Sunday, 11 May 2025
NEWS FEED

'สโลวีเนีย' ระงับใช้วัคซีน 'จอห์นสัน&จอห์นสัน' หลังพบผู้เสียชีวิต จากเลือดออกในสมอง-ลิ่มเลือดอุดตัน

รัฐบาลสโลวีเนียสั่งให้ระงับการใช้งานวัคซีนป้องกันโควิด-19 ‘แจนเซน’ ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันชั่วคราวเมื่อวันพุธ ภายหลังมีหญิงวัย 20 ปีเสียชีวิต เพราะภาวะเลือดออกในสมองและลิ่มเลือดอุดตัน หลังจากฉีดวัคซีนนี้ได้ไม่กี่วัน

เอเอฟพีอ้างคำแถลงของยาเนซ โพคลูคาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสโลวีเนีย ที่กรุงลูบลิยานา เมื่อวันพุธที่ 29 กันยายน ว่า กระทรวงได้ขอให้สถาบันสาธารณสุขระงับการฉีดวัคซีนแจนเซนเป็นการชั่วคราว จนกว่ารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้จะมีความชัดเจน

โบยานา บีโอวิช หัวหน้าคณะผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษารัฐบาลแนะนำให้ระงับการใช้วัคซีนนี้ หลังจากรับรู้ว่าอาจมีความเชื่อมโยงไม่พึงประสงค์ระหว่างการเสียชีวิตกับการฉีดวัคซีน

รายงานของสื่อสโลวีเนียกล่าวว่า สตรีรายนี้เข้ารักษาในโรงพยาบาลเมื่อวันจันทร์ด้วยอาการรุนแรง เธอเพิ่งฉีดวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันไม่กี่วันก่อนหน้านี้

ที่ปรึกษาฮุนเซน เข้าพบ "จุรินทร์" ขอให้ไทยเร่งเปิดด่านหนองเอี่ยน ส่วนไทยหวังประชุม JTC จะส่งเสริมการค้าระหว่าง ไทย-กัมพูชา ในต้นปีหน้า

รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ได้ทำหน้าที่ประสานและนำ Dr.Sok Sokrethya ที่ปรึกษาส่วนตัวของท่านนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซน ผู้แทนรัฐบาลกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เข้าพบท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ณ ห้องรับรอง ชั้น 9 กระทรวงพาณิชย์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลของสองประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้น

นอกจากนี้เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักการเมืองรุ่นใหม่ของกัมพูชากับของประเทศไทย ตลอดจนเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแสวงหาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ในช่วงที่ทั้งสองประเทศเกิดโควิดและหลังจากสถานการณ์โควิดผ่านไปแล้วด้วย

ภายหลังจากที่ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้กล่าวต้อนรับท่านรัฐมนตรีจากกัมพูชาด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งแล้ว

ท่านที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโซ ฮุนเซน และรัฐมนตรีช่วยการท่องเที่ยวของกัมพูชาได้ขอหารือในประเด็นสำคัญ 3 ประเด็นคือ

ประเด็นที่1 ให้ฝั่งไทยช่วยเร่งรัดในการแก้ปัญหาการจราจรหน้าด่านที่ฝั่งไทย เพื่ออำนวยความสะดวกให้สินค้าจากไทยข้ามไปกัมพูชาได้โดยเร็วและสะดวกขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของระบบการจัดทำเอกสารที่กัมพูชาเห็นว่าอาจสามารถลดลงได้ เพื่อความสะดวกในการทำการค้าระหว่างสองประเทศ

ประเด็นที่2 กัมพูชาใคร่ขอให้ไทยเร่งรัดการเปิดด่านหนองเอี่ยน เพื่อถ่ายเทการจราจรระหว่างสองประเทศอีกช่องทางหนึ่ง เพื่อให้เกิดความสะดวกในการค้าระหว่างสองประเทศมากยิ่งขึ้น

ประเด็นที่3 กัมพูชาใคร่ขอให้ฝั่งไทยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรระหว่างกันให้ได้รับความสะดวกมากขึ้นโดยเฉพาะข้อตกลงในเรื่องมาตรการด้านสุขอนามัยระหว่างกัน

ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เรียนให้ท่านที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฮุนเซนและผู้แทนของรัฐบาลกัมพูชาว่า

ประเด็นที่1 การเปิดด่านหนองเอี่ยนมีความเห็นตรงกันระหว่างสองประเทศคือไทยกับกัมพูชา เพราะเมื่อครั้งที่ตนไปเยือนกัมพูชาก่อนเกิดโควิด ได้เจรจากับท่านรัฐมนตรีการค้าท่านปาน สรศักดิ์ ที่พนมเปญ และมีความเห็นตรงกันว่าจะใช้วิธีการเปิดด่านหนองเอี่ยน โดยไม่ต้องรอให้ด่านฝั่งไทยสร้างเสร็จแบบถาวร แต่จะใช้ตู้คอนเทนเนอร์ไปพลางก่อนเพื่อการค้าระหว่างกันจะได้เดินหน้าได้ ซึ่งจะมีการหารือเพื่อเร่งรัดการแก้ปัญหา เช่น การติดขัดในบางส่วนให้เสร็จโดยเร็ว

ประเด็นที่2 ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยได้ขอให้ท่านที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซน และผู้แทนของรัฐบาลกัมพูชาได้ช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าไทยที่ไปโพสต์ขายอยู่ใน klangthai.com ของกัมพูชาประมาณ 220 กว่ารายการ ให้ชาวกัมพูชาได้รับทราบเพิ่มเติม

ประเด็นที่3  ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งให้ท่านที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสมเด็จฮุนเซน ตัวแทนของรัฐบาลกัมพูชา และรัฐมนตรีช่วยว่าการการท่องเที่ยวของกัมพูชาทราบว่าใน หลังจากเลขาธิการอาเซียนของประเทศบรูไนหมดวาระ ลงในปีหน้า จะเป็นประเทศกัมพูชาที่จะทำหน้าที่เลขาธิการอาเซียนต่อไปประเทศไทยยินดีที่จะสนับสนุนชื่อบุคคลที่ประเทศกัมพูชาได้เสนอขึ้นมา และสุดท้าย

ประเด็นที่4 ท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เรียนว่าท่านประสงค์จะเห็นการประชุม JTC เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชามากขึ้นโดยในปี 2561 กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ปี 2562 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ แต่เกิดสถานการณ์โควิดขึ้น ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จึงได้เรียนให้ทราบว่า ถ้าเป็นไปได้อยากเห็นการประชุม JTC ระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างกันในต้นปีหน้า

น้ำใจ "ชาวจีน" ร่วมช่วยชาวไทยผู้ประสบภัยโควิด-19 มอบสิ่งของให้ "มูลนิธิออทิสติกไทย" ส่งต่อช่วยคนพิการ

ณ มูลนิธิออทิสติกไทย  (Autistic Thai Foundation) เลขที่ 11 หมู่ 12 ซอยบางพรม 29 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร "Mr.Sunny Zhang-Cheng" ผู้บริหาร บริษัท ไทยเจียระไน กรุ๊ป จำกัด โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม  ติณสูลานนท์ และภาคธุรกิจ สถานประกอบการ "ชาวจีน" ในประเทศไทย เดินทางมามอบสิ่งของ อาทิเช่น ข้าวสาร / บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป / นม / หน้ากากอนามัย ฯลฯ ให้กับ "มูลนิธิออทิสติกไทย" เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนคนไทย คนยากไร้ คนพิการ และขอเป็นขวัญกำลังใจให้คนไทยและเพื่อนมนุษย์ ที่กำลังเผชิญปัญหาโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้มีพลังกาย พลังใจ ในการต่อสู้ปัญหาต่าง ๆ อยู่รอดปลอดภัยไปด้วยกัน "เราไม่ทิ้งกัน"

ในการนี้ "อ.ชูศักดิ์ จันทยานนท์ " ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย และ ประธานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย กล่าวขอบคุณคณะผู้บริหาร และภาคธุรกิจ สถานประกอบ "ชาวจีน" ที่ในวันนี้ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนคนไทย คนยากไร้ และคนพิการ ที่กำลังเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตทั้งทางตรง และทางอ้อม

คนไทย ผนึกกำลัง นักธุรกิจสิงคโปร์ ห่วง “บุคลากรทางการแพทย์” มอบอาหารคุณภาพดีจากครัวปันอิ่ม-เครื่องผลิตออกซิเจน ให้โรงพยาบาลธัญบุรี ใช้ดูแลผู้ป่วยโควิด

(29 ก.ย.64)​  ที่โรงพยาบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.นิรุธ ประสิทธิเมตต์ รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พร้อมกลุ่มคนรักรองรุธเพื่อสังคม นำโดย นายรัตนพัฒน์ ปีวิเศษกุลเดช ผชช.สว. เพื่อน 4ส11 สถาบันพระปกเกล้า นายรังสรรค์ กาญจนสมศักดิ์ ประธานกลุ่มบริษัท สินทรากรุ๊ป นายอรัล ลิม  (Mr.Alan Lim) ประธานหอการค้าสิงคโปร์ในประเทศไทย นำเครื่องผลิตออกซิเจนทางการแพทย์ความเข้มข้นสูง จำนวน 2 เครื่อง มอบให้ โรงพยาบาลธัญบุรี เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยของโรงพยาบาล ที่อยู่ระหว่างการเข้ารักษาโรคไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ นายสมชาย จรรยา อุปนายก สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ตัวแทนนักศึกษา สถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรเสริมสร้างสังคมสันติสุข รุ่น 12 (สสสส.12) พร้อมกลุ่มพันธมิตรจิตอาสา มูลนิธิสหชาติ ส่งมอบอาหารปรุงสุขพร้อมทาน โครงการ ครัวปันอิ่ม เรียงร้อยใจ สู้ภัยโควิด-19 จากเครือซีพี มอบให้บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยได้รับประทาน โดยมี นพ.มติ ดุรงค์ฤทธิ์ชัย แพทย์เชี่ยวชาญและเป็นประธานองค์กรแพทย์ โรงพยาบาลธัญบุรี เป็นผู้รับมอบและให้การต้อนรับ

นพ.มติ ดุรงค์ฤทธิ์ชัย เปิดเผยว่า ขอบคุณกลุ่มพันธมิตรจิตอาสา บริษัทซีพี และหอการค้าสิงคโปร์-ไทย ที่มาบริจาคเครื่องผลิตออกซิเจน 10 ลิตร เครื่องละ 2 หัวจ่าย ซึ่งมีประโยชน์มากในรายที่ผู้ป่วยต้องให้ออกซิเจน ทั้งผู้ป่วยโควิด และผู้ป่วยทั่วไป สามารถใช้ได้ทั้งในโรงพยาบาล และในบ้าน ซึ่งมีประโยชน์ ถือว่าเป็นการช่วยชีวิต หรือชลอการป่วยหนักของผู้ป่วยโควิด และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ 

นพ.มติ ดุรงค์ฤทธิ์ชัย เปิดเผยต่อว่า ส่วนอาหารกล่องของซีพี ซึ่งเป็นอาหารที่ดีมีคุณภาพ อันนี้ถือเป็นกำลังใจ ทางโรงพยาบาลสามารถแจกจ่ายให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยในหอผู้ป่วย และยังแบ่งปันให้ผู้ป่วย รวมทั้งประชาชนทั่วไป ได้บริโภคของดี มีคุณภาพ ถือเป็นน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของประชาชนชาวไทยที่เอื้อเฟื้อในสถานการณ์ที่ยากลำบากของประเทศ คนไทยไม่เคยลืมกัน ในนามโรงพยาบาลธัญบุรี และคนไทยที่อยู่ในพื้นที่ ที่ได้รับการเกื้อหนุนนี้ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มาให้กำลังใจถึงที่

ด้านนายอรัล ลิม กล่าวว่า เริ่มจากรัฐาลไทย ช่วยเหลือชาวต่างชาติที่มาอยู่เมืองไทย มาทำธุรกิจที่เมืองไทย ได้รับวัคซีนไปด้วย ไม่ได้ทิ้งเรา พวกนักธุรกิจจึงคิดกันว่าจะทำอะไรที่ช่วยสังคมกลับไปได้ ตอนนี้โควิดระบาด ส่งผลเกิดความลำบาก พวกเราจึงระดมทุน จากหอการค้ามาเลย์ หอการค้าเกาหลี หอการค้าไต้หวัน บางทีมาจากเพื่อน ที่มีบริษัท บริจาค ซึ่งข้าวไปแจก รวมทั้งเครื่องออกซิเจน ช่วยหายใจ มาบรรเทาภาระของโรงพยาบาล จริงๆเครื่องหายใจไม่เพียงพอ ถ้ามีเครื่องหายใจมากพอ จะทำให้ฟื้นฟูได้เร็วลดการรอห้อง รอเตียง ทางคณะของเราตั้งใจมอบเครื่องผลิตออกซิเจน 36 เครื่อง ได้แจกไปแล้ว 20 เครื่อง ยังเหลือ 16 เครื่อง ส่วนมากจะมอบให้โรงพยาบาล ที่เป็นโรงพยาบาลสนาม  

ตร. ขอความร่วมมือผู้ปกครองช่วยกันป้องกันเด็กไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์

(29 ก.ย.2564) พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้มี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น

ในปัจจุบัน เด็กหรือเยาวชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและโลกอินเตอร์เน็ตได้มากขึ้น  ซึ่งอาจทำให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ในหลายรูปแบบ เพราะด้วยวัยที่ยังเป็นเด็ก ยังขาดในเรื่องของการใช้ความระมัดระวัง จึงอาจตกเป็นเป้าหมายที่หลอกล่อง่าย ในขณะที่ผู้ปกครองบางส่วนยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต ทำให้ไม่สามารถให้ความรู้หรือคำแนะนำแก่เด็กเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตอย่างไรให้ปลอดภัย 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบของอาชญากรรมออนไลน์ที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งในปัจจุบัน ต่อเด็กหรือเยาวชน ดังนี้... 

1.การเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีลักษณะเนื้อหาไม่เหมาะสม เช่น ลามกอนาจาร การพนัน หรือการใช้ความความรุนแรงในลักษณะต่างๆ เป็นต้น แต่เนื่องจากเด็ก เยาวชนอาจยังขาดวุฒิภาวะในการแยกแยะข้อมูลที่ได้รับว่าสิ่งใดควรทำสิ่งใดไม่ควรทำ จึงอาจเกิดการรับรู้หรือเรียนรู้ในเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวก่อนวัยอันควร และมีโอกาสที่จะมีพฤติกรรมเลียนแบบกลายเป็นคนชอบใช้ความรุนแรง เสพติดการพนัน หรือเกิดการเลียนแบบทำให้เกิดการล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียนได้

2.การถูกหลอกเอาภาพที่ไม่เหมาะสมของเด็กและอาจนำไปสู่การบ่วงละเมิดทางเพศเด็ก เนื่องด้วยเด็กอาจจะขาดความระมัดระวังในการติดต่อสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์กับบุคคลอื่น อาจทำให้เด็กถูกหลอกลวงจากคนร้ายที่แฝงตัวมาเป็นเพื่อนโลกออนไลน์ได้ง่าย ซึ่งอาชญากรรมส่วนใหญ่ที่เด็กตกเป็นเหยื่อในการหลอกลวงทางออนไลน์ คือการที่คนร้ายหลอกให้เด็กส่งภาพหรือวิดีโอคอลกับคนร้าย ในลักษณะที่เด็กไม่ได้สวมเสื้อผ้า หรือให้ถ่ายภาพในลักษณะลามกส่งให้คนร้าย จากนั้นคนร้ายก็จะติดต่อหาผู้ปกครองเพื่อข่มขู่เอาเงิน หรือนำภาพของเด็กที่ได้ไปขายตามเว็บไซต์ต่าง ๆ นอกจากนี้อาจมีการหลอกลวงให้เด็กไปพบและมีการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก

3.การถูกหลอกลวงในการซื้อสินค้า บริการหรือ ไอเทมเกม จะเกิดขึ้นกับเด็กที่ผู้ปกครองเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ให้กับเด็ก หรือ ผูกบัตรเครดิตกับโทรศัพท์ที่เด็กใช้งาน เนื่องด้วยการซื้อสินค้า บริการ หรือ ไอเทมเกมในปัจจุบันมีขั้นตอนในการชำระเงินที่ง่ายมาก ดังนั้นหากผู้ปกครองไม่ระมัดระวัง ไม่กำหนดมาตรการในการชำระเงินที่รัดกุม อาจทำให้เด็กถูกล่อลวงได้

4.การล่วงละเมิดบุคคลอื่นทางสื่อสังคมออนไลน์ ด้วยการกลั่นแกล้งระรานในโลกไซเบอร์ (Cyberbullying) การทะเลาะหรือล้อเลียน กลั่นแกล้งดังกล่าวระหว่างเพื่อนของเด็กหรือคนรู้จักมักเกิดขึ้นได้ง่าย และข้อมูลที่กลั่นแกล้งอาจกระจายเป็นวงกว้าง อาจทำให้บุคคลที่ถูกกลั่นแกล้งได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจจนนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าจนอาจนำไปสู่เหตุการณ์ร้ายแรงอย่างอื่นได้ และแม้ผู้ก่อเหตุจะเป็นเด็กก็อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีได้

‘ฟูมิโอะ คิชิดะ’ จ่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่

นายฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ได้รับเลือกจากพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี ให้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคของเขาจะทำให้เขาได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต่อจากนายโยชิฮิเดะ ซูงะ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

นายคิชิดะ วัย 64 ปี ได้รับความนิยมปานกลางจากประชาชนชาวญี่ปุ่น แต่ได้แรงหนุนจากสมาชิกอาวุโสที่ทรงอิทธิพลภายในพรรค สามารถเอาชนะนายทาโร โคโนะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมและต่างประเทศวัย 58 ปี ซึ่งเป็นนักการเมืองฝีปากกล้าและเป็นที่นิยมของประชาชน ในการลงคะแนนรอบที่ 2 หลังจากที่ในรอบแรกไม่มีผู้ใดได้คะแนนเสียงข้างมาก ในขณะที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีก 2 คน ซึ่งเป็นสตรีทั้งคู่ คือ ซานาเอะ ทากาอิชิ วัย 60 ปี และ เซโกะ โนดะ วัย 61 ปี ได้คะแนนไม่ผ่านรอบแรกของการลงคะแนนเสียง นายฟูมิโอะ คิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ได้รับเลือกจากพรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี ให้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคของเขาจะทำให้เขาได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต่อจากนายโยชิฮิเดะ ซูงะ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

นายคิชิดะ วัย 64 ปี ได้รับความนิยมปานกลางจากประชาชนชาวญี่ปุ่น แต่ได้แรงหนุนจากสมาชิกอาวุโสที่ทรงอิทธิพลภายในพรรค สามารถเอาชนะนายทาโร โคโนะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมและต่างประเทศวัย 58 ปี ซึ่งเป็นนักการเมืองฝีปากกล้าและเป็นที่นิยมของประชาชน ในการลงคะแนนรอบที่ 2 หลังจากที่ในรอบแรกไม่มีผู้ใดได้คะแนนเสียงข้างมาก ในขณะที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอีก 2 คน ซึ่งเป็นสตรีทั้งคู่ คือ ซานาเอะ ทากาอิชิ วัย 60 ปี และ เซโกะ โนดะ วัย 61 ปี ได้คะแนนไม่ผ่านรอบแรกของการลงคะแนนเสียง 

“รมว.เฮ้ง ร่วมคณะนายก” ลุยตรวจน้ำท่วมชัยภูมิ เยี่ยมให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพช่วยชาวบ้าน และผู้ใช้แรงงาน

วันที่ 29 กันยายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางร่วมคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดชัยภูมิ

จุดแรกตรวจติดตามสถานการณ์และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ที่ตลาดคลองพุดซา อำเภอเมืองชัยภูมิ โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวรายงานสรุปสถานการณ์ จุดที่สองได้ให้กำลังใจบุคลากรและมอบสิ่งของจำเป็นแก่โรงพยาบาลชัยภูมิ และจุดที่สามตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ที่วัดชัยชนะวิหาร (วัดบ้านละหาน) อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ

โดยนายสุชาติ กล่าวว่า จากอิทธิพลพายุโซนร้อน“เตี้ยนหมู่”ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จนพี่น้องแรงงาน ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง และในวันนี้ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจากผลกระทบดังกล่าว จึงได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนในเบื้องต้น

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ปัจจุบันพบว่า ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นในหลายอำเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ส่วนการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดชัยภูมิ ล่าสุดสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานชัยภูมิ ได้จัดรถ 6 ล้อ ให้บริการรับ – ส่งประชาชนตามจุดสำคัญต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล ศาลากลาง เป็นต้น หัวหน้าส่วนราชการ

 

‘อรรถวิชช์’ นำทีมพรรคกล้า ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม ‘นครสวรรค์-ชัยนาท’ แนะรวมแอพแจ้งเตือนน้ำ ประชาสัมพันธ์ควบคู่ผู้นำหมู่บ้าน ให้ประชาชนเตรียมรับน้ำอย่างทันท่วงที 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า พร้อมด้วย ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี ผู้อำนวยการพรรคกล้า นายวุฒิชัย แป๊ะหล ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส. นครสวรรค์ นายโอฬาร ตั้งวงศ์กิจ ผู้เสนอตัวสมัคร ส.ส.ชัยนาท นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรค และกลุ่มกล้าอาสา ลงพื้นที่หมู่ 11 ต.ลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ พื้นที่หมู่ 5 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท พร้อมสำรวจการระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำพลเทพ อ.มโนรมย์ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มอบอาหารแห้ง น้ำดื่ม หน้ากากอนามัย ให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 

ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่อ.ลาดยาวล่าสุด พบว่า ปริมาณน้ำลดลงจากเมื่อวาน (28 ก.ย. 64) แต่บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่เกษตรอย่าง นาข้าว สวนมะม่วง และสวนกล้วย น้ำยังท่วมสูง โดยเฉพาะที่โรงเรียนบ้านหนองจิกรี น้ำท่วมระดับเอว ทั้งนี้เนื่องจากคลองขุดลาด ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำรับน้ำจากเทือกเขาแม่วงก์ขาด ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ประชาชนยังคงนำกระสอบทรายวางกั้นหน้าบ้าน และขนของขึ้นที่สูง เพราะเกรงว่าฝนจะตกมาซ้ำทำให้น้ำท่วมอีก 

'พิยดา' ซัดทอดบ้านแฟนหนุ่มตัวการตุ๋นขายมือถือ ยันตัวเองไม่รู้เห็น แต่ 'ถูกหลอกใช้'

'พิยดา' สาววัย 19 เปิดปากซัดทอดครอบครัวแฟนหนุ่มเป็นตัวการใหญ่แก๊งหลอกขายโทรศัพท์มือถือออนไลน์ ยืนยันตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ถูกแอบอ้างชื่อนำไปใช้ตุ๋นเหยื่อและโยนความผิดให้เพียงผู้เดียว ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว 'น้องก้อง' ผู้เสียหาย ขณะที่ ตร.ทำเรื่องฝากขังที่ศาลคัดค้านประกันตัวเนื่องจากหวั่นเกรงจะหลบหนี

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ช่วงเที่ยงวันนี้ (29 ก.ย. 64) ที่สถานีตำรวจภูธรนาหวาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ พนักงานสอบสวนควบคุมตัว นางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาคดีหลอกขายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นเหตุให้เด็กชายนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปี ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เครียดจนเส้นสมองแตกเสียชีวิต ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อทำสำนวนดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริต และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน จากนั้นได้นำตัวนางสาวพิยดาออกจากสถานีตำรวจนาหวาย ไปควบคุมตัวต่อไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่พนักงานสอบสวนไปศาลจังหวัดเชียงใหม่เพื่อยื่นคำร้องขอฝากขังนางสาวพิยดา โดยที่ทนายความของนางสาวพิยดาตามไปที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมยื่นเรื่องขอประกันตัวด้วย

ทั้งนี้ นางสาวพิยดาเปิดเผยระหว่างที่เดินลงจากสถานีตำรวจไปขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหาว่า รู้สึกเสียใจที่ตกเป็นเครื่องมือถูกหลอกใช้จากครอบครัวของแฟนหนุ่มในการก่อเหตุกระทำความผิดหลอกขายโทรศัพท์มือถือจนมีผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นใดๆ เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกิดขึ้นเลย แต่ถูกแอบอ้างนำชื่อไปใช้ในการก่อเหตุและโยนความผิดมาให้รับคนเดียว โดยในกรณีของ 'น้องก้อง' เด็กชายนักเรียนชั้น ม.2 อายุ 14 ปีที่เสียชีวิตนั้น ตนเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้เป็นคนหลอกขายโทรศัพท์ให้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นคดีและมีชื่อตนตกเป็นผู้ต้องหาแล้วก็รู้สึกเสียใจและขอโทษครอบครัวของผู้เสียหายด้วย

ปรับลดเวลากักตัว สำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

เพจเฟซบุ๊ก ‘Royal Thai Embassy, Singapore - สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์’ ได้ประกาศแจ้งปรับลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ดังนี้...

การปรับลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

สำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ลดวันกักตัวจาก 14 วัน เหลือ 7 วัน โดยผู้ได้รับวัคซีนครบตามข้อกำหนดของไทย จะต้องได้รับวัคซีนครบถ้วนไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนเดินทาง

สำหรับผู้ยังไม่ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนไม่ครบโดส ลดวันกักตัวจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน โดยผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับไม่ครบตามข้อกำหนดของไทย รวมทั้งเด็ก ซึ่งอาจอายุไม่ถึงเกณฑ์การฉีดวัคซีน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top