Wednesday, 8 May 2024
POLITICS

“โฆษกรัฐบาล” โต้ “ พิชัย” โฆษณาชวนเชื่อ ให้ข้อมูลด้านเดียว เหน็บ ปี 2555 เศรษฐกิจโต เพราะโครงการ “ประชานิยม” สุดล้มครืน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวพาดพิงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่าไม่สามารถผลักดันเศรษฐกิจในช่วง 7 ปีให้เติบโต แม้น้ำมันจะมีราคาถูก และไม่ช่วยประชาชนให้มีชีวิตรอดจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ไม่เหมือนสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ฯ ที่เศรษฐกิจเติบโตถึง 7.2% แม้น้ำมันจะมีราคาสูง ว่า คำกล่าวอ้างของนายพิชัย เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ให้ข้อมูลเพียงด้านเดียว ไม่ครบถ้วน เพราะปีที่เศรษฐกิจเติบโต 7.2% คือ ปี 2555

ซึ่งขณะนั้นราคาน้ำมันอยู่ในระดับปกติ จึงไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังผ่านจุดต่ำสุดจากวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป แต่นโยบายประชานิยมระยะสั้น เช่น รถคันแรก ที่ช่วงแรกเหมือนจะดูดีแต่สุดท้ายก็ต้องอวสานเพราะหลายคนไม่ได้โอนสิทธิ์ ผ่อนต่อไม่ไหว ถูกไฟแนนซ์ยึด จนถูกยกเป็นตัวอย่างของโครงการประชานิยมที่ล้มเหลวมาถึงปัจจุบัน

"วราวุธ" เผย​ สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือปีนี้ดีกว่าปี64​ ถึง​ 70% ค่า PM2.5 สูงบางพื้นที่​ พร้อมยัน  ไม่กังวล พท.เปิดตัว​ "อุ๊งอิ๊ง" บอกเป็นคนรุ่นใหม่​ จะได้มีมิติใหม่ๆ​ เชื่อ​ ไม่ลงเอยแบบ พ่อ-อา​ เหตุต่างกรรมต่างวาระ​ มีบทเรียนแล้ว

เมื่อเวลา​ 08.25​ น.​ ที่ทำเนียบรัฐบาล​ นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ (ทส.)​ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5  ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา​ ว่า สถานการณ์หมอกควันของปี 65 70 ดีกว่าปี 64 ถึง​ 70% ดูได้จากจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศไทย นั่นหมายความว่าสิ่งที่กระทรวง​ ทส.และประชาชนร่วมมือกับทุกๆหน่วยงาน เร่งลดดูดความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศไทยให้ลดไปได้มากพอควร แต่ในบางพื้นที่ปริมาณ PM 2.5 ก็ยังมากพอสมควร

เนื่องจากได้รับมลภาวะจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้กำชับกรมควบคุมมลพิษให้ประสานงานไปยังเลขาธิการอาเซียน เพื่อประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านช่วยกวดขันมาตรการหมอกควันข้ามแดน อย่างไรก็ตาม สำหรับ จ.แม่ฮ่องสอน ยังถือว่ามีจุดความร้อน ปริมาณสูงกว่าพื้นที่อื่นๆในภาคเหนือ ตนได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ตรวจสถานการณ์ในจังหวัดดังกล่าวพร้อมทั้งกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งประชาสัมพันธ์กวดขันเรื่องจุดความร้อนไม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ป่า ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับด้วยความเป็นห่วง และตนได้รายงานสถิติ ตัวเลขนับเวลาเดียวกันระหว่างปี 6​4​ กับปีนี้ ว่าเรายังอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าที่เป็นมา รวมทั้งรายงานให้นายกฯทราบว่าปริมาณ PM  2.5. ในบางพื้นที่ยังส่งผลกระทบต่อประชาชนอยู่

นอกจากนี้ นายวราวุธ​ ศิลปอาชา​ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา​ (ชทพ.)​ ให้​สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัว​ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ เป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ว่า การเปิดตัวดังกล่าวชทพ.ไม่ได้มีความกังวล​ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่จะได้มีบุคลากรทางการเมือง มีคนที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานการเมืองเพิ่มขึ้น คุณอุ๊งอิ๊งก็เป็นทายาทของอดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ที่สำคัญคือเป็นคนรุ่น ที่จะได้เข้ามาทำงานการเมือง คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี จะได้มีมิติใหม่ๆเข้ามา

“ทร.”  โต้ “ยุทธพงศ์” ปมจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับ (UAV) ระบุ ไม่เกี่ยว บ.จัดซื้อเรือดำน้ำ  

เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) พล.ร.ท.ปกครอง  มนธาตุผลิน  โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึง กรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร กล่าวหาฃกองทัพเรือในกรณีการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ (UAV) และโครงการท่าเรือดำน้ำนั้น ว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นไปตามที่กล่าวหา โดยตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ไม่พบว่าบริษัทที่มายื่นข้อเสนอ UAV มีความเกี่ยวพันกับบริษัทเรือดำน้ำ และขอยืนยันว่ากองทัพเรือได้ดำเนินการจัดหา UAV ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด มีใช้งานจริงในกองทัพของหลายประเทศ มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการใช้งานสูง รวมถึง ประเด็นครูภาษานั้น ทร.ได้ตรวจพบเองตั้งแต่ต้น และได้ดำเนินสั่งห้ามบุคคลเหล่านั้นเข้าพื้นที่ ตั้งแต่ ธ.ค.64 โดยขอแยกเป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้ 
 
1. ประเด็นที่ระบุว่า กองทัพเรือเปลี่ยนแบบ UAV จาก Wing Loong ของประเทศจีน เป็น UAV แบบ Hermes 900 ของประเทศอิสราเอล เนื่องจากปัญหาความไม่โปร่งใสในโครงการจัดหาเรือดำน้ำของจีนโดย บริษัทที่นำ UAV แบบ Hermes 900 เข้ามาอยู่ในเครือข่ายบริษัทนายหน้าของเรือดำน้ำจีนเช่นกันนั้น กองทัพเรือขอชี้แจงว่า ได้ตรวจสอบความสัมพันธ์มของผู้ยื่นข้อเสนอ UAV ทุกรายเบื้องต้นแล้ว ไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันและไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหาเรือดำน้ำแต่อย่างใด ทั้งนี้การดำเนินโครงการจัดหา UAV ในครั้งนี้ เป็นการจัดซื้อโดยวิธีคัดเลือก โดยกำหนดคุณสมบัติและขีดสมรรถนะตามความต้องการของกองทัพเรือ ซึ่งจะต้องมีการรับรองมาตรฐานด้านการบิน มีความน่าเชื่อถือและความพร้อมใช้งาน รวมทั้งมีความสามารถในการอยู่รอดสูง ในการปฏิบัติภารกิจทั้งทางทะเลและทางบก มีใช้งานในกองทัพของประเทศผู้ผลิต มีค่าใช้จ่ายต่ำ มีการฝึกอบรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี ตลอดจนมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลของโครงการฯ สูงสุด แต่เนื่องจากการดำเนินการจัดซื้อยังไม่เสร็จสิ้น จึงยังไม่สามารถให้รายละเอียดทั้งหมดได้
 
2. ประเด็นข้อกล่าวหาว่า UAV แบบ Hermes 900 ของอิสราเอล เป็น UAV ที่ กองทัพเรือประเทศอื่นไม่เคยใช้งานมาก่อน รวมถึงมีประวัติการตกนั้น ขอนำเรียนว่า  UAV ของทุกบริษัทที่ ทร.เชิญชวนยื่นข้อเสนอ มีใช้กันในหลายประเทศ และได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จึงขอให้วางใจว่ากองทัพเรือจะได้รับ UAV ที่ได้มาตรฐาน คุ้มค่ากับภาษีของประชาชนมาใช้งาน ส่วนเรื่องการตกของ UAV นั้น เป็นเรื่องเป็นไปได้ เหมือนการตกของเครื่องบินชนิดอื่นๆ ซึ่งจากข้อมูลการตกของ UAV ทั่วโลก อ้างอิงจากเว็บไซต์ https://dronewars.net/drone-crash-database/ พบว่ามี UAV หลายประเทศทั้งของ อิสราเอล สหรัฐอเมริกา จีน อิตาลี ตุรกี รวมถึง ประเทศอื่นๆ  มีประวัติเกิดอุบัติเหตุเหมือนกันหมด ดังนั้นการตกของ UAV อาจจะไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของระบบหรือความผิดปกติของเครื่องยนต์ แต่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การโดนต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม สภาพอากาศที่แปรปรวน /ทักษะ หรือประสบการณ์ของผู้บังคับเครื่อง UAV อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับความน่าเชื่อถือของระบบ มั่นใจได้ว่า ระบบ UAV ที่ ทร.จะได้รับดีที่สุดตามวัตถุประสงค์การใช้งานและความต้องการของ ทร. ในวงเงินที่กำหนด   3.”กองทัพเรือขอเรียนว่า การจัดหา UAV ในครั้งนี้ ได้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม เป็นไปตามกฎหมาย และปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน  มีเอกสารหลักฐานการดำเนินงานอย่างชัดเจน มีขั้นตอน ตอบข้อสงสัยและข้อซักถาม รวมทั้งโครงการนี้ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมการจัดทำ “ข้อตกลงคุณธรรม ประจำปี งป. 65” โดยคณะกรรมการความร่วมมือการป้องกันการทุจริต (ค.ป.ท.) ได้จัดคณะผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นตัวแทนจากภาคประชาชน ร่วมสังเกตและให้คำแนะนำตั้งแต่เริ่มต้นจนสิ้นสุดโครงการ”

'หมอเก่ง' จี้ 'อนุทิน' ศึกษาข้อมูลใหม่ นำเข้ายาสู้โควิดที่ได้ผล อย่าเสียดายงบประมาณ มุ่งรักษาชีวิตประชาชนไว้ก่อน

21 มี.ค. 65 นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวแสดงความเห็นกรณีที่ในวงการแพทย์ทางวิชาการ มีการถกเถียงถึงประสิทธิภาพของ 'ยาฟาวิพิราเวียร์' ที่ใช้ในการรักษาต้านโรคโควิด-19 

"จากกรณีที่มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางถึงประสิทธิภาพของยาฟาวิพิราเวียร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สรุปแล้วยาฟาวิพิราเวียร์นั้นมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะใช้รักษาต้านโรคโควิด-19 หรือไม่ โดยการถกเถียงนั้นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายที่หนึ่งอ้างอิงข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ในต่างประเทศ ซึ่งรายงานออกมาอย่างต่อเนื่องว่า ยาฟาวิพิราเวียร์นั้นไม่ค่อยมีประสิทธิภาพต่อการรักษากับโรคโควิด-19 กับฝ่ายที่สอง อ้างอิงข้อมูลจากผลการศึกษาในประเทศ ซึ่งรายงานว่า ยาฟาวิพิราเวียร์นั้นมีประสิทธิภาพสามารถรักษากับโรคโควิด-19 ได้ ในกลุ่มที่อาการไม่รุนแรงจนถึงอาการรุนแรงปานกลาง ซึ่งจะเห็นได้ว่า ทั้งสองฝ่ายโต้แย้งกันโดยอาศัยข้อมูลคนละชุดกัน ดังนั้น การพิจารณาถึงน้ำหนักความน่าเชื่อถือของข้อมูลจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา"

วาโย กล่าวต่อไปว่า เมื่อสืบค้นในฐานข้อมูลทางการแพทย์ระดับสากล พบว่า มีรายงานทางวิชาการหลายฉบับให้ข้อสรุปค่อนข้างตรงกัน ซึ่งได้รายงานอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาจนถึงล่าสุดในช่วงต้นปี 2565 นี้เอง ร่วมกับรายงานทางวิชาการในระดับที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งอาจถือได้ว่าสูงที่สุด ที่ได้จากการวิเคราะห์อภิมานหรือที่เรียกว่า “Meta Analysis” เผยแพร่เมื่อช่วงปลายปี 2564 โดยได้รายงานว่า “No significant beneficial effect on the mortality among mild to moderate COVID-19 patients” 

"แปลเป็นไทยได้ว่า 'ยาฟาวิพิราเวียร์' ไม่มีประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราการตายในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงไปจนถึงในรายที่มีอาการรุนแรงปานกลาง

"อย่างไรก็ตาม พบว่า มีรายงานบางฉบับรายงานว่า ยาฟาวิพิราเวียร์มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยเมื่อใช้รักษากับโรคโควิด-19 ในหลอดทดลอง อีกทั้งยังพอจะปรากฏรายงานว่ายาฟาวิพิราเวียร์นั้นช่วยให้อาการโดยรวมดีขึ้นได้ ถึงแม้จะไม่ช่วยลดปริมาณไวรัสและอัตราการตายอย่างมีนัยสำคัญก็ตาม โดยฝ่ายที่โต้แย้งข้อมูลดังกล่าว โต้แย้งด้วยข้อมูลจากผลการศึกษาวิจัยในประเทศโดยคณะแพทย์แห่งหนึ่ง ร่วมกับหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขหลายหน่วยงาน 

'กกต. - สถาบันพระปกเกล้า' ลงนามความร่วมมือเสริมสร้างความเป็นพลเมืองคุณภาพพร้อมเข้าใจการปกครองระบอบประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่สถาบันพระปกเกล้า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ร่วมกับ สถาบันพระปกเกล้า จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองคุณภาพและความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมี นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. รักษาการแทนเลขาธิการ กกต.  นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และผู้บริหารของทั้ง 2 หน่วยงาน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 

โดยการลงนามความร่วมมือดังกล่าว ได้กำหนดให้มีการฝึกอบรมหลักสูตรฝึกอบรมวิทยากรตัวคูณสำหรับการอบรมความรู้เกี่ยวกับการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ของสถาบันพระปกเกล้า ระหว่างวันที่ 21 - 22 มี.ค.โดยผู้เข้ารับการอบรม ประกอบด้วย พนักงานจากสำนักงาน กกต. สังกัดกลุ่มภารกิจการมีส่วนร่วม จำนวน 4 ฝ่ายๆ ละ 2 คน รวม 8 คน และพนักงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และศูนย์ส่งเสริมการศึกษาและการมีส่วนร่วมของพลเมืองที่ 1 - 8 จำนวน 92 คน รวมจำนวนทั้งสิ้น 100 คน

“อัครเดช” ฟาด “อันวาร์” สิ่งที่ทำสะท้อนการรักพรรคอย่างไร? ยืนยัน “จุรินทร์-เฉลิมชัย” รับฟังความเห็นลูกพรรคทุกคน ท้าเปิดหลักฐานคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเข้าร่วมรัฐบาล แซะ หากเป็นพรรคอื่นโดนยึดเก้าอี้ ปธ.กมธ.คืนแล้ว

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ออกมากล่าวหาว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคไม่ชอบหน้านายอันวาร์นั้น ขอชี้แจงว่าหัวหน้าและเลขาธิการพรรคไม่ได้เกลียดหรือไม่ชอบนายอันวาร์ ซึ่งเท่าที่ตนได้พูดคุยกับหัวหน้าและเลขาธิการพรรคทั้ง2ท่านก็รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกคน ดังนั้นจึงคิดว่าน่าจะเข้าใจผิดของนายอันวาร์ และการที่นายอันวาร์ออกมาบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนเผด็จการนั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง 

เนื่องจากการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นมติส่วนใหญ่ของพรรคที่ให้เข้าร่วมรัฐบาล โดยมีเงื่อนไข 3 ข้อ คือ ต้องรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรเป็นนโยบายรัฐบาล  ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และรัฐบาลต้องบริหารราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ดังนั้นการอ้างว่าคนส่วนใหญ่ไม่พอใจนั้นไม่เป็นความจริง และคนส่วนใหญ่ที่นายอันวาร์กล่าวอ้างคือใคร ขอให้เอาหลักฐานมา อย่ากล่าวอ้างลอยๆ

เบิร์ธเดย์ “บิ๊กตู่” 68 ปี เข้าทำเนียบ ขอบุคคลภายนอกงดเข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด เหตุโควิดแพร่ระบาด  รองนายกฯ-รมต.ทยอยส่งดอกไม้ขึ้นตึกไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจภายในตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เวลา 09.00 น.ตามปกติ โดยไม่มีวาระงานหรือกำหนดการอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ขณะเดียวกันวันเดียวกันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 68 ปี ของนายกรัฐมนตรี และเนื่องจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ได้เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าอวยพรในวันคล้ายวันเกิดในปีนี้ 

โดยขอให้ส่งเป็นหนังสือหรือบัตรอวยพรแทนเท่านั้น ขณะเดียวกันได้มีแจกันดอกไม้ จากรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และบรรดาบุคคลสำคัญต่างๆ ทยอยส่งมาอวยพรให้นายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้าต่อเนื่องเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 68 ปี บรรดาคณะทำงานในทำเนียบรัฐบาล โฆษกรัฐบาล เข้าอวยพรตั้งแต่ช่วงเช้า

อย่างไรก็ตาม มีรายงานแจ้งว่า ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเดินทางเข้าพบที่บ้านพักในร.1 พัน.1 รอ. คาดว่าได้เข้าอวยพรเป็นการส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวอวยพร ว่า เนื่องในโอกาสวันครบรอบวันคล้ายวันเกิดของนายกรัฐมนตรี ขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก บุญพระบารมีพระสยามเทวาธิราชย์และพระแก้วมรกต ตลอดจนพระบารมีแห่งองค์บูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ จงดลบันดาลประทานพร แผ่พระบารมีปกป้องคุ้มครองท่านนายกฯทำงานที่ยิ่งใหญ่เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชน อย่างราบรื่น ปราศจากปัญหาและอุปสรรคใดๆทั้งหลายทั้งปวง ขอให้ท่านนายกฯได้รับชัยชนะทุกเรื่อง ชนะศัตรูหมู่มาร ทำงานประสบความสำเร็จทุกสิ่ง เพื่อให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่งอยู่ดีกินดี ขอให้ท่านนายกฯมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นผู้นำบ้านเมืองอยู่บริหารประเทศชาติสืบต่อไป

"นายกฯ"หนุน วิจัย-พัฒนายาและเวชภัณฑ์ ให้เข้าถึงง่าย ด้านสธ.ยัน “ฟาวิพิราเวียร์” มีประสิทธิภาพรักษาผู้ป่วยโควิด -19 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ย้ำให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด – 19 เน้นคำนึงถึงทุกปัจจัยอย่างครอบคลุม ทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความสามารถในการจัดหาเวชภัณฑ์ การจัดระบบบริการรองรับผู้ป่วยให้สามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ในคราวการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ยังกำชับให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามประสิทธิภาพเวชภัณฑ์ ทั้งวัคซีนและยารักษา โดยเฉพาะให้สำรวจงานวิจัยและการพัฒนา เพื่อนำมาขึ้นทะเบียน สำหรับประชาชนได้ใช้เพิ่มเติม เพี่อส่งเสริมระบบสาธารณสุขไทยมีความเข้มแข็ง พร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดและผู้ป่วยโควิด – 19 ด้วย

นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่าประสิทธิภาพของยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยา(อย.)ในการรักษาไข้หวัดใหญ่ พบว่าผู้ป่วยหลายรายมีอาการดีขึ้น มีผลการรักษาที่ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาและควบคุมป้องกันโรคจึงพิจารณาให้นำยาฟาวิพิราเวียร์มาใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด – 19  ประกอบกับไทยเองสามารถจัดหายาฟาวิพิราเวียร์จำนวนมากได้ในราคาที่ไม่แพง
ยืนยันว่าไม่มีการนำยาที่ไม่มีประสิทธิภาพ หรือเป็นอันตรายมาใช้ในการรักษาผู้ป่วย 

'รองโฆษกรัฐบาล' เผย ส่งออกขนมไทย ไปจีน-ญี่ปุน พุ่ง

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายใต้การขับเคลื่อนนโยบายการตลาดนำการผลิตของรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการ ให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP)ศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคกลุ่มต่างๆในประเทศที่เป็นตลาดส่งออก เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนการผลิตและส่งออกให้กับผู้ประกอบการของไทย ซึ่งกลุ่มสินค้าขนม เป็นหนึ่งในสินค้าหมวดอาหารที่มีโอกาสเติบโตอย่างมากในหลายประเทศ โดยเฉพาะในจีน และญี่ปุ่น กอปรกับภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่คนหาสิ่งเพลิดเพลินทำในบ้านแทนการออกไปใช้เวลาในที่สาธารณะ ถือเป็นปัจจัยเสริมการส่งออกในภาพรวมอีกด้วย

น.ส.รัชดา กล่าวว่า การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย ผลิตสินค้าให้ตรงกับพฤติกรรมการบริโภค โดยให้ผู้ซื้อเป็นตัวตั้ง และที่ผ่านมาตัวเลขการส่งออกสินค้าอาหารที่โตขึ้นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ข้อมูลที่น่าสนใจจากการศึกษา อาทิ กลุ่มนักศึกษาจีน กลุ่มเพศหญิงจะนิยม ขนมแป้งเส้นรสเผ็ด ขนมหรืออาหารกระป๋อง และคุกกี้หรือเค้ก กลุ่มเพศชายจะนิยมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถั่ว และผลไม้อบแห้ง เครื่องดื่ม กลุ่มนักศึกษาที่เกิดหลังปี 2000 ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือชายนิยมดื่มน้ำผลไม้และชานม 

Chelsea จะไปต่ออย่างไร? เมื่ออังกฤษแบน Roman Abramovichถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม...เป็นอย่างน้อย | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.44

✨ Chelsea จะไปต่ออย่างไร? เมื่ออังกฤษแบน Roman Abramovich ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม...เป็นอย่างน้อย
✨ SONY ระงับกิจการในรัสเซีย ทั้ง PlayStation, Games และ Anime เพื่อประท้วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน
✨ คนอเมริกันโวย!! ราคาน้ำมันพุ่ง 2 เท่า!! หลังรัฐบาลสั่งห้ามนำเข้าพลังงานรัสเซีย ขณะที่ด้านยุโรปไม่พร้อมทำตาม เพราะอาจพังไปด้วย
✨ ไหนว่าคริปโตแทรกแซงไม่ได้? เมื่อ ‘US - EU’ ตัดรัสเซียจาก ‘IMF-World Bank’ พร้อมบีบให้ไม่สามารถใช้สกุลเงินคริปโตซะแล้ว!!
✨ พาณิชย์สหรัฐฯ ขู่!! บริษัทจีนที่ส่งออกสินค้าไปรัสเซีย จะถูกคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯ แน่ๆ

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

.

.

เปิดตัว ‘อุ๊งอิ๊ง’ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินหน้าลุยสร้างบ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ จ.อุดรธานี มีการจัดกิจกรรมเปิดตัว “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” โดยมีแกนนำพรรค อาทิ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และรองหัวหน้าพรรคพท. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคพท. นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคพท. นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพท. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานโซน 2 กทม. พรรคพท. น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคพท. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคพท. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ร่วมกิจกรรม ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีส.ส.ของพรรคพท. สมาชิกพรรค และประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 1500 คนด้วย

นายสุทิน กล่าวว่า ครอบครัวแรกของตนคือไทยรักไทย (ทรท.) ที่มาพร้อมความหวังของพี่น้องประชาชนขณะนั้น ครอบครัวเราเกิดขึ้นครั้งแรกภายใต้การนำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชาวบ้านอยู่ดีกินดี ลืมตาอ้าปาก และได้เรียนรู้ประชาธิปไตยกินได้ ในวันนั้นเรามีเงินคงคลังเยอะมาก ในขณะที่ประเทศไทยกำลังแข็งแรงเกิดกระบวนการที่จะถอดปลั๊กประเทศด้วยความอิจฉา พรรคการเมืองบางพรรคเริ่มมองไม่เห็นหนทางที่จะกลับมา ในวันที่ 30 พฤษภาคม 50 มีคำสั่งศาลยุบพรรคทรท. แต่พี่น้องเราวันนั้นก็ยังไม่ตาย เราร่วมกันสร้างบ้านหลังใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิมชื่อ พลังประชาชน (พปช.)

จากนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ชาวทรท.ได้ตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่อีกครั้งภายใต้ชื่อ พปช. เรารวบรวมสมาชิกที่แตกกระเสนซ่านเซ็นกลับบ้านอีกครั้ง และทำงานภายใต้ดีเอ็นเอเดิมของ ทรท. เราชนะการเลือกตั้ง ขณะที่เราเข้ามาบริหารประเทศเราเจอวิกฤตโลกหลายอย่าง ทั้งวิกฤตค่าเงินแพงวิกฤติพลังงาน น้ำมันแพงสูงถึง 140 เหรียญสหรัฐต่อบางเรล เราเร่งแก้ปัญหาด้วยการเราลดค่าแก๊ส ค่าน้ำ ค่าไฟ และรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี แต่สุดท้ายผู้นำของเราคือ นายสมัคร สุนทรเวช ถูกศาลตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หัวหน้าพรรคพท.คนใหม่ก็เข้าทำเนียบไม่ได้ เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ปิดล้อมทำเนียบ จนต่อมาถูกพรรคพปช.ถูกยุบ ทำให้สมาชิกแตกกระเซ็นอีกครั้งไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่เราเลือกที่จะตั้งพรรคอีกครั้งชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) โดยในขณะนั้นมีพี่น้องคนเสื้อแดงออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า พรรคพท.ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 54 ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เราได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จากที่ประชาชนสิ้นหวังประชาชนเหมือนได้รับแสงสว่าง และชีวิตดำเนินต่อไปได้อย่างมีความหวัง เรามีนโนบายค่าแรงขั้นต้ำ กองทุนหมู่บ้าน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ นโยบายจำนำข้าว นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร ฯลฯ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย เราตั้งแต่ทรท. พปช. มาพท. เราเป็นบ้านหลังใหญ่ที่อยู่เคียงข้างประชาชน แม้จะมีความพยายามจากกลุ่มคนที่จะลำบากบ้านของเรา มีโจรขึ้นบ้านเพื่อขโมยสมาชิกในบ้านของเรา แต่เรายังจะจับมือกันแน่นเพื่อฝ่าฟันไปด้วยกัน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ที่ประเทศไทยต้องสูญเสียโอกาส ที่เผด็จการที่ช่วงชิงความหวัง และความฝันของพวกเรา พท.จะจดจำความรู้สึกนี้ของประชาชนเอาไว้ และเราจะกลับมาสานต่อนโยบายที่ค้างกันเอาไว้ให้สำเร็จ เราจะคืนความหวัง และคืนชีวิตใหม่ให้กับประชาชนอีกครั้ง ให้สมกับความเชื่อมั่นที่มีมาให้กันโดยตลอด 23 ปีอย่างแน่นอน

'เฉลิมชัย' มั่นใจประชาธิปัตย์ได้ส.ส.เพิ่ม ย้ำปชป.ยุคนี้เปิดกว้างไม่ใจแคบให้โอกาสทุกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการสัมมนา ส.ส. กรรมการบริหารพรรค และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมแคนทารีฮิลล์ จังหวัดเชียงใหม่ว่า 

การสัมมนาครั้งนี้เป็นเหมือนธรรมเนียมปฏิบัติที่พรรคจัดสัมมนาสัญจรในต่างจังหวัดช่วงปิดสมัยประชุม เพื่อให้ ส.ส. กรรมการบริหารพรรค และรัฐมนตรีได้มีโอกาสพูดคุยกัน  ซึ่งการจัดสัมมนาแต่ละครั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ภายในพรรคที่ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่เราจะได้มีช่วงเวลาหลังจากได้ทำงานแล้วมาพูดคุย ให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้พรรคเดินไปข้างหน้า 

ซึ่งจากจำนวน ส.ส. 51 คนที่เรามี แม้จะไม่มาก แต่พลังที่จะมีมากหรือน้อยไม่ได้อยู่ที่จำนวน แต่อยู่ที่การกระทำของเราทั้งหมด เราจะทำให้มีพลังก็ได้ จะทำให้เบาอ่อนแรงเลยก็ได้ ตนจึงเรียกร้องทุกคนว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน ขอให้ทุกคนมาช่วยกันสร้างพรรค มาช่วยกันพาประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า 

“วันนี้ถึงเราจะมี ส.ส.ไม่มาก เราต้องช่วยกัน สิ่งที่จะทำให้ประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า สิ่งที่จะทำให้ประชาธิปัตย์กลับคืนมาอีกครั้ง นั่นคือเราต้องเพิ่มจำนวน ส.ส.ให้ได้ สร้างความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนให้ได้ และมีนโยบายที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งทั้งนโยบาย ชื่อเสียงพรรค อุดมการณ์พรรค ต้องตรงกับคนที่ใช่ด้วย ถึงจะนำไปสู่ชัยชนะได้” นายเฉลิมชัยกล่าว 

พร้อมกับได้ให้คำมั่นกับ ส.ส. ประชาธิปัตย์ว่า ตนจะไม่มีวันปล่อยท่านสอบตกเด็ดขาด และมาช่วยกันสร้าง ส.ส. เพิ่ม เพราะตนเชื่อว่าเราจะกลับมาได้ จะกลับมาได้ด้วยพลัง และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรค รวมทั้งการทุ่มเทการทำงาน การเสียสละ 

“ผมพูดวันนี้คือสิ่งที่ผมพยายามปฏิบัติ ผมรู้ว่าทุกคนเหนื่อยในสภาวะอย่างนี้ ก็ได้พยายามให้กำลังใจ พยายามพูดคุย แม้จะทำได้ไม่ครบ 100% อาจจะทำได้ไม่ถูกใจ 100% แต่กรรมการบริหารพรรคชุดนี้ขึ้นมาเมื่อมีการเลือกตั้งเสร็จ และต้องรับผิดชอบพรรคที่จะพาไปสู่การเลือกตั้งในครั้งหน้า ผิดพลาดหรือสำเร็จไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบ และคงไม่มีมนุษย์คนไหนที่อยากจะล้มเหลว ผมก็เช่นเดียวกัน เรามีพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง เรามีผู้ใหญ่ที่ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา เรามีสมาชิก มี ส.ส. ที่มีคุณภาพ นี่คือต้นทุนการเมืองที่ดีที่สุด แต่อยู่ที่ว่าเราจะใช้สิ่งที่เรามีให้เกิดประโยชน์ เกิดประสิทธิภาพและเดินไปสู่เป้าหมายได้อย่างไรเท่านั้น” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าว 

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า แม้ปัจจัยการเมืองปัจจุบันเปลี่ยนไปหลายอย่าง เราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเมือง แต่ต้องไม่ทิ้งอุดมการณ์และหลักการของพรรค ถ้าเราทิ้งหลักการและอุดมการณ์ของพรรค ก็หมดสิ้นความเป็นประชาธิปัตย์ แต่ถ้า 2 อย่างนี้ยังไม่พอ ก็ต้องหาสิ่งที่มาเสริมเพื่อให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ ตามสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต

“ผมขอให้กำลังใจ ส.ส. และผู้สมัครทุกท่าน ยังไม่มีการเลือกตั้ง อย่าไปกลัว มี 1 สมอง 2 มือ 2 ขา เหมือนกัน อย่าไปกลัว ถ้ากลัวตั้งแต่ยังไม่ทันเลือก กลัวตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่สงครามไม่มีวันเจอคำว่าชนะหรอก ผมมั่นใจว่าท่านหัวหน้า ท่านกรรมการบริหารพรรค ท่านประธานที่ปรึกษา พร้อมที่จะยืนเคียงข้างกับพวกเราทุกคน และ ณ วันนี้ ผมก็มั่นใจว่าประชาธิปัตย์ต้องได้ ส.ส. มากกว่าเดิม 100% ไม่ใช่แค่ขอรักษา ส.ส. เท่าที่มีอยู่ ผมยืนยันด้วยเกียรติ ด้วยศักดิ์ศรี และพร้อมจะรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้นของประชาธิปัตย์ทั้งหมด” 

‘วิโรจน์’ เชื่อแนวทาง ‘ก้าวไกล’ โดนใจคนกรุง ชูแนวคิด 'เมืองที่คนเท่ากัน' พร้อมเปิด 12 นโยบายหลัก 27 มีนาคมนี้

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล ร่วมเวทีเสวนาวิชาการ BKK move forward ณ ลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 65 โดยวิโรจน์ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายในงานถึงความพร้อมในการลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. และการเปิดตัวนโยบายเพื่อสร้าง "เมืองที่คนเท่ากัน" ในวันที่ 27 มีนาคมที่จะถึงนี้ วิโรจน์ตอบผู้สื่อข่าวภายในงานและย้ำถึงความมั่นใจในศึกเลือกตั้งครั้งนี้

ระหว่างการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความมั่นใจภายหลังคะแนนนิยมจากผลโพลเพิ่มขึ้นในรอบเดือนที่ผ่านมา วิโรจน์ ได้ให้ความเห็นว่า ความนิยมของตนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนความต้องการของคนกรุงเทพที่สอดคล้องกับแนวทางการทำงานของพรรคก้าวไกล วิโรจน์ยังย้ำว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ตนเพียงคนเดียว แต่ยังมีทีมที่พร้อมซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลังอย่างพรรคก้าวไกล พร้อมชูจุดเด่น "สามประสาน" ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวที่ได้ส่งว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พร้อมทั้งผู้สมัครส.ก. ครบทีม และมีส.ส. เขต ทำงานในพื้นที่กรุงเทพ ซึ่งจะช่วยให้คนกทม. สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะจะมีการทำงานอย่างอย่างไร้รอยต่อ สอดประสานราบรื่นในแง่ของงบประมาณ นโยบาย และความรวดเร็ว

“ยุทธพงศ์” แฉ 3ป. - 1 ช. คาดฮั้วประมูลโครงการท่อส่งน้ำฯ ในอีอีซี ให้บริษัทวงษ์สยามฯ แทนบริษัท East Water ยักษ์ใหญ่เรื่องท่อส่งน้ำฯ พร้อมจ่อ ยื่นญัตติซักฟอก 23 พ.ค.นี้ ย้ำ! ต้องทำทันทีกัน “บิ๊กตู่” ยุบสภาหนี พร้อมถามหายาฟาวิพิราเวียร์ หลังชาวบ้านติดโควิดได

ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่าการประมูลระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกของกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นท่อส่งน้ำในพื้นที่อีอีซี ที่มีอยู่ 3 เส้นหลักคือเส้นที่ 1 โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย - มาบตาพุด - สัตหีบ ที่กรมธนารักษ์ได้จ้าง บริษัท East Water บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ มาจัดทำบริการโดยสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.2566 เส้นที่ 2 คือโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล - หนองค้อ และเส้นที่ 3 โครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ - แหลมฉบัง (ระยะที่สอง) ซึ่งทั้งหมดนี้มีความไม่โปร่งใสในการประมูลโครงการ

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า โดยบริษัทที่ชนะประมูลในครั้งนี้ คือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเสนอส่วนแบ่งให้กับรัฐเป็นค่าแรกเข้าเพื่อทำสัญญา (ชำระปีแรก) 1,450 ล้านบาท และส่วนแบ่งรายได้รายปี 21,335 ล้านบาท รวมทั้งหมด 25,693 ล้านบาท ส่วนบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท East Water เสนอค่าแรกเข้าเพื่อทำสัญญา (ชำระปีแรก) 1,550 ล้านบาท และส่วนแบ่งรายได้รายปี 19,755 ล้านบาท รวมทั้งหมด 24,213 ล้านบาท หมายความว่าบริษัท วงษ์สยาม เสนอให้มากกว่า 1,480 ล้านบาท ความน่าเชื่อถือของบริษัท East Water ซึ่งเป็นบริษัทกึ่งของรัฐบาล เพราะการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ถือหุ้นอยู่ 40% และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยถือหุ้นอยู่ 5% รวม 2 หน่วยงานถือหุ้นกว่าประมาณ 46% เพราะหากถือเกิน 50% จะเรียกว่ารัฐวิสาหกิจ ซึ่งอาคารที่ทำการก็ใหญ่โต ส่วนบริษัท วงษ์สยาม อยู่ใน ซ.พหลโยธิน 8 อาคารเล็กๆ แต่ว่าประมูลชนะบริษัท East Water 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับ 3 ป. คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานอีอีซี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะกำกับแล กปภ. และ 1 ช. คือนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค พลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ซึ่งไม่ได้เป็นโดยตำแหน่ง เพราะคนที่เป็นจริงๆ คือนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ซึ่งทั้งหมดมีความเกี่ยวโยงกัน 

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า หากบริษัท East Water ไม่ได้ชนะประมูลก็จะเจ๊ง และต้องปิดบริษัท ซึ่งหลังแพ้ประมูลราคาหุ้นตกจาก 8.05 บาท เหลือ 7.40 บาท โดยเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2565 นายสันติ ประธานกรรมการที่ราชพัสดุให้บริษัทวงษ์สยามชนะประมูลด้วยมติ 6:3 โดยรายชื่อ 6 คนประกอบด้วย 1.นายสันติ 2.นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ 3.ตัวแทนปลัดกระทรวงการคลัง 4.ตัวแทนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5.ตัวแทนปลัดกระทรวงกลาโหม และ 6.ตัวแทนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนรายชื่อ 3 คนที่ค้าน ประกอบด้วย 1.ปลัดกระทรวงมหาดไทย 2.อธิบดีกรมโยธา และ3.อธิบดีกรมที่ดิน ส่วนอีก 3 คนที่เหลือ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ลาเพื่อหนีการประชุม หมายความว่ามติไม่ได้เป็นเอกฉันท์ และมีปัญหา 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้นในวันพุธ ที่ 23 มี.ค.นี้ ตนจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายอาคม ถึงความไม่โปร่งใสของการประมูลโครงการท่อส่งน้ำฯ ที่เปลี่ยนมาให้บริษัท วงษ์สยาม ชนะประมูลแทน เพราะมีการเปลี่ยนทีโออาร์ ทำให้รัฐเสียประโยชน์ คือไปเอาคำว่าบริษัทจะต้องไม่เคยเป็นผู้ทิ้งงานของหน่วยงานของรัฐออก ทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 600 ล้านบาท เหลือ 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนคุณสมบัติสำคัญคือจากเดิมกำหนดไว้ว่าผู้ยื่นข้อเสนอต้องเป็นนิติบุคคลที่มีอาชีพและประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจ และบริหารจัดการท่อส่งน้ำ 

โดยเอาคำว่าท่อส่งน้ำออกไป ทั้งที่เป็นสาระสำคัญ อีกทั้งบริษัท วงษ์สยาม ไม่เคยบริหารจัดการท่อส่งน้ำเลย ตรงข้ามกับ บริษัท East Water ที่มีประสบการณ์บริหารท่อส่งน้ำกว่า 30 ปี รายได้ปีละ 5 พันล้านบาท รวม 30 ปีรายได้ 1.5 แสนล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ บริษัทวงษ์สยาม ได้ยื่นประมูลโครงการโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์กับการประปานครหลวง มูลค่า 6.4 พันล้านบาท แต่ไม่ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติ แต่กลับมาชนะประมูลโครงการท่อส่งน้ำฯ ที่มีบริษัท East Water เป็นคู่แข่ง จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย โดยหากมีความผิด นายอาคมต้องรับผิดชอบที่มอบหมายให้นายสันติดูแลเรื่องนี้

'กรณ์' ลงภูเก็ต ควงผู้สมัครทำงานต่อเนื่อง ย้ำยุทธศาสตร์ภูเก็ตจัดการตนเอง ชี้เป็นทางรอดด้านเศรษฐกิจและโอกาสทำกิน ยุคหลังโควิด

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต ได้เข้าร่วมงาน กับสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดอันดามัน เรื่องการใช้ Digital Hub พัฒนาการท่องเที่ยว จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ โดยย้ำถึง นโยบายสำคัญต่อภูเก็ตว่า พรรคกล้ามีความชัดเจนมาแต่แรกว่าสิ่งที่เราจะทำให้ภูเก็ต คือเรื่องของการสร้างโอกาสการทำมาหากิน เศรษฐกิจปากท้อง เป็นหลัก ที่ผ่านมาเราต้องยอมรับว่านโยบาย “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่ผ่านมา ถือเป็นนวัตกรรมทางนโยบายซึ่งเป็นตัวยืนยันว่าภูเก็ต มีโอกาส ศักยภาพ และความต้องการที่แตกต่างกว่าหลาย ๆ จังหวัด ซึ่งควรต้องกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในยุคหลังโควิด 

นายกรณ์ กล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ภูเก็ตบริหารตัวเองได้ ก็จะสามารถกำหนดนโยบายได้อย่างแม่นยำ ทันต่อสถานการณ์และทันต่อความต้องการ คนภูเก็ตต้องได้บริหารงบประมาณของตนเอง ภาษีที่เก็บได้ต้องเข้าจังหวัดมากขึ้น สามารถกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายที่เป็นอนาคตที่เหมาะสมของตัวเองได้ และควรได้เลือกผู้ว่าฯ เลือกผู้บริหารเมืองได้เอง รวมถึงการปฏิรูประบบราชการล้าหลังด้วยเทคโนโลยีสามารถทำทุกอย่างได้บนมือถือจะสามารถลดขั้นตอนและเวลาในการติดต่อราชการที่ล่าช้า  ขณะเดียวกันภูเก็ตยังควรบริหารงานตำรวจเอง เวลาเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยว สามารถจัดการกันได้ในพื้นที่ ไม่ต้องขึ้นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคกล้า ยังมองถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังเกิดสงคราม ยูเครน รัสเซีย โดยมองว่า หลายอย่างจะเปลี่ยนไป ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความเป็นมิตรประเทศ ประเทศคู่ค้ากัน ผลของค่าของชีพ ซึ่งเราได้รับผลกระทบแล้วจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อราคาสินค้าหลายชนิด และมันจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกมากมาย สะท้อนถึงความสำคัญของความยืดหยุ่นที่ต้องมี ในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมกับตัวเรา และนี่คืออีกสาเหตุที่ต้องให้ภูเก็ตมีการบริหารที่มีความยืดหยุ่นได้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที และเมื่อเปลี่ยนแปลงไปแล้ว โอกาสที่จะทำให้ ประเทศไทย และภูเก็ต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top