Wednesday, 2 July 2025
NEWSFEED

‘ได๋ ไดอาน่า’ อึ้งไอเดีย เด็ก 14 จากเชียงราย เสนอ 3 ขั้นตอน แก้ปัญหา ‘หมูแพง’ 

เด็กยังคิดได้!! ชาวเน็ตแห่ชื่นชม เด็ก 14 จากเชียงราย เสนอไอเดีย แก้ปัญหา ‘หมูแพง’ ผ่านรายการ “นินทาประเทศไทย” ชี้ได้รับผลกระทบ ที่บ้านทำแต่ผัดผัก อาหารที่โรงเรียนลดหมูลง

ในรายการ “นินทาประเทศไทย” EP.1 ดำเนินรายการโดย น้าเน็ก พร้อมผู้ร่วมรายการอย่าง หมึก วิโรจน์ ควันธรรม สุดยอดดีเจยุค 70’s, ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ นักแสดงชื่อดัง และทิดเอก อดีตพระมหาไพรวัลย์ วรวัณฺโณ ร่วมพูดคุยกับผู้ชมทางบ้าน ในประเด็น ‘หมูแพง’ ผ่านทางช่อง NANAKE555

ซึ่งในช่วงหนึ่งของรายการ มี น้องเฟิร์ส วัย 14 ปี จาก จ.เชียงราย โทรเข้ามาร่วมพูดคุยแสดงความคิดเห็น ที่ทำเอาพิธีกรทั้งรายการอึ้งไปตามๆ กันพร้อมใจกันปรบมือชื่นชม โดยเฉพาะ ได๋ ไดอาน่า ถึงกับตะลึงไอเดียเด็ก 14

โดยน้องเฟิร์ส บอกว่า ได้รับผลกระทบจากหมูแพง กับข้าวตอนเช้า ปกติที่บ้านจะมีผัดผักใส่หมู ทุกวันนี้กลายเป็นผัดผักเพียวๆ บางทีอาหารที่โรงเรียนหมูก็ลดลงด้วย เพราะค่าหมูมันแพงขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็ต้องทำใจ เพราะไม่ได้เป็นคนที่จัดการเรื่องนี้โดยตรง อีกอย่างบ้านเป็นโรงสีคงไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้

ในฐานะเด็ก 14 ถ้าสามารถแก้ได้จะแบ่งเป็น 3 ระยะ

ระยะแรก จะชดเชยเกษตรกร ซึ่งตอนนี้ขายหมูแล้วขาดทุน และเร่งส่งเสริมการสร้างรายได้จากหมู ทั้งเรื่องแม่พันธุ์

ระยะกลาง คือ ให้เกษตรกรกู้เงินระยะสั้น เอาไปพัฒนาฟาร์มหมูให้สามารถป้องกันโรคได้ รวมถึงสั่งหมูมาจากต่างประเทศ

ระยะสุดท้าย ส่งเสริมบูรณาการทุกอย่างให้เป็น Smart Farmer ใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาจัดการ รวมถึงส่งเสริมคุณภาพหมู คุณภาพสินค้า รวมถึงพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งพาต่างประเทศ

‘บุ๋ม ปนัดดา’ จัดรถรับ-ส่งผู้ป่วยโควิดฟรี วอนอย่าขึ้นรถโดยสารสาธารณะ หวั่นแพร่เชื้อ

"บุ๋ม ปนัดดา" ออกประกาศ วอนขอความร่วมมือผู้ป่วยโควิด-19 อย่าขึ้นรถโดยสารสาธารณะ เสี่ยงแพร่เชื้อ แจง "กรุณาโทร 094-885-9111 ทางองค์กรทำดี เรานำส่งฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย"

"ปุ๋ม ปนัดดา" ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือสังคมในหลายๆ ด้าน อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ออกมาเคลื่อนไหวช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 ทั้งบริการรับจากบ้าน ไปส่งที่โรงพยาบาล หรือสถานรักษาอื่นๆ รวมทั้งอาหาร สิ่งของสำหรับจำเป็น โดยองค์กรทำดี "บุ๋ม ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" ประธานองค์กร

ล่าสุด บุ๋ม ปนัดดา โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวระบุไว้ว่า 

"ขอความร่วมมือจากผู้ติดเชื้อโควิดทุกท่านและต้องเดินทางไปโรงพยาบาลหรือฮอสพิเทล กรุณาอย่าขึ้นรถโดยสารสาธารณะ ที่ไม่ได้ถูกจัดไว้สำหรับผู้ป่วยโควิด เพราะสิ่งที่คุณทำคือการแพร่เชื้อที่น่ากลัวมาก กรุณาโทรแจ้ง 0948859111 พี่แว่น ทาง #องค์กรทำดี เรานำส่งฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ"

มรดกแห่งธากา รู้จัก ‘เมราเดีย’ ตลาดเก่าแก่แห่งบังกลาเทศ หล่อเลี้ยงชีพชนถิ่นมากว่า 200 ปี

ธากา/บังกลาเทศ - ตลาดเมราเดีย ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ เป็นตลาดที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 200 ปี 

ภาพจำของตลาดดังกล่าวในอดีต คือ ร่มเงาภายใต้ ‘ต้นไทรขนาดใหญ่’ ที่เติบโตแต่เก่าก่อนมากมาย ซึ่งได้รับความนิยมต่อลูกค้าที่ได้พบเห็นในแต่ละวัน ถึงแม้ในปัจจุบันภาพเหล่านั้นจะเริ่มจางหายไปตามกาลเวลาก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ความคลาสสิกของตลาดเมราเดีย คือ เส้นทางสู่ตลาดแห่งนี้ ผ่านทาง ‘แม่น้ำนารายณ์’ (คลองรามปุระ) ซึ่งสมัยก่อนเคยเป็นทางเดียวที่จะมาที่แห่งนี้ และลูกค้าหลายๆ คนต่างก็ยืนยันว่าพวกเขาเคยไปเดินทางมายังตลาดนี้ทางเรือกันด้วย

สำหรับ ตลาดเมราเดีย นั้น ถือว่าเป็นตลาดโบราณของธากา ที่เรียกว่ารวมไว้ด้วยทุกสิ่งที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของผู้คน 

“ฉันคิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับสินค้าประจำวัน อาหาร หรือเสื้อผ้า มีทุกอย่างที่คุณต้องการในตลาดนี้ อีกหนึ่งความงามของสถานที่แห่งนี้คือบรรยากาศรื่นเริงและผู้คนจากทุกระดับชั้นสามารถมาที่นี่เพื่อซื้อของได้ เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม” ลูกค้าท่านหนึ่งได้กล่าว

‘มากาวา’ หนูฮีโร่ดมกลิ่นกู้ระเบิดในกัมพูชา ลาโลกแล้วอย่างสงบในวัย 8 ปี

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 65 - องค์กรการกุศลอาโปโป (APOPO) เผยว่า “มากาวา” หนูยักษ์แอฟริกา ฮีโร่ผู้ทำหน้าที่ดมกลิ่นตรวจจับกับระเบิดในกัมพูชา ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองด้านความกล้าหาญ เสียชีวิตแล้วในวัย 8 ปี 

อาโปโป ได้ระบุแถลงการณ์ดังนี้

1.) ฮีโร่หนูมากาวาจากเราไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้มันมีสุขภาพแข็งแรงและยังเล่นสนุกตามปกติ แต่เริ่มเชื่องช้าลง งีบหลับมากขึ้น และกินอาหารน้อยกว่าเดิมในช่วงหลังมานี้

2.) มากาวาปฏิบัติภารกิจนาน 5 ปี มันตรวจจับกับระเบิดและวัตถุระเบิดกว่า 100 ชิ้น กลายเป็นฮีโร่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของอาโปโป ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ฝึกหนูยักษ์แอฟริกาให้สามารถดมกลิ่นหากับระเบิดและเชื้อวัณโรคเพื่อช่วยชีวิตผู้คน

3.) การเสียสละของ “มากาวา” ทำให้คนในหลายชุมชนในกัมพูชาสามารถดำเนินชีวิต ทำงาน และเล่นสนุกโดยไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะเสียชีวิตหรือสูญเสียอวัยวะ" 

มนุษย์ไร้หัวใจคนแรกของโลก ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากชีพจร

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทางการแพทย์สมัยใหม่ได้มอบสิ่งวิเศษให้กับเรามากมายไม่ว่าจะเป็นวัคซีนป้องกันโรคระบาดหรือแม้แต่วิธีรักษาโรคมะเร็งที่แสนจะเหลือเชื่อ

เมื่อย้อนกลับไปเมื่อปีค.ศ. 2011 สองนายแพทย์จากสถาบันหัวใจเท็กซัสได้คิดค้นหัวใจเทียมที่เป็นเครื่องสามารถทำให้มนุษย์มีชีวิตอยู่ในโดยปราศจากอวัยวะที่สำคัญมากที่สุดของร่างกาย

ดร.บิลลี่ คอร์น และ ดร.บูส ฟาซิเออ ได้คิดค้นเครื่องจักรที่สามารถสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกายได้สำเร็จ เขาได้เริ่มใช้มันครั้งแรกกับลูกวัวอายุ 8 เดือน โดยพวกเขาได้ถอดหัวใจของมันออกมาหลังจากนั้นก็ได้ใช้เครื่องจักรที่มีลักษณะคล้ายหอยโข่งสองอันประกบกันเข้าไปแทนที่แทนหัวใจเดิมและในที่สุดพวกเขาก็สามารถชุบชีวิตลูกวัวตัวดังกล่าวได้สำเร็จ “ลูกวัวตัวนั้นเติบโตมาเป็นวัวที่แข็งแรง มีความสุข แถมยังขี้เล่นมากๆ อีกด้วย” ดร.บิลลี่กล่าว

หลังจากนั้นพวกเขาได้นำเครื่องจักรดังกล่าวไปลองใช้กับมนุษย์เป็นครั้งแรก ทั้งสองได้เลือกนายเคร็ก ลูอิส ผู้ป่วยโรคอะไมลอยด์ (amyloidosis) เกิดจากการผิดปกติของระบบผลิตโปรตีนในร่างกายเป็นสาเหตุให้หัวใจตับและไตล้มเหลวเฉียบพลันและยังมีโอกาสที่จะเสียชีวิตสูงอีกด้วย

ไอเดียสุดเจ๋ง! โหลใส่น้ำผึ้งกินได้ ทำจากขี้ผึ้ง ย่อยสลายง่าย ดีต่อสิ่งแวดล้อม

แบรนด์ Bee Loop ออกไอเดียบรรจุภัณฑ์ใส่น้ำผึ้งจากขี้ผึ้ง ทานได้จริงแถมยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย

บรรจุภัณฑ์ดีไซน์ใหม่จากแบรนด์ Bee Loop ทำจากวัสดุขี้ผึ้ง ซึ่งบรรจุภัณฑ์นี้ใช้วัสดุ 2 อย่าง คือวัสดุที่ผึ้งงานผลิตจากต่อมไขผึ้ง เพื่อใช้สร้างและซ่อมแซมรวงผึ้ง และเชือกลินินตรงฝาสำหรับเปิดฝาบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์นี้นำมาทดแทนตัวเดิมนั้นก็คือแก้ว ทาง Bee Loop เลยปรับเปลี่ยนมาใช้วัสดุนี้แทน เก็บน้ำผึ้งใส่ลงขี้ผึ้งของแท้ !

แถมบรรจุภัณฑ์นี้ยังสามารถรับประทานได้จริง โดยตัวขี้ผึ้งสามารถรับประทานได้เลย และตัวบรรจุภัณฑ์เองยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียไวรัส สามารถเก็บน้ำผึ้งได้อีกนาน ไม่เสียรสชาติแน่นอน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top