Sunday, 18 May 2025
NEWS FEED

ร.15 พัน.1 ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ

พ.อ.ธนพล นุ้ยสุข ผบ.ร.15 พัน.1 จัดกำลังพลลงพื้นที่รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร ของเกษตรกรชาวสวนมังคุดในพื้นที่ ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่  โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางในพื้นที่ ตามนโยบายของกองทัพบกที่ห่วงใยพี่น้องเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) และยังส่งผลให้ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ โดยให้หน่วยทหารเข้าช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างเต็มศักยภาพทุกรูปแบบ 

ทั้งนี้หน่วยได้รับซื้อมังคุด จำนวน 1 ตัน มาแจกจ่ายให้กับกำลังพลภายในหน่วย ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และนำไปมอบเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่/บุคลากรทางการแพทย์ รพ.คลองท่อม เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ต่อไป


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการจัดการพลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัล (Digital Platform) ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting

พล.ต.ต.ญาณพงศ์  โสมาภา ผู้บังคับการกองสารนิเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 64 เวลา 15.00 น. ณ ห้องพรหมนอก ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สมชาย  พัชรอินโต ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุงและคณะจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการจัดการพลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัล (Digital Platform) ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting โดยมี นายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นผู้ลงนาม และมีนายชาติชาย ภุมรินทร์ รองผู้ว่าการธุรกิจและการตลาด การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นพยาน

สำหรับโครงการจัดการพลังงานในองค์กรด้วยระบบดิจิทัล (Digital Platform)เป็นโครงการที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามาช่วยในการตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงาน รวมถึงการเสนอแนะแนวทางในการจัดการพลังงาน เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

‘มูลนิธิมาดามแป้ง’ ผนึกกำลังพันธมิตรเอกชน หนุนศูนย์พักคอย 4 มุมเมือง

มูลนิธิมาดามแป้ง โดย ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ เดินหน้าสนับสนุนศูนย์พักคอย (Community Isolation) 4 มุมเมือง เสริมกำลังแกร่งด้วยพันธมิตรเอกชนกว่า 10 ราย ช่วยคนไทยสู้วิกฤตโควิด-19 พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติงาน และผู้ป่วย

10 ส.ค.​ 64 ณ วัดกำแพง (บางแวก) เขตภาษีเจริญ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ 
ซีอีโอ บมจ. เมืองไทยประกันภัย และประธานกรรมการมูลนิธิมาดามแป้ง ในฐานะผู้สนับสนุนหลักการจัดตั้งศูนย์ นำคณะกรรมการมูลนิธิฯ เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยมีผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญ ประธานกรรมการโรงพยาบาลมิตรประชา ร่วมพูดคุยให้ข้อมูลการบริการประชาชนและระบบการทำงานต่าง ๆ เพื่อสานต่อความช่วยเหลือในระยะต่อไปแก่ศูนย์ฯ สามารถดูแลผู้ป่วยได้แบบ 360 องศา โดยได้ให้กำลังใจผู้ป่วยผ่านระบบ INTERCOM

ในการนี้ มูลนิธิมาดามแป้ง ยังได้พันธมิตรเอกชน เข้าร่วมสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์พักคอยทั้ง 4 มุมเมืองนี้ เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้มากยิ่งขึ้น และสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐอีกทาง โดยมีรายนามดังนี้ บริษัท บางกอกกล๊าส จำกัด (มหาชน), อเมริกัน อีเกิล เอาท์ฟิตเตอร์ส (American Eagle Outfitters), บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน), บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) (ฟาร์มเฮ้าส์), บริษัท ล็อคตั้น วัฒนา อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทย วี พี คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด, บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน), สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รุ่น 47 และ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด รวมถึงประชาชนจำนวนมากที่ร่วมสนับสนุนให้แก่มูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่อง

ด้าน ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวว่า “วันนี้พวกเราในฐานะมูลนิธิมาดามแป้ง มองว่าด้วยหนึ่งแรงช่วยเหลือคงจะน้อยนิดสำหรับความเดือดร้อนที่มีอยู่ในทุกหย่อมหญ้า การที่เราได้รับกำลังใจและแรงสนับสนุนจากพันธมิตรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บางท่านไม่ได้ให้แค่เงินสนับสนุน แต่ยังช่วยส่งทรัพยากรที่มี มาร่วมด้วยช่วยกัน ทั้งรถรับ-ส่ง, อาหาร, น้ำดื่ม ทำให้เราได้เห็นภาพความร่วมมือของภาคเอกชนที่ร่วมใจช่วยคนไทยในการต่อสู้วิกฤต และขอขอบคุณเงินทุกบาทของผู้ที่มีจิตศรัทธาที่หลั่งไหลมาตลอดตั้งแต่ช่วงที่เราเตรียมความพร้อม และเริ่มเปิด CI ทั้ง 4 ศูนย์ฯ ขอบคุณจากใจจริงค่ะ”

โดยขณะนี้ ศูนย์พักคอยวัดกำแพง (บางแวก) เขตภาษีเจริญ โดยโรงพยาบาลมิตรประชา มีขนาด 100 เตียง ซึ่งกำลังจะเพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองอ่อน ที่ลงทะเบียนผ่านระบบคัดกรองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะรับผู้ป่วยได้เต็มจำนวนเตียงภายในสัปดาห์นี้

'โฆษก ทร.' เผย 'ผบ.ทร.'​ รับมอบตู้พ่นฆ่าเชื้อโควิค19 จากบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อติดตั้ง ณ จุดคัดกรอง รพ.ปิ่นเกล้า

10​ ส.ค.64 พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วย พลเรือโท วิชัย มนัสศิริวิทยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ และ พลเรือตรี นิธิ พงษ์อนันต์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ร่วมรับมอบตู้พ่นฆ่าเชื้อโรค สำหรับภารกิจต่อต้านการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งผลิตโดยกรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ จำนวน 2 ตู้ มูลค่า 200,000 บาท จากคุณไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) และ คุณทรงเดช วรยุทธการ ประธานกรรมการ บริษัท พีท แอนด์ เฟรนด์ จำกัด และ พลเรือตรี สราวุฒิ ใจชื้น เจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ ในฐานะผู้ผลิต ร่วมส่งมอบให้โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพฯ

สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เดิมทีกองทัพเรือมีระบบการคัดกรองการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 หลายรูปแบบ เช่น การใช้เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายที่เปรียบเสมือนด่านแรกในการคัดกรอง แต่ยังคงมีช่องว่างของการแพร่กระจายของเชื้อเพื่อตอบสนองต่อมาตรการของ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ในการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

ในการนี้ กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ จึงได้ทำโครงการวิจัยในการศึกษาความเป็นไปได้ และสร้างตู้พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ขึ้น เป็นเครื่องที่สามารถสร้างละอองหรือไอของสารฆ่าเชื้อโรค/ยับยั้งเชื้อโรคที่ปนเปื้อนภายนอกกับบุคคล ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องมือในการสร้างละอองที่มีขนาดละเอียดเล็กมาก และครอบคลุมพื้นที่ในเวลาสั้นนี้ จึงเป็นตู้พ่นฯ ที่ประหยัดความสิ้นเปลืองของน้ำยา/สารเคมีได้ สามารถใช้งานได้กับน้ำยาหลากหลายแบบ ทั้ง Chemical Based และสารผสม เช่น สารสกัดสมุนไพร สารชีวภาพที่มีสารออกฤทธิ์ ยับยั้งเชื้อโรคได้ (Bioactive ingredients)
มีระบบทำลายพิษตนเองอัตโนมัติ (Auto self -cleaning Machine) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของสารเคมี รวมถึงเชื้อโรค ก่อนใช้งานกับบุคคลอื่น และก่อนการปล่อยสาร/ของเสียสู่สิ่งแวดล้อม

องค์ประกอบของเครื่องพ่นฆ่าเชื้อโรค ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ดังนี้... 

1. ส่วนสร้างละอองน้ำยาขนาดอนุภาคละเอียด (Ultrasonic Atomizer) 
2. ส่วนเติมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและหรือยับยั้งเชื้อโรค (Disinfectant solution tank)  
3. ส่วนห้องหรืออุโมงค์เพื่อเป็นพื้นที่ทำลายพิษ (Decontamination area) 
4. ระบบควบคุมอัตโนมัติและเซนเซอร์จับวัตถุ (Automatic Control & Sensors)​

บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่ประชาชนทั่วไปจะได้รับ จึงให้การสนับสนุนในการผลิตตู้ พ่นฆ่าเชื้อฯ และส่งมอบให้โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า เพื่อนำไปติดตั้ง ณ จุดผ่านเข้า-ออก ภายในโรงพยาบาล เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิค 19

องค์กรผู้ใช้น้ำ (สทนช.) ร่วมมือ แบ่งปันน้ำใจ  มอบน้ำดื่มให้ รพ.สนาม และศูนย์พักคอย รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 กทม.และชลบุรี

องค์กรผู้ใช้น้ำ (สทนช.)โดยคุณธนวัฒน์ สันตินรนนท์ กรรมการบริหาร บ.อินดัสเตรียลวอเตอร์ รีซอร์สแมนเนจเม้นท์ จก. ผู้แทนกลุ่ม "ตนรักษ์น้ำ"และ คุณวิเชษฐ์ เกตุแก้ว ผู้แทน กลุ่ม"สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทราลุ่มน้ำบางปะกง" ร่วมแบ่งปันน้ำดื่ม ให้แก่ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครฯ ณ.โรงพยาบาล เอราวัณ 2 บางกอก อารีน่า เขตหนองจอก กทม.จำนวน 12,000 ขวด เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม 13 แห่ง ในความรับผิดชอบของ กทม. เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 


ที่ผ่านมา คุณวิเชษฐ์ เกตุแก้ว องค์กรผู้ใช้น้ำ ( สทนช.)ผู้แทนกลุ่ม "สภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ลุ่มน้ำบางปะกง” และคุณศราวุฒิ​ เปลี่ยนอารมย์​  ผู้จัดการทั่วไป บ.อินดัสเตรียล วอเตอร์ รีซอร์ส แมนเนจเมนท์(IWRM) ผู้ผลิตน้ำประปาเพื่อบริโภคและเพื่ออุตสาหกรรม ในเขตพื้นที่EECร่วมสนับสนุน น้ำดื่มและน้ำยาฆ่าเชื้อ" มอบให้ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้อง ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง  จ.ชลบุรี จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ติดเชื้อโควิด19 ในพื้นที่จากจังหวัดกรุงเทพฯและจังหวัดชลบุรี จำนวน 80 เตียงโดยมีคุณศลิศา ศัลยกำธร ผู้อำนวยการศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้องพร้อมทีม เจ้าหน้าที่ อสม.อบตหนองบอนแดง อ.บ้านบึง ร่วมรับมอบ

ทั้งนี้ ยังได้มอบน้ำดื่ม CHON Water ให้กับ  ศูนย์พักคอย เทศบาลตำบลพานทอง  จำนวน1,200 ขวด โดย นายศิริเกียรติ ไม้งาม  นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลพานทอง  อ.พานทอง รับมอบและสนับสนุนน้ำดื่มอีก จำนวน1,200 ขวดให้กับ อบต.หน้าประดู่ รับมอบโดย นายรัชกฤต เจริญสุข นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าประดู่  ว่าที่ร้อยตรีศุภชัย สนธิรักษ์ปลัด อบต.หน้าประดู่และ นายนรภัทร แสงจันทร์ ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.หน้าประดู่  อ.พานทอง จากการระบาดของเชื้อโควิด-19  ขยายเป็นวงกว้างมีการพบเชื้อที่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง อปท.จึงจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอยเพิ่ม มีความจำเป็นต้องการน้ำ อาหาร ของใช้ที่จำเป็น ให้กับผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ อาสา ประจำศูนย์ จึงขอเชิญชวนร่วมบริจาค ณ.ศูนย์พักคอยได้ทุกที่ ไกล้บ้านท่าน เราจะก้าวผ่าน โควิด-19ไปด้วยกัน

ครม. เคาะ อนุมัติวงเงิน 3.3 หมื่นล้านบาท ชดเชย ม.39-40 ในพื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้ม

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้เห็นชอบกรอบวงเงิน 33,471.0050 ล้านบาท เยียวยาผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่ 29 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐตามข้อกำหนดฯ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยช่วยเหลือค่าครองชีพคนละ 5,000 บาท รวมทั้งสิ้น 6,694,201 คน โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้

1.) พื้นที่ดำเนินการ 29 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ระยอง ราชบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี ตาก อ่างทอง นครนายก สมุทรสงคราม และสิงห์บุรี

2.) กลุ่มเป้าหมายรวมประมาณ 6,694,201 คน ประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จำนวน 1,436,171 คน และมาตรา 40 จำนวน 5,258,030 คน

3.) คุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่มีสัญชาติไทย สถานะเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะ A (Active) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด) หรือ ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564 (พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 16 จังหวัด)

กรณีเป็นผู้สมัครเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ในฐานทะเบียนประกันสังคมที่มีสถานะรอชำระเงิน W (Wait) ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ทั้งนี้ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39 และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 ต้องไม่เป็นข้าราชการหรือผู้รับบำนาญของกรมบัญชีกลาง

4.) วิธีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 จะโอนเงินให้กับผู้ประกันตนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (Prompt Pay) เฉพาะที่ผูกบัญชีกับเลขประจำตัวประชาชน

โฆษกรัฐบาลยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ครม.ยังให้กระทรวงแรงงาน เร่งตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือตามเป้าหมายเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน รวมทั้งขอให้โอนเงินให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนตาม ม. 39 และ ม. 40 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 10 จังหวัด ก่อนระยะเวลาที่กำหนด ภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564 เนื่องจากเป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ที่มีสถานการณ์การระบาดของโควิด -19 ที่รุนแรงและได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ ก่อนพื้นที่อื่น ๆ

อีกทั้ง กำหนดให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพิ่มเติมในพื้นที่ 10 จังหวัด ต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 และในพื้นที่ 19 จังหวัดต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนและจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 24 สิงหาคม 2564

นอกจากนี้ ได้ให้กระทรวงแรงงานจัดทำข้อเสนอขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเป้าหมายที่รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ 13 จังหวัดเพิ่มเติมอีกจำนวน 1 เดือน ซึ่งจะช่วยให้การให้ความช่วยเหลือนายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

"สภาสังคมสงเคราะห์ แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์" รับมอบน้ำดื่ม 3,600 ขวด อาหาร 150 กล่อง ช่วยเหลือประชาชน ในช่วงสถานการณ์โควิด-19

ณ สภาสังคมสงเคราะห์แห่ง ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์  เลขที่ 257 ตึกมหิดล ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ "แพทย์หญิงสุวณี  รักธรรม" รองประธานสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คุณศิริพร  คัมภีรยส ผู้ช่วยเลขาธิการ สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ คุณนงลักษณ์  รอมไธสง ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้เกียรติเป็นประธานรับมอบน้ำดื่ม จำนวน 3,600 ขวด อาหาร จำนวน 150 กล่อง จาก "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย น.ส.ภัสวรินทร์ กิตติโชคกุลพัทธ์ นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาคนพิการไทย นายโกสินธ์ จินาอ่อน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์ ที่ปรึกษาสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคมเป็น "สะพานบุญ" ของ "บริษัทดับเบิ้ลพี แลนด์ จำกัด" และ "น.ส.ชาลินี ลอยนุ้ย" เจ้าของร้านทุเรียน นุช-นนท์ (ตลาดสี่มุมเมือง) เพื่อนำสิ่งของดังกล่าวมามอบ และเป็นขอร่วมเป็นกำลังใจในการดำเนินงานของทาง "สภาสังคมสงเคราะห์" ที่มีบทบาทสำคัญให้การช่วยเหลือดูแล คนพิการ คนยากไร้ คนด้อยโอกาส คนไร้ที่พึ่ง ในช่วงสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้

ในการนี้ "แพทย์หญิงสุวณี  รักธรรม" รองประธานสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กล่าวขอบคุณ ทุกท่านที่ได้นำสิ่งของเหล่านี้มาร่วมด้วยช่วยกันดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทย บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ จิตอาสา และ หลายๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19  ร่วมกันต่อสู้ภัยร้ายนี้เพื่อการอยู่รอดปลอดภัยไปด้วยกัน

'TikTok' ยืนหนึ่ง แอปฯ ที่มีคนดาวน์โหลดมากที่สุด แซงหน้า Facebook ได้เป็นครั้งแรก

เอเจนซีส์ - ผลการสำรวจทั่วโลกของการดาวน์โหลดประจำปี 2020 พบว่า TikTok แอปแชร์คลิปจากจีนสามารถโค่นเฟซบุ๊กจากโลกตะวันตกได้สำเร็จ และกลายเป็นผู้ให้บริการโลกโซเชียลมีเดียระดับท็อปของโลกได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการศึกษามาตั้งแต่ปี 2018

หนังสือพิมพ์นิเคอิเอเชีย สื่อธุรกิจญี่ปุ่นรายงานวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า จากการที่มีความวิตกเพิ่มขึ้นถึงการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคลทำให้ เทเลแกรม (Telegram) แอปส่งข้อความที่สามารถลบโพสต์ได้นั้นสามารถทำอันดับได้ในลำดับสูงระหว่างปีหลังแอปโซเชียลมีเดียได้อานิสงส์จากวิกฤตโควิด-19 ทำให้มีจำนวนผู้ใช้เป็นจำนวนมาก

บริษัทไบต์แดนซ์ที่มีฐานอยู่ในจีน และเป็นผู้พัฒนาแอป TikTok ได้เริ่มส่งเวอร์ชันนานาชาติออกมานับตั้งแต่ปี 2017 และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพบว่า TikTok สามารถโค่นโซเชียลมีเดียเจ้าดังทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ว็อตแอป (WhatApp) อินสตาแกรม และรวมไปถึงเฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์ ในแง่การดาวน์โหลดที่แม้แต่ในสหรัฐฯ เอง

ซึ่งรายชื่อแอปโซเชียลที่ว่ามาทั้งหมดนั้นมีเจ้าของเดียวคือ เฟซบุ๊ก เว้นแต่ TikTok ที่มาจากจีน นิเคอิเอเชียชี้

แม้สถานการณ์ของ TikTok ในสหรัฐฯ ยังคงไม่แน่นอนต่อไปแม้ว่ารัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะสั่งถอนคำสั่งทางบริหารออกไปหลังอดีตผู้นำ โดนัลด์ ทรัมป์ ลงจากตำแหน่ง ขณะที่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) ว่า บริษัทไบต์แดนซ์ได้เดินหน้าปัดฝุ่นแผนที่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ทว่าโฆษกบริษัทไบต์แดนซ์เปิดเผยกับนิเคอิเอเชียในวันจันทร์ (9 ส.ค.) ว่า ข่าวที่ออกไปนั้นไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันว่า บริษัทยังไม่มีแผนที่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เพื่อการซื้อขายแต่อย่างใด

การสำรวจการจัดอันดับแอปที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดประจำปี 2020 โดยนิเคอิและได้อ้างอิงข้อมูลทั้งหมดจากบริษัทข้อมูลการวิจัยทางการตลาด แอนนี (Annie) ที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯ อ้างอิงจากตารางการรายงานสำหรับข้อมูลที่เป็นการดาวน์โหลดในสหรัฐฯ พบว่า แอปที่มีคนดาวน์โหลดมากที่สุดประจำปี 2020 คือ TikTok ที่เคยเป็นอันดับ 2 ประจำปี 2019 และสามารถโค่นเฟซบุ๊ก เมสเซนเจอร์ที่แต่เดิมเป็นอันดับ 1 ของปีที่แล้วได้สำเร็จ ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของเฟซบุ๊ก ที่แต่เดิมอยู่ในอันดับ 5 ของปี 2019

แอปที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ประจำปี 2020 คือ อินสตาแกรม ที่ตกมาจากอันดับ 3 ในปี 2019 และอันดับ 5 คือ สแนปแชต (Snapchat) แอปจากสหรัฐฯ เคยอยู่ในอันดับ 4 ของปี 2019

ส่วนอันดับ 1 ของแอปที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในจีนประจำปี 2020 คือแอป Douyin ซึ่งเป็นแอป TikTok เวอร์ชันจีนจากไบต์แดนซ์ และอันดับ 2 คือแอป WeChat จากจีนเช่นกัน

สำหรับในญี่ปุ่น พบว่า แอปที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดประจำปี 2020 คือ ไลน์ (Line) จากญี่ปุ่น อันดับ 2 อินสตาแกรมของสหรัฐฯ อันดับ 3 แอป TikTok ของจีน อันดับ 4 ทวิตเตอร์จากสหรัฐฯ และอันดับ 5 คือ Pinterest จากสหรัฐฯ

ในรายงานยังระบุว่า แอปไลน์จากญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างมากในไทย และในญี่ปุ่นเองช่วงระหว่างเกิดวิกฤตโควิด-19 พบว่าจังหวัดโอซากาได้ใช้แอปไลน์สำหรับการประกาศการจองวัคซีนโควิด-19 และรัฐบาลท้องถิ่นอื่น ๆ ในญี่ปุ่นใช้แอปไลน์ในการเผยแพร่ข้อมูลและทำให้ไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานในชีวิตประจำวันไป แต่ทว่าพบว่ามีการวิตกมากขึ้นถึงความปลอดภัยด้านความเป็นส่วนบุคคลจากการที่พาร์ทเนอร์ในจีนสามารถแอบเห็นข้อมูลผู้ใช้ในญี่ปุ่นได้

บริษัทแอนนีซึ่งเป็นผู้รวบรวมข้อมูลสำหรับการสำรวจในสหรัฐฯ ให้นิเคอิเอเชียกล่าวว่า ช่วงเวลาของการดูทั้งหมดสำหรับแอป TikTok ในสหรัฐฯ และอังกฤษมีระยะเวลาที่นานกว่าของยูทูป และคลิปสั้นจะยังคงเป็นที่ได้รับความสนใจจากผู้ดูต่อไป

และระบุว่า เมื่อพิจารณาในแง่ของคอนเทนต์พบว่า เพลงและตลกบันเทิงนั้นมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ส่วน Vocal แอปโซเชียลมีเดียนั้นกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่คลับเฮาส์ (Clubhouse) พบว่าได้ออกไปจากญี่ปุ่นและสหรัฐฯ มาตั้งแต่ต้นปีนี้แล้ว


ที่มา : https://mgronline.com/around/detail/9640000078190


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อิสราเอลเปิดเผยพบผู้ติดเชื้อ 14 ราย หลังฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็มที่ 3

หนังสือพิมพ์ไทม์สออฟอิสราเอลอ้างอิงรายงานจากสำนักข่าวชาแนล 12 ระบุว่า ในบรรดาผู้คน 14 รายที่ติดเชื้อโควิด-19 หลังได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 1 สัปดาห์ มีอยู่ 11 รายที่อายุ 60 ปีขึ้นไป และ 2 ในนั้นเวลานี้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ส่วนอีก 3 คนเป็นบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 สืบเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

หากได้รับการยืนยันในกลุ่มตัวอย่างที่กว้างขวางกว่านี้ ข้อมูลเช่นนี้อาจก่อความสงสัยต่อประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งทางอิสราเอลเริ่มฉีดให้แก่ประชาชนบางกลุ่มไปแล้ว ในขณะที่องค์กรสาธารณสุขหลัก ๆ ทั่วโลกยังไม่ได้อนุมัติในเรื่องดังกล่าว

อย่างไรก็ตามข้อมูลอีกด้านหนึ่งได้ออกมาในแง่ดี เมื่อกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลระบุในรายงานแยกกัน ว่าในบรรดาชาวอิสราเอล 600,000 คนแรก หรือมากกว่านั้น ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 มีไม่ถึง 50 รายที่มีผลข้างเคียง

กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลระบุในถ้อยแถลงว่าอาการต่าง ๆ ของผลข้างเคียงที่รายงานมานั้น ล้วนแต่เป็นอาการเล็ก ๆ น้อย อย่างเช่น เจ็บปวดบริเวณจุดที่ฉีด มีไข้และคลื่นไส้ แต่อาการเหล่านั้นจะหายไปอย่างรวดเร็ว

รัฐบาลอิสราเอลยังคงอยู่ในขั้นต้น ๆ ของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ประชาชน และปัจจุบันยังคงเป็นการฉีดให้กลุ่มคนเฉพาะกลุ่ม อย่างเช่น บุคคลที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ บุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป

เจ้าหน้าที่พยายามกระตุ้นให้ชาวอิสราเอลเข้าฉีดวัคซีน ในความหวังว่าการฉีดวัคซีนหมู่ในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้า จะช่วยหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ซึ่งมีต้นตอจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา ที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก

อาวิกดอร์ ลิเบอร์แมน รัฐมนตรีคลัง เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายล่าสุดที่ออกมาคัดค้านการกำหนดล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ในขั้นนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายใดที่ส่งเสียงสนับสนุนมาตรการเข้มงวดสุดขั้วและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเองก็ยืนยันว่าพวกเขามีเป้าหมายหลีกเลี่ยงล็อกดาวน์ อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบางส่วนระบุว่าบางทีมันอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเคสผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น

กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลระบุว่าจากประชากรทั้งหมด 9.3 ล้านคน จนถึงตอนนี้มีประชาชนแล้วกว่า 5.8 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนไฟเซอร์อย่างน้อย ๆ 1 เข็ม และเกือบ 5.4 ล้านคน ฉีดครบ 2 เข็ม ขณะเดียวกันมีอีกเกือบ 550,000 ราย แล้วที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น

จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล เวลานี้วัคซีนเข็มที่ 3 จำกัดไว้เฉพาะกับกลุ่มคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และบุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งประชากรวัย 60 ปีขึ้นไปของอิสราเอลนั้น มีอยู่ราว ๆ 1,572,000 คน

การเดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของอิสราเอล มีขึ้นในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มแย่ลง โดยข้อมูลที่กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยในช่วงเย็นวันจันทร์ (9 ส.ค.) พบเคสผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ป่วยหนักรายใหม่ 84 คน ในวันอาทิตย์(8 ส.ค.) และ 66 คนจนถึงช่วงเย็นวันจันทร์ (9 ส.ค.) ส่งผลให้ยอดรวมเคสติดเชื้ออาการรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็น 373 ราย

ในวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) อิสราเอล พบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มอีก 14 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 6,555 คน

นอกจากนี้ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลยังพบว่า ด้วยผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 3,417 คนในวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) คิดเป็นอัตราส่วนผลตรวจเชื้อเป็นบวก 3.9% และผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 3,609 คนในวันจันทร์ (9 ส.ค.) ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในอิสราเอล นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นอยู่ที่ 904,874 คน


(ที่มา:ไทม์สออฟอิสราเอล)

https://mgronline.com/around/detail/9640000078252


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!

A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!!

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท

>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ

>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘EA’ ร่วมกับ ‘บลูเทคซิตี้’ และมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบชุดตรวจโควิด-19 Antigen Test Kit 1,500 ชุด ให้ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อใช้ในภารกิจโควิด-19

วันนี้ 10 สิงหาคม 2564 ที่ศาลากลาง จังหวัดฉะเชิงเทรา นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย นายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา รับมอบชุดตรวจโควิด-19  Antigen Test Kit  หรือ ATK  จำนวน 1,500 ชุด  รวมมูลค่า 300,000 บาท จากนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์  ในฐานะ รองประธานอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานผู้บริหารโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้  ในฐานะประธานที่ปรึกษามูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ เพื่อให้จังวัดฉะเชิงเทราใช้ในภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่

นายสมโภชน์ อาหุนัย  กล่าวว่า EA ร่วมกับบลูเทคซิตี้ และมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม และสนับสนุนภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยสนับสนุนชุดตรวจโควิด-19  Antigen Test Kit หรือ ATK จำนวน 1,500 ชุด  ซึ่งเป็นชุดตรวจที่สามารถทราบผลภายใน 10 นาที และได้รับอนุญาตจาก อย.แล้ว  ทั้งนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้การควบคุมโรคระบาดเป็นไปโดยเร็วที่สุด เพราะยิ่งตรวจเชื้อได้มากและเร็วเท่าไร ยิ่งลดการเสี่ยงแพร่กระจายของเชื้อได้มากขึ้น


ภาพ/ข่าว  ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top