Saturday, 15 March 2025
NEWS FEED

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าคนที่ไม่ได้อยู่ภายในจังหวัดสมุทรสาครได้มาขอตรวจเชื้อ โควิด-19 แล้วโรงพยาบาลไม่ตรวจให้หรือบางกรณีต้องเสียค่าใช้จ่ายเองนั้น ยืนยันว่า เป็นข่าวไม่จริง

ตอนนี้คนที่เดินทางผ่านจังหวัดสมุทรสาครหรืออยู่ในจังหวัดที่มีการพบผู้ติดเชื้อ หรือมีอาการเข้าข่ายที่จะเป็น โควิด-19 ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้ ทันที เพราะตนได้สั่งการให้โรงพยาบาล และสถานพยาบาลต่าง ๆ ทำการตรวจให้ตามสิทธิ์ ส่วนเรื่องเงินค่าตรวจนั้นทางกระทรวงสาธารณสุข จะนำไปเบิกจากสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)เอง ขอย้ำว่ากลุ่มเสี่ยงสามารถไปตรวจได้ทันที จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดกัน

"สมมติว่าเดินไปแล้วมีอาการไข้ เจ็บคอ แล้วบอกแพทย์ว่าไปหัวหินมาผ่านสมุทรสาครแวะทานข้าว เมื่อบอกอย่างนี้ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงด้วยอยู่แล้ว แล้วทางแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัย แต่ถ้าเป็นคนปกติจะต้องมีการสัมภาษณ์กันก่อนที่จะตรวจ โดยการใช้วิธีสวอปจมูก หากเข้าข่าย ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะดูแลให้ในเรื่องของการตรวจเชื้อ" นายอนุทินกล่าว

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีขอเวลาพิจารณา 7 วันเรื่องการล็อคดาวน์ปีใหม่ แต่หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้ารถพุ่มพวง จะต้องพิจารณาเร็วขึ้นกว่า 7 วันหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า "ตอนนี้เรามีการประเมินอยู่แล้วและในเวลานี้ได้มีการตรวจเชื้อแบบเคสบายเคส โดยเข้าไปพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้คนเหล่านั้นได้เข้ามารับการตรวจให้มากที่สุด ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในกลุ่มก้อนเดียวกันอยู่"

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังกล่าวถึงการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) แก้ไขร่างพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ที่จะมีการพิจารณาในวันนี้ ว่า พรบ. ควบคุมโรคเป็นการแก้ไขเพื่อให้เกิดการคล่องตัวมากขึ้น

เนื่องจากหลายเสียงระบุว่าบ้านเมืองเราเป็นประชาธิปไตยทำไมจึงต้องมีการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน ดังนั้นจึงจะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงพรบ. ควบคุมโรค เพื่อเพิ่มอำนาจให้กับคณะกรรมการควบคุมโรคให้สามารถออกมาตรการต่าง ๆ ได้ แต่ไม่มีผลกระทบในเรื่องของการปฏิบัติติ

ซึ่งหลังปีใหม่หากสถานการณ์นิ่ง เราก็อาจจะไม่ใช้พรก. ฉุกเฉินแต่จะมาเพิ่มอำนาจในพรบ. ควบคุมโรคแทน ซึ่งวิธีปฏิบัติในพรบ.นั้นคงไม่ต้องคุยในรายละเอียดมากนักเพราะนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ดูทั้งหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์จนถึงวันนี้ครม.ต้องมีมาตรการพิเศษใดเป็นมติเพื่อรับมือกับสถานการณ์วิกฤติหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "เรายังมีศบค. อยู่จึงยังไม่จำเป็นจะต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง"

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีขอเวลาพิจารณา 7 วันเรื่องการล็อคดาวน์ปีใหม่ แต่หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้ารถพุ่มพวง จะต้องพิจารณาเร็วขึ้นกว่า 7 วันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ตอนนี้เรามีการประเมินอยู่แล้วและในเวลานี้ได้มีการตรวจเชื้อแบบเคสบายเคส โดยเข้าไปพื้นที่เสี่ยงเพื่อให้คนเหล่านั้นได้เข้ามารับการตรวจให้มากที่สุด ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในกลุ่มก้อนเดียวกันอยู่"

นายอนุทิน กล่าวว่า "ส่วนกรณีที่ขณะนี้มีข่าวว่าคนที่ไม่ได้อยู่ภายในจังหวัดสมุทรสาครได้มาขอตรวจเชื้อ โควิด-19 แล้วโรงพยาบาลไม่ตรวจให้หรือบางกรณีต้องเสียค่าใช้จ่ายเองนั้น เป็นข่าวไม่จริง ตอนนี้คนที่เดินทางผ่านจังหวัดสมุทรสาครหรืออยู่ในจังหวัดที่มีการพบผู้ติดเชื้อ หรือมีอาการเข้าข่ายที่จะเป็น โควิด-19 ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้ ทันที เพราะตนได้สั่งการให้โรงพยาบาล

และสถานพยาบาลต่าง ๆ ทำการตรวจให้ตามสิทธิ์ ส่วนเรื่องเงินค่าตรวจนั้นทางกระทรวงสาธารณสุข จะนำไปเบิกจากสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) เอง ขอย้ำว่ากลุ่มเสี่ยงสามารถไปตรวจได้ทันที จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดกัน"

"สมมติว่าเดินไปแล้วมีอาการไข้ เจ็บคอ แล้วบอกแพทย์ว่าไปหัวหินมาผ่านสมุทรสาครแวะทานข้าว เมื่อบอกอย่างนี้ก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงด้วยอยู่แล้ว แล้วทางแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัย แต่ถ้าเป็นคนปกติจะต้องมีการสัมภาษณ์กันก่อนที่จะตรวจ โดยการใช้วิธีสวอปจมูก หากเข้าข่าย ทางกระทรวงสาธารณสุขก็จะดูแลให้ในเรื่องของการตรวจเชื้อ" นายอนุทินกล่าว

รองนายกรัฐมนตรี "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ยืนยันไม่มีเจ้าหน้าที่เอี่ยวลักลอบนำแรงงานเถื่อนเข้าไทย ลั่นถ้าพบคนทำผิด มีระเบียบจัดการชัด พร้อมระบุ ขณะนี้ได้ส่งทหารคุมชายแดนเพิ่มแล้ว

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงมาตรการตรวจเข้มการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดน ว่า ได้เพิ่มกำลังทหารแล้ว เราป้องกันทั้งหมด

ส่วนจะต้องล็อคดาวน์จังหวัดตามแนวชายแดนหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ระบุว่า จะประเมินสถานการณ์หนึ่งสัปดาห์ จะต้องดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร ถ้ารุนแรงขึ้นก็จำเป็นต้องล็อคดาวน์ เพื่อรักษาคนส่วนใหญ่ไว้

เมื่อถามว่าประเมินสถานการณ์ขณะนี้อย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ประเมินไม่ได้ ประชาชนต้องช่วยกัน และดูแล ส่วนมาตรการที่จะใช้ดำเนินการต้องดูตามสถานการณ์ อย่าไปคิดมาก

ขณะที่การจัดการกบข่องโหว่ที่มีการลักลอบเข้าประเทศอย่างไรนั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้พยายามทำอยู่ แต่ช่องทางธรรมชาติมีระยะทางยาว ต้องป้องกันทุกอย่างโดยนำกำลังทหารเข้าไปดูแลเพิ่มมากขึ้น เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องลักลอบนำแรงงานเข้ามา พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า "ไม่มี ตอนนี้ดูแลอยู่ และสั่งการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าไปดูแลด้วย และยังไม่เห็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ หากมีการทุจริต ก็มีระเบียบที่จัดการแน่นอนอยู่แล้ว"

สำหรับแฟน ๆ ร้านครัวดอกไม้ขาว สาขาสยามสแควร์วัน วันนี้คงต้องเบรกมื้ออร่อยไปก่อน เพราะทางร้านได้ทำการปิด Big Cleaning 1 วัน หลังพบไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาใช้บริการ

ทั้งนี้ร้านครัวดอกไม้ขาว สาขาสยามสแควร์วัน ประกาศปิดให้บริการวันนี้ (22 ธันวาคม พ.ศ.2563) เพื่อทำการ Big Cleaning เนื่องจากพบผู้ป่วยโควิด-19 มาใช้บริการเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา

โดยทางร้านฯ ได้มีการออกประกาศผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ครัวดอกไม้ขาว - White Flower’ ระบุข้อความว่า...

เรียน ลูกค้าผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน

สืบเนื่องจากข่าวที่มีผู้ป่วย COVID-19 มาใช้บริการที่ครัวดอกไม้ขาว สาขา สยามสแควร์วัน ในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา ทางร้านรับทราบข้อมูล และได้ประสานงานกับทางอาคารสยามสแควร์วัน ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของอาคารกำลังดำเนินการเข้าพ่นยาฆ่าเชื้อภายในร้านครัวดอกไม้ขาว

ร้านครัวดอกไม้ขาว สาขาสยามสแควร์วัน จะปิดให้บริการในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2563 เพื่อทำการ Big Cleaning อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ทางร้านได้พยายามติดต่อ ศูนย์บริการสาธารณสุข และ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แต่ยังไม่ทราบถึงข้อเท็จจริง ซึ่งหากทราบรายละเอียดแล้ว ทางร้านจะดำเนินการแจ้งให้ลูกค้าทุกท่านทราบ ถึงมาตรการจัดการในลำดับถัดไป

ทางร้านครัวดอกไม้ขาว ขอกราบขอบพระคุณสำหรับข้อมูล และข้อเสนอแนะที่ลูกค้าได้กรุณาติดต่อแจ้งเข้ามาให้ทางร้านได้ทราบนะคะ

ขอแสดงความนับถือ

เช้านี้อากาศเย็นลงต่อเนื่อง ยอดดอยอุณหภูมิลดลงกว่า 0 องศา

ถือเป็นจุดที่ใช้วัดความหนาวเหน็บได้เป็นอย่างดี สำหรับดอยอินทนนท์ ซึ่งเมื่อเช้านี้ อุณหภูมิบนยอดดอยอินทนนท์ ก็ลดต่ำลงถึง 0 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ภาพรวมของภูมิอากาศในช่วง 1 - 2 วันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้รายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลความเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะลดลงอีก 2 - 3 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ

ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 - 2 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ประกอบกับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

โควิด-19 ระบาดระลอดใหม่ในพื้นที่สมุทรสาคร ลามถึงบริการทางการเงิน หลังสาขาธนาคารทยอยปิดสาขาลดความเสี่ยง ด้านสมาคมธนาคารไทย แนะลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเครื่องรับฝาก - ถอนเงินอัตโนมัติ และบริการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีประกาศจากคณะกรรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ด้วยมาตรการเด็ดขาด และรวดเร็ว โดยการควบคุมการเข้าออกพื้นที่และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ในพื้นที่การระบาดและพื้นที่เสี่ยงตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2563 – 3 มกราคม พ.ศ.2564 นั้น

เพื่อความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน และดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 ของธนาคารสมาชิกเป็นไปมาตรการของรัฐ และแนวปฏิบัติของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด ธนาคารสมาชิกของสมาคมธนาคารไทยจึงมีความจำเป็นต้องปิดการทำงานและบริการที่อาคารและสาขาของบางธนาคารภายในเขตพื้นที่ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2563 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าสามารถใช้บริการหลักของธนาคาร ทั้งการถอนเงิน โอนเงินและฝากเงินในเขตพื้นที่ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องรับฝากเงินและถอนเงินอัตโนมัติที่ตั้งกระจายในพื้นที่ และบริเวณหน้าสาขาของธนาคาร รวมถึงการทำธุรกรรมผ่านระบบ PromptPay และบริการสินเชื่อต่าง ๆ ที่อยู่ในกระบวนการของสินเชื่อแล้ว

ทั้งนี้ บริการบางอย่างของธนาคารในเขตพื้นที่ที่มีการปิดสำนักงานและสาขาของธนาคารอาจจะต้องใช้เวลาการดำเนินการมากกว่าเดิม หรือล่าช้ากว่าปกติ ตามข้อจำกัดของแต่ละธนาคารในช่วงเวลานี้ โดยลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากทาง website ของแต่ละธนาคาร

ทั้งนี้ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 ดังกล่าว สมาคมธนาคารไทยและธนาคารพาณิชย์มีความห่วงใยความปลอดภัยและสวัสดิภาพของพนักงานและลูกค้าเป็นสำคัญ จึงขอให้ดำเนินการตามมาตรฐานด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด

เคาะเรียบร้อยแล้ว ! สำหรับงบประมาณก้อนล่าสุดที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ และเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วง Covid-19 ในประเทศสหรัฐอเมริกา

หลังจากที่ถกเถียงกันมานานระหว่าง 2 พรรคใหญ่ เดโมแครต และ รีพับลิกัน กว่าจะได้ข้อสรุปลงตัวที่งบประมาณ 9 แสนล้านเหรียญ หรือราวๆ 27 ล้านล้านบาท เคาะผ่านสภาเรียบร้อยเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา

งบประมาณก้อนใหญ่นี้ ทางรัฐบาลกลางสหรัฐต้องการที่จะใช้เยียวยาครอบครัวชาวอเมริกัน เพื่อมีเงินไว้จับจ่ายซื้อของกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยเหลือผู้ที่ตกงาน ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เป็นสวัสดิการให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเร่งการขนส่งวัคซีนไปยังเมืองต่าง ๆ

แนนซี่ เปอโรซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวถึงการผ่านงบเยียวยาระดับชาตินี้ว่า "เราจะไล่ขยี้เจ้าไวรัสและเติมเงินให้กระเป๋าชาวอเมริกันให้อุ่นใจ"

รายละเอียดคร่าวๆของงบเยียวยา Covid-19 ที่จะเป็นของขวัญปีใหม่ของชาวอเมริกันในปีหน้าได้แก่

- จ่ายเบี้ยยังชีพจำนวน 600 เหรียญ ให้ชาวอเมริกันทั้งเด็ก และผู้ใหญ่

- เพิ่มเงินเยียวยาการว่างงานให้อีกสัปดาห์ละ 300 เหรียญเป็นเวลา 11 สัปดาห์

- เพิ่มงบประมาณอีก 2.84 แสนล้านเหรียญใน กองทุนสินเชื่อเพื่อคุ้มครองธุรกิจ เพื่อช่วยเหลือ และปลดหนี้สินบางส่วนให้กับเจ้าของธุรกิจรายย่อยที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก อาทิ ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และอื่นๆ

- จัดสรรงบประมาณ 82,000 พันล้านให้กับสถาบันการศึกษาให้ปรับปรุงห้องเรียนให้เข้ากับมาตรการเว้นระยะห่าง หรือพัฒนาระบบออนไลน์

- 2 หมื่นล้านแบ่งไปซัพพอร์ทศูนย์รับเลี้ยงเด็ก และโครงการอาหาร

- บางส่วนจัดสรรไปช่วยเรื่องการกระจายวัคซีน และศูนย์บริการเกี่ยวกับ Covid-19

นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการลดหย่อนภาษี ช่วยเหลือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั้งเจ้าของสินทรัพย์ และผู้เช่า ที่ต่างขาดรายได้ ช่วยแบ่งเบาภาระสวัสดิการของนายจ้าง ลูกจ้าง และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับผลกระทบจากวิกฤติ Covid-19

อันที่จริง งบประมาณแจกเงินเยียวยาให้ชาวอเมริกันจากวิกฤติ Covid-19 นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่น่าจะเป็นเฟสขยายของโครงการที่ชื่อว่า CARES Act (Coronavirus Aid, Relief, and Economic Security Act) ที่โดนัลด์ ทรัมพ์ ประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังจะกลายเป็นอดีตผลักดันออกมาสำเร็จ

ช่วงเดือนมีนาคม 2020 ด้วยงบประมาณสูงถึง 2.2 ล้านล้านเหรียญ นับเป็นการผ่านงบประมาณก้อนใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา

และได้แจกเงินให้ชาวอเมริกันคนละ 600 เหรียญไปแล้วรอบหนึ่งแล้ว แต่งบประมาณที่จะช่วยเหลือผู้ตกงาน และสนับสนุนสวัสดิการอื่น ๆ จะสิ้นสุดลงภายในสิ้นปี ดังนั้นสภาคองเกรซต้องประชุมกันเพื่อเคาะงบประมาณในปีหน้า

และได้ลงมติเพิ่มงบเยียวยา Covid-19 เพิ่มอีก 9 แสนล้าน ที่คนอเมริกันจะได้เงินขวัญถุงอีกคนละ 600 เหรียญเพื่อเอาไปจับจ่ายใช้สอยกระตุ้นเศรษฐกิจ

และแน่นอนว่าโดนัลด์ ทรัมพ์ ก็ออกมาเคลมเครดิตเรื่องโครงการ "อเมริกาไม่ทิ้งกัน" เพราะการพิจารณางบประมาณยังอยู่ในสมัยของเขา และเขาก็ต้องเป็นคนเซ็นผ่าน

ก็ถือเป็นเงินของขวัญปลอบใจชาวอเมริกันที่บอบช้ำมาตลอดทั้งปี เพราะ Covid-19 ซึ่งจนถึงปีหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะคลี่คลายได้เมื่อใด แต่อย่างน้อยมีเงินติดกระเป๋าไว้หน่อยก็อุ่นใจกว่าไม่มีนะ


แหล่งข้อมูล

https://edition.cnn.com/2020/12/20/politics/stimulus-latest-shutdown-deadline/index.html

https://www.cnet.com/personal-finance/congress-reaches-a-deal-on-new-stimulus-bill-600-checks-300-unemployment-money-more/

https://thehill.com/homenews/administration/531030-trump-pushes-congress-on-coronavirus-aid-get-it-done

https://www.businessinsider.com/trump-reportedly-will-sign-900-billion-coronavirus-stimulus-package-2020-12

https://en.m.wikipedia.org/wiki/CARES_Act

นักวิจัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น เจ๋ง! ผนึกองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ เปิดตัวคู่มือ “ทำฟาร์มจิ้งหรีด” โชว์ชาวโลก หนุนประเทศไทยเป็นฮับ แมลงกินได้

ปัจจุบัน “จิ้งหรีด” ได้รับการยอมรับว่า เป็นแมลงเศรษฐกิจที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เรียกได้ว่า เป็นแหล่งโปรตีนราคาถูก ที่แม้แต่องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ ยังส่งเสริมให้คนทั่วโลกหันมาบริโภคกันอย่างแพร่หลาย

ศ.ดร.ยุพา หาญบุญทรง หัวหน้าภาควิชากีฏวิทยาและโรคพืช คณะเกษตรศาตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และเป็นที่ปรึกษาด้านแมลงกินได้ ของ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เปิดเผยว่า เมื่อ 25 ปีที่ก่อน มหาวิทยาลัยขอนแก่น นับเป็นแห่งแรกที่เริ่ม การวิจัย และริเริ่มพัฒนาการทำฟาร์มจิ้งหรีดขึ้นมาและถ่ายทอดสู่เกษตรกรทั่วประเทศจนในปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการทำฟาร์มจิ้งหรีดที่ทันสมัยและมีการส่งออกจิ้งหรีดและผลิตภัณฑ์ เป็นมูลค่าหลายพันล้านบาท ต่อปี

จากวัฒนธรรมของคนทางภาคอิสานที่คุ้นเคยกับการกินแมลงเป็นอาหารอยู่แล้ว แต่ยังไม่มีการเพาะเลี้ยงเป็นฟาร์ม แต่ในช่วงปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตการทางเศรษฐกิจ หรือวิกฤตต้มยำกุ้ง จึงเป็นที่มาของการพัฒนาเทคนิคการเพาะเลี้ยงแมลง จิ้งหรีด หรือ แมงสะดิ้ง เพื่อใช้บริโภค และเพื่อรายได้ครัวเรือนขึ้น

หลังจากนั้นทาง FAO ซึ่งเป็นองค์การดูแลเรื่องนโยบายอาหารของโลก เห็นความสำคัญของการใช้แมลงเป็นอาหารโปรตีนและต้องการนำองค์ความรู้เรื่องการทำฟาร์มแมลงกินได้ ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อใช้เป็นต้นแบบช่วยประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่ขาดแคลนอาหารโปรตีนและสร้างรายได้ จึงได้ให้ตนเองเป็นผู้นำทีมถ่ายทอดความรู้การทำฟาร์มแมลงกินได้แก่ประเทศต่าง ๆ เช่น สปป.ลาว ประเทศเคนย่า อูกานดา ใน ทวีปอัฟริกา เป็นต้น

จากนั้น ในปีพ.ศ.2556 ทาง FAO ได้ตีพิมพ์หนังสือที่เขียน โดย ศ.ดร.ยุพา หาญบุญทรง และคณะ เรื่อง ปศุสัตว์หกขา การทำฟาร์มแมลงกินได้ของประเทศไทย หรือ “ Six-legged livestock: Edible insect farming, collection and marketing in Thailand” ทำให้เกิดมีธุรกิจการทำฟาร์มแมลงกินได้ โดยเฉพาะจิ้งหรีดไปทั่วโลก และมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าทางธุรกิจของแมลงกินได้ทั่วโลกเป็นจำนวนมาก

จึงเป็นสาเหตุที่ FAO และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เล็งเห็นถึงการที่ต้องมีคู่มือและข้อแนะนำที่ถูกต้องที่ให้การผลิตจิ้งหรีดที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและการประเมินความปลอดภัยในการผลิตฟาร์มแมลงกินได้นี้

ล่าสุด ได้เปิดตัวหนังสือ เรื่อง “คู่มือแนวการปฏิบัติที่ดีในการทำฟาร์มจิ้งหรีดอย่างยั่งยืน สำหรับเกษตรกรและผู้ประเมินฟาร์ม” หรือ “ Guidance on sustainable cricket Farming : A practical manual for farmers and inspectors” ของ FAO ในการประชุม online Webinar ของ FAO ณ สำนักใหญ่ กรุงโรม

ศ.ดร.ยุพา กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้ ได้รวบรวมองค์ความรู้จากประสบการณ์การทำฟาร์มเพาะเลี้ยงจิ้งหรีดในประเทศไทยมากกว่า 25 ปี ที่สามารถใช้เป็นต้นแบบให้ภาครัฐและผู้สนใจในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกใช้เป็นแนวปฏิบัติของเกษตรกรในการทำฟาร์มจิ้งหรีด

อย่างปลอดภัยและยั่งยืนต่อผู้บริโภค พร้อมทั้งสามารถต่อยอดธุรกิจและการตลาด เพื่อเพิ่มผลผลิตการเกษตรให้มีมูลค่ามากขึ้น และ เพื่อใช้เป็นมาตรฐานและมีคำแนะนำสำหรับใช้ของผู้ประเมินฟาร์มจิ้งหรีดเพื่อรับรองมาตรฐานการผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ในการสัมมนาออนไลน์ครั้งนี้ มีผู้สนใจทั่วโลกมากกว่า 120 คน จากทวีปต่าง ๆ เข้าร่วมรับฟังและมีการซักถามข้อมูลของคู่มือนี้ และอยากให้มีการแปลหนังสือคู่มือนี้เป็นภาษาต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งทาง FAO ได้เปิดให้ ผู้สนใจทั่วโลกสามารถ download คู่มือเล่มนี้ได้ที่ http://www.fao.org/3/cb2446en/cb2446en.pdf

ศ.ดร.ยุพา กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในปัจจุบัน มีการนำจิ้งหรีด มาพัฒนาเป็นอาหารแปรรูป ชนิดต่างๆ เช่น ในรูปแบบผง (เหมาะกับชาวต่างชาติ) หรือเป็นซอง ที่กินง่าย ปลอดภัย ซึ่งมีการพัฒนาร่วมกับกับคณาจารย์มหาวิทยาลัยขอนแก่นหลายคณะ เช่น คณะเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีการอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์

เพื่อพัฒนาการทำฟาร์มจิ้งหรีดแบบ smart farm คณะวิทยาการจัดการ เรื่องการตลาด ตลอดจนสถาบันยุทธศาสตร์เพื่อการวิจัยและพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ส่งเสริมเรื่องการปฏิบัติที่ดีของการทำฟาร์มจิ้งหรีดให้เกษตรกร เพื่อช่วย ให้เกษตรกร และผู้ประกอบด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์ มีการทำฟาร์มจิ้งหรีดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการผลิตที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค และสามารถแข่งขันและส่งออกต่างประเทศได้"

นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น กำลังพัฒนาการใช้แมลงสำหรับเป็นอาหารสัตว์ ให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ อีกทั้ง พยายามที่จะผลักดันให้จังหวัดขอนแก่น เป็นศูนย์กลางแมลงที่รับประทานเป็นอาหารได้ หรือ “Edible Insect HUB” และมีแผนการที่จะจัดงาน “จิ้งหรีดโลก” ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นครัวโลกด้านแมลงกินได้อย่างแท้จริงและในอนาคต และอยากให้นักวิจัยรุ่นใหม่ ของประเทศไทยร่วมกันศึกษาต่อยอดทางด้านแมลงเพื่อใช้สำหรับเป็นยารักษาโรค ต่อไปอีกด้วย

รัฐบาลเปิดทางการลงทุนในต่างแดนของภาคเอกเชน เป้าหมายเพื่อให้เงินที่อยู่ในระบบออกไปลงทุนในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น และชะลอค่าเงินบาทที่กำลังแข็งตัวอ่อนลง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ ว่า ต้องการให้มีการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ และให้นักลงทุนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศด้วยเช่นกัน

เพื่อให้เงินที่อยู่ในระบบของเราออกไปลงทุนในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น และให้ค่าเงินบาทของเราอ่อนลง ส่วนนี้ภาคเอกชนต้องช่วยกัน ซึ่งนี่เป็นข้อมูลและข้อสังเกตจากธนาคารแห่งประเทศไทย และกำลังหามาตรการอยู่โดยเฉพาะการนำเครื่องจักรนำเข้า ซึ่งเรื่องนี้ก็กำลังติดตามอยู่

ด้าน น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการลงทุนปี 64 เพื่อให้เกิดการลงทุนโดยเร็ว โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการนี้กำหนดให้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นระยะเวลา 5 ปี เพิ่มเติมจากเกณฑ์ปกติ

ทั้งนี้ผู้ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมครั้งนี้ มีข้อแม้ว่าต้องมีเงินลงทุนจริงอย่างน้อย 1,000 ล้านบาท ภายใน 12 เดือนหลังออกบัตรส่งเสริม และไม่อนุญาตให้ขยายเวลาในขั้นตอนการตอบรับให้การส่งเสริมและการออกบัตรส่งเสริม โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นขอรับการส่งเสริมได้ตั้งแต่วันทำการแรกของปีพ.ศ.2564 ถึงวันทำการสุดท้ายของปีพ.ศ.2564

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สั่งการทูตพาณิชย์ เร่งสร้างความเข้าใจให้กับผู้ซื้อ เน้นย้ำสินค้าอาหารทะเลไทยได้มาตรฐาน ปลอดโควิด-19 ป้องกันผลกระทบการส่งออก

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ได้ประสานงานและกำชับให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมายการส่งออกสินค้าอาหารทะเลของไทย ให้เร่งดำเนินการสร้างความเชื่อมั่น

และสร้างความเข้าใจให้กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ในการสั่งซื้อสินค้าจากไทยว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แล้ว โดยกรมฯได้หารือร่วมกับผู้ส่งออกและได้ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า

ก่อนหน้านี้ ในการส่งออกสินค้าประมง ได้มีการจัดทำ “หนังสือรับรองการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในกระบวนการผลิตอาหารส่งออก (COVID – 19 Prevention Best Practice)” ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้นำเข้าสินค้าอาหารจากไทย และเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าอาหารของไทยให้เพิ่มมากขึ้น

โดยข้อมูลล่าสุดจากกรมประมงรายงานว่า มีผู้ส่งออก โรงงาน ได้ประสานงานติดต่อกับประมง เพื่อขอเข้ากระบวนการออกหนังสือรับรองดังกล่าวแล้ว จำนวน 51 ราย นอกจากนี้ กรมยังได้ผลิตวีดีโอเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กระบวนการผลิตสินค้าทะเลและปศุสัตว์ จำนวน 10 ภาษา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้นำเข้าอีกทางหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในสินค้าประมง โดยเฉพาะสินค้ากุ้ง ล่าสุดนายจุรินทร์ ยังได้มอบหมายให้นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ประสานสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาครและสำนักงานพาณิชย์ในจังหวัดใกล้เคียง ในการทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ส่งผลกระทบต่อสินค้าประมงอย่างใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลมาประเมินสถานการณ์และหาวิธีการรับมือต่อปัญหาที่จะตามมาในอนาคตด้วย

ทั้งนี้ ในช่วง 10 เดือนของปีพ.ศ.2563 (ม.ค.- ต.ค.) ไทยมีการส่งออกอาหารทะเลสดแช่เย็นแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป (รวมทูน่ากระป๋องและแปรรูป แต่ไม่รวมกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป) มีมูลค่า 115,912.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.09% โดยเฉพาะทูน่ากระป๋องและแปรรูป ส่งออกมูลค่า 63,391.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.19% ส่วนกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป (ไม่รวมกุ้งกระป๋อง) ส่งออกมูลค่า 27,347.09 ล้านบาท ลดลง 11.37%

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ ยันมีรูรั่ว ไม่ปฏิบัติตามมาตราการ ทุกคนมีส่วนร่วม ขู่ ‘ล็อคดาวน์’ วอนคนไทยช่วยกันหวังสถานการณ์คลี่คลายใน 7 วัน ย้ำหากพบแรงงานผิดกฎหมายสั่งปิดทันที

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เผยถึงการแก้ไขสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ว่า ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ตนไม่เคยหยุดคิด ไม่เคยหยุดติดตามสถานการณ์ อีกทั้งยังยืนยันทางรัฐยังคงปฏิตามมาตรการอย่างครบถ้วน เพียงแต่ต้องหาข้อมูลให้มากขึ้นจากภาคเอกชน ที่รับแรงงานต่างด้าวที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

“เดิมผมคิดว่าแรงงานต่างด้าวในประเทศค่อนข้างจะปลอดภัย ที่ผ่านมาการแพร่ระบาดควบคุมได้ แสดงว่ามีรูรั่วตรงนี้ รั่วจากใคร จากที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ‘ฉะนั้นเราโทษใครไม่ได้ พวกเราทุกคนมีส่วนร่วมทั้งสิ้น’ รัฐบาลมีมาตรการ สาธารณสุขก็มีตรวจติดตาม แต่แน่นอนต้องมีการเล็ดลอด ซึ่งตรงนี้จะทำอย่างไร ดังนั้นสังคมต้องช่วยกัน ถ้ายังทำอย่างนี้กันอยู่มาตรการจะต้องนำไปสู่ล็อกดาวน์แน่นอนต่อไปในอนาคตถ้ามีปัญหา แต่เรายังเดินไม่ถึงจุดนั้น”

“เมื่อช่วงเช้าตนได้ฟังรายงานสรุปจากสาธารณสุข ชี้แจงว่ายังสามารถควบคุมได้อยู่ มีการเตรียมมาตรการไว้ในเรื่องการดูแลรักษา ใครที่สงสัยหรือเข้าไปในพื้นที่ต้องไปพบแพทย์หรือสาธารณสุขจังหวัดเพื่อตรวจหาเชื้อ จะได้ปลอดภัยและไม่เป็นพาหะนำเชื้อไปติดคนอื่น วันนี้ในพื้นที่ก็ได้ล็อกดาวน์ไปแล้ว

นายกฯ กล่าวต่อว่า “ตนขอดูสถานการณ์ในวันนี้ (21ธ.ค.) และจะดูอีก 7 วันข้างหน้าว่าจะมีอะไรขึ้น จากนั้นจะตามมาสู่ช่วงปีใหม่ว่าจะทำอย่างไรกันดี วันนี้ยังไม่ได้พูดไปตรงนั้น ก็อย่าเพิ่งตื่นตระหนกแล้วกัน หวังอย่างยิ่งว่าภายใน 7 วันทุกอย่างจะคลี่คลายลง วันนี้ตรวจสอบยังไงมันต้องพบมากขึ้น เพราะตรวจสอบในพื้นที่คนงานต่างๆ เหล่านี้ นี่คือปัญหาของเรา มีการเล็ดลอด

"คนเหล่านี้ลักลอบหนีกลับไป แล้วกลับเข้ามาใหม่ คนไทยต้องช่วยกันดูแล เจ้าหน้าที่ก็มีจำนวนเท่าที่มี เพิ่มเติมไปก็ได้เท่านี้ คนที่จะรู้จริงๆ คือคนในพื้นที่ เจ้าของโรงงาน วันนี้ผมได้กำหนดมาตรการไปแล้ว จะต้องมีมาตรการติดตามตัวแรงงานทุกคน ถ้าเจอแรงงานผิดกฎหมายจะต้องปิดโรงงานคนทำผิดกฎหมายก็ขยันทำกันจริง” ลุงตู่กล่าว

ลุงตู่ยังกล่าวอีกว่า “ได้ให้ตรวจสอบและมีการรายงานจากหน่วยที่เกี่ยวข้อง จับกุมได้แต่มันก็มีเล็ดลอด กลางคืนมีการลาดตะเวน แต่ระยะทางชายแดน 2,500 กว่ากิโลเมตรเจ้าหน้าที่ทำเต็มที่แล้ว ช่องทางที่เคยออกมาก็ไปเปิดช่องทางใหม่ เพราะมันไม่มีรั้ว เป็นพื้นที่ป่าเขา คนที่จะรู้คือชุมชน ท้องถิ่น ต้องมาบอกเจ้าหน้าที่บ้าง ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่แล้วให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเดียว ถ้าไปบอกเจ้าหน้าที่ว่ามีตรงไหนลักลอบ เขาก็จะไปทันที ทำไมไม่ช่วยกันแบบนี้ มาโยนกันไปกันมา ตนไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ ต้องรับผิดชอบด้วยกันสิ มันจะได้ทำสำเร็จทุกเรื่อง”

นอกจากนี้นายกฯ ยังได้สั่งการกระทรวงสาธารณสุขแจ้งไปในทุกจังหวัด ให้ทำการสุ่มตรวจในทุกพื้นที่ที่มีแรงงานต่างชาติ

ทั้งนี้เมื่อถามถึง ปีใหม่ที่จะถึงนี้ยังไม่ยกเลิกกิจกรรมเคาท์ดาวน์ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ยัง ขอดูก่อน จะวันไหนก็วันนั้น

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ถามว่า เสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมานอนไม่หลับเลยใช่หรือไม่ เพราะจากตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้นลุงตู่จึงได้กล่าวว่า “มันจะหลับไหมล่ะ ดูตาตนสิ คิดไปด้วย โทรศัพท์อ่านไลน์ อ่านจนตาจะแตกอยู่แล้ว ก็สั่งการมาตลอดทุกวัน ไม่ใช่เพิ่งสั่งวันนี้ สั่งตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็ยังไม่หยุด เพราะให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top