้หมายเลข 191 เป็นหมายเลขฉุกเฉินแห่งชาติเพียงเลขหมายเดียว ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน  

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงกำหนดให้จัดการสัมมนาเชิงวิชาการ ในหัวข้อ “แนวทางการบูรณาการโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งชาติ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ในวันที่ 17 มิ.ย. 65 ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น. ณ สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิด การสัมมนาฯ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บังคับระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมพิธีฯ 

ตร. เตือน รถยนต์ขับขี่อัตโนมัติ (Autopilot) หากเกิดอุบัติเหตุ คนขับยังต้องรับผิดชอบ

วันที่ 17 มิ.ย. 65 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในปัจจุบัน ได้เริ่มมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ได้นำเอาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาติดตั้งในรถยนต์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่เป็นจำนวนมาก อาทิ ระบบเตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางการเดินรถ ระบบควบคุมความเร็วแปรผันตามรถคันหน้า รวมไปถึงระบบที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้า เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติ หรือที่เรียกชื่อภาษาอังกฤษว่าระบบ Autopilot ซึ่งระบบทั้งหมดที่กล่าวมา มีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาขึ้นเพื่อให้ความสะดวกสบายกับผู้ขับขี่ และลดจำนวนการเกิดอุบัติบนท้องถนน แต่ก็มีข้อคำถามของพี่น้องประชาชนว่า หากรถยนต์ที่มีระบบขับขี่อัตโนมัติ เกิดอุบัติเหตุ ใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนว่า สำหรับกฎหมายของประเทศไทย ได้มีการกำหนดผู้รับผิดชอบเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากยานพาหนะไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 437 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอย่างใด ๆ อันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหายนั้นเอง” 

ดังนั้นผู้ที่ควบคุมยานพาหนะ ไม่ว่าจะมีระบบควบคุมอัตโนมัติหรือไม่ ก็ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น หากอุบัติเหตุดังกล่าวมีต้นเหตุมาจากการขับขี่ของยานพาหนะคันที่ตนขับขี่หรือควบคุมอยู่

'บิ๊กป้อง' ผู้บัญชาการทหารอากาศ เปิดห้องรับรอง ZEUS GROUP

วันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่ห้องรับรอง 1 กองทัพอากาศ  พลอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ตท.21) พร้อมฝ่ายเสนาธิการฯ ได้กรุณาเปิดห้องรับรองต้อนรับคณะของบริษัท ZEUS TECHNOLOGY CORPORATION 

'สุวินัย' มองการโดนคดีม.112ของ 'ปิยบุตร' เป็นโอกาสทองพิสูจน์ความเป็น 'คนจริง'

'สุวินัย' มองอีกมุมการโดนคดีม.112ของ 'ปิยบุตร' คือโอกาสทองที่จะได้พิสูจน์ความเป็น'คนจริง'ชี้ต้องรับผิดชอบในความคิดและการกระทำของตนเอง เหน็บคิดเป็นนักปฏิวัติได้มิใช่เรื่องแปลกแต่อย่าลวงโลกเป็นวิญญูชนจอมปลอม

(17 มิ.ย.65) ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กภายหลังนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เรื่อง "เมื่อผมกลายเป็นผู้ต้องหาในความผิด 112 " มีเนื้อหาดังนี้

ผมว่าคนแต่ละคนมีจุดพีคในชีวิตไม่เหมือนกันนะ

ในกรณีของอาจารย์ปิยบุตร จุดพีคของเขาน่าจะเป็นช่วงปี 2018-9

ในฐานะเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และผู้นำทางความคิดเรื่องการปฏิวัติฝรั่งเศสเพื่อเปลี่ยนแปลงสถาบันกษัตริย์ไทย ที่ทรงอิทธิพลที่สุดต่อคนรุ่นใหม่ในตอนนั้น ... จนเป็นที่มาของขบวนการ"ชูสามนิ้ว(เพื่อล้มเจ้า)" ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตในวันที่ 10 สิงหาคม 2020

วันนี้ อาจารย์ปิยบุตรถูกตั้งข้อหาคดี ม.112 ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีที่อาจารย์ปิยบุตรจะยืดอกไปพิสูจน์ตัวเองในศาล เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกลูกศิษย์สาวกจำนวนหนึ่งที่โดนคดี ม.112 ไปก่อนแล้ว ... เพราะอย่างน้อยนี่คือความรับผิดชอบเชิงจริยธรรมของคนที่เคยเป็นครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัย

'นายกฯ' ปลื้ม!! สเปรย์ยับยั้งเชื้อ-วัคซีนโควิดสัญชาติไทย จ่อขึ้นทะเบียน ‘อย.’ คาดผลิตสู่ตลาดไตรมาส 3 ปีนี้

'บิ๊กตู่' ชื่นชม ผลงานคนไทยพัฒนาสเปรย์ยับยั้งเชื้อโควิด19 สำเร็จ ผลิตสู่ตลาดปีนี้ ด้าน วัคซีน 'Chula Cov19' จ่อขึ้นทะเบียน อ.ย.

(17 มิ.ย. 65) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชมความร่วมมือของ 5 หน่วยงาน คือ องค์การเภสัชกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และ บริษัท ไฮไบโอไซ จำกัด ที่ได้ร่วมมือพัฒนานวัตกรรม 'สเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด 19' ซึ่งเป็นอีกนวัตกรรมจากคนไทยสามารถผลิตขึ้นใช้ได้เองในประเทศ ด้วยความเชี่ยวชาญในการผลิตยาและเวชภัณฑ์ ที่มีมาตรฐานยอมรับในระดับสากล สำหรับสเปรย์แอนติบอดีพ่นจมูกที่มีคุณสมบัติยับยั้งเชื้อโควิด-19 คาดว่าจะสามารถผลิตออกสู่ตลาดเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้เข้าถึงนวัตกรรมสุขภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้ใน ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมองค์การเภสัชกรรมที่ได้พัฒนาวัคซีนโควิด HXP-GPOVac ฝีมือคนไทย ซึ่งผ่านการทดลองในมนุษย์เฟส 1 และเฟส 2 แล้ว จากผลการพัฒนาสูตรวัคซีน HXP-GPOVac สามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยมีแผนจะนำวัคซีนตัวนี้ กลับไปทำการทดลองเฟส 2 อีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 เมื่อสำเร็จได้ผลดี จะดำเนินการทดลองในเฟส 3 ต่อไป คาดว่าจะเริ่มฉีดให้ประชาชนได้กลางปี 2566

ศาลปค.สั่งลูก-เมีย 'สมัคร' ชดใช้แทน 587 ล. คดีทุจริตจัดซื้อรถเรือดับเพลิง กทม.

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืน สั่งเมีย-ลูกอดีตผู้ว่าฯกทม. ‘สมัคร สุนทรเวช’ ชดใช้ 587 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย โดยไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอด ปมทุจริตจัดซื้อรถเรือดับเพลิง กทม.

(16 มิ.ย.65) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนสั่งให้คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ภรรยานายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนางกาญจนากร ไชยลาโภ นางกาญจนาภา มุ่งถิ่น บุตรสาว ในฐานะทายาทของนายสมัคร รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 587,580,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย 53-วันที่ 10 เม.ย. 64 และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปีหรืออัตราดอกเบี้ยใหม่ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ซึ่งออกตามความในมาตรา 7 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละ 2 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.64 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จโดยให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนภายใน 60 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

ทั้งนี้ หากคดีที่กรุงเทพฯฟ้องบริษัทสไตล์เออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จํากัด ประเทศออสเตรีย ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายเรียกทรัพย์คืนตามคดีหมายเลขดำที่กค.155/2552 โดยศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้คู่กรณีกับคืนสู่ฐานะเดิม หรือคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศของ ICC มีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้คู่กรณีตกลงกันด้วยดีทำให้ค่าความเสียหายลดลงเพียงใด ก็ให้ทายาททั้ง 3 รับผิดตามอัตราส่วนตามที่ศาลกำหนดให้นายสมัครรับผิดชอบเพียงนั้น ทั้งนี้ทายาททั้ง 3 ต้องรับผิดต่อกรุงเทพฯเพียงไม่เกินทรัพย์มรดกของนายสมัครที่ตกทอดแก่ตน

กรณีดังกล่าวกรุงเทพมหานคร ได้ยื่นฟ้องบุคคลทั้ง 3 ให้ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่นายสมัครต้องรับผิดชอบจากกรณีการทุจริตในโครงการจัดซื้อเรือและรถดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยของกรุงเทพมหานครกับบริษัทสไตล์เออร์ เมื่อปี 47-48 ซึ่งกระทรวงการคลังกำหนดให้นายสมัครซึ่งเป็น 1 ใน 6 ของผู้ร่วมกระทำผิดต้องรับผิดชดใช้เป็นเงิน 956,931,442 บาท

'กรณ์ พรรคกล้า ' ขอบคุณรบ. ขานรับรวดเร็ว เตรียมเก็บกำไรโรงกลั่น 2 หมื่นลบ. พยุงราคาน้ำมัน

'กรณ์' ขอบคุณรัฐบาล แก้ปัญหาราคาน้ำมัน เก็บกำไรโรงกลั่น ลดเบนซิน เตรียมเสนอทางออกช่วยประชาชนต่อ ก่อนประชุมครม.สัปดาห์หน้า

ภายหลังที่รัฐบาลประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจฉุกเฉิน เมื่อวันที่ (16 มิ.ย. 65) โดยมีมติว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องราคาน้ำมัน รัฐบาลจึงได้เก็บกำไรโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซ 8 พันล้านบาทต่อเดือน โดยลดภาระเบนซิน 1 บาทต่อลิตร และอุดหนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อเสริมสภาพคล่องทางเศรษฐกิจนั้น นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ซึ่งเป็นผู้เรียกร้องในเรื่องนี้ ได้โพสต์ขอบคุณรัฐบาลที่ขานรับประเด็นเรื่องค่าการกลั่นโดยเร็ว โดยระบุว่าขอให้ถือว่าเรามาช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง ทีมทำงาน พรรคกล้า - KLA Party ดีใจที่วันนี้ประชาชนได้เงินกลับมา 24,000 ล้านบาททันที

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะตรวจประเมินโครงการ Smart Safety Zone 4.0 สน.บางยี่ขัน 

เมื่อวานนี้(16 มิ.ย.65) เวลา19.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจประเมินโครงการ Smart Safety Zone 4.0  ของ สน.บางยี่ขัน ซึ่งเป็นสถานีตำรวจนำร่องของโครงการฯ โดยมี พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม รอง ผบก.น.7, พ.ต.อ.จารุวัตร สิงหศรีชัย ผกก.สน.บางยี่ขัน, พ.ต.ท.ภาวัต วรรธสุภัทร รอง ผกก.สส.สน.บางยี่ขัน, พ.ต.ท.ศุกพีระ สังข์ด้วงยา รอง ผกก.จร.สน.บางยี่ขัน, พ.ต.ท.ฐิติวุธ  ร่อนแก้ว รอง ผกก.ป.สน.บางยี่ขัน

ร่วมกับภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่ ประกอบด้วย กต.ตร.สน.บางยี่ขัน, ส.ทท.3 กก.1 บก.ทท.1, ภาคประชาชน, ภาคธุรกิจ, หน่วยงานภาครัฐ และสื่อมวลชน ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมชั้น 3 สน.บางยี่ขัน โดยประเมินผลการดำเนินโครงการ ดังนี้ 

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตรวจเยี่ยมการฝึกและสังเกตการณ์การบูรณาการร่วมระหว่างการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 กับการฝึกปฏิบัติการร่วม ศรชล.ประจำปี 2565

(16 มิ.ย.65) พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางไปตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์ การบูรณาการร่วมระหว่าง การฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 กับการฝึกปฏิบัติการร่วม ศรชล. ประจำปี 2565 โดยมี พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. และ พลเรือเอก ธีรกุล กาญจนะ รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ให้การต้อนรับ

โดยใน เวลา 09.30 น. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้แทนส่วนราชการใน ศรชล. ได้เดินทางมาถึงเรือหลวงอ่างทอง หลังจากนั้น ได้เยี่ยมชมการฝึกขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันในทะเล (Oil Spill) และการฝึกค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล (Sea SAR) ร่วมกับหน่วยงานในศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.)  พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการในทะเล และโรงพยาบาลสนามบนเรือหลวงอ่างทอง

ต่อมาในเวลา 11.00 น. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะ เดินทางต่อไปยังเกาะเสม็ด โดยเรือระบายพลขนาดกลาง (Landing Craft Mechanized :LCM) เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการเคมี ชีวภาพและรังสี  ณ ท่าเรืออ่าวกลาง ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์บนบก (Incident Command System :ICC) ณ สนามฟุตบอล อบจ. ระยอง 

สำหรับการฝึกในปีนี้ กองทัพเรือ ได้กำหนดจัดให้มีการฝึกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HADR) ด้วยกำลังทางเรือ ตามแนวคิด From The Sea การค้นหา และช่วยชีวิตในพื้นที่การรบทางทะเล (Combat Sea SAR) โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือและการระดมสรรพกำลังจากหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระยอง บริษัทเอกชน หน่วยกู้ภัย และสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน 

ในปัจจุบัน ศรชล. นับเป็นหน่วยงานหลัก เป็นกลไกสำคัญของรัฐบาล และรับผิดชอบการดำเนินการที่มีเอกภาพ สามารถบูรณาการการปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร ในเขตทางทะเลที่มีลักษณะที่หลากหลาย และประเทศไทยมีอำนาจอธิปไตยหรือสิทธิอธิปไตย รวมทั้งสิทธิหน้าที่อื่นตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีพันธกรณี จะต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ที่มีอยู่อย่างมากมายในด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านทรัพยากร ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของชาติทางทะเล มี นายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.)

ปัจจุบัน ศรชล. มีภารกิจหลักในการป้องกันภัย 9 ด้าน ประกอบด้วย 1.การช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล 2.การทำประมงผิดกฎหมาย 3.การค้ามนุษย์/ลักลอบเข้าเมือง 4.ยาเสพติด/สินค้าผิดกฎหมาย/อาวุธสงคราม 5.การทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง 6.การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 7.โจรสลัด/การปล้นเรือ 8.การก่อการร้าย และ 9.การขนส่งสินค้า

'อลงกรณ์' เกรง!! วงการข้าวสับสน!! นโยบายกระทรวงเกษตรฯ ยืนยันไม่เคยสั่งการให้กรมการข้าวปลูกข้าวบัสมาตี เพื่อส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย 30 ล้านตัน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แถลงวันนี้ (16 มิ.ย) ว่า ตามที่มีสื่อมวลชนฉบับหนึ่งเสนอข่าวทำนองว่า กรมการข้าวจะปลูกข้าวบัสมาตีเพื่อส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย 30 ล้านตันตามนโยบายของที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรหลังจากเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียนั้น ขอชี้แจงว่า ตนไม่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้และไม่เคยบอกกรมข้าวให้ผลิตข้าวบัสมาติเพื่อส่งออกข้าวบัสมาตี 30 ล้านตันไปซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากเกรงว่าจะก่อให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดในนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งแม้แต่โฆษกรัฐบาลก็ยังอ้างอิงข่าวที่ผิดพลาดดังกล่าวนำไปแถลงข่าวในนามนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล

นายอลงกรณ์กล่าวว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกข้าวโดยเฉลี่ยปีละไม่เกิน 10 ล้านตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวขาว ข้าวนึ่งและข้าวหอมมะลิ ประเทศไทยไม่เคยผลิตข้าวบัสมาตีเพื่อการส่งออกแม้แต่ตันเดียว จะมีเพียงการทดลองวิจัยในอดีตนานมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีนโยบายปลูกข้าวบัสมาตีเพื่อการส่งออกเพราะสภาพภูมิอากาศและพื้นที่ของประเทศไทยส่วนใหญ่ไม่เหมาะสมกับพันธุ์ข้าวดังกล่าว 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top