Tuesday, 25 March 2025
POLITICS TIPS

วันของ ‘ทักษิณ-เศรษฐา’ ส่วน ‘ไผ่ ลิกค์’ วืด!! ฟาก ‘พท.’ ดึง ‘บิ๊กแป๊ะ’ ช่วย ‘บิ๊กทิน’ งานไหลลื่น

รายชื่อคณะรัฐมนตรี หรือ ‘ครม.เศรษฐา 1’ โปรดเกล้าฯ แล้ว เดี๋ยวมาว่ากัน… แต่ก่อนอื่น ‘เล็ก เลียบด่วน’ ต้องขอแสดงความยินดีกับครอบครัวชินวัตรด้วยคน ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษชายเด็ดขาด ‘นายทักษิณ ชินวัตร’ เหลือโทษจำคุก 1 ปี จากทั้งหมด 8 ปี… 

ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ก็ไม่ต้องอธิบายซ้ำตรงนี้… 

แต่จากนี้ไปก็พอจะคาดหมายได้ว่าโทษจำคุก 1 ปีที่เหลือ คุณทักษิณก็คงจะใช้ช่องทางตามกฎกติการาชทัณฑ์พบกับอิสรภาพได้ในไม่นาน เช่น การพักโทษหรือถ้ามีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษในวันสำคัญก็สามารถพ้นโทษได้เลย เพราะโทษเหลือไม่ถึงปี หรือที่เรียกว่า ‘ต่ำปี’... ก็ว่ากันไป

แต่ที่อยากบอกทักษิณและครอบครัวชินวัตรตรงไปตรงมาด้วยปรารถนาดีตรงนี้ก็คือ หากไม่นอนอยู่ห้องไอซียู รพ.ตำรวจ พรุ่งนี้มะรืนนี้กรุณากลับไปรับโทษนอนรักษาตัวที่แดน 7 รพ.ราชทัณฑ์ได้แล้ว… จะเป็นภาพที่งดงามดูสอดประสานกับพระมหากรุณาธิคุณ… ตระกูลชินวัตรจะได้ไม่เป็นที่ถูกเกลียดชังเพิ่มขึ้นไปกว่าเดิม… 

กลับมาที่ โฉมหน้า ‘ครม.เศรษฐา 1’... เมื่อพิชิต ชื่นบาน ‘ทนายถุงขนม’ ประกาศถอนตัวออกไปเพราะแรงต้านจากสังคม พร้อมกับตัดชื่อ ‘ไผ่ ลิกค์’ หรือ ‘ไผ่ วันพอยท์’ ออกจาก ‘รมช.พาณิชย์’ โดยไม่มีใครรู้ล่วงหน้าแต่สันนิษฐานได้ว่าคงเนื่องจากเหตุปมคดีเก่าๆ ก็ทำให้ ‘ครม.เศรษฐา’ ดูดีขึ้นนิดหน่อย… แม้ว่าจะยังมีเสนาบดีอีก 2-3 คนที่ปูมประวัติไม่ค่อยโสภาสถาพรอยู่บ้าง แต่ก็พอจะหยวนๆ ให้โอกาสได้พิสูจน์คุณธรรมและน้ำยากันอีกสักรอบ… 

สำหรับคนที่จะมาแทนโควตา พิชิต ชื่นบาน จะเป็น ‘ชูศักดิ์ ศิรินิล’ หรือไม่นั้น ก็รอดูกันต่อไป… ขณะที่กรณีไผ่ ลิกค์ เป็นสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งหากสังเกตให้ดีเมื่อ 4-5 วันก่อน มีการปล่อยชื่อของ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หรือ ‘อาจารย์แหม่ม’ ออกมาให้สื่อพูดถึง… อย่างไรก็ตาม ถ้าอาจารย์แหม่มอยากได้เก้าอี้รัฐมนตรี ก็ต้องได้รับความยินยอมจากบ้านใหญ่กำแพงเพชร ภายใต้การนำของ วราเทพ รัตนากร ผอ.พรรค… และ ไผ่ ลิกค์ ก็อยู่ในกลุ่มนี้

งานนี้… คงหนีไม่พ้น ‘ลุงป้อม’ หัวหน้าพรรคที่จะต้องทุบโต๊ะแบบเซ็งๆ อีกครั้ง… 

ในจำนวนรัฐมนตรี 33 คนของ ‘ครม.เศรษฐา 1’ สุทิน คลังแสง นับเป็นบุคคลที่น่าสนใจมากที่สุดคนหนึ่ง เพราะนี่คือพลเรือนที่ไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ถูกวางตัวเป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหม… ซึ่งจริงๆ แล้วแรกเริ่มเดิมทีกระทรวงนี้ทาง ‘บิ๊กป้อม’ จองให้พรรคพลังประชารัฐ ตอนแรกนัยว่าถ้าตัวเองได้เป็นนายกฯก็จะควบเอง ต่อมามีข่าวลือว่าจะให้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา (บิ๊กน้อย) ต่อมามีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ (บิ๊กป๊อด) อดีตผบ.ตร.น้องชายบิ๊กป้อม… 

ก่อนที่ในช่วงท้ายๆ จะมีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ (บิ๊กเล็ก) อดีตเลขาธิการ สมช.สายตรงบิ๊กตู่ แต่ก็มีแรงต้านเล็กๆ จากคนเสื้อแดงเพื่อไทย ประกอบกับพรรคเพื่อไทยไม่อยากสูญเสียโควตาให้บุคคลภายนอก… หวยจึงมาออกที่ สส.นักการศึกษาอย่าง ‘สุทิน คลังแสง’

ผู้สันทัดกรณีบางรายวิเคราะห์ว่า… การวางตัวสุทินคุมกลาโหม… จะใช่หรือไม่ว่า… เป็นการโชว์พาวของคนแดนไกลที่เป็นคนแดนใกล้แล้วในวันนี้… ประมาณว่าเขาจะจัดวางใครไว้ตรงไหนก็ทำได้!?

ก็คงต้องตามไปดูว่า สุทิน คลังแสง ผู้มีวาทศิลป์ มีอีคิวสูงจะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แต่ยังไงๆ ก็เชื่อว่าอย่างน้อยคงดีกว่า อดีตนายกฯ หญิงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ควบกลาโหมช่วงปี 2556-2557 ซึ่งโชคดีที่ช่วงนั้นนายกฯ ปูมี ‘บิ๊กแป๊ะ’ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก เป็นปลัดกลาโหม คอยช่วยดูงานอีกแรงหนึ่ง… 

โดยวันนี้ นอกเหนือจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา จะถูกเทียบเชิญไปเป็นที่ปรึกษาแล้ว แว่วว่าพรรคเพื่อไทยจะส่ง ‘บิ๊กแป๊ะ’ พล.อ.นิพัทธ์ไปเป็นแม่บ้าน นั่งตำแหน่งเลขานุการ รมว.กลาโหม ให้เจ้ากระทรวงทำงานได้อย่างราบรื่น… 

ถ้าจริงก็น่าจะเป็นโชคดีของ… บิ๊กทิน!?

'โบว์ ณัฏฐา' แนะคนไทยมองการเมืองเป็นการทำงานเพื่อชาติ ไม่ใช่มองทุกอย่างเป็นละครที่มี 'พระเอก-นางเอก- ธรรมะ-อธรรม'

(26 ก.ค. 66) คุณโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ผู้ดำเนินรายการ Ringside การเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

คนต้องเลิกมองการเมืองเหมือนคนดูละครน้ำเน่า แล้วมองการเมืองเป็น 'การทำงาน' มีเป้าหมายของงานที่ต้องทำให้สำเร็จอยู่ตรงหน้า คนรับประโยชน์จากงานคือประเทศชาติ คือประชาชน 

จะได้เลิกประสาท มองทุกอย่างเป็นละครมีพระเอกนางเอก ฝ่ายธรรมะอธรรม ผู้ร้าย ตัวโกง พ่อมดแม่มด รักกันเลิกกัน พ่อแง่แม่งอน บ้าบ้าบอบอ แล้วนั่งโกรธเกรี้ยวกรีดร้องฟูมฟาย ตีอกชกหัวอยู่หน้าจอ

ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่คนทำงาน
ทำงาน เจอปัญหา แก้ปัญหา ทำงานต่อ

‘ขยัน’ อดีต สส.ลำพูน มั่นใจ!! สมาชิก ปชป.จะเลือกทางที่ถูกต้อง เพื่อสานต่ออุดมการณ์พรรค มากกว่าตอบแทนบุญคุณตัวบุคคล

(23 ก.ค. 66) นายขยัน วิพรหมชัย อดีต สส.ลำพูน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งหัวหน้า และคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 6 ส.ค. 66 ว่า จากการที่ได้พูดคุยกับสมาชิกในภูมิภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ส่วนใหญ่ยังมั่นใจว่าจะสามารถผ่านไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะเมื่อผู้อาวุโสที่สืบทอดอุดมการณ์และจุดยืนที่มั่นคงของพรรคมากว่า 50 ปี หลายท่านต่างช่วยกันประคับประคอง ให้พรรคยืนหยัดความเป็นสถาบันของบ้านเมืองที่ประชาชนสามารถยึดเหนี่ยวได้ ด้วยความเป็นห่วงว่าพรรคจะกลายเป็นพรรคเฉพาะกิจเฉพาะกาล ท่านชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค จึงออกมาเรียกร้องให้สมาชิกทุกท่านช่วยกันรักษาพรรค เพื่อเป็นหลักของประเทศชาติและประชาชนต่อไป

นายขยัน กล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวมีความเชื่อมั่นต่อจุดยืน และอุดมการณ์ของผู้อาวุโสของพรรคทุกท่าน โดยเฉพาะท่านชวนฯ ที่ต้องถือว่าเป็นเสาหลักของพรรคมากว่า 30 ปี ด้วยหลักคิดที่สำคัญคือพรรคต้องมีหลักคิดที่ถูกต้องเพื่อประเทศชาติ และประชาชนมากกว่า เป็นเครื่องมือเพื่อตอบแทนบุญคุณของบุคคล หรือกลุ่มบุคคลไดบุคคลหนึ่ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้สืบทอดอุดมการณ์นี้กันมารุ่นต่อรุ่นในระยะเวลา 78 ปี ที่ผ่านมา

“ผมเชื่อว่าสมาชิกพรรรคทุกคน ก็คงจะยึดมั่นในอุดมการณ์และจุดยืนนี้เช่นกัน ผมจึงเชื่อว่าด้วยความเป็นชาวประชาธิปัตย์ ทุกคนจะสามารถเลือกหนทางที่ถูกต้อง เพื่อพรรคประชาธิปัตย์ของเราต่อไป” นายขยัน กล่าวทิ้งท้าย

‘ส.ว.มารุต’ ขอพิจารณาชื่อ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ชิงนายกฯ ชี้!! ถ้าไม่มี ‘ก้าวไกล’ เป็นพรรคร่วม การโหวตจะง่ายขึ้น


เมื่อวานนี้ (19 ก.ค.66) ที่รัฐสภา พล.อ.มารุต ปัชโชตะสิงห์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนในการโหวตนายกรัฐมนตรี หากพรรคเพื่อไทยมีการเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยว่า ก็ต้องไปดูหน้างาน
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องมีการพิจารณาอีกครั้งใช่หรือไม่ พล.อ.มารุต กล่าวว่า “ครับ” 

เมื่อถามอีกว่า ส.ว.จะมีการพูดคุยอีกครั้งถึงแนวทางการโหวตฯ หรือไม่ พล.อ.มารุต กล่าวว่า ส่วนใหญ่การโหวตเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน

เมื่อถามว่า หากเป็นชื่อนายเศรษฐา แต่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล จะมีการพิจารณาอย่างไร พล.อ.มารุต กล่าวว่า “ก็คงจะพิจารณาพอสมควร” 

เมื่อถามย้ำว่า มีแนวโน้มที่จะโหวตหรือไม่โหวตก็ได้ใช่หรือไม่ พล.อ.มารุต กล่าวว่า “ใช่ครับ”

เมื่อถามอีกว่า ติดเงื่อนไขในข้อกังวลเรื่องการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ พล.อ.มารุต กล่าวว่า “ใช่ สว.เราก็เป็นห่วงเรื่องนี้”

เมื่อถามว่า หากไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล จะสบายใจในการโหวตมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.มารุต กล่าวว่า “ก็น่าจะง่ายขึ้น แต่เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน”
 

‘ก้อย-นัตตี้-ดรีม’ แต่งชุดดำร่วมชุมนุม หลัง ‘พิธา’ ชวดตำแหน่งนายกฯ

 

เมื่อวานนี้ (19 ก.ค. 66) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นักแสดง-ยูทูบเบอร์ชื่อดัง ‘ก้อย อรัชพร โภคินภากร’ ‘นัตตี้-นันทนัท ฐกัดกุล’ และ ‘ดรีม-อภิชญา พานิชตระกูล’ เดินทางมาร่วมกิจกรรมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมด้วยเครือข่าย Respect My Vote ที่ประกาศนัดหมายแต่งกายด้วยชุดสีดำ

ภายใต้หัวข้อ ‘ร่วมฌาปนกิจ ส.ว. และศาลรัฐธรรมนูญผู้ไม่เคารพเจตจำนงของประชาชนร่วมกัน’ พร้อมนัดมวลชนเตรียมกระดาษ และดอกไม้จันทน์

โดยก้อย นัตตี้ ดรีม เปิดเผยสั้น ๆ ว่า วันนี้ เดินทางมาตามเวลานัดของแกนนำ เพราะอยากจะมาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของตัวเอง ส่วนรายละเอียด เตรียมตัวพูดแบบเต็ม ๆ ในช่องทางของตัวเอง

ขณะที่ไอจีของ ก้อย แชร์สตอรี่ไอจี เป็นรูปภาพของการเชิญชวนมาชุมนุมของ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมด้วย และยังได้โพสต์รูปภาพ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีป้ายสีขาวแขวนอยู่ โดยมีข้อความว่า “นายกพิธา ฉันทมติประชาชน” พร้อมกับแคปชันว่า “Choose hope though you’re so fuckin angry “

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ในการชุมนุม ก็มีการแจกใบปลิวการชุมนุมครั้งถัดไป ของกลุ่มสภาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ที่นัดเดินขบวนรอบจัตุรัสปทุมวัน ต่อเนื่องสยามสแควร์ มาบุญครอง พารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อปักหมุดหยุดเผด็จการ หนุนรัฐบาลเสียงประชาชน ในวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ค.นี้ โดยยังไม่ประกาศเวลาที่ชัดเจน
.

‘อ.เดชา’ เชื่อ หาก ‘พิธา’ ยังฝืนดึงดันแบบนี้ต่อไป ผลที่ได้คือความทุกข์​น่าสยดสยอง​เกินจินตนาการ!!

(15 ก.ค. 66) นายเดชา ศิริภัทร เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Deycha Siripatra’ ระบุว่า…

“ได้อ่านโพสต์​ของคุณ​พิธา​ ลิ้มเจริญ​รัตน์​ แล้วเข้าใจและเห็นใจอย่างยิ่ง

การตั้งความหวังไว้สูงสุด​ พยายามฝ่าฟันไปจนจะเอื้อมมือถึง​ แต่ความหวังกลับพังครืน พังลงต่อหน้าตนเองและคนไทยทั้งประเทศ​ รวมถึงชาวโลกที่ติดตามดูการถ่ายทอดสด

ความทุกข์​ที่เกิดจากความผิดหวัง​ เพราะไปตั้งความหวังไว้นั้น​ เป็นบทเรียนธรรมะขั้นสูง หากนำมาเป็นบทเรียน​ แล้วนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป​ จะมีประโยชน์​มาก

แต่ถ้ายังไม่ยอมรับ​ แต่พยายามทำซ้ำแบบเดิมอีก ก็จะผิดหวังเหมือนเดิมอีกครั้ง

คราวนี้ความทุกข์​ที่เกิดขึ้นใหม่​ จะทับถมซ้ำเติมความทุกข์​เก่า​ ที่ยังไม่ทันจางหายไปใหน ลองจินตนาการดูว่าจะหนักหนาสาหัส​ขนาดใหน​ แค่คิดผมก็รู้สึกสยดสยองจนไม่กล้าคิดต่อ

แต่ถึงอย่างนั้น​ ผมก็เชื่อว่า​ คุณ​พิธา จะยังเดินหน้าต่อไปเพื่อทำซ้ำอย่างเดิม​ ไม่ยอมหยุด ผลที่ได้รับก็คงเป็นความผิดหวัง​ และความทุกข์​ที่น่าสยดสยอง​เกินจินตนาการนั่นเอง

โชคดีนะครับคุณ​พิธา ขอให้คุณ​สมหวังในสิ่งที่ตั้งใจ​ อย่าให้สิ่งที่ผมคิด​ เกิดขึ้นจริงเลย”

‘ศาสตรา’ ส.ส.สงขลา รทสช. เตือนชาวเน็ตคอมเมนต์คะนอง จดหมายกำลังไปถึงหน้าบ้านหลายคน - ขอนำเงินไปทำบุญ

(14 ก.ค. 66) นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความพร้อมรูปในเฟซบุ๊ก ‘นายศาสตรา ศรีปาน - Sarttra Sripan’ ระบุว่า…

“น้อง ๆ ที่เข้ามาคอมเมนต์ด้วยความคึกคะนองโปรดระมัดระวังกฎหมายหมิ่นประมาท พรบ.คอม กันหน่อยนะครับ เพราะตอนนี้จดหมายกำลังไปที่บ้านกันหลายคนแล้ว ให้เกียรติเคารพซึ่งกันและกันเป็นสิ่งแรกที่ควรจะมีในทุกสังคมนะ ทั้งโลก social ที่อยู่หลังหน้าจอโทรศัพท์ และ โลกแห่งความจริงที่เราจะเจอหน้ากัน เราจะเอาเงินส่วนนี้ไปทำบุญให้กับเด็กหาดใหญ่ด้อยโอกาสกัน💕จากทีมแอดมิน #ศาสตราเขต2”

ทั้งนี้ ข้อความในรูปที่แนบมาด้วย ปรากฏเป็นคำขอโทษจากบุคคลที่เคยคอมเมนต์ด้วยความคะนอง ใจความว่า…

“ผมขอโทษจริง ๆ ครับพี่ ด้วยความอวดดี รู้น้อยของผม ขอโทษ ๆ จากใจจริงครับ ให้โอกาสผมสักครั้งครับ ผมไม่อยากให้พ่อแม่เดือดร้อนเพราะการกระทำแย่ ๆ ของผมครับพี่ ผมหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินชดเชยให้พี่ ส.ส. ถ้าพี่ฟ้อง ผมขอโทษ ขอโอกาสสักครั้ง เหตุการณ์นี้ผมจะไม่ลืม ผมขอโทรไป ขอโทษจากน้ำเสียงได้ไหมครับ ว่าผมรู้สึกผิดจริงๆ ให้โอกาสผมสักครั้งนะครับ ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยครับ ผมคิดน้อย ไม่รู้หวันจริง ๆ ครับพี่ เหตุการณ์นี้ผมจะจำไว้สอนตัวเองตลอดเวลา ให้โอกาสเด็กคนนี้สักครั้งได้ไหมครับ พี่ ส.ส. ผมขอร้องจริง ๆ ครับ จากใจจริง ผมขอโทษครับ ผมเครียดมาก ๆ เลยครับ เป็นบทเรียนที่ผมจะไม่ลืมเลยจริง ๆ ขอความเมตตาสักครั้งนะครับ ผมจะจำความเมตตาของ พี่ ส.ส.ครั้งนี้ไปไม่มีวันลืมจริง ๆ ครับ
 

ชื่อนี้ต้องจารึก!! รู้จัก 'ชาดา ไทยเศรษฐ์' ส.ส. สายอิทธิพล มี 'พาวเวอร์' ไว้เพื่อทำงานให้บ้านเมืองไทย

“ผมมีอิทธิพลจริง แต่ไม่เคยทำร้ายใคร มีอิทธิพลไว้ทำงานเพื่อบ้านเมือง” 
.
นี่คือถ้อยคำส่วนหนึ่งจาก 'นายชาดา ไทยเศรษฐ์' ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย...ส.ส.ที่ถูกกล่าวขานอีกครั้ง หลังจากเขาอภิปรายอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ประกอบภาษากาย ที่บางคนอาจจะบอกว่า “มันเป็นบุคลิกของนักเลง” ไม่สำรวมกาย
.
ชาดาอภิปรายอย่างดุเด็ด เผ็ดร้อน ตั้งคำถามพุ่งตรงไปยังพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เรื่องจุดยืนในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสถาบันกษัตริย์ รวมถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้พิธาให้ความกระจ่างต่อรัฐสภา ก่อนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่มีชื่อพิธาเพียงคนเดียว ซึ่งพิธายังคงตอบยืนยันว่า เป็น “พันธกิจ” ที่ให้ไว้กับประชาชน อันเป็นการยืนยันว่าจะแก้ ม.112 ผ่านกลไกของสภา ในนามพรรคก้าวไกล
.
กล่าวสำหรับชาดา ชื่อของชาดาเริ่มเป็นที่ปรากฏนับตั้งแต่เขาก้าวเข้าสู่การเมืองในฐานะนักการเมืองท้องถิ่น เขาเริ่มเล่นการเมือง ในฐานะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น เคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ต่อมาในปี 2543 เข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคถิ่นไทย และในการเลือกตั้ง 2550 เขาได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.จังหวัดอุทัยธานี สังกัดพรรคชาติไทย และได้รับเลือกตั้งอีกสมัยในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา
.
ก่อนที่ ในปี พ.ศ. 2561 เขาย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ชบแนบอก อนุทิน ชาญวีรกูล พร้อมกับการผลักดันให้ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังจากเคยส่งเสริมให้เป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานีแทนเขามาก่อนหน้านั้น

กอ.รมน.ภาค4 โฟกัสฟ้อง 3 กลุ่ม ประชามติ.. แยกดินแดนปาตานี

วันนี้ขอเลียบการเมืองไปที่แนวรบด้านความมั่นคงที่กำลังร้อนฉ่าอยู่ที่ปลายด้ามขวานสักหน่อย  กองทัพภาคที่ 4 แถลงชัดเจนแล้วว่าอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็จะดำเนินการฟ้องคดีเอาผิดกับบุคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดกรรมทำประชามติจำลองแยกปาตานีเป็นเอกราช..ในงานเสวนา “สิทธิในการกำหนดอนาคตตนเอง (Selt Determination) กับสันติภาพปาตานี” เมื่อวันที่ 7มิ.ย.ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี..

ยังไม่รู้ว่ากองทัพภาคที่ 4 จะฟ้องร้องกล่าวโทษกี่คนและเป็นใครบ้าง  “เล็ก  เลียบด่วน” ฟังพล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์  รองแม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ทางรายการ “รู้ทันข่าว92.5” ของกรมประชาสัมพันธ์ท่านบอกกว้าง ๆ เพียงว่ามีอยู่ 3 กลุ่ม  คือ

1)กลุ่มที่จัดกิจกรรม  

2)คนที่มาร่วมงาน และ

3)ผู้ที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง..

พล.ต.ปราโมทย์ให้ข้อมูลว่า  ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการทำไประชามติจำลอง แต่เป็นการทำประชามติเรื่อง” การกำหนดใจตนเอง” เท่านั้น ไม่เลยธงเหมือนในครั้งนี้ที่ถึงขั้นถามว่าเห็นด้วยกับการแยกตัวเป็นเอกราชหรือไม่..ครั้งนี้จึงเป็นการยกระดับการเคลื่อนไหว  ที่พยายามขยายผลต่อยอดเรื่อง “สิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง” ตามข้อมติสหประชาชาติที่ 1514 ออกในปี ค.ศ. 1960  ซึ่งแม้ไทยจะร่วมรับรองแต่เราก็สงวนสิทธิเรื่องการแบ่งแยกดินแดนไว้อย่างชดเจนว่าทำไม่ได้..

ที่น่าสนใจกว่านั้น ฟังแล้วไม่สบายใจเอามากๆ คือ พล.ต.ปราโมทย์.. สถานการณ์ปลายด้ามขวานวันนี้กลุ่มบีอาร์เอ็นยังคงปฏิบัติการทางการทหารเพื่อหล่อเลี้ยงสถานการณ์  ช่วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมาเป็น “รอมฎอนเดือด”ที่สุดในรอบ 10ปี  แต่ที่น่ากลัวไปมากกว่านั้นคือความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ได้ชำแรกแทรกซึมความคิดไปยังกลุ่มต่างๆ ทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชน   เยาวชนนักศึกษา  นักการเมืองและพรรคการเมือง..ซึ่งสนับสนุนแนวคิดในลักษณะเลยธง..

ครับ...ก็น่าลุ้นกันด้วยความระทึกใจว่า..ใครบ้างที่จะถูกฟ้องร้องกล่าวโทษ และในข้อหาอะไร  แน่นอนเป็นคดีความมั่นคง แต่จะหนักหนาสาหัสแค่ไหน...และมีใครจาก3พรรคการเมืองโดนด้วยหรือไม่

3 พรรคที่ว่าคือ พรรคเป็นธรรม  พรรคประชาชาติ ที่มีตัวแทนไปเป็นวิทยากรเสวนา  และพรรคก้าวไกลที่มีรูปโฆษณาเด่นหรากว่าใครเพื่อนอย่าง นายรอมฎอน  ปันจอร์ ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อ  แต่ยกเลิกกะทันหันเหมือนนกรู้...

รายงานข่าวแจ้งว่า กอ.รมน. ภาค4 ส่วนหน้าได้จัดประชุมทีมกฎหมาย นักวิชาการ อัยการ ทหาร ตำรวจมาแล้ว 3 ครั้งเพื่อสรุปรูปคดี  ขณะที่ฝ่ายข่าวกอ.รมน.ภาค4 นั้นได้สรุปข้อมูลย้อนหลังโยงใยมาจนถึงวันจัดงานก็รู้แจ้งเห็นชัดว่าใครเป็นใคร ใครคิดอะไร..โดยเฉพาะพฤติการณ์ของนักการเมืองและพรรคการเมืองบางคนบางพรรค ที่ปลุกระดมความคิดการปกครองตนเอง  ความเป็นเอกราชมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และโหมหนักช่วงเลือกตั้งด้วยหวังผลคะแนนเสียงเข้าข่ายที่จะดำเนินการกล่าวโทษให้ยุบพรรคในข้อหาล้มล้างการปกครองได้ แต่ประเด็นนี้ทางกองทัพหรือทหารจะไม่ดำเนินการ...ปล่อยให้เอกชนหรือภาคประชาชนอาศัยช่องทางรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ไปดำเนินการกันตามความเหมาะควรกันเอง...

แม้ว่านาทีนี้  บรรดาว่าที่ ส.ส. และนักการเมืองจาก 3 พรรคตั้งการ์ดสูงเวลาให้สัมภาษณ์จนบรรดาแนวร่วมเกิดอาการหมั่นไส้รำคาญกันเอง ก็ไม่ได้ทำให้พฤติการณ์ที่บรรดาว่าที่ ส.ส. และพรรคการเมืองดังกล่าวมาลบหายไปได้...  

เล็ก  เลียบด่วน เชื่อว่าถึงที่สุดวันใดวันหนึ่งคงมีคนไปฟ้องร้องกล่าวโทษให้มีการยุบพรรคแน่นอน..เพราะมาตรา 1 ของรัฐธรรมนูญบัญญัติชัดเจนว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกัน  จะแบ่งแยกมิได้”..

ไม่ทิ้งคนไกล!! ‘ภาคภูมิ’ ว่าที่ ส.ส.ตาก พปชร.เร่งขออนุญาตใช้พื้นที่ป่า เพื่อวางระบบถนน-ไฟฟ้า หวังยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

(9 มิ.ย. 66) นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ตาก พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดตาก มีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องช่วยเหลือประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ในด้านการเข้าถึงระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ถนน วางโครงข่ายโทรศัพท์ การพัฒนาสถานศึกษา ระบบสาธารณสุข และที่ทำกินของประชาชนบนพื้นที่สูง และชุมชนต่างๆ เนื่องจากพื้นที่จังหวัดเป็นพื้นที่ป่า ต้องประสานงานขออนุญาต เพื่อขอใช้พื้นที่ในการดำเนินการ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลผืนป่า เป็นผู้อนุญาต เร่งรัดขั้นตอน เพื่อช่วยเหลือประชาชนเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวก

ทั้งนี้ จากการที่ตนได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ให้เป็นตัวแทนทำหน้าที่ในสภาฯ พร้อมที่จะติดตามและเร่งรัดเรื่องนี้ต่อไป ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านมาการขออนุญาตใช้พื้นที่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ใช้เวลานานมาก ทำให้ประชาชนขาดโอกาสเป็นจำนวนมาก

“ในปัจจุบันจังหวัดตากมีการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยังเป็นป่า และดอยสูง นอกจากนี้ประชาชนยังมีความหลากหลายทางชาติพันธ์ที่ต้องดูแล คุณภาพชีวิต ที่ผ่านมาการพัฒนาเป็นไปด้วยความยากลำบากในการเข้าถึงความเจริญ เพราะติดเงื่อนไขของกฎหมาย และระเบียบต่างๆ แต่หากสามารถลดหรือยกเว้นได้ ก็จะทำให้เกิดพัฒนาระบบเศรษฐกิจทั้งจังหวัด เป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสิทธิ์ของประชาชนที่ควรจะได้รับอย่างเท่าเทียมกัน” นายภาคภูมิ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top