Monday, 19 May 2025
NEWS FEED

'นุช-นนท์'​ ร้านทุเรียน (ตลาดสี่มุมเมือง) บริจาคน้ำดื่ม 6,000 ขวด / ผลไม้ 500 กล่อง สนับสนุน 'หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล'​ ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ 'ต้องรอด'​

(4 ส.ค.64)​ ณ วัดเทวสุนทร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.​ คุณชาลินี ลอยนุ้ย เจ้าของร้านทุเรียน​ 'นุช-นนท์' (ตลาดสี่มุมเมือง) มอบให้ 'สะพานบุญ'​ นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย / นายโกสินธ์ จินาอ่อน บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ / ที่ปรึกษาสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม นายณัฐวุฒิ เหมือนเพ็ชร ผู้อำนวยการข่าวจังหวัดสมุทรปราการ (น.ส.พ.โฟกัสไทม์) เป็นตัวแทนมอบน้ำดื่มจำนวน 6,000 ขวด / ผลไม้ 500 กล่อง เพื่อสนับสนุน 

โครงการ 'ต้องรอด'​ กลุ่ม Up for Thai เดินหน้าทำภารกิจใหญ่ missionบุษราคัม75 เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาในโรงพยาบาลสนามบุษราคัมเป็นระยะเวลา 75 วัน หรือจนกว่าจำนวนสิ่งของจะครบตามรายการ โดยเป็นการระดมสิ่งของและเงินทุนจากทุกภาคส่วน

ซึ่ง 'หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล'​ ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ 'ต้องรอด'​ กลุ่ม Up for Thai  เปิดเผยว่า วันนี้ทางโครงการต้องรอด เดินหน้าทำภารกิจช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด และผู้ได้รับความเดือดร้อน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ covid 19 มา​ 90​ วันแล้ว ภารกิจหลักในวันนี้ คือโครงการเฉพาะกิจ #missionบุษราคัม75 ที่เดินหน้ามาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม จนถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ถือเป็นโครงการใหญ่ที่กลุ่ม Up for Thai "ต้องรอด"  และพันธมิตรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และภาคสื่อสารมวลชน จึงร่วมกันจัดตั้งโครงการเฉพาะกิจ #missionบุษราคัม75 ขึ้นมา​ เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ป่วยที่เข้าพักรักษาในโรงพยาบาลสนามบุษราคัมเป็นระยะเวลา 75 วัน หรือจนกว่าจำนวนสิ่งของจะครบตามรายการ ก่อนจะมีการย้ายไปยังสถานที่ใหม่ เพื่อให้ผู้ป่วย บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนได้รับปัจจัยเพียงพอและให้การดำเนินการของโรงพยาบาลเป็นไปอย่างราบรื่น โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมาร่วมภารกิจกว่า​ 70 คน ช่วยกันขนสิ่งของอุปโภคบริโภคใส่รถทั้งหมดกว่า 35​ คัน ไปที่โรงพยาบาลบุษราคัม รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

นอกจากนี้ศูนย์อาสาต้องรอด Up for Thai ยังคงปฏิบัติภารกิจหลักควบคู่กันไป ทั้งการนำส่งอาหารปรุงสุกวันละ​ 7,000​ กล่อง และเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ชุมชน โรงครัวชุมชน แคมป์คนงาน ผู้กักตัว ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ คนชรา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ป่วยรอเตียง ส่งมอบอุปกรณ์ป้องกันสำหรับด่านหน้า โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม อสม. ศูนย์พักคอย สถานีอนามัย มูลนิธิและอาสากลุ่มอื่นๆ 

ทั้งนี้ นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์​ ผอ.รพ.บุษราคัม เปิดเผยว่า ขอบคุณทีมงาน "เพจต้องรอด" ที่นำสิ่งของอุปโภคบริโภคมาสนับสนุนให้กับผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าในเรื่องของอุปกรณ์แพทย์ ในขณะนี้สิ่งของที่ผู้ใจบุญนำมาบริจาคยังเพียงพอ ขาดแต่บุคลากรที่มาช่วยเหลือ เนื่องจากผู้ป่วยมีจำนวนค่อนข้างมาก ทั้งผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยที่พอช่วยตัวเองได้ หลากหลายกลุ่มสี ทางรพ.ยังสามารถรับมือได้อยู่ 

ผอ.รพ.บุษราคัม ยังตอบประเด็นที่เคยเป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้เรื่องของห้องสุขาที่ไม่ค่อยถูกสุขลักษณะว่า คนไข้ ที่อยู่ในโรงพยาบาลกว่า 3000 คน ซึ่งมีผู้ป่วยหลากหลายประเภททั้ง เด็ก คนชรา คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ประกอบกับรอบทำความสะอาดน้อย ภาพจึงปรากฎอย่างที่เห็น แต่ในขณะนี้ได้มีการประสานกับทางรพ. พระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นผู้ทำความสะอาด หรือเอ้าซอสที่ทางรพ.จ้างมา เพื่อเพิ่มจำนวนรอบทำความสะอาด รวมทั้งเพิ่มรถวิลแชร์ / เก้าอี้นั่งทำความสะอาดเข้าไปมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอต่อความต้องการในการดูแล 

ส่วนกรณีสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย​ "นพ.กิตติศักดิ์" ยอมรับว่า สิ่งของเครื่องใช้บางอย่างที่อาจจะไม่จำเป็นอาจไม่ถึงมือผู้ป่วย เนื่องจากทางรพ.จะแจ้งผู้ป่วยอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเข้าว่าให้นำสิ่งของเท่าที่จำเป็นมาเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับเจ้าหน้าที่ได้ 

ส่วนกรณีผู้เสียชีวิต ซึ่งมีจำนวนไม่แน่นอนในแต่ละวัน เฉลี่ย 4-5 ราย บางวันไม่มี บางวันมี 7-8 ราย ในช่วงกลางวันสามารถบริหารจัดการได้ แต่ที่เป็นปัญหาจะเป็นช่วงกลางคืน เนื่องจากข้อจำกัดของรพ.พระนั่งเกล้า บางครั้งจุดพักศพไม่เพียงพอ หรือ ถ้าต้องส่งไปที่วัด ถ้าหลัง 20.00 น.ทางวัดจะปิด ก็จะนำศพไว้ที่รพ.บุษราคัม ซึ่งจะมีห้องพักศพและก็ปิดซิปล็อคอย่างดี

ในท้ายนี้ "นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์" ผอ.รพ.บุษราคัม ขอบคุณทีมงาน เพจต้องรอด เป็นอย่างสูง

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ห้าม นำ-ใช้ ครีมกันแดดที่มีสารเคมีอันตราย เข้าอุทยานแห่งชาติ ฝ่าฝืนปรับ 1 แสนบาท

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่อง ห้ามนำและใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ใจความสำคัญระบุว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติทางทะเลเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการนำและใช้ครีมกันแดดที่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการัง เข้าไปในอุทยานแห่งชาติ

โดยจากข้อมูลทางวิชาการพบว่าสารเคมีหลายชนิดที่พบในครีมกันแดด มีส่วนทำให้ปะการังเสื่อมโทรมลง เนื่องจากสารเคมีเหล่านั้นทำลายตัวอ่อนปะการัง ขัดขวางระบบสืบพันธุ์ และทำให้ปะการังฟอกขาว

กรมอุทยานฯ พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลทรัพยากร และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อปะการังและระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จึงออกประกาศดังนี้

1.) ห้ามนำและใช้ครีมกันแดด ที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ Oxybenzone, Octinoxate, 4-Methylbenzylid Camphor และ Butylparaben หากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

2.) ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ผบ.ทอ.'​ รับมอบ Negative Pressure Isolation Room จำนวน 4 เต๊นท์ และอุปกรณ์การแพทย์ มูลค่า 1,282,100 บาท

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 เวลา 09.00 น.​ ณ​ ห้องรับรองพิเศษ 1 บก.ทอ.

พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณผบ.ทอ.รับมอบ Negative Pressure Isolation Room จำนวน 4 เต้นท์ และอุปกรณ์การแพทย์ มูลค่า 1,282,100 บาท จาก นาย เสริมศักดิ์  
วงศ์ชัยและคณะ จากชมรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับ

ผู้บริหารกองทัพอากาศ​ (พสบ.ทอ.) และหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง​ (ปปร.22) ให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช 

สำนักงานประกันสังคม แจงโอนเงินเยียวยา ม.33 ตามลำดับเลขบัตรประชาชน

จากกรณี สำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. จะโอนเงินเยียวยาให้กับประชาชนในกลุ่มผู้ประกันตน มาตรา 33 เริ่มต้นโอนในวันที่ 4 สิงหาคมเป็นต้นไป โดยล่าสุดมีรายงานว่ามีผู้ประกันตนในกลุ่มที่เข้าเงื่อนไขรับเงินเยียวยาได้รับเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว ขณะที่อีกหลายคนยังไม่ได้

ล่าสุดสำนักงานประกันสังคม (สปส.) แจ้งรายละเอียดการโอนเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตน ม.33 ดังนี้

1.) วันที่ 4 สิงหาคม โอนเงินเข้าเลขบัตร ปชช.

1024200112971-1620400023507

2.) วันที่ 5 สิงหาคม โอนเงินเข้าเลขบัตร ปชช.

1620400023965-3460700773038

3.) วันที่ 6 สิงหาคม โอนเงินเข้าเลขบัตร ปชช.

3460700774417-8960900002244

กรณีผู้ประกันตนยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์บัญชีธนาคารด้วยเลขบัตรประชาชน ขอให้รีบดำเนินการ ทั้งนี้ จะมีการโอนเงินเยียวยาให้ผู้ประกันตน ม.33 รอบต่อไปในวันที่ 13 สิงหาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ จะมีการรวบรวมตัวเลข และโอนเงินให้ทุกวันศุกร์ ไปจนกว่าจะครบตามจำนวน หรือสิ้นสุดในวันที่ 29 ตุลาคม 2564

สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ขณะนี้ สปส.อยู่ระหว่างประมวลผลข้อมูล คาดว่าจะเริ่มโอนเงินให้กับผู้ที่ได้สิทธิภายในเดือนสิงหาคมนี้


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อสถานการณ์โควิด-19 ย้ำ ไม่ได้คัดค้านการล็อกดาวน์ แต่การล็อกดาวน์ต้องไม่สูญเปล่า ต้องเจ็บแล้วจบ ขณะนั้นอัตราการตรวจพบเชื้อในไทยสูงกว่า 5% ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ซึ่งเป็นตัวเลขตามเพดานของ WHO ว่าต้องล็อกดาวน์

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นต่อสถานการณ์โควิด-19 ผ่านเฟซบุ๊กเพจ โดยระบุว่า ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เคยได้ชี้แจงไว้ว่า ไม่ได้คัดค้านการล็อกดาวน์ แต่การล็อกดาวน์ต้องไม่สูญเปล่า ต้องเจ็บแล้วจบ ขณะนั้นอัตราการตรวจพบเชื้อในไทยสูงกว่า 5% ติดต่อกัน 2 สัปดาห์ซึ่งเป็นตัวเลขตามเพดานของ WHO ว่าต้องล็อกดาวน์

“ตัวเลขอัตราการตรวจพบเชื้อมีนัยยะสำคัญอย่างไร ในช่วงที่สหรัฐอเมริกากำลังระบาดหนักที่สุด มีอัตราการตรวจพบเชื้ออยู่ที่ 15% ในขณะที่อินเดียมีอัตราการตรวจพบเชื้อนี้ที่ 23% ในส่วนของประเทศไทยตอนนี้ จากข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่าอัตราการตรวจพบเชื้อโควิดในประเทศไทยสูงถึง 24% และแนวโน้มกำลังสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างน่ากลัว ตัวเลขนี้ตีความเป็นอื่นไม่ได้เลยนอกเหนือจากหายนะ การล็อกดาวน์ของเรากำลังสูญเปล่า และในครั้งนี้ ประชาชนจะเจ็บแต่ไม่จบ เจ็บแล้วเจ็บเล่า โดยที่รัฐบาลก็อยู่ในสภาวะไร้ประสิทธิภาพเกินกว่าที่จะช่วยเหลืออะไรได้”

พิธา ระบุต่อไปว่า วิกฤตการณ์ที่รุนแรงขึ้นในขณะนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ล้มเหลวในการจัดการวิกฤติอย่างสิ้นเชิง ทั้งที่มีการออกมาตรการล็อกดาวน์ มีอำนาจเต็มจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่รวบอำนาจไว้ในมือ และมีเงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 2 ฉบับจำนวนเงินกว่า 1.5 ล้านล้านบาทสาเหตุหนึ่งที่อัตราการตรวจพบเชื้อในไทยสูงขึ้นในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ ก็เพราะตัวเลขการตรวจน้อยลง จากข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในสัปดาห์ 11-17 ก.ค. มีการตรวจเฉลี่ย 6.9 หมื่นตัวอย่างต่อวัน ในสัปดาห์ 18-24 ก.ค. 6.75 หมื่นตัวอย่างต่อวัน ในสัปดาห์ 25-31 ก.ค. 6.18 หมื่นตัวอย่างต่อวัน

“การล็อกดาวน์ที่จะไม่ให้สูญเปล่านั้น ต้องมีการตรวจเชิงรุก การตรวจต้องมากขึ้นไม่ใช่น้อยลง เพื่อที่จะแยกปลาออกจากน้ำ เพื่อทำการรักษาและยุติการระบาดให้ได้เร็วที่สุด ตัวอย่างของการตรวจเชิงรุกประชากรทั้งเมืองในต่างประเทศก็มีให้เห็นมาแล้วไม่ว่าจะเป็นเมืองที่ประชากรหลักพันอย่าง Vò ที่อิตาลี หลักหมื่นอย่าง Bolinas, California ที่สหรัฐฯ หลักแสนอย่าง Southampton ที่อังกฤษ และหลักล้านอย่างอู่ฮั่น ที่กล่าวมานี้ไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลต้องบังคับทุกคนให้มาตรวจโควิด แต่ศักยภาพในการตรวจ RT-PCR ของประเทศเราอยู่ที่ประมาณ 70,000 ตัวอย่างต่อวันและไม่เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เดือน เม.ย. แล้ว รัฐบาลต้องมีการตรวจเชิงรุกและขยายศักยภาพในการตรวจมากกว่านี้”

พิธา ยังย้ำว่า การล็อกดาวน์ให้ไม่สูญเปล่า รัฐบาลต้องเยียวยาประชาชนให้ทั่วถึง จึงขอแสดงความกังวลต่อมาตรการเยียวยานายจ้างและลูกจ้างนอกระบบประกันสังคม โดยการให้นายจ้างมาเข้าระบบประกันสังคม เพราะจากแผนการดำเนินงานและแผนการเบิกจ่ายเงินเยียวยาตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ 26/2564 เมื่อ 23 ก.ค. 2564 นายจ้างที่มาขึ้นทะเบียนประกันสังคมรายใหม่จะต้องได้รับการตรวจสอบข้อมูลจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โดยจากตารางเวลาการดำเนินงาน อาจจะได้เงินเยียวยาล่าช้าถึงเดือนตุลาคม

“ผมขอย้ำอีกครั้ง ว่าปัญหาของรัฐบาลประยุทธ์ไม่ใช่ไม่มีงบประมาณมาใช้ในการเยียวยาประชาชนและแก้ปัญหาโควิด-19 จากดูตัวเลขการอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินจำเป็น และรายการแก้ปัญหาโควิด-19 ของปีงบ 64 ที่ตั้งเอาไว้รวมกัน 140,000 ล้านบาท จากที่สืบค้นได้ใน มติ ครม. (นอกจากนั้นจะมีเอาไปใช้ในทางลับอะไรอีกผมไม่ทราบ) พบว่ามีการอนุมัติแค่ 46,000 ล้านบาท หรือไม่ถึง 1 ใน 3 ของงบกลางที่ขอในปี 64 ไม่นับว่ามีเอกสารสำนักงบประมาณของรัฐสภารายงานว่า ณ วันที่ 30 มิ.ย. 64 มีการเบิกจ่ายแค่ประมาณ 12,000 ล้านบาทเท่านั้น (ไม่ถึง 10%) นี่ยังไม่นับ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลออกมาได้จะ 3 เดือนแล้ว แต่ยังเป็น black box หรือ “พื้นที่ดำมืด” ที่เรายังไม่ทราบว่ารัฐบาลเอางบไปทำอะไรบ้าง

“ทุกปัญหา เราต้องแก้ให้ตรงจุด ตอนนี้ปัญหาวิกฤตของประเทศไม่ใช่ปัญหางบประมาณ แต่เป็นปัญหาเรื่องความสามารถของผู้นำและคณะ ผมจึงขอเสนอไปยังทุกท่านว่า ถ้าเราอยากออกจากวิกฤตนี้ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำและคณะ คืนอำนาจให้ประชาชนรวมถึงแก้ไขปัญหาโครงสร้างการเมืองไทยโดยเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจ แต่ไร้ความสามารถกลุ่มเดิมกลับมาได้อีก” พิธา ระบุ


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ศปก.ศบค.' ยัน ร้านอาหาร ในห้างให้ขายเดลิเวอรี่เท่านั้น ย้ำ!! ยึดตามข้อกำหนดศบค. เล็ง เปิดพื้นที่ในซุปเปอร์ฯ ให้ร้านนำอาหารมาขายแจมได้

4 ส.ค. 64 รายงานข่าวจากศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ศปก.ศบค. เปิดเผยผลประชุมศปก.ศบค.เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ถึงกรณีการเปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าที่ให้ขายแบบเดลิเวอรี่เพียงอย่างเดียว ตามที่ประกาศในข้อกำหนด แต่ไม่อนุญาตให้ซื้อกลับบ้าน แต่เมื่อมีประชาชนและผู้ประกอบการร้านอาหารส่วนหนึ่งร้องเรียนให้ผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวเพื่อให้สามารถซื้อกลับบ้าน (take away) ได้

รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมจึงหยิบประเด็นดังกล่าวมาหารือและมีข้อสรุป ว่า สามารถให้ซื้ออาหารกลับบ้านได้ เฉพาะร้านที่ตั้งอยู่พื้นที่ภายในบริเวณซุปเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น แต่ร้านอาหารที่ตั้งเป็นร้านเดี่ยวภายในห้างสรรพสินค้า ไม่ใช่ในพื้นที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตให้จำหน่ายได้รูปแบบเดียว คือ 'เดลิเวอรี่' เท่านั้น

โดยแนวทางยึดตามข้อกำหนดของศบค.เนื่องจากในที่ประชุมพูดคุยว่ามีข้อกังวลหากเปิดร้านอาหาร ที่ตั้งเป็นร้านเดี่ยวในห้างสรรพสินค้าให้ซื้อกลับบ้านได้ จะทำให้เกิดปัญหาประชาชนเข้าไปแออัดในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง ทำให้เกิดแพร่ระบาดได้ง่าย อีกทั้งให้ยึดตามข้อกำหนดศบค.ที่ระบุชัดเจนว่าไม่ต้องการให้มีการเคลื่อนย้ายจากบ้าน

“แต่อย่างไรก็ตามได้ขอให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตขยายพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อให้ร้านอาหารเดี่ยวในห้างสามารถนำอาหารมาวางจำหน่ายในพื้นที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยได้”

ทั้งนี้เมื่อได้ข้อสรุป ทางกทม.จะออกเป็นประกาศแนวทางปฎิบัติโดยละเอียดอีกครั้ง และจะประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการ ส่วนจังหวัดอื่นในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดหรือพื้นที่สีแดงเข้ม ให้ทางผู้ว่าฯ พิจารณา รายละเอียดก่อนประกาศแนวทางจังหวัดต่อไป


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นิวยอร์กซิตี กลายเป็นเมืองหลักแห่งแรกของสหรัฐฯ ที่บังคับแสดงหลักฐานพิสูจน์ผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเข้าไปในร้านอาหาร สถานออกกำลังกายและธุรกิจอื่น ๆ จากคำแถลงของนายกเทศมนตรีบิล เดอ บราซิโอ

นิวยอร์กซิตี กลายเป็นเมืองหลักแห่งแรกของสหรัฐฯ ที่บังคับแสดงหลักฐานพิสูจน์ผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับเข้าไปในร้านอาหาร สถานออกกำลังกายและธุรกิจอื่น ๆ จากคำแถลงของนายกเทศมนตรีบิล เดอ บราซิโอ ในวันอังคาร (3 ส.ค.)

ด้วยวัคซีนสามารถเข้าถึงได้ในวงกว้าง บรรดาผู้นำทางการเมืองทั้งหลายจึงเลือกหนทางแห่งการฉีดวัคซีนและสวมหน้ากากสำหรับต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระลอกปัจจุบัน แทนการออกคำสั่งปิดธุรกิจและบังคับประชาชนชาวเมริกันหยุดอยู่บ้านดังเช่นปีที่แล้ว

รัฐบาลกลางสหรัฐฯ และรัฐต่าง ๆ หลายแห่ง เช่นเดียวกับโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยบางแห่ง ได้บังคับลูกจ้างฉีดวัคซีน และในวันอังคาร (3 ส.ค.) ไทสัน ฟู้ดส์ กลายเป็นหนึ่งในนายจ้างเอกชนรายใหญ่ที่สุดที่บังคับพนักงานทุกคนฉีดวัคซีนเพื่อต่อสู้กับไวรัสที่คร่าชีวิตผู้คนในประเทศแห่งนี้ไปแล้วกว่า 600,000 ราย

นโยบายของเมืองนิวยอร์กซิตี คือ กำหนดให้ประชาชนแสดงเอกสารพิสูจน์ว่าฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายนเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามเป็นที่คาดหมายว่ามันจะถูกต่อต้านอย่างแข็งขัน ดังเช่นเมื่อครั้งออกคำสั่งบังคับสวมหน้ากากและหยุดอยู่บ้านเมื่อปีที่แล้ว

ในฝรั่งเศส การกำหนดข้อบังคับแสดงบัตรรับรองการฉีดวัคซีนของรัฐบาล กระตุ้นให้เกิดการประท้วงใหญ่ และบ่อยครั้งเลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรง จนตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม

พาสปอร์ตวัคซีนของรัฐบาลเป็นที่ถกเถียงกันหนักหน่วงในหมู่ประชาชนชาวสหรัฐฯ โดยเฉพาะในบรรดากลุ่มคนหัวอนุรักษ์นิยม "มันถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องมองวัคซีนว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างแท้จริง สำหรับการมีชีวิตที่ดี สมบูรณ์และแข็งแรง" เดอ บลาซิโอ จากพรรคเดโมแครตกล่าวระหว่างแถลงข่าว

จากข้อมูลของเมือง พบว่าจนถึงตอนนี้มีชาวนิวยอร์กราว ๆ 60% ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 1 เข็ม แต่ในบางพื้นที่ ในนั้นรวมถึงชุมชนคนยากจนขนาดใหญ่และประชาคมคนผิวสี ยังมีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำมาก

คำแถลงของเมืองนิวยอร์ก มีขึ้นในขณะที่เคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มสูุงขึ้นทั่วประเทศ โดยที่รัฐฟลอริดาและลุยเซียนากลายเป็นจุดล่อแหลมล่าสุด โรงพยาบาลต่าง ๆ กำลังเข้าสู่ภาวะตึงเครียด

ทั้งฟลอริดาและลุยเซียนา ต่างรายงานมีจำนวนคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สูงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด และแพทย์คนหนึ่งถึงขั้นเตือนว่ามันเป็นวันที่มืดมิดที่สุดเท่าที่เคยมีมา

จนถึงวันอังคาร (3 ส.ค.) มีคนไข้มากกว่า 11,300 คนที่เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ในรัฐฟลอริดา ทำให้ฟลอริดากลายเป็นรัฐที่กำลังเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนายสายพันธุ์ใหม่เลวร้ายที่สุดในสหรัฐฯ รัฐแห่งนี้มีคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของคนไข้โควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ

แมรี เมย์ฮิว ประธานสมาคมโรงพยาบาลแห่งฟลอริดา ระบุว่า การแพร่ระบาดระลอกล่าสุด ส่งผลให้จำนวนคนไข้โควิด-19 เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจาก 2,000 คนเป็น 10,000 คน ภายในเวลาไม่ถึง 30 วัน แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าจุดพีกสุดก็ตาม


ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9640000076114


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ส่องเม็ดเงินโฆษณาครึ่งปี 64 สื่อโฆษณาดิจิทัลมาแรง

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ในปี 2564 (มกราคม-มิถุนายน) ว่า ธุรกิจโฆษณา มีจำนวนการจดทะเบียนฯ ใหม่ ทั้งสิ้น 557 ราย เพิ่มขึ้น 26.59% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และทุนจดทะเบียนของธุรกิจโฆษณาในช่วงครึ่งปีแรก ปี 2564 มีจำนวน 893.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.39% ถือเป็นการส่งสัญญาณแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีของธุรกิจโฆษณาในประเทศไทย หลังสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป มีการทำงานและเรียนผ่านออนไลน์ที่บ้านมากขึ้น

ทั้งนี้จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ปริมาณการใช้งานระบบออนไลน์ การใช้โซเชียลมีเดีย และการรับชมทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยสถิติการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือของผู้ใช้งานอายุระหว่าง 16-64 ปี ในประเทศไทย พบว่า มีการใช้งานเฉลี่ย 5.07 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก และหากนับรวมการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งระบบ คนไทยมีการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมง หรือคิดเป็น 41% ของการใช้เวลาภายใน 1 วัน

ดังนั้น ภาคธุรกิจจึงควรให้ความสำคัญและหันมาประกอบธุรกิจ ทำการตลาดบนโลกออนไลน์มากขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัล ปี 2563 ของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ที่ภาคธุรกิจมีการใช้งบประมาณซื้อสื่อโฆษณาดิจิทัลมูลค่าสูงถึง 21,058 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีมูลค่า 19,555 ล้านบาท และข้อมูลของบริษัท นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด รายงานว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 มีการใช้เงินโฆษณาผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางรวมแล้วจำนวน 53,640 ล้านบาท


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เปิดทำเนียบ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกของไทย กว่า 25 ปีที่ผ่านมา

วันนี้เมื่อ 25 ปีก่อน (4 ส.ค. 2539) คนไทยได้เฮกันลั่นประเทศ เนื่องจาก สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยสากลสมัครเล่นของไทย สามารถเอาชนะคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศ คว้าเหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ 1996 ที่จัดขึ้นที่เมืองแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ ถือเป็นเหรียญทองประวัติศาสตร์ เหรียญแรกของประเทศไทยในกีฬาโอลิมปิกอีกด้วย

และต่อจากนั้นอีก 12 ปี ประเทศไทยก็ไม่เคยขาดแคลน ‘เหรียญทองโอลิมปิก’ อีกเลย โดยโอลิมปิกปี 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย วิจารณ์ พลฤทธิ์ นักมวยโนเนมร่างเล็ก ก็หักปากกาเซียน สามารถคว้าเหรียญทองในรุ่นฟลายเวต มาให้คนไทยได้เชยชมอีกครั้ง

ต่อมาในโอลิมปิกปี 2004 เจ้าเติ้ล-มนัส บุญจำนงค์ นักมวยมันสมองอีกคนของไทย ก็สามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกส์ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ แถมโอลิมปิกหนนั้น ยังถือเป็นความสำเร็จของนักกีฬามวยของไทย นอกจากเจ้าเติ้ลจะได้เหรียญทองแล้ว ยังมีนักมวยไทยคว้าเหรียญเงินจากผลงานของ วรพจน์ เพชรขุ้ม และอีกหนึ่งเหรียญทองแดงจาก สุริยา ปราสาทหินพิมาย

ต่อจากนั้นอีก 4 ปี ในโอลิมปิกเกมส์ปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน นักมวยเจ้าของประโยคทอง ‘ผมเจ็บมาเยอะ’ สมจิตร จงจอหอ ก็คว้าเหรียญทองในรุ่นไลต์ฟลายเวต ให้กับประเทศไทยได้อีกครั้ง

แม้ต่อมาในโอลิมปิกเกมส์ปี 2012 แก้ว พงษ์ประยูร จะคว้าเหรียญเงินให้กับทีมชาติไทยได้ แต่ทัพนักกีฬามวยของไทยก็ไม่สามารถคว้า 'เหรียญทอง‘ ได้อีกเลย นับถึงวันนี้กว่า 13 ปีมาแล้ว

ไล่เรียงไทม์ไลน์มายาวขนาดนี้ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า พรุ่งนี้ 5 สิงหาคม เวลา 12.00 น. เจ้าแต้ว-สุดาพร สีสอนดี นักมวยหนึ่งเดียวของไทยในเวลานี้ จะสามารถทำผลงานผ่านรอบรองฯ เข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ และจะคว้าเหรียญทองที่รอคอยมาให้จงได้ สู้! สู้! สุดาพร


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นทพ. รับมอบรถตู้นิรภัยพร้อมส่งสนับสนุน รพ.บุษราคัม เพื่อดูแลรับ-ส่งผู้ป่วย

พลเอก นเรนทร์  สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา นทพ. ได้รับมอบรถตู้นิรภัยป้องกันการแพร่กระจายของโรค จาก บริษัท อาคเนย์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 คัน สำหรับไว้ใช้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19 ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ในการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โดยหลังจากรับมอบเรียบร้อยแล้ว ได้จัดพลขับนำรถไปสนับสนุน รพ.บุษราคัม เพื่อช่วยเหลืออำนวยความสะดวกในการรับ-ส่งผู้ป่วยติดเชื้อเข้ารับการดูแลรักษาต่อไปทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของกระทรวงสาธารณสุขในการรับ-ส่งผู้ป่วยติดเชื้อเข้ารับการดูแลรักษาได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top