Friday, 26 April 2024
NEWS FEED

กรมทะเลและชายฝั่ง ผนึกกำลัง เอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น และจังหวัดภูเก็ต จัดโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นป่าชายเลน หญ้าทะเล ชายหาด เกาะแก่งต่าง ๆ รวมทั้งพื้นที่ระบบนิเวศชายฝั่งทะเลที่สำคัญ โดยเฉพาะแนวปะการังซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย หลบภัย ของสัตว์น้ำนานาชนิด แหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำที่ถือเป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวทะเล ดังนั้น กรมฯ ได้มีแนวคิดที่จะยกระดับการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศไทยให้เกิดความยั่งยืน จึงจับมือกับบริษัท เอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น จำกัด ริเริ่มโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง โดยมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ณ บริเวณหาดป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต สำหรับการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งส่งผลในเชิงสุขภาพ สร้างจิตสำนึกให้กับนักท่องเที่ยว ประชาชน ผู้ประกอบการในการลดปริมาณขยะ เพื่อลดสภาวะโลกร้อน และให้เห็นคุณค่าของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีจิตสำนึก รวมทั้งสร้างทัศนคติในการใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างรับผิดชอบ สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นหนทางหนึ่งในการสร้างจิตสำนึกที่ยั่งยืน ทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านเครือข่ายผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความชื่นชอบในการดำน้ำในพื้นที่ธรรมชาติ พร้อมทั้งเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และเข้าใจในการปฏิบัติภารกิจกอบกู้มหาสมุทรผ่านการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ยกระดับกิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล รวมถึงสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการสร้างทัศนคติในการอยู่ร่วมกันในสิ่งแวดล้อมอย่างมีความรับผิดชอบตามหลักแนวคิด Go Green เพื่อลดปริมาณการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและบำบัดสิ่งแวดล้อมด้วยการบริหารจัดการทรัพยากรทาง

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ในวันนี้ (19 พฤศจิกายน 2565) ตนได้นำทีมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตอง ซึ่งภายในงานได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ การจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติทางทะเล การจัดแสดงงานศิลปะจากขยะรีไซเคิล การแข่งขันดำน้ำชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา หรือ Open Water Princess Cup กิจกรรมดำน้ำเก็บขยะในแนวปะการัง เก็บขยะใต้ทะเล ชายหาด การดำน้ำปลูกฟื้นฟูปะการังโดยการเก็บชิ้นส่วนปะการังที่แตกหัก และกิจกรรมดำน้ำติดตั้งซ่อมแซมทุ่นสำหรับผูกจอดเรือแทนการทิ้งสมอป้องกันไม่ให้ทิ้งสมอบนแนวปะการัง เป็นต้น พร้อมกันนี้ กรมฯ ได้เชิญนักดำน้ำอาสาสมัครของกรมฯ จำนวน 250 คน พร้อมทั้งสนับสนุนยานพาหนะสำหรับอาสาสมัครเครือข่ายนักดำน้ำ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ เรือยาง เรือ Diving Boat พลขับ อาหาร อุปกรณ์ดำน้ำ และทุ่นลอยเพื่อความปลอดภัยของนักดำน้ำและกำหนดจุดดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ปะการัง

ภายหลังเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรม เจ้าหน้าที่กรมฯ ได้รายงานผลการดำน้ำเก็บขยะในแนวปะการัง โดยนักดำน้ำอาสาสมัครสามารถเก็บขยะรวมน้ำหนักทั้งสิ้น 321.9 กก. ซึ่งแบ่งออกเป็นขยะประเภทเชือก 53.9 กก. คิดเป็นร้อยละ 16.74 และขยะประเภทอวน 31 กก. คิดเป็นร้อยละ 9.63 ขยะประเภทอื่นๆ 237 กก. คิดเป็นร้อยละ 73.63 ทั้งนี้ ขยะประเภทเชือกและอวนกรมฯ ไม่ได้ส่งให้ EFJ นำไปรีไซเคิล เนื่องจากสะอาดไม่พอต่อกระบวนการรีไซเคิล พร้อมกันนี้ กรมฯ ได้มอบใบประกาศเกียรติบัตรแก่นักดำน้ำอาสาสมัครในโอกาสที่ร่วมกันทำคุณประโยชน์ต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทางเอ็มซีเอ็ม คอมมูนิเคชั่น จังหวัดภูเก็ต เทศบาลเมืองป่าตอง นักดำน้ำอาสาสมัคร และประชาชนในพื้นที่ที่ร่วมกันดำเนินโครงการ Go Green Active กิจกรรมดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูปะการังอ่าวป่าตองจนประสบความสำเร็จ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นกระบอกเสียงที่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนและสร้างจิตสำนึกของประชาชนให้หันมาใส่ใจในสิ่งแวดล้อม อีกทั้งสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศอีกด้วย “นายอรรถพล กล่าวทิ้งท้าย”

ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือติดตามความพร้อมการจัดงานวันกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ภายใต้กรอบในการรำลึกครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี 'องค์บิดาของทหารเรือไทย' 

(21 พ.ย. 65)  พล.ร.อ.สุวิน  แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานวันกองทัพเรือ ติดตามความพร้อมในการจัดงานวันกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ณ หอประชุมกองทัพเรือ

โดยกองทัพเรือกำหนดจัดงานวันกองทัพเรือ ประจำปี 2565 ในวันอังคารที่ 22 พ.ย.2565 ภายใต้กรอบครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่จะเวียนมาบรรจบในวันที่ 19 พ.ค.2566 เพื่อสร้างการรับรู้ต่อกำลังพลของกองทัพเรือ รวมถึงประชาชนให้ทราบถึงพระประวัติ และร่วมน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่านที่ได้วางรากฐานกิจการทหารเรือไทยให้มีความมั่นคงในการเป็นรั้วของชาติทางทะเลอย่างเข้มแข็ง และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนตราบปัจจุบัน 

'รมว.วราวุธ' ชี้ ภาคผลิตและบริการ คือหัวใจสำคัญของการปรับพฤติกรรมคนไทยไปสู่การบริโภคที่ยั่งยืน เพื่อมุ่งเป้าหมาย Net Zero GHG

วันนี้ (21 พฤศจิกายน 2565) เวลา 13.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ทิศทางของนานาชาติและประเทศไทยในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์" ในพิธีเปิดการประชุมวิชาการระดับภูมิภาค Asia Pacific Roundtable on Sustainable Consumption and Production (APRSCP) ครั้งที่ 16 จัดโดย สมาคมส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (ประเทศไทย) โดยมี มร.สันเจย์ กุมาร์ ประธานเครือข่ายส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และ ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ประธานกรรมการการจัดงานและประธานเครือข่ายส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนแห่งประเทศไทย (Thai SCP Network) กล่าวต้อนรับ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย นักวิชาการ องค์กรระหว่างประเทศ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จากประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กว่า 300 คน เข้าร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ เพื่อส่งเสริม และแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติที่จะนำไปสู่การสร้างความร่วมมือในด้านการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน และการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emission ณ โรงแรมปทุมวันปริ้นเซส กรุงเทพฯ และผ่านระบบ Video conference

นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้แนวคิดการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน หรือ Sustainable consumption and production ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะพาประเทศไทยก้าวเข้าสู่สถานะความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero GHG ภายในปี ค.ศ. 2065 เพราะหากภาคอุตสาหกรรม ภาคการผลิต หรือภาคธุรกิจ มีการปรับเปลี่ยนแนวคิดในการผลิตสินค้าและการบริการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จะมีส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและกรอบความคิดของคนในสังคมทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกได้ แต่ถ้าหากยังมีแนวคิดการผลิตและการบริการแบบเดิมก็จะเริ่มเผชิญกับกำแพงภาษีทางด้านสิ่งแวดล้อมที่มีมากขึ้น ดังนั้น การผลิตและการบริการนับจากนี้ไป จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน ต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รูปแบบการบริโภคของคนในสังคมก็จำเป็นต้องเปลี่ยน ต้องมีทัศนคติใหม่ เพื่อนำไปสู่การลดการใช้ทรัพยากรอย่างฟุ่มเฟือย เพื่อช่วยให้สังคมเกิดความยั่งยืนยิ่งขึ้น

ผบ.ตร. บินด่วนระยอง ร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ด.ต.อดุลย์ มั่งคั่ง เสียชีวิตขณะรักษาความปลอดภัยภารกิจ APEC 2022

ผบ.ตร. บินด่วนระยอง ร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ด.ต.อดุลย์ มั่งคั่ง เสียชีวิตขณะรักษาความปลอดภัยภารกิจ APEC 2022 สั่งดูแลสวัสดิการเต็มที่ เลื่อนยศเป็น ร.ต.ต. มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวกว่า 2.5 ล้านบาท 

วันนี้ (21 พ.ย.2565 ) เวลา 16.30 น. ที่วัดสารนาถธรรมาราม อ.แกลง จว.ระยอง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เดินทางมาเป็นประธานในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และสวดพระอภิธรรมศพ ด.ต.อดุลย์ มั่งคั่ง ผบ.หมู่ ป.สภ.แกลง จว.ระยอง ที่เสียชีวิตขณะมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยการประชุม APEC 2022  โดยมี นางสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ, พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.​, พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง รอง ผบช.น., นางชลธิชา มั่งคั่ง ภรรยาและครอบครัว เข้าร่วมในพิธี

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เตรียมเสนอปูนบำเหน็จความดีความชอบตอบแทน โดยขอเลื่อนขั้นเป็นกรณีพิเศษ 1 ขั้น และขอพระราชทานยศเป็น ร.ต.ต. รวมทั้งให้การช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่น เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ เงินช่วยเหลือพิเศษ 3 เท่าของเงินเดือนสุดท้าย บำเหน็จตกทอด เงินช่วยเหลือจากกองทุนสวัสดิการ ตร. เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง การบรรจุทายาทเข้ารับราชการตำรวจตามโควตา ตลอดจนสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยในส่วนของเงินช่วยเหลือทั้งหมดรวมเป็นเงิน 2,522,550 บาท

ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า  ด.ต.อดุลย์ มั่งคั่ง ผบ.หมู่ ป.สภ.แกลง จว.ระยอง ได้มาปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย ณ โรงแรม ดิ แอทธินี ทำหน้าที่ประจำจุดคัดกรอง Q2 ทางเข้าโรงแรมชั้น 1 ล็อบบี้ เอ็กซเรย์ และพักที่ โรงแรมเกรซ ซึ่งอยู่ใกล้เคียง 

ต่อมาในวันที่ 19 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่กำลังขึ้นรถตู้ เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ ได้เป็นลมหมดสติ และหัวใจหยุดเต้น ผู้บังคับบัญชา เพื่อนข้าราชการตำรวจ และทีมแพทย์ พยาบาล ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น ทำ CPR แล้วรีบนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ตร. และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

ด.ต.อดุลย์ ถือเป็นตำรวจน้ำดี เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงาน มีวินัยในการทำงาน และการดูแลร่างกายตนเอง ขณะปฏิบัติหน้าที่ สภ.แกลง จว.ระยอง ทำหน้าที่ชุดป้องกันปราบปรามพิเศษ รับผิดชอบจับกุมคดีอาญากลุ่ม 4 และยาเสพติด ปฏิบัติหน้าที่ทุกวัน ไม่มีตารางเวร ชอบออกกำลังกาย และเตะฟุตบอล สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน ชอบช่วยเหลือคนอื่น 

ส่วนสาเหตุการชีวิตคาดว่า เกิดจากการมาปฏิบัติหน้าที่ภารกิจเอเปค ทำให้ ด.ต.อดุลย์ฯ ต้องปรับเปลี่ยนตารางชีวิตใหม่ ทำงานกลางคืน นอนกลางวัน แต่กลางวันกลับนอนไม่หลับ ทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทันจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด 

สมรสกับ นางชลธิชา มั่งคั่ง มีอาชีพ เป็นแม่บ้าน มีบุตรชาย 1 คน คือ นายชนม์ลงคล มั่งคั่ง อายุ 25 ปี ปัจจุบันกำลังเรียน นิติศาสตร์ ปัจจุบันทำอาชีพค้าขายตามตลาดนัด ซึ่งการเสียชีวิตของ ด.ต.อดุลย์ นับเป็นการขาดเสาหลักของครอบครัว

ด้าน นางสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่า สมาคมแม่บ้านตำรวจขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และในวันนี้ได้นำเงินของสมาคมฯ มามอบให้กับครอบครัวของ ด.ต.อดุลย์ อีกจำนวน 10,000 บาท เพื่อเป็นการเยียวยาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย 

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้จัดส่งพวงหรีด และมอบเงินจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งฝากแสดงความเสียใจมายังครอบครัวของผู้เสียชีวิต กำชับให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดูแลสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ต่างๆอย่างเต็มที่ รวมทั้งจัดงานพิธีให้สมเกียรติ เพื่อตอบแทนคุณงามความดีที่ ด.ต.อดุลย์ฯ ทำเพื่อประเทศชาติ” 

พิธีส่งมอบพระบรมสาทิสลักษณ์ ‘สตรีทอาร์ต คิงภูมิพล’ ศิลปะแห่งรักและศรัทธา มหาราชาภูมิพล

เมื่อวันที่ 20 พ.ย.65 พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานกิจกรรมส่งมอบพระบรมสาทิสลักษณ์ โครงการ สตรีทอาร์ต คิงภูมิพล ศิลปะแห่งรักและศรัทธามหาราชาภูมิพล โดยมี  นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ นายธวัชชัย ศรีทองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายชยธร ธนวรเจต ประธานมูลนิธิยังมีเรา ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน กองทัพเรือ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานในสังกัด กระทรวงแรงงานจังหวัดชลบุรี และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมในพิธี ณ บริเวณอาคารแบดมินตัน กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า ตามที่กองทัพเรือ กระทรวงแรงงาน ได้ร่วมกับ สถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ มูลนิธิยังมีเราโครงการ Street Art King Bhumibol ของทีมวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยมี ครูอะไหล่ เป็นหัวหน้าทีมวาดนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันผลักดันความฝันที่อยากจะเห็นภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ กระทรวงแรงงานและกองทัพเรือ ได้ให้ความสำคัญกับโครงการดังกล่าวที่แสดงออกถึงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งสร้างความสมัครสมานสามัคคี ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทยทั้งชาติ

สำหรับในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ต้องขอขอบคุณกระทรวงแรงงาน ที่ได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี เข้ามาสนับสนุนเตรียมความพร้อมของผนังกำแพงร่วมกับกองเรือยุทธการ กองทัพเรือ เปิดการฝึกอบรมโครงการ ‘สตรีทอาร์ต คิงภูมิพล’ หลักสูตรสาขาช่างสีอาคาร ระหว่างวันที่ 8 -12 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ให้กับอาสาสมัครแรงงาน ชาวบ้าน และทหารกองเรือยุทธการ มีความรู้เกี่ยวกับการทาสีผนังอาคาร ทักษะการโป๊วกำแพง การซ่อมแซมรอยร้าวบางส่วน ก่อนที่จะลงสีรองพื้นเพื่อทาสีจริง และเก็บรายละเอียดที่พื้นผนังกำแพง เตรียมความพร้อมให้ศิลปินได้รังสรรค์ผลงาน วาดพระบรมสาทิสลักษณ์ จนแล้วเสร็จและได้ส่งมอบร่วมกันในวันนี้

สํานักงานตํารวจแห่งชาติ กําหนดมาตรการเพื่อป้องกนั และปราบปรามการลักลอบ เลรนการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก (World Cup 2022)

สืบเนื่องจากในระหว่างวันที่ 20 พ.ย. - 18 ธ.ค. 65 ได้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 22 (World Cup 2022) ณ ประเทศกาตาร์ โดยทั่วโลกต่างให้ความสนใจ สำหรับในส่วนของประเทศไทยนั้น ได้มีการถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อโทรทัศน์ และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และในโอกาสเดียวกันก็มักจะมีผู้ที่ลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลฯ การพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตระหนักถึงความสำคัญในการลักลอบเล่นพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลกฯ และการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลกออนไลน์ และมีความห่วงใยโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่อาจจะตกเป็นเหยื่อของ
การลักลอบเล่นพนันทายผลฯ จึงกำหนดให้มีมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลกฯ โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์  สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 

พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ควบคุม กำกับ ดูแล พร้อมสั่งการไปยังทุกหน่วยปฏิบัติทั่วประเทศ ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบตรวจตราสถานบริการ สถานบันเทิง โรงแรม ร้านอาหาร ร้านอินเตอร์เน็ต รวมถึงร้านเกมส์ ที่เปิดให้บริการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกฯ พร้อมกำชับไปยังหน่วยงานในสังกัดที่ดูแลด้านป้องกันและปราปบรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อป้องกันการลักลอบเล่นการพนันทายผล 

ทั้งนี้ หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในรูปแบบการประทุษร้ายต่อทรัพย์ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งห้างร้าน ธนาคาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ และตู้กดเงินอัตโนมัติ (ATM) อีกทั้งเฝ้าติดตามกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะก่อเหตุอาชญากรรม และกลุ่มที่มีการปล่อยเงินกู้นอกกฎหมายต่างๆ อย่างใกล้ชิด 

‘อนุทิน’ ชี้!! แนวโน้มผู้ป่วยโควิดทั่วโลกเพิ่มขึ้นช่วงฤดูหนาว ห่วงกลุ่ม 608 แนะเข้ารับวัคซีนกระตุ้นสร้างภูมิคุ้มกัน

อนุทิน ห่วงใยประชาชน หลังพบ แนวโน้มผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว แนะกลุ่ม 608 เข้ารับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน 

(21 พ.ย. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข มีความห่วงใยประชาชนจากแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศเนื่องด้วยขณะนี้เป็นฤดูหนาวที่เอื้อต่อการแพร่เชื้อไวรัส ประกอบกับทั่วโลกมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ขณะที่ไทยก็ได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวซึ่งมีผู้เดินทางมาจากทั่วโลก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การดูแลป้องกันตนเอง เช่น สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในที่แออัด การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตลอดจนการสร้างภูมิคุ้มกันโดยการรับวัคซีนจึงมีความจำเป็นสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ต้องเข้ารับวัคซีนตามเกณฑ์ และเข็มกระตุ้นเมื่อครบระยะเวลา เพื่อลดอาการป่วยหนักหรือเสียชีวิต โดยประชาชนสามารถติดต่อเข้ารับวัคซีนสถานพยายาลใกล้บ้าน ซึ่งปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขกระจายวัคซีนสำหรับประชาชนทุกกลุ่มไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศและเพียงพอกับความต้องการ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แม้สถานการณ์แพร่ระบาด หรือการมีจำนวนผู้ป่วยหนักในไทยไม่ได้อยู่ในระดับสูงหรือน่ากังวล แต่ฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่ไวรัสมีการแพร่กระจายรวดเร็ว และตอนนี้หลายประเทศที่อากาศหนาวจัดก็มีผู้ป่วยมากขึ้น นายอนุทินจึงมีความห่วงใย และขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กระจายวัคซีนสำหรับทุกกลุ่มไปยังสถานพยาบาลพร้อมบริการให้ประชาชนทั่วประเทศ

เสียงชม ‘เจ้าภาพเอเปค’ จากนานาชาติล้นหลาม ชี้ ประเทศไทยมีแต่ได้ ภายใต้การนำของ ‘บิ๊กตู่’

บทสรุปเจ้าภาพเอเปค เสียงชื่นชม ‘บิ๊กตู่’ ล้นหลาม จัดได้สง่างามและสมศักดิ์ศรี สร้างความประทับใจทั้งไทยและนานาชาติ เห็นหนทางสดใส ประเทศไทยต้องไปต่อ

ปิดฉากการประชุมระดับโลกเอเปคที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพอย่างสง่างามและสมศักดิ์ศรี โดยมีการส่งชะลอมให้นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีอเมริกา เพื่อเป็นสัญลักษณ์การเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไป การจัดงานครั้งนี้เต็มไปด้วยความยอดเยี่ยม  เห็นได้จากการที่นางรีเบคกา สตามาเรีย ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการเอเปคชมว่าการจัดงานครั้งนี้จัดได้ในระดับเวิลด์คลาสทุกด้าน 

บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ แสดงออกหลายวิธี เช่น นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง โพสต์ภาพอาหารในงานเลี้ยงตามพร้อมคำชมมากมาย แต่ที่เป็นสีสันของงานคงไม่พ้นประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส ที่แว้บไปชมมวยไทย เยี่ยมชมวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม แล้วไปเดินยาวราช พักนั่งดื่มเบียร์สิงห์ในร้านอาหารอย่างสนุกสนาน  

เจ้าชายมุฮัมหมัด บินซัลมาน มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบียเอ่ยชมว่าประเทศไทยมีความเป็นมิตร ระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปฏิสันถาร พระองค์ทรงแย้มสรวลตลอดเวลา การเข้าเฝ้าของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนในการรื้อฟื้นสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ หลังจากซาอุดีอาระเบียตัดความสัมพันธ์กับไทยไปนานถึง 32 ปี และเพิ่งจะมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กันอีกครั้งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยนโยบายทางการทูตของรัฐบาลไทยชุดนี้

การเยือนไทยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นับเป็นการเยือนไทยในรอบ 11 ปี ทำให้การเยือนไทยของประธานาธิบดีจีนครั้งนี้มีความหมายและความสำคัญอย่างยิ่ง และที่ประทับใจอย่างยิ่งคือทางรัฐบาลไทยได้จัดเค้กวันเกิดเซอร์ไพรซ์ภริยาของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงด้วย 

นางกมลา แฮร์ริสสร้างความแปลกใจคาดไม่ถึง เพราะไม่อยู่ในกำหนดการ ด้วยการชวนสื่อทุกคนให้ไปตลาดอตก. จากนั้นซื้อเครื่องแกงหลายอย่าง ทั้งแกงเขียวหวาน แกงเผ็ด ใบมะกรูดแห้ง กลับอเมริกา สร้างความประทับใจแก่คนไทยทุกคน เรื่องเหล่านี้แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักในการจัดงานครั้งนี้ แต่สะท้อนความพึงพอใจที่ผู้นำประเทศ ที่มีต่อประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

การประชุมเอเปคในประเทศไทยครั้งนี้มีความสำคัญ ถือว่าเป็นการประชุมระดับภูมิภาคที่สำคัญเวทีหนึ่งของโลก เป็นการประชุมแบบพหุภาคีจากหลายภาคส่วนที่มาเข้าร่วมกัน ประเด็นของการหารือมุ่งไปที่เรื่องของโปรโตคอลหรือในเชิงข้อตกลงตามระเบียบแบบแผน เน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้า การเชื่อมต่อระหว่างกัน ซึ่งประเทศไทยผลักดันในเรื่องของ BCG Model ทั้งเรื่องเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว

ประเด็นในการหารือครั้งนี้จะส่งผลช่วยเศรษฐกิจไทยทั้งรายย่อยและรายใหญ่ เป็นประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับแน่นอน โดยเฉพาะด้านธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เม็ดเงินจำนวนนี้ก็จะลงไปสู่ธุรกิจรากหญ้าที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ประตูสนามบิน ไกด์ แท็กซี่ โรงแรม ธุรกิจนวดสปา ร้านอาหาร แม่ค้าพ่อค้าในแหล่งท่องเที่ยว นี่คือผลประโยชน์ร่วมของคนไทยที่ไม่อาจปฎิเสธได้

การจัดงานครั้งนี้คือช่องทางให้ไทยได้แสดงศักยภาพและความพร้อมในการจัดการประชุมระดับโลก หลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งทั้งโลกอยู่ในภาวะซบเซา สิ่งที่คนไทยจะได้รับอย่างชัดเจนคือ การกระตุ้นหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ การค้าขาย ทุกระดับ ผู้นำและตัวแทนประเทศต่างๆ รวมถึงสื่อมวลชนทุกชาติเข้ามาเยือนเมืองไทยและต้องกินใช้ในบ้านเรา นั่นคือการทำให้เม็ดเงินหมุนเวียน  

ในส่วนของเศรษฐกิจระดับมหภาค คงมีการดำเนินการต่อหลังจากนี้จนกลายเป็นผลประโยชน์ระยะยาวของเมืองไทย แต่ที่แน่ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียกลับมาแนบแน่นเหมือนเดิม หลังขาดสะบั้นไปนานถึง 32 ปี

ร้านอาหาร ‘R-HAAN’ ชวนลิ้มลองเมนูสุดพิเศษ พร้อมเปิดประสบการณ์แบบผู้นำเอเปคได้แล้ววันนี้

เชฟชุมพล แจ้งไพร ผู้รังสรรค์เมนูกาลาดินเนอร์ต้อนรับผู้นำเอเปค ชวนลิ้มลองรสชาติตามรอยผู้นำได้ตั้งแต่ 21 พ.ย. - 4 ธ.ค.นี้ ที่ร้านอาหาร ‘R-HAAN’

หลังจากเป็นปรากฏการณ์ Soft Power เกี่ยวกับอาหารไทยไปตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับอาหารที่ ‘เชฟชุมพล แจ้งไพร’ รังสรรค์ไปเสิร์ฟขึ้นโต๊ะผู้นำเอเปค ล่าสุด ร้าน R-HAAN ร้านระดับสองดาวมิชลินของไทย ได้เปิดประสบการณ์ให้คนทั่วไปได้ลิ้มลองเมนูเหล่านั้นแล้ว

สำหรับ ร้านอาหาร R-HAAN เป็นร้านระดับ 2 ดาว มิชลิน ต่อเนื่องทุกปีนับตั้งแต่ปี 2019 เป็นร้านได้รับโอกาสรังสรรค์เมนูสุดพิเศษ สำรับต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจ 21 ประเทศ ภายใต้แนวคิด ‘Sustainable Thai Gastronomy - ภูมิปัญญาอาหารไทยอย่างยั่งยืน’ คัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากแหล่งผลิตท้องถิ่นทั่วประเทศไทย

ในวันนี้ ‘ร้านอาหาร R-HAAN’ โดย เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหาร ขอนำเสนอเมนูสำรับ ‘ตามรอยผู้นำเอเปค 2022’ เมนูเดียวกับสำรับต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจ 21 ประเทศ มาให้ผู้สนใจได้รับประสบการณ์อาหารสุดพรีเมียมในแบบเดียวกัน

โดยในสำรับประกอบไปด้วย

อะมูสบุช เสิร์ฟในเมนู ‘กระทงทองไส้ครีมซอสและไข่ปลาสเตอร์เจียนคาเวียร์โครงการหลวงดอยอินทนนท์’

อาหารเรียกน้ำย่อย ‘Welcome To Thailand’ นำเสนออาหารไทย 4 ภาค ขนาดพอดีคำ วางบนแผนที่ประเทศไทยประจำแต่ละภาค อันได้แก่ 

แอ่วเหนือ - ข้าวซอยหมี่กรอบไทยล้านนา
เที่ยวกลาง - ต้มยำทอดมันกุ้งแม่น้ำกรุงศรีอยุธยา
ยามอีสาน - โคราชวากิวย่างถ่านสมุนไพรจิ้มแจ่ว
ล่องใต้ - ไก่เบตงย่างกอและ

สลัด ในเมนู ‘ยำใหญ่ผักออแกนิก 9 อย่างจากวิสาหกิจชุมชนทั่วทุกภาคของเมืองไทย กับไก่ออร์แกนิกและกุ้งมังกร 7 สีภูเก็ต พร้อมไข่เป็ดไล่ทุ่งเมืองสุพรรณบุรี ดองดอกเกลือเมืองเพชร’


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top