Friday, 19 April 2024
INFO

2023 เหตุการณ์ต้องจำ

ในปี 2023 นี้ มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีตั้งแต่เรื่องน่ายินดี ไปจนถึงเรื่องสลดน่าเสียใจ วันนี้ THE STATES TIMES ได้รวบรวม 12 เหตุการณ์ที่ต้องจดจำ ในปี 2023 จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย!! ✨

บุคคลแห่งปี 2023 Time To Be Proud

รวม 12 บุคคลแห่งปี 2023 ที่ THE STATES TIMES อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่า “เราภูมิใจในตัวคุณ” ✨👍🏻👏🏻

ย้อนรอยเหตุการณ์ต้องจำ ปี 2022

ก่อนที่จะไปติดตามเหตุการณ์เด่นอันเป็นกระแสในปี 2023 ... ‘THE STATES TIMES’ ขออนุญาตพาทบทวนอดีต เหตุการณ์เด่น ที่เป็นกระแสในหน้าข่าวของปีที่แล้ว (2022) ซึ่งมีทั้งเหตุการณ์น่ายินดี ภาคภูมิใจ ไปจนถึงเหตุการณ์โศกเศร้า สุดสะเทือนขวัญ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ กันสักเล็กน้อย ตามไปดูกัน…

🟢‘พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9’ ศูนย์รวมใจแห่งใหม่ที่ในหลวง ร.10 พระราชทานเพื่อปวงชน
https://thestatestimes.com/post/2023010204 

🟢‘หนึ่งคนว่าย หลายคนให้’ ปันน้ำใจ ‘พี่น้องชาวไทย’ สู่ ‘พี่น้องชาวลาว’
https://thestatestimes.com/post/2023010202 

🟢รถไฟฟ้าจีนแรงเกินต้าน สะเทือนบัลลังก์ ‘ญี่ปุ่น-ตะวันตก’
https://thestatestimes.com/post/2023010105 

🟢APEC 2022 งานประชุมระดับโลก ที่คนไทยภาคภูมิใจ
https://thestatestimes.com/post/2022123006 

🟢‘บุพเพสันนิวาส 2’ หนังไทยน้ำดี ที่มัดใจ 'ไทย-เทศ' แบบอยู่หมัด
https://thestatestimes.com/post/2022123107 

🟢คืนสัมพันธ์ ‘ไทย-ซาอุฯ’ ผลงานชิ้นโบแดง ‘รัฐบาลลุงตู่’
https://thestatestimes.com/post/2022123003 

🟢สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเสด็จสวรรคต
https://thestatestimes.com/post/2022123106 

🟢‘ความโลภบังตา หายนะบังเกิด’ FOREX 3D สะท้อนแชร์ลูกโซ่ไม่มีวันหมด
https://thestatestimes.com/post/2022123004

🟢รอดปม 8 ปี ‘ลุงตู่’ ได้ไปต่อ ศาลรธน. ชี้ขาด ‘ประยุทธ์’ นั่งนายกฯ เริ่มนับปี 60
https://thestatestimes.com/post/2023010104 

🟢การตายของ ‘แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์’ ที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำ
https://thestatestimes.com/post/2022123002 

🟢กราดยิงหนองบัวลำภู โศกนาฏกรรม ทำคนไทยหัวใจสลาย
https://thestatestimes.com/post/2023010203 

🟢ยูเครน VS รัสเซีย สงครามยืดเยื้อ ที่ยังไม่รู้วันจบ
https://thestatestimes.com/post/2022123105 

ย้อนรอยบุคคลแห่งปี 2022

ก่อนที่จะตามไปยลโฉมหน้า 12 บุคคลที่ THE STATES TIMES ยกให้เป็นบุคคลแห่งปี 2023 ... ก็ขออนุญาตพาไปย้อนอดีต ชมโฉมหน้า 10 บุคคลที่ THE STATES TIMES อยากบอกกับผู้อ่านและสังคมไทย ว่า…“พวกเราภูมิใจในตัวคุณ” ประจำปี 2022 แบบอุ่นเครื่องกันก่อนสักเล็กน้อย...

🔴หลวงตาบุญชื่น ปญฺญาวุฑโท ศรัทธามหาชนแห่งปี
https://thestatestimes.com/post/2022122805

🔴พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำแห่งปี
https://thestatestimes.com/post/2022122804

🔴แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ แอน JKN นักธุรกิจสาวแห่งปี
https://thestatestimes.com/post/2022122819

🔴บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ จิตอาสาแห่งปี
https://thestatestimes.com/post/2022122902

🔴‘ลิซ่า’ ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK สุดยอดไอดอลแห่งปี
https://thestatestimes.com/post/2022122806

🔴สมโภชน์ อาหุนัย นักธุรกิจพลังงานทดแทนแห่งปี
https://thestatestimes.com/post/2022122808

🔴ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เจ้าพ่อแฉแห่งปี
https://thestatestimes.com/post/2022122909

🔴ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่คว้าคะแนนเลือกตั้งสูงสุดในประวัติศาสตร์ ผู้ว่าฯ แห่งปี
https://thestatestimes.com/post/2022122903

🔴โปรจีน อาฒยา ฐิติกุล นักกีฬาหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี
https://thestatestimes.com/post/2022122837

🔴ชวนนท์ วงศ์ตระกูลจง ผู้ออกแบบโลโก้ชะลอม APEC 2022 นักออกแบบสร้างสรรค์แห่งปี
https://thestatestimes.com/post/2022122836

10 เมืองรอง ที่ 'เศรษฐา ทวีสิน' เตรียมประกาศปั้นให้เป็น 'เมืองหลัก'

เปิดรายชื่อดาวเด่น 'เมืองรอง 10 จังหวัด' ที่ 'เศรษฐา ทวีสิน' เตรียมประกาศปั้นเป็น 'เมืองหลัก' ในเดือน ม.ค. 2567 หลังหอการค้าไทย และ ททท. ร่วมกันตกผลึก เคาะรายชื่อเพื่อเตรียมเปิดตัวนำร่องโปรโมต หวังกระจายรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

10 อันดับ 'เส้นทางระหว่างประเทศ' ที่มีผู้โดยสารหนาแน่นมากที่สุดในโลก

✈🇹🇭กรุงเทพฯ ติดอันดับ 10 เส้นทางระหว่างประเทศที่หนาแน่นที่สุดในโลก 2 อันดับ

โดย OAG บริษัทให้บริการด้านข้อมูลการบินระดับโลก เปิดเผยเส้นทางระหว่างประเทศที่หนาแน่นที่สุดประจำปีนี้ โดยคิดจากจำนวนที่นั่งของทุกสายการบินรวมกัน (Capacity) มี 10 อันดับดังนี้

1. กัวลาลัมเปอร์ - สิงคโปร์ 4,891,952 ที่นั่ง
2. ไคโร - เจดดาห์ 4,795,712 ที่นั่ง
3. ฮ่องกง - ไทเป 4,568,280 ที่นั่ง
4. โซล - โอซาก้า 4,218,484 ที่นั่ง
5. โซล - โตเกียว 4,155,418 ที่นั่ง
6. ดูไบ - ริยาด 3,990,076 ที่นั่ง
7. จาการ์ตา - สิงคโปร์ 3,910,502 ที่นั่ง
8. นิวยอร์ก - ลอนดอน 3,878,590 ที่นั่ง
9. กรุงเทพ - สิงคโปร์ 3,478,474 ที่นั่ง
10. กรุงเทพ - โซล 3,362,968 ที่นั่ง

ส่อง 23 ประเทศที่มีอิทธิพลด้านมรดกวัฒนธรรมแห่งทวีปเอเชีย

ในทวีปเอเชีย มีหลายประเทศที่เป็นหมุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และหนึ่งในนั้นคือ ‘ประเทศไทย’ เนื่องด้วยเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อาหาร สถาปัตยกรรม และสถานที่ท่องเที่ยว ที่เมื่อต่างชาติได้มาเยือนแล้วก็จะติดใจ 

นอกจากนี้ยังมีหลายสถานที่ในไทยและวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้หลายอย่างที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘มรดกโลก’ ด้วย นั่นจึงทำให้ประเทศไทย ยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีก

วันนี้ THE STATES TIMES ขอพาไปดู เปิด 23 ประเทศที่มีอิทธิพลด้านมรดกวัฒนธรรมแห่งทวีปเอเชีย จะมีประเทศใดติดอันดับบ้าง มาดูกัน…

เปิด 6 กลุ่มธุรกิจ ดาวรุ่ง!! พุ่งแรงปี 2567

(23 ธ.ค.66) นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยผลการศึกษาสถานการณ์และแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอี (SMEs) โดยพิจารณาจากตัวชี้วัดสำคัญคืออัตราการเติบโตของธุรกิจเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่า ในปี 2567 มีธุรกิจของ SMEs ทั้งกลุ่มที่เป็นดาวรุ่ง และกลุ่มธุรกิจที่ต้องเฝ้าระวัง โดยกลุ่มธุรกิจดาวรุ่ง ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 และ 2567 พบว่า มี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นดาวรุ่งต่อเนื่องสองปีซ้อน และกลุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงสำหรับปี 2567 ซึ่งประกอบด้วย 

>> กลุ่มธุรกิจที่เป็นดาวรุ่งต่อเนื่องสองปีซ้อน

1. ธุรกิจขายของชำ หรือ ร้านโชห่วย ซึ่งเติบโตถึง 940% เนื่องจากร้านค้าเหล่านี้ สามารถซื้อสินค้าครั้งละน้อย ๆ และยังยืดหยุ่นในการชำระเงินได้ อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนในชุมชน 
2. ธุรกิจท่องเที่ยวชุมชนสัมผัสวัฒนธรรมชนบท เติบโตถึง 187% หลังสถานการณ์โควิด-19 เทรนด์การท่องเที่ยวของโลกเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากเป็นการเยียวยาชีวิตและจิตใจ รวมทั้งได้สัมผัสเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน ความเรียบง่าย อาหารจากธรรมชาติ บรรยากาศที่เงียบสงบ ความผ่อนคลาย สัมผัสธรรมชาติเพื่อเติมพลัง 
3. ธุรกิจขายของในบ้านมือสอง และซ่อมเฟอร์นิเจอร์ เติบโตกว่า 263% เนื่องจากราคาซ่อมมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดซื้อใหม่ หลายสินค้าราคาสูงจากต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งความจำเป็นในการใช้งานตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของคนรุ่นใหม่ กำลังซื้อที่ลดลง ประกอบกับเทรนด์การรักษ์โลก ผู้คนหันกลับมามองสิ่งของรอบตัวที่เรามีในชีวิตประจำวัน 
4. ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ เช่น การตัดต่อ และการจัดผังรายการ เติบโตที่ 199% เนื่องจากหลังโควิด-19 ธุรกิจเกี่ยวกับสื่อปรับกลยุทธ์ขยายแพลตฟอร์มไปทางกลุ่มสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเข้าสู่อาชีพ Youtuber และการสร้างกระแสในโลก Social ที่ง่ายขึ้น เกิดช่อง Youtube ของคนไทยเป็นจำนวนมาก 
5. ธุรกิจผับ บาร์ และร้านที่ขายแอลกอฮอล์เป็นหลัก เติบโต 125% เนื่องจากหลังโควิด-19 มีการท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับมาใช้ชีวิตยามราตรีได้ตามปกติ สอดคล้องกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัว อีกทั้งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่สร้างอัตรากำไรสูง ผู้ประกอบการสามารถคืนทุนได้อย่างรวดเร็วจึงเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตได้

>> กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรงในปี 2567 

1. ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 1,925% ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่จากรูปแบบพฤติกรรมกลุ่มคนเมืองที่เปลี่ยนไปต้องการใช้เวลาในการทำกิจกรรมในชีวิตหรือพักผ่อน พื้นที่ในที่พักมีจำกัด โดยบริการนี้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญสามารถซักและอบเสร็จได้ในเวลาเพียง 20-40 นาที ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องซัก-อบที่มีราคาสูง คาดจะขยายตัวในเขตชุมชนจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ แต่เริ่มมีการแข่งขันเข้มข้นในธุรกิจนี้ 
2. การผลิตน้ำอัดแก๊สและโซดา มีอัตราการเติบโต 1,109% หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายผลิตภัณฑ์น้ำดื่มได้รับความนิยม มีรสชาติและรูปแบบแปลกใหม่มากขึ้นทั้งในรูปน้ำผลไม้ต่าง ๆ จากแต่ละท้องถิ่นที่นำมาอัดแก๊สในรูปแบบที่ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมดื่ม ผู้บริโภคเองก็มีทางเลือกมากขึ้น 
3. ร้านตัดเย็บและซ่อมเครื่องแต่งกาย เช่นการแก้ทรงเสื้อ การตัดขากางเกง เติบโต 667% จากที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างชะลอตัว หลังโควิดผู้บริโภคยังระมัดระวังการใช้จ่ายนำเสื้อผ้าเก่ามาแก้เพื่อใช้งานหรือการหาซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ที่มีราคาถูกแต่อาจต้องปรับแก้ทรงเนื่องจากไม่ได้ลองก่อนซื้อ 
4. กิจกรรมสันทนาการ เช่น ร้านขายเครื่องดนตรี ร้านเกม มีอัตราการเติบโต 349% เนื่องจากสามารถรวมตัวกันทำกิจกรรมบันเทิง งานแสดงดนตรี หรือร้านเกม เปิดได้ตามปกติทำให้กิจกรรมนี้กลับมาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว 
5. บริการเกี่ยวกับงานศพครบวงจร เติบโต 285% ให้บริการขนย้าย ตกแต่งสถานที่ พิธีกรรม เป็นธุรกิจที่ตอบสนองคนเมือง ครอบครัวขนาดเล็ก ที่ช่วยลดความยุ่งยากและเวลาในการดำเนินการซึ่งมีให้เลือกตามงบประมาณของลูกค้า อีกทั้งประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ต่อเนื่อง 
6.ธุรกิจร้านเสริมสวย เติบโต 193% ผลจากการเริ่มฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ กิจกรรมบันเทิงและความงามยังคงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจ รวมถึงราคาการให้บริการไม่สูงนักเนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการให้เลือกใช้บริการจำนวนมากแต่บางธุรกิจที่ได้รับความนิยมผ่านสื่อ Social อาจต้องจองคิวเพื่อเข้าใช้บริการ

ส่วนธุรกิจในกลุ่มเฝ้าระวัง มีทั้งธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มเฝ้าระวัง 2 ปีต่อเนื่อง 2566 และ 2567 คือ ธุรกิจหอพักนักศึกษา เนื่องจากสถานศึกษาในระดับต่าง ๆ มีการเรียนการสอนแบบออนไลน์มากขึ้น รวมทั้งมีทางเลือกของที่พักในรูปแบบอื่น ๆ โดยนักศึกษาส่วนใหญ่เลือกพักห้องเช่าแบบอพาร์ทเม้นท์และคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันมีธุรกิจที่เริ่มต้องเฝ้าระวังในปี 2567 เนื่องจากเคยเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงจากปี 2566 แต่ในปี 2567 กลับมีแนวโน้มชะลอตัวลง มีจำนวน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 

1. ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือสอง เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หดตัวมากถึง 82% อันเนื่องมาจาก สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีในปัจจุบันมือหนึ่งราคาถูกลงมาก มีหลายระดับให้เลือก ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลากหลายมากขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคมีการเปรียบเทียบราคาได้ง่าย เพื่อความคุ้มค่าในการจ่ายเงิน สินค้ามือสองกลุ่มนี้จึงได้รับความนิยมน้อยลง 
2. ธุรกิจขายงานฝีมือและของที่ระลึก เช่น เครื่องเงิน เครื่องจักสาน หดตัวถึง 75% เนื่องมาจากการขายสินค้าในออนไลน์เป็นที่นิยม และมีสินค้าเกือบทุกประเภทขายบนออนไลน์ จึงทำให้มีแรงกระตุ้นน้อยลงที่จะทำให้นักท่องเที่ยวต้องซื้อสินค้าจากการไปท่องเที่ยวที่นั้น ๆ 
3. ธุรกิจเกสเฮ้าส์ หดตัวกว่า 65% เนื่องจากมีการเติบโตอย่างมากในปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายในช่วงแรก ห้องพักแบบเกสเฮ้าส์เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่สูงนักเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียว กลุ่มวัยรุ่นและเป็นการพักในระยะยาว แต่หลังโควิด-19 ผ่านไป พฤติกรรมการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป  นักท่องเที่ยวนิยมพักระยะสั้น-กลาง หันไปนิยมห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า หรือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบครอบครัวมากขึ้น 

9 เคล็ด (ไม่) ลับ สอนลูกให้รัก 'คณิตศาสตร์'

ไม่นานมานี้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกสภาวิศวกร และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เผยเคล็ดไม่ลับในการสอนคณิตศาสตร์ ให้เด็กๆ รุ่นใหม่ ได้ตระหนักถึงคุณค่าที่ควรโฟกัส และไม่มองว่าเป็นเรื่องยากจนไม่อยากจะเรียนรู้ ไว้ว่า...

คณิตศาสตร์ คือ รากฐานของทุกสาขา ทั้งวิทย์ สังคม ภาษา ล้วนมาจากหลักทางคณิตศาสตร์ทั้งสิ้น ชนชาติใดเก่งคณิตศาสตร์ ย่อมได้เปรียบ ย่อมเป็นผู้ชนะ มีความแข็งแกร่ง ทรงพลานุภาพ ทางทหาร เศรษฐกิจ สังคม และอารยธรรม

ดร.เอ้ ได้ยกตัวอย่าง การสอนอิชิบอย ลูกวัย 5 ขวบ ให้รักคณิตศาสตร์ และสามารถถอดสแควรูท คูณเลข ยกกำลัง เข้าใจทศนิยม ได้อย่างมหัศจรรย์ โดยไม่ต้องยัดเยียดหรือบังคับเลยแม้แต่น้อย

แถมลูกยังมีความสุขอย่างมาก ที่ได้คำนวนเลข และยังสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างลูกกับพ่อแม่ได้อย่างแนบแน่น

โดย ดร.เอ้ ได้เผย 9 ข้อ จากประสบการณ์ส่วนตัว ที่คุณพ่อคุณแม่ สามารถลองนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสม ดังนี้...

1. เริ่มสอนจาก ‘การนับเลข’ นับนิ้ว นับคน นับของ นับต้นไม้ ธรรมชาติรอบตัว สอนนับเลขให้เร็วที่สุด ไม่ต้องรอให้ลูกพูดได้ทุกคำ นับบ่อยๆ นับทุกวัน เจออะไรให้นับ แม้จะง่าย แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด

2. เริ่ม ‘บวก’ และ ‘ลบ’ ใช้นิ้วมือ ง่ายที่สุด ตามด้วยใช้การ ‘ขีด’ หากมีกระดานดำเล็กๆ ราคาถูก คุ้มค่ามาก มีตั้งแต่ไม่ถึงร้อยบาท ไม่ต้องซื้อของแพง

3. สอนให้ลูก ‘มองเห็นภาพ’ คือ จุดเริ่มต้นของการคิดเลขในใจ เด็กทำได้ทุกคน ขอให้สม่ำเสมอ ทุกวันๆ การมองภาพ พ่อแม่จะวาดเอง หรือ มีสื่อการสอนมากมาย ช่วยพัฒนาทั้งความจำ และตรรกะ

4. อย่ารีบให้ลูกใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ให้เริ่มจากดินสอ-กระดาษ ชอล์ก-กระดานดำ ให้ลูกใช้นิ้ว ให้มือ ให้มากที่สุด ไม่ต้องกังวลเรื่องความสวยงาม 

5. Youtube มีประโยชน์ หากใช้ภายใต้การดูแลของพ่อแม่ ขอยอมรับว่าเนื้อหาสอนคณิตศาสตร์จาก Youtube ดีมาก สนุก ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งภาษา

6. พ่อแม่ต้องมีส่วนร่วม ตั้งแต่การนับเลข คำนวณ พร้อมกับลูกทุกวัน เพราะครูที่ดีที่สุดในโลก คือ ‘พ่อแม่’ ไม่เสียเวลาอะไรมาก ใช้เวลาคิดเลขด้วยกันไม่กี่นาที แต่มันเปลี่ยนอนาคตลูกได้เลย

7. หมั่นสร้างโจทย์ สร้าง ‘ความท้าทาย’ ให้กับลูก เสมือนเกม ที่ต้องเล่น ต้องผ่านไปให้ได้ เริ่มต้นจากง่าย ให้ลูกภูมิใจ จนถึงยาก ให้ต้องคิด ต้องมุ่งมั่น เพื่อแก้โจทย์ให้สำเร็จ

8. ‘คำชม’ และ ‘กำลังใจ’ คือ พลังวิเศษ สร้างอนาคตลูก เมื่อลูกทำโจทย์ง่ายๆ สำเร็จ ทั้งส่งเสริมให้ลูกกล้าฝัน และตั้งเป้าหมายชีวิตให้สูง เช่น อยากเป็นนักบินอวกาศ อยากไปดาวพฤหัส อยากเป็นโน่นนี่ แต่พ่อแม่ต้องอย่าขัดคอ ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่า มันยากมาก แต่ใครจะรู้ มันอาจเป็นจริงก็ได้ และอย่าลืมบอกลูกว่า ‘จะไปถึงเป้าหมายได้ อันดับแรก คือ การตั้งใจเรียนรู้’ จากนั้นลูกจะมุ่งมั่น เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องบังคับเลย

9. ให้ลูกคิดว่า ‘ความผิดพลาด’ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่มีใครทำถูกไปทุกเรื่อง เขาจะกล้าคำนวณ ทำโจทย์ยากขึ้นอย่างมหัศจรรย์ ไม่กลัวจะตอบผิด ถือเป็นการเรียนรู้ชีวิตไปด้วย

ดร.เอ้ ยังบอกอีกว่า จากประสบการณ์ส่วนตัว ในฐานะพ่อที่มีลูกเล็ก ไม่มีถูกผิดในทุกๆ การเรียนรู้ แต่ขอให้คุณพ่อคุณแม่ให้ ‘เวลาที่มีคุณภาพ’ บวกกับ ‘ความอบอุ่นจากการกอด’ ให้มากๆ ตรงนี้จะสร้างลูก สร้างบุคลากรที่มีความมหัศจรรย์ ให้แก่สังคมได้ในอนาคตแน่นอน

ชวนเช็กชื่อเก่าจังหวัดในประเทศไทย จังหวัดไหน เคยชื่ออะไรมาก่อน?

ประเทศไทยมีทั้งหมด 77 จังหวัด (รวมกรุงเทพฯ) แต่ละจังหวัดต่างก็มีชื่อเรียกแตกต่างกัน ซึ่งก็เป็นชื่อที่เราคุ้นหูกันดี แต่ก่อนจะกลายมาเป็นชื่อในปัจจุบัน แต่ละจังหวัดก็มี ‘ชื่อเก่า’ ไว้เรียกขานมาก่อน 

วันนี้ THE STATES TIMES ได้รวบรวมมาไว้ให้แล้ว แต่ละจังหวัดเคยชื่อว่าอะไรบ้าง มาดูกัน…


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top