Sunday, 4 May 2025
TODAY SPECIAL

วันสถาปนา ครบรอบ 45 ปี วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์พระมงกุฎเกล้า สถาบันผลิตแพทย์ทหารแห่งเดียวในประเทศไทย

วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เป็นสถาบันผลิตแพทย์ทหารแห่งเดียวในประเทศไทย ก่อตั้งเป็นสถาบันแพทยศาสตร์ลำดับที่ 7 ของประเทศ จากกระแสพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยดำเนินงานร่วมกับโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรมแพทย์ทหารบก และดำรงสถานะสถาบันสมทบของ มหาวิทยาลัยมหิดล
.
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2518 วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าได้รับอนุมัติเข้าสมทบกับ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อประสาทปริญญา แพทยศาสตรบัณฑิต ทำให้การก่อตั้งวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้ามีความสมบูรณ์ กระทรวงกลาโหมจึงมีคำสั่งลงวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ให้วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เป็นหน่วยขึ้นตรงกรมแพทย์ทหารบก และอนุมัติให้เปิดดำเนินการได้ จึงถือเอาวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2518 เป็นวันสถาปนาวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า

วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าใช้หลักสูตรของทบวงมหาวิทยาลัย ซึ่งใช้เวลาในการศึกษา 7 ปี  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 ถึงปี พ.ศ. 2523 จนมีการเปลี่ยนหลักสูตรการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิตเป็น 6 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 ถึงปัจจุบัน

วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้ามีการพัฒนาทั้งทางด้านวิชาการและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน อาทิเช่น สนับสนุนการวิจัยให้แก่นักเรียนแพทย์ทหาร ตลอดจนอาจารย์แพทย์ทั้งชั้นปรีคลินิก และให้ทุนการศึกษาแก่ผู้มีผลการเรียนดีไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ การสนับสนุนการศึกษาต่อและดูงานต่างประเทศของอาจารย์และนักเรียนแพทย์ทหาร การก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ สระว่ายน้ำ อาคารหอพัก โรงประกอบเลี้ยงและซักรีด ทั้งยังหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เพื่อให้เพียงพอต่อการเรียนการสอน และการเรียนรู้ของนักเรียนแพทย์ทหาร 

วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าได้ผลิตบัณฑิตแพทย์ทหาร ซึ่งได้จัดสรรให้แก่เหล่าทัพต่างๆ ทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพไทย รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือกำลังพล ครอบครัว ตลอดจนประชาชนที่อยู่ห่างไกล หรือพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งเป็นการบรรเทาการขาดแคลนแพทย์ในกองทัพ และในชนบทของประเทศได้เป็นอย่างดี


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า

วันนี้เมื่อ 40 ปีก่อน ถือเป็นวันพิเศษอีกหนึ่งวัน เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด ‘เขื่อนศรีนครินทร์’

เขื่อนศรีนครินทร์ หรือชื่อเดิมคือ เขื่อนเจ้าเณร เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำแม่กลอง สร้างขึ้นบนแม่น้ำแควใหญ่ บริเวณบ้านเจ้าเณร ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี 

เขื่อนแห่งนี้เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเดียวที่ใหญ่และมีความจุมากที่สุดในประเทศไทย ตัวเขื่อนมีความสูงจากฐานราก 140 เมตร สันเขื่อนยาว 610 เมตร กว้าง 15 เมตร อ่างเก็บน้ำมีพื้นที่ 419 ตารางกิโลเมตร มีความจุ 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2516 แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2523

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด ‘เขื่อนศรีนครินทร์’ โดยที่มาของชื่อเขื่อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญพระนามาภิไธย สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มาขนานนาม

ปัจจุบัน เขื่อนศรีนครินทร์ ผลิตพลังงานไฟฟ้าเฉลี่ยปีละประมาณ 1,250 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง รวมทั้งยังทำหน้าที่ด้านการชลประทาน บรรเทาอุทกภัย ผลักดันน้ำเค็ม ประมง และการท่องเที่ยว โดยแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชม ‘อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์’ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี และของประเทศไทยด้วยเช่นกัน

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/เขื่อนศรีนครินทร์


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิด ‘เช เกวารา’ นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่แห่งละตินอเมริกา และเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ

หลายคนคุ้นเคยกับภาพสติกเกอร์ผู้ชายหนวดเคราเข้มคนนี้ ที่มักติดอยู่ตามด้านหลังรถบรรทุก หรือตามร้านอาหารแนวเพื่อชีวิต เขาคือ เช เกวารา นักปฏิวัติชื่อดังแห่งละตินอเมริกา 

เช เกวารา เกิดเมื่อ 14 มิถุนายน ค.ศ.1928 ที่เมืองโรซาริโอ ประเทศอาร์เจนตินา เขาเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักปฏิวัติเมื่อตอนที่กำลังเรียนแพทย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยบูเอโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา จากเหตุการณ์ที่เขากับเพื่อนได้ขี่มอเตอร์ไซค์ท่องเที่ยวไปทั่วแถบละตินอเมริกา 

ในทริปหนนั้น ทำให้เขาได้พบว่า มีผู้คนในชนบทมากมายที่ต้องตกระกำลำบาก รวมทั้งโดนเอารัดเอาปเรียบ ถูกกดขี่ข่มเหงอย่างเลวร้าย ทั้งหมดทั้งมวล มีที่มาจากความแตกต่างทางชนชั้น และรัฐบาลเผด็จการ

เชตัดสินใจทิ้งเสื้อกาวน์ และเข้าร่วมกับขบวนการปฏิวัติในประเทศต่าง ๆ จนได้พบกับ ฟิเดล คาสโตร ที่ประเทศเม็กซิโกในปี ค.ศ.1955  ก่อนจะเข้าร่วมปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลเผด็จการของประเทศคิวบาได้สำเร็จในปี ค.ศ.1959 

ต่อมาในปี ค.ศ.1965 เชเดินทางไปร่วมปฏิวัติในประเทศต่าง ๆ อาทิ คองโก เวเนซูเอลา เปรู เวียดนาม กัวเตมาลา และโบลิเวีย ซึ่งที่แห่งนี้เอง ทำให้เชสูญเสียอิสรภาพ เขาถูกจับกุมตัว และถูกสังหารเสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ.1967 

ข่าวการตายของเช สร้างความเศร้าสลดให้กับชาวละตินอเมริกา แม้จะเป็นสัญลักษณ์ของการปลดแอกเพื่อนำไปสู่อิสรภาพ แต่เชก็มีศัตรู และมีเรื่องราวในมุมลบที่ถูกพูดถึงอยู่ไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพรุ่นหลัง รวมทั้งยังเคยได้รับเลือกจากนิตยสาร TIME ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลในช่วงคริสตศวรรษที่ 20 อีกด้วย


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/เช_เกบารา


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 29 ปีก่อน เกิดข่าวใหญ่ขึ้นในเมืองไทย เมื่อราชินีลูกทุ่งขวัญใจคนไทย ‘พุ่มพวง ดวงจันทร์’ เสียชีวิตลงด้วยโรคเอสแอลอี สร้างความสะเทือนใจต่อแฟนเพลงชาวไทยเป็นอย่างมาก

พุ่มพวง ดวงจันทร์ หรือชื่อ-นามสกุลจริงว่า รำพึง จิตรหาญ เกิดที่จังหวัดชัยนาท แต่มาเติบโตที่จังหวัดสุพรรณบุรี ในวัยเด็ก เธอเริ่มหัดร้องเพลงและเข้าประกวดตามงานต่าง ๆ ตั้งแต่อายุได้ 8 ปี โดยใช้ชื่อในการเป็นนักร้องว่า น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย และ น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ

ต่อมาเมื่ออายุได้ 15 ปี บิดาได้ฝากให้เป็นลูกบุญธรรมของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ กระทั่งในปี พ.ศ.2519 ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดัง มนต์ เมืองเหนือ ได้รับเธอเป็นลูกศิษย์ และเปลี่ยนชื่อมาเป็น ‘พุ่มพวง ดวงจันทร์’  

พุ่มพวง ดวงจันทร์ เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปี พ.ศ.2525 เธอมีผลงานเพลงที่แฟน ๆ ต่างรู้จักกันดี อาทิ นัดพบที่หน้าอำเภอ, สาวนาสั่งแฟน, คนดังลืมหลังควาย, อื้อฮื้อ! หล่อจัง, หนูไม่รู้, ตั๊กแตนผูกโบว์ และอีกมากมาย จนเมื่อปี พ.ศ.2532 เธอได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระราชอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) ในสาขารางวัลขับร้องเพลงดีเด่น กับเพลง ‘สยามเมืองยิ้ม’ 

ตลอดยุค 80 - 90 พุ่มพวง ดวงจันทร์ คือเบอร์หนึ่งของวงการเพลงลูกทุ่งไทยอย่างแท้จริง จนแฟนเพลงตั้งฉายาให้ว่า ‘ราชินีลูกทุ่ง’ กระทั่งจู่ ๆ ก็เกิดข่าวร้าย เมื่อเธอล้มป่วยด้วยโรคเอสแอลอี หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง ต่อมาเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2535 พุ่มพวง ดวงจันทร์ได้เสียชีวิตลง สร้างความสะเทือนใจแก่แฟนเพลงทั่วทั้งประเทศ 

วันนี้ผ่านมากว่า 29 ปีแล้ว แฟนเพลงมากมายยังรำลึกถึงราชินีลูกทุ่งคนนี้ และผลงานเพลงของเธอ ก็ยังถูกนำมาขับร้องใหม่ ตลอดจนถูกนำมาถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รู้จักกันเรื่อยมา
.
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/พุ่มพวง_ดวงจันทร์


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของ หม่อมราโชทัย หนึ่งในคณะราชทูตที่เดินทางไปยังประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก และเป็นผู้ประพันธ์หนังสือที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ‘นิราศลอนดอน’

หม่อมราโชทัย มีชื่อเสียงในฐานะ เป็นผู้ประพันธ์หนังสือ ‘นิราศลอนดอน’ ซึ่งมีอายุมากว่า 164 ปี โดยนามเดิมของท่าน มีชื่อว่า หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2363 ท่านเกิดปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย 

เมื่อเจริญวัย บิดาได้นำไปถวายตัวอยู่กับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้นยังดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าฟ้ามงกุฎ สมมุติเทวาวงศ์พงศาอิศวรกระษัตริย์ ขัตติยราชกุมาร ครั้นเมื่อเจ้าฟ้ามงกุฎฯ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หม่อมราชวงศ์กระต่ายจึงได้ติดตามสมัครเข้ารับราชการ และได้รับพระราชทานเลื่อนอิสริยยศเป็น ‘หม่อมราโชทัย’ 

ด้วยความรู้ในภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี ในช่วงปี พ.ศ.2400 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมราโชทัยเป็นล่ามหลวง ออกเดินทางไปกับคณะราชทูตไทย เพื่อเชิญพระราชสาสน์และเครื่องมงคลราชบรรณาการ ไปถวายแด่สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ที่ประเทศอังกฤษ

ในการเดินทางครั้งนั้น หม่อมราโชทัยทยังเป็นผู้บันทึกจดหมายเหตุการณ์ต่าง ๆ จนภายหลังเมื่อเดินทางกลับมาแล้วเป็นเวลากว่า 2 ปี ท่านจึงได้ลงมือเรียบเรียงเหตุการณ์สำคัญ ๆ แต่งขึ้นเป็นหนังสือที่ชื่อว่า ‘นิราศลอนดอน’ และได้กลายเป็นหนังสือเชิงประวัติศาสตร์เล่มสำคัญของเมืองไทยในเวลาต่อมา 

หม่อมราโชทัยดำรงตำแหน่งสูงสุดในการรับราชการ โดยได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นอธิบดีพิพากษาศาลต่างประเทศ นับเป็นคนแรกของประเทศไทย ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2410 หม่อมราโชทัยได้ถึงแก่อนิจกรรม ในขณะที่มีอายุ 47 ปี แต่ผลงานของท่านก็ได้กลายเป็นบันทึกอันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ตราบจนถึงทุกวันนี้

ที่มา:

https://th.wikipedia.org/wiki/หม่อมราโชทัย_(หม่อมราชวงศ์กระต่าย_อิศรางกูร), https://th.wikipedia.org/wiki/นิราศลอนดอน


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 57 ปีก่อน เป็นวันถึงแก่อสัญกรรมของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของประเทศไทย สิริอายุ 67 ปี

จอมพล ป. พิบูลสงคราม มีนามเดิมว่า แปลก ขีตตะสังคะ เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2440 เริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม จังหวัดนนทบุรี จนเมื่ออายุ 12 ปี ได้เข้าเรียนต่อในโรงเรียนนายร้อยทหารบก จนได้เป็น ‘ว่าที่ร้อยตรี’ สังกัดเหล่าปืนใหญ่ เมื่อปี พ.ศ.2458

จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นหนึ่งในคณะเปลี่ยนแปลงการปกครองสยาม พ.ศ.2475 ต่อมาในปี พ.ศ.2481 ก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย โดยเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงประเทศหลายประการ อาทิ การเปลี่ยนชื่อจากประเทศ ‘สยาม’ เป็น ‘ไทย’ รวมถึงการเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ เป็นวันที่ 1 มกราคม หรือการให้ใช้คำว่า สวัสดี เป็นการกล่าวทักทายกัน ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามแบบวัฒนธรรมตะวันตก และทำให้ประเทศมีความทันสมัยยิ่งขึ้น

จอมพล ป. พิบูลสงคราม ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2487 เนื่องจากแพ้เสียงส่วนใหญ่ในการร่างกฎหมายสำคัญในสภา แต่ต่อมาในปี พ.ศ.2490 หลังการทำรัฐประหาร เขาก็ได้รับการทาบทามให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง กระทั่งในปี พ.ศ.2500 เกิดการรัฐประหาร นำโดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นเหตุให้จอมพล ป. พิบูลสงคราม ต้องลี้ภัยทางการเมืองไปยังประเทศญี่ปุ่นในเวลาต่อมา

จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ชื่อว่า เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด เป็นระยะเวลารวม 14 ปี 11 เดือน ต่อมาเจ้าตัวได้ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2507 ณ บ้านพักส่วนตัว ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สิริอายุ 67 ปี โดยมีการจัดพิธีฌาปนกิจที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะมีการนำอัฐิกลับสู่ประเทศไทยในวันที่ 27 มิถุนายน ปีเดียวกัน พร้อมพิธีต้อนรับจากทั้งสามเหล่าทัพ
 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/แปลก_พิบูลสงคราม


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ในช่วงปี พ.ศ.2535 ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และวันนี้เมื่อ 29 ปีก่อน นายอานันท์ ปันยารชุน ก็ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นสมัยที่สอง หลังเหตุการณ์คลี่คลายลง

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรง ‘พฤษภาทมิฬ’ ระหว่างวันที่ 17-24 พฤษภาคม พ.ศ.2535 ทำให้พลเอก สุจินดา คราประยูร ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคร่วมเสียงข้างมาก ณ ขณะนั้น ได้ร่วมกันสนับสนุนให้ พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ หัวหน้าพรรคชาติไทย ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ณ ขณะนั้น ได้ตัดสินใจเสนอชื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน ขึ้นทูลเกล้าฯ แทน

นายอานันท์ ปันยารชุน จึงได้รับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2535 ทั้งนี้นายอานันท์ยังได้จัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ โดยรัฐมนตรีส่วนใหญ่ เป็นรัฐมนตรีที่เคยดำรงตำแหน่งมาก่อน ในสมัยที่นายอานันท์ เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก

นายอานันท์ เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองอยู่ได้ราว 105 วัน กระทั่งเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2535 จึงพ้นจากตำแหน่ง ภายหลังจากที่มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2535 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งมากที่สุด และในเวลาต่อมา นายชวน หลีกภัย ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเป็นลำดับถัดมา

กล่าวสำหรับนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 18 ของประเทศไทย เข้ามาบริหารประเทศครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2534 โดยได้ชื่อว่าเป็นนายกฯ ที่เน้นเรื่องความโปร่งใส และดำเนินนโยบายอย่างเป็นอิสระ และมีผลงานเป็นรูปธรรม ทำให้รัฐบาลชุดนั้นได้รับเสียงชื่นชม จนได้รับฉายาว่า ‘รัฐบาลโปร่งใส’ ส่วนตัวนายอานันท์เอง ก็ได้รับฉายาว่า ‘ผู้ดีรัตนโกสินทร์’

 

ที่มา: https://www.komchadluek.net/news/today-in-history/281730

https://th.wikipedia.org/wiki/อานันท์_ปันยารชุน


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 15 ปีก่อน เป็นวันที่ต้องถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของชาติ โดยเป็นวันพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 8-13 มิถุนายน พ.ศ.2549 โดยในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2549 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จฯ ออกสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม

พร้อมกันนี้ ได้พระราชทานวโรกาสให้พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ และพสกนิกร เข้าเฝ้าฯ ทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยบรรยากาศภายในพระราชพิธี เต็มไปด้วยพสกนิกรที่พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม พร้อมส่งเสียงตะโกน ‘ทรงพระเจริญ’ อย่างกึกก้อง กลายเป็นภาพที่ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก

อนึ่ง พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มีพระราชคันตุกะจากประเทศที่มีสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี ตอบรับคำกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย ของรัฐบาลไทย เพื่อร่วมถวายพระพรในวโรกาสนี้ จำนวน 25 ประเทศ โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดี และสมเด็จพระราชินี ที่เสด็จฯ มาด้วยพระองค์เอง เป็นจำนวน 13 ประเทศ นับเป็นการชุมนุมของพระประมุขจากประเทศต่าง ๆ มากที่สุดในโลก

 

ที่มา: https://positioningmag.com/9360

https://th.wikipedia.org/wiki/พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ_60_ปี


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 50 ปีก่อน เป็นวันสำคัญของประเทศไทยอีกวันหนึ่ง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (พระอิสสริยยศ ณ ขณะนั้น) เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ ‘ถนนรัชดาภิเษก’

โดยที่มาของการสร้าง ‘ถนนรัชดาภิเษก’ เกิดขึ้นตามกระแสพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตนครหลวงกรุงเทพธนบุรี 

โดยเมื่อปี พ.ศ.2514 จอมพล ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น ได้เข้าเฝ้าเพื่อกราบบังคมทูลเรื่องพระราชพิธีรัชดาภิเษก ที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 25 ปี การณ์นั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างถนนเพิ่มขึ้น แทนการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ทั้งนี้เพื่อพระราชทานเป็นของขวัญแก่ประชาชน

ต่อมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2514 ให้จัดสร้างถนนวงรอบขึ้นเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์ในวโรกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษก โดยรัฐบาลได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานชื่อถนนวงรอบว่า ‘ถนนรัชดาภิเษก’ 

กระทั่งเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2514 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (พระอิสสริยยศ ณ ขณะนั้น) ทรงวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างถนนรัชดาภิเษก ณ บริเวณเชิงสะพานกรุงเทพตัดกับถนนเจริญกรุง

ถนนรัชดาภิเษก เปิดทำการใช้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2519 แต่ตลอดระยะเวลาดังกล่าว มีการสร้างต่อเติมเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ จนมาแล้วเสร็จจริงเมื่อปี พ.ศ.2536 โดยเป็นถนนวงแหวนรอบในของกรุงเทพมหานคร ที่เริ่มจากสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่ ผ่านสะพานกรุงเทพ ตัดผ่านถนนพระรามที่ 3 ถนนสุขุมวิท ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 9 ถนนลาดพร้าว ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนประชาชื่น ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ข้ามสะพานพระราม 7 เข้าเขตอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ตัดกับถนนบางกรวย-ไทรน้อย ลอดใต้สะพานพระราม 6 เข้าเขตกรุงเทพมหานคร รวมกับถนนจรัญสนิทวงศ์ และมาบรรจบที่ทางแยกท่าพระ กินความยาวทั้งสิ้นกว่า 45 กิโลเมตร

นับจากวันที่ทรงเสด็จฯ วางศิลาฤกษ์ จวบจนถึงวันนี้ ถนนรัชดาภิเษกได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาการจราจรของกรุงเทพชั้นใน ให้คลี่คลายลงไปได้อย่างมาก รวมทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เดินทางเข้าออกระหว่างใจกลางเมืองกับชุมชนส่วนนอก ตลอดจนผู้ที่เดินทางจากต่างจังหวัด ให้สามารถเดินทางผ่านกรุงเทพฯ ออกไปได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งหมดถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงวางรากฐานไว้ให้กับประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง

 

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/ถนนรัชดาภิเษก
www.trueplookpanya.com/blog/content/59177/-timhis-tim-


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

หลายคนคุ้นเคยชื่อ ‘นครรัฐวาติกัน’ ซึ่งในวันนี้ ถือเป็นวันพิเศษของนครรัฐแห่งนี้ เนื่องจากเป็นวันครบรอบการกำเนิดของรัฐ มีอายุครบ 92 ปี

นครรัฐวาติกัน ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี แต่เป็นพื้นที่ที่มีการปกครองพิเศษของตนเอง โดยเมื่อราวปี ค.ศ.1929 นครรัฐวาติกันและประเทศอิตาลี ได้ลงนามสนธิสัญญา ยอมรับสถานะของนครรัฐวาติกัน เป็นรัฐเอกราช มีอำนาจอธิปไตยของตนเอง

นครรัฐวาติกัน เป็นรัฐอิสระที่เล็กที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่ 0.438 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรราว 900 คน ตามความเป็นจริง ไม่มีคนเชื้อชาติวาติกัน จะมีเพียงพลเมืองสัญชาติวาติกันเท่านั้น 

พลเมืองของรัฐ ประกอบด้วยองค์สันตะปาปา คาร์ดินัล ผู้ปกครองนครรัฐวาติกัน เจ้าหน้าที่ประจำวาติกัน และทหารสวิสฯ ซึ่งเป็นองครักษ์ของสันตะปาปา โดยทำหน้าที่นี้สืบทอดกันมาตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 15

แม้จะมีขนาดเล็ก แต่นครรัฐวาติกันก็มีความสำคัญ โดยเป็นศูนย์กลางแห่งคริสตศาสนา นอกจากนี้ยังมีหอสมุดเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 (the Apostolic Library of the Vatican) รวมทั้งยังเป็นแหล่งรวมประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และศิลปวัฒนธรรมที่โดดเด่น โดยเฉพาะที่พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vitican Museum) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากมีงานศิลปะของศิลปินเอกของโลกจัดเก็บไว้อยู่มากมาย

ด้วยเหตุนี้ นับตั้งแต่ ค.ศ.1960 เป็นต้นมา นครรัฐวาติกันจึงได้รับการจารึกให้เป็นดินแดนที่จะต้องได้รับการปกป้องรักษาไว้เป็นพิเศษในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งทางอาวุธ (International Register of Cultural Works under Special Protection in Case of Armed Conflict) เนื่องจากเป็นแหล่งรวมศิลปวัฒนธรรมของโลกนั่นเอง

วันนี้นครแห่งนี้ มีอายุครบ 92 ปี และยังคงตั้งตระหง่าน เป็นศูนย์กลางแห่งคริสตศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่ที่เปิดให้ผู้คนทั่วโลกได้เดินทางมาชื่นชมความงดงามทางศิลปะวัฒนธรรมต่อไป...

ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/นครรัฐวาติกัน


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top