Friday, 20 June 2025
NEWS FEED

ตำรวจ ปส.รวบเครือข่ายยาบ้าคาปั๊ม หลังดัดแปลงรถกระบะทึบซุกยาบ้า 1.4 ล้านเม็ด ขยายผลจับเพิ่มทั้งคนรับและเจ้าของยา

ยาเสพติดคือปัญหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินหน้าแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ประเทศไทยในทุกช่องทาง รวมทั้งเป็นนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญของพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่มุ่งเน้นปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติการทำงาน ภายใต้การอำนวยการ ของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม) /ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 ได้สั่งการให้เร่งกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดทั้งรายเก่า และป้องกันไม่ให้เกิดเครือข่ายหน้าใหม่                                  

ล่าสุดช่วงเย็นวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 สนธิกำลังทหาร จับเครือข่ายยาเสพติด คือ 
1. นายชนินทร์ เลือดขุนทด อายุ 28 ปี
2. นายนนทวัฒน์ สุดแสน อายุ 23 ปี ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.พาน (ขาเข้า) ถนนพหลโยธิน ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย หลังสืบสวนขยายผลพบ นายชนินทร์ ได้ขับรถมารับยาบ้า จำนวน 1.4 ล้าน โดยดัดแปลงรถกระบะตู้ทึบให้มีช่องซุกซ่อนยาบ้าเพื่อไปส่งให้กับกลุ่มผู้รับยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง ชื่อ น.ส.ฝน โดยมีรถยนต์หมายเลขทะเบียน ผท 7415 เชียงราย ขับรถนำทางไป เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนและติดตาม น.ส.ฝน ที่ผู้ต้องหาอ้าง กระทั่งวันที่ 4 ธ.ค. สามารถจับกุม 

'ดร.ปกรณ์ GISTDA' นั่งประธานคกก.ดาวเทียมสำรวจโลก รับไม้ต่อจาก CNES เริ่มปฏิบัติหน้าที่ในปี 2023

ปลื้ม!! ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA ได้รับเลือกเป็น ประธานคกก.ดาวเทียมสำรวจโลกอย่างเป็นทางการต่อจาก CNES องค์กรอวกาศของฝรั่งเศส โดย GISTDA จะปฏิบัติหน้าที่ประธานคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลก CEOS 2023 

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA ในฐานะผู้แทน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และคณะ เข้าร่วมประชุม 2022 CEOS Plenary ซึ่งเป็นการประชุมใหญ่ประจำปีของคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลก (Committee on Earth Observation Satellites :CEOS) ที่มีองค์กรอวกาศภาครัฐด้านการสำรวจโลกด้วยดาวเทียมจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และหน่วยงานนานาชาติที่เกี่ยวข้องเป็นสมาชิก 

สำหรับ CEOS Plenary 2022 จัดขึ้น เมื่อ 29 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่เมือง Biarritz สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยในการประชุมครั้งนี้ GISTDA ไดัรับมอบตำแหน่งประธานคณะกรรมการดาวเทียมสำรวจโลกอย่างเป็นทางการต่อจาก CNES ซึ่งเป็นองค์กรอวกาศของสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดย GISTDA จะปฏิบัติหน้าที่ประธานหรือ CEOS Chair นับตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งรวมเป็นเวลาประมาณ 1 ปี 

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธ์ุ ในฐานะประธานคณะกรรมการคนต่อไป ได้มอบนโยบายการทำงานของคณะกรรมการฯ ไว้ว่า ในความร่วมมือกันในมิติต่าง ๆ ของหน่วยงานสมาชิก ที่มีอยู่ นั้น CEOS จะให้ความสำคัญที่จะผลักดันภารกิจที่สำคัญใน 2 เรื่องมากเป็นพิเศษ คือ...

เรื่องแรก คือ การใช้เทคโนโลยีการสำรวจโลกด้วยดาวเทียมในการติดตามการปลดปล่อยและเก็บกักคาร์บอนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก เพื่อช่วยลดผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยหน่วยงานสมาชิกจะร่วมกันนำข้อมูลจากดาวเทียมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมาใช้เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสำรวจและตรวจวัดการกักเก็บคาร์บอน ให้นำไปสู่การบรรเทาปัญหาโลกร้อน ตามแนวทางและเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ UNFCCC 

เรื่องที่ 2 ขอให้ CEOS ให้ความสำคัญ นั้น คือการพัฒนาแนวทางการส่งเสริม New Space Economy โดย GISTDA จะร่วมกับองค์กรอวกาศจากภูมิภาคต่างๆ เข่น ESA, NASA, USGS, JAXA, CNES และ CSA เป็นแกนหลักในการพัฒนาข้อเสนอแนวทางดังกล่าวจากการรวบรวมข้อคิดเห็นและประสบการณ์ของหน่วยงานสมาชิกในเรื่องการส่งเสริมและทำงานร่วมกับภาคเอกชนที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจโลกด้วยดาวเทียม

ทหารจัดงาน '5 ธันวา' ปวงประชาร่วมใจ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

เนื่องด้วยในวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้าย วันพระบรมราชสมภพ และวันพ่อแห่งชาติ นั้น

ในวาระอันสำคัญยิ่งนี้ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ 'พล.ร.2 รอ.' ได้จัดกิจกรรม ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาส วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2565 เพื่อเป็นการเทิดทูน และแสดงออก ถึงความจงรักภักดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

โดย พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผบ.พล.ร.2 รอ. เป็นประธาน ในการจัดพิธี เเละกิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2565 โดยมีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง พล.ร.2 รอ. ทุกระดับในพื้นที่ จว.ปราจีนบุรี พร้อมทั้งกำลังพลเข้าร่วมพิธีฯ ณ อาคารพรหมโยธี ค่ายพรหมโยธี  อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

รมว.พิพัฒน์ ร่วมงาน 7 ปี สมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ เสวนาพูดคุย เรื่อง 'บทบาทสื่อกับการท่องเที่ยวและกีฬา ยุคดิจิตอล'

เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2565ที่ผ่านมา ที่โรงแรมญันนะตีย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานในโอกาสที่สมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 ได้ดำเนินงานครบ 7 ปี และเสวนาพูดคุยในหัวข้อ 'บทบาทสื่อกับการท่องเที่ยวและกีฬายุคดิจิตอล' ในประเด็นต่างๆประกอบด้วย บทบาทของการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อการนำเสนอจุดขายเพื่อการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศไทย,แนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดภาคใต้ ที่จะเป็นรายได้อย่างยั่งยืนให้กับผู้ประกอบการ ,แรงกระตุ้นและสนับสนุนจากสื่อมวลชนทุกแขนง ในการร่วมเป็นแกนหลักในการประชาสัมพันธ์อย่างรอบด้าน และสื่อมวลชนจะได้ประโยชน์อะไร โดยมีนายอนันต์ จันทรัตน์ นายกสมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 กล่าวรายงาน 

สำหรับสมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 เดิมชื่อ สมาคมสื่อมวลชน หนังสือพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ ประชาคม 2558 และได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ และชื่อสมาคมใหม่ เป็นสมาคมสื่อมวลชนภาคใต้ 2558 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 จนถึงปัจจุบัน มีคณะกรรมการสมาคมรวมทั้งสิ้น 17 คน โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสมาคมขึ้น เพื่อความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวของสื่อมวลชน เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความจงรักภักดี การพัฒนาส่งเสริมสวัสดิการสื่อมวลชน แลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสาร การประสานการทำงานของสื่อมวลชน เพื่อรับใช้สังคม ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องเที่ยงตรง เป็นธรรม และสร้างสรรค์ ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และคุณภาพของสื่อมวลชน เพื่อส่งเสริมเผยแพร่เกียรติคุณ เชิดชูคนดี และสื่อมวลชนที่ดี มีผลงานทำคุณประโยชน์ต่อมนุษยชาติและสังคม เพื่อส่งเสริมสันติภาพ สันติสุข ต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น และการค้ายาเสพติด หรือสิ่งอันตรายต่อมนุษยชาติ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโลก และสุดท้ายเพื่อร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนประโยชน์โดยรวม เพื่อสาธารณะ 

วธ.รวมใจจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์-นิทรรศการแสดงพระราชประวัติและพระอัจฉริยภาพ-ฉายโขนภาพยนตร์ – ดนตรีเทิดพระเกียรติฯ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) รวมใจภาคีเครือข่ายด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรมทั่วประเทศ จัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยหน่วยงานในสังกัดของ วธ. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พร้อมเครื่องราชสักการะตามอาคารสถานที่ จัดทำคำกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมนำเสนอภาพพระราชกรณียกิจเพื่อเผยแพร่ทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ของแต่ละหน่วยงาน นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรม ได้ร่วมกิจกรรมจิตอาสาบริการประชาชน ณ บริเวณท้องสนามหลวง ในวันที่ 5 ธันวาคม 2565 เวลา 09.00-17.00 น. และร่วมกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดนิทรรศการแสดงพระราชประวัติและพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ หนังสือพระมหากษัตริย์ไทยแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ 10 รัชกาล (ฉบับการ์ตูน) นำเสนอวีดิทัศน์ แอนิเมชั่น ชุด 'ศาสตร์พระราชา ปรัชญาแห่งแผ่นดิน' ที่ได้ทรงพระราชทานศาสตร์พระราชาและหลักการทรงงานให้แก่พสกนิกรชาวไทยไปใช้พัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น กรมศิลปากรจัดการแสดงดนตรีสากลบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัดนิทรรศการแสดงสำเนาภาพฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เผยแพร่วีดิทัศน์ 'อัครศิลปิน โครงการสามทศวรรษ' และพระอัจฉริยภาพฯ กิจกรรมการทำภาพพิมพ์ซิลค์สกรีนภาพอัครศิลปินบนเสื้อยืด กระเป๋าผ้า มอบให้แก่ประชาชน และนักศึกษาคณะศิลปวิจิตร สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จัดกิจกรรมการวาดภาพเหมือนให้แก่ประชาชน 

กระทรวงวัฒนธรรม เชิญชวนประชาชน ร่วมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในบรรยากาศสายลมหนาว กับเทศกาลดนตรี MOC MU FES

เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ ๕ ธันวาคม 2565 เพื่อน้อมรำลึกและเทิดพระเกียรติในพระอัจฉริยภาพทางดนตรีสากล ในฐานะ “อัครศิลปิน” กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญชวนประชาชนร่วมงานเทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival (MOC MU FES) ชมการแสดง “Winter Love Songs : บทเพลงพระราชนิพนธ์” และการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” ระหว่าง ๘ - ๙ ธันวาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๗.๓๐ - ๒๑.๓๐ น. ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข กระทรวงวัฒนธรรม ถนนเทียมร่วมมิตร กทม. (ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย)  
     
นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สวธ. ได้ดำเนินโครงการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ โดยการจัดงานเทศกาลดนตรี Ministry of Culture Music Festival (MOC MU FES) การแสดง “Winter Love Songs : บทเพลงพระราชนิพนธ์” และการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” ในครั้งนี้ เพื่อน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ ๕ ธันวาคม 2565 และเทิดพระเกียรติ 'อัครศิลปิน' ในฐานะที่พระองค์ทรงพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีสากล ผ่านการแสดงดนตรีด้วยบทเพลงพระราชนิพนธ์อันทรงคุณค่า ให้พสกนิกรไทยได้มีส่วนร่วมเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ได้สร้างคุโณปการต่อประเทศนานับประการ 

“กระทรวงวัฒนธรรม ได้เปิดพื้นที่ “ลานวัฒนธรรมสร้างสุข” เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่ม ได้มีพื้นที่ทำกิจกรรมทางวัฒนธรรมร่วมกัน อาทิ กิจกรรมดนตรีในสวน ถนนสายวัฒนธรรม ศิลปะการแสดง รวมถึงตลาดนัดของดีทางวัฒนธรรม หรือเป็นพื้นที่สำหรับการออกกำลังกาย ถือเป็นการต่อยอดเผยแพร่ soft power อันจะส่งผลให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความสุขทางกายและทางใจ สร้างความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ความรัก ความสามัคคีและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ณ ลานวัฒนธรรมสร้างสุข ของกระทรวงวัฒนธรรม แห่งนี้ และลานวัฒนธรรมของจังหวัดต่าง ๆ จะเป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมให้ประชาชนทุกคนได้มีส่วนร่วมสร้างความสุขไปด้วยกัน” นางยุพา กล่าว

โดยรายละเอียดการแสดงในเทศกาลดนตรี ที่จะจัดระหว่าง ๘ - ๙ ธันวาคม นี้ นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในวันที่ ๘ ธันวาคม เวลา ๑๗.๓๐-๒๑.๓๐ น. จะเป็นการแสดง “ลีลาศสร้างสุขกับสุนทราภรณ์” ประชาชนจะได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับลีลาศและรำวงในจังหวะที่หลากหลาย บรรเลงบทเพลงโดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ ควบคุมวงโดย ครูณรงค์ เนตรเจริญ ขับขานบทเพลงโดยนักร้องคุณภาพของวงพร้อมคลื่นลูกใหม่สุนทราภรณ์ ได้แก่ พรศุลี วิชเวช โน้ต-พรชัย เอกศิริพงษ์  จิมมี่-บัญชา รักษาจันทร์ แจน-นันทพร ซัน-ชาตรี เบนซ์-วฤณพร ต๊ะ-พิเชษฐ์ แจ๊บ-ณฤพล ผิวอ่อน ขวัญ-ชณัฐศิกาญ โอ๋-ศราวิน วงษ์สุวรรณ มีน-ณัฏฐ์นรี มะลิทอง ยุ้ย-ปิยวรรณ โอ๋-ศราวิน มุข-มุขอันดา ใจยง จะเริ่มด้วยเพลงเทิดพระเกียรติ “ราชาเป็นสง่าแห่งแคว้น และร่มเกล้า” จากนั้นจะเข้าสู่การแสดงลีลาศ ๒ ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ ๑ ลีลาศ-รำวงกับสุนทราภรณ์ ประกอบด้วยจังหวะ รำวง คิวบัน บีกิน ช่าช่าช่า รุมบ้า กัวราช่า ตลุง วอลซ์ แทงโก้ ควิกวอลซ์ ฟอกซ์ทร็อต ควิกสเต็ป และบันนี่ฮ็อป รวมกว่า ๒๔ บทเพลง อาทิ รำวงมาตรฐาน รักวันเติมวัน เพ้อรัก บอกเธอเสียที หิมพานต์ เริงลีลาศ รื่นเริงใจ รักต่างแดน ตลุงมอญซ่อนผ้า แม่ทูนหัว ดอกไม้กับแมลง น่าเพลินใจ บ้านเรือนเคียงกัน และเพลิดเพลินกันให้เต็มอิ่ม ในช่วงที่ ๒ ลีลาศ-รำวง ในจังหวะที่หลากหลาย อีกกว่า ๑๙ บทเพลง อาทิ รำวงสาวบ้านแต้ สวยจริงรักจริง รักจริงไหม รักแม่เอ๊ย รักในลมหนาว แซมบ้าพารัก ร็อคเร่งรัก อย่าลืมฉัน เป็นต้น

ตม.สุราษฎร์ฯ เข้มงวดจับจีน Over Stay

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 65 เวลา 12.05 น. ภายใต้การอำนวยการและสั่งการของ พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี สั่งการให้ ร.ต.อ.ธเนศพล ละอองทอง รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมชุดสืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ใช้รถยนต์ตรวจการณ์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (SMART PATROL CAR : SPC) ออกตรวจและสืบสวนหาข่าวในช่วงระดมกวาดล้างบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอยู่เกินกำหนดอนุญาต (OVERSTAY) ห้วงวันที่ 1-10 ธ.ค. 65 ในพื้นที่รับผิดชอบ และได้จับกุมตัว Miss HuYanqiu อายุ 31 ปี สัญชาติจีน หนังสือเดินทางเลขที่ E32797XXX โดยกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” (19วัน)

เป็นของจริง!! โฆษกตำรวจ เผย เริ่มใช้ใบสั่งแบบอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ พ.ค. 65 แล้ว หลังโซเชียลเข้าใจผิดแชร์สนั่นว่า ‘เป็นของปลอม’

โฆษก ตร. ยืนยันเป็นใบสั่งจริง ตำรวจจราจรได้เริ่มใช้งานใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่ พ.ค. 65 เป็นต้นมา โดยเป็นการนำระบบเทคโนโลยีและฐานข้อมูลมาใช้ออกใบสั่งเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ   

วันนี้ (4 ธ.ค.65) เวลา 18.00 น. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า กรณีภาพถ่ายใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ที่เพจ หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา นำมาโพสต์ โดยระบุ “ใบสั่งแบบนี้มันจะไปติดที่หน้าต่างรถ อย่า scan จ่ายเด็ดขาด มันของปลอม เพื่อนเพิ่งได้รับมา” นั้น ตนได้ตรวจสอบไปยังผู้ออกใบสั่ง คือ สน.บางยี่ขัน แล้วพบว่าเป็นใบสั่งจริง 

และขอเรียนชี้แจงว่า ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ คือ การออกใบสั่งผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ประมวลผลแบบพกพา ที่มีการติดตั้งแอปพลิเคชันของสำนักงานตำรวจแห่งชาติชื่อว่า Police Ticket Management (หรือ PTM) เพื่อใช้เป็นโปรแกรมออกใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตำรวจจราจรจะพิมพ์ใบสั่งออกมาจากเครื่องให้กับผู้ขับขี่ที่ทำผิดได้ทันที โดยจะใช้กรณีที่พบการกระทำผิดซึ่งหน้า (แบบเดียวกับใบสั่งรูปแบบที่ต้องเขียนด้วยลายมือ) เช่น ไม่สวมหมวกหรือไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ขับรถย้อนศร ขับรถฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทางต่าง ๆ รวมถึงจอดรถในที่ห้ามจอดด้วย  

ข้อมูลในใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์นี้ จะมีการระบุข้อหาและอัตราค่าปรับตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบ ของ ตร. อย่างชัดเจนในใบสั่งทุกใบ โดยข้อมูลจะเชื่อมโยงกับระบบสารสนเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแบบ real time รวมถึงจะแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เช่น วัน เวลา และสถานที่ที่ทำผิด ข้อมูลทะเบียนรถ ข้อมูลใบขับขี่ (กรณีพบตัวผู้ทำผิด) ชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่ออกใบสั่ง นอกจากนั้น จะมี QR Code ด้านล่างสำหรับอำนวยความสะดวกประชาชนในการชำระค่าปรับผ่านระบบ mobile banking และ QR Code สำหรับตรวจสอบใบสั่งของตนเอง ผ่านเว็บไซต์ E-ticket (https://ptm.police.go.th/eTicket)

'ชุมพร' จัดงานเดิน - วิ่งการกุศล ‘หนองใหญ่มินิมาราธอน’ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า

วันที่ 4 ธันวาคม 2565 เวลา 06.00 น. นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานงานเดิน - วิ่ง การกุศล ‘หนองใหญ่มินิมาราธอน’ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 ณ โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ตำบลบางลึก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ร่วมกับ นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พลเอกไพโรจน์ นาคฉัตรีย์ นายกสมาคม พันตำรวจเอก เทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพรนายวิชิต ดิลกวิลาศ อุปนายกคนที่ 1 นายปรีดา เยี่ยมสวัสดิ์ อุปนายกคนที่ 2 นายลือชัย มณีศรี กรรมการและเลขาธิการ และนายวิโรจน์ แสงบางกา กรรมการที่ปรึกษา และนักวิ่งจำนวน นับ 1,500 คน

โชว์ผลงานมือปราบทุเรียนอ่อน!! 3 ปี ‘ชลธี’ จับทุเรียนอ่อนได้เพียงพันกว่าลูก แต่ไม่เคยจับทุเรียนสวมสิทธิ์แม้แต่รายเดียว

กรณีปรากฎข่าวครึกโครมเรื่องการโยกย้ายนายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสวพ.6 กรมวิชาการ เจ้าของฉายามือปราบทุเรียนอ่อนว่าเป็นการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมและจะเกิดผลกระทบต่อการปราบปรามทุเรียนอ่อนทุเรียนสวมสิทธิ์นั้น 

วันนี้มีรายงานข่าวจากกรมวิชาการเป็นรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ของนายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสวพ.6 กรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานอื่น ๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยในรายงานสรุปว่า นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสวพ.6 ไม่ปรากฏผลงานด้านการจับกุมดำเนินคดีทุเรียนสวมสิทธิ์ระหว่างปี 2563-2565 และไม่ปรากฏผลงานด้านการจับกุมดำเนินคดีทุเรียนอ่อนระหว่างปี 2563-2564 มีผลงานเพียงจับกุมดำเนินคดีทุเรียนอ่อนในปี 2565 จำนวน 3 คดี โดยอายัตของกลางเพียง 1,694 ลูกเท่านั้นหรือ 5 ตันเศษจากปริมาณการส่งออกระหว่าง 1 ก.พ. - 5 มิ.ย. 2565 มีปริมาณ 433,809.92 ตัน

ทั้งนี้เป็นรายงานและตารางแสดงผลการปฏิบัติราชการป้องกันและปราบปรามทุเรียนสวมสิทธิ์และทุเรียนอ่อนระหว่างปี 2563-2565 ของหน่วยงานสำคัญ 3 หน่วย ได้แก่ สวพ.6 ด่านตรวจโรคพืชจันทบุรีและด่านศุลกากรจันทบุรีซึ่งปรากฏรายงานดังนี้

“…รายงานการจับกุมดำเนินคดีทุเรียนสวมสิทธิ์และทุเรียนอ่อนในพื้นที่ภาคตะวันออก

1. ทุเรียน สวมสิทธิ์   
ปี 2563 ด่านตรวจพืชจันทบุรีจัมกุมร่วมกับด่านศุลกากรจันทบุรีดำเนินคดีศุลกากร (จับที่หน้าด่านนำเข้า)
ปี 2564 ด่านตรวจพืชจันทบุรีจับกุมส่งดำเนินคดีที่โรงพักสภอ.เมืองจันทบุรี (จับที่โรงคัดบรรจุ)
ปี 2565 ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภอ.ท่าใหม่ รวม 3 ครั้ง 
หมายเหตุ ; ระหว่างปี 2563-2565 
ไม่มีคดีของสวพ. 6

2. ทุเรียนอ่อน 
ปี 2565 ดำเนินคดี 3 คดี อายัดทุเรียน 1,694 ลูก น้ำหนักรวม 5,306 กก ดำเนินการ โดยสวพ. 6
หมายเหตุ : 
1. ระหว่าง ปี 2563-2564 ไม่มีคดีทุเรียนอ่อนดำเนินการโดยสวพ.6
2. สวพ.6 มีหน้าที่ตรวจสอบทุเรียนอ่อนโดยตรงหน่วยเดียวและตรวจทุเรียนอ่อนทุเรียนสวมสิทธิ์ก่อนปิดตู้เพื่อส่งออกหรือเคลื่อนย้ายทุเรียนออกจากสถานประกอบการ (ล้ง)

จากผลงานการปฏิบัติงานของนายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสวพ.6 ดังกล่าวทำให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรต้องลงไปจันทบุรีด้วยตัวเอง เพื่อเร่งรัดการทำงานปราบปรามทุเรียนอ่อนทุเรียนสวมสิทธิ์และในวันที่ 14 มีนาคม 2565 นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้แถลงข่าวร่วมกับนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กรณีการจับกุมและดำเนินคดีตัดทุเรียนไม่ได้คุณภาพ (อ่อน) เพื่อการส่งออกที่สถานีตำรวจภูธรท่าใหม่ ซึ่งได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีมีล้งทุเรียนแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี มีการรับซื้อทุเรียนด้อยคุณภาพ (ทุเรียนอ่อน) เพื่อนำส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศจีน และเป็นทุเรียนจากสวนและล้งที่สวพ.6 ออกใบรับรอง GAP และ GMP


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top