Thursday, 25 April 2024
INFO

🔎เช็กลิสต์!! จำนวนเด็กเก่งจากโรงเรียนต่างๆ ที่สอบติด 'กำเนิดวิทย์' ประจำปี 2567

‘โรงเรียนกำเนิดวิทย์’ ประกาศรายชื่อนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.4) ปีการศึกษา 2567 จำนวน 72 คน โดยเป็นนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น แสงทองวิทยา สวนกุหลาบวิทยาลัย ระยองวิทยาคม 

วันนี้ THE STATES TIMES ได้รวบรวมรายชื่อโรงเรียนของน้อง ๆ ทั้ง 72 คนมาแล้ว มาดูกันว่า น้อง ๆ จากโรงเรียนใดบ้าง ที่ผ่านคัดเลือกเข้าเรียนที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ได้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วมาดูกัน…

มัดรวม!! 6 บิ๊กโปรเจกต์ ‘รมช.อนุชา นาคาศัย’ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

‘อนุชา นาคาศัย’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ มุ่ง ‘สาน-สร้าง’ งานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้แนวคิด ‘ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้’ โดยมี 6 โปรเจกต์ใหญ่ ดังนี้ 

 📌ส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคคณิตศาสตร์ บนพื้นที่ต้นแบบจังหวัดสุโขทัย ให้คำแนะนำติดตาม ให้ความช่วยเหลือ ระยะที่ 1 ผ่านกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง

 📌วางนโยบายขับเคลื่อนงานองค์การสะพานปลา (อสป.) กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมอาชีพประมง และเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในอาชีพ

📌สนับสนุนเกษตรกรให้ประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ นอกจากการเพาะปลูกพืชเพียงอย่างเดียว ตลอดจนการบริหารจัดการทรัพยากรดิน และพัฒนาแหล่งน้ำ

📌ส่งเสริมชาวนาด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในพื้นที่เขตชลประทานภาคกลาง เพื่อเพิ่มรายได้และปรับตัวจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

📌บริหารจัดการทรัพยากรดิน พัฒนาแหล่งน้ำ เช่น ธนาคารน้ำใต้ดิน เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้าน
การเกษตรมาใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าผลตอบแทนต่อไร่ให้สูงขึ้น ผ่าน 'ชัยนาทโมเดล'

📌แถลงการณ์ "พลิกโฉมระบบเกษตร และอาหารของประเทศไทยให้ยั่งยืน ยืดหยุ่น และเป็นธรรม" ต่อสมัชชาองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเชีย และแปซิฟิค ครั้งที่ 37 ณ กรุงโคลัมโบ สารารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา

ส่องผลงาน 'รมว.ปุ้ย' คุมทิศทางอุตสาหกรรมไทย

'รมว.ปุ้ย พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล' จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายหลังเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อ 7 กันยายน 2566 ได้กำหนดนโยบายเร่งด่วน 3 เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีศักยภาพเป็นฟันเฟืองเศรษฐกิจใหม่สำหรับกระตุ้นรายได้ มวลรวมของประเทศ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานใน 3 แกนหลัก คือ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม โดยแบ่งการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

>> กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เน้นบังคับใช้กฎหมาย กำกับดูแล และตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด รวมถึงพัฒนาระบบการรายงานด้านสิ่งแวดล้อมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อลดการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในระยะยาว

>>กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จัดงาน 'อุตสาหกรรมแฟร์เมืองใต้ 2023 นครศรีธรรมราช' เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้ และส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจเขตพื้นที่ภาคใต้ (Southern Industrial Fair) ภายใต้แนวคิด 'ช้อป ชิม เที่ยวเพลิน เดินหลาด'

>>สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดยดำเนินการตรวจสอบและยึดอายัดผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานอย่างเข้มงวด รวมทั้งสร้างเครือข่ายร้านจำหน่ายที่มีเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค 

นอกจากนี้ สมอ. ยังเร่งผลักดันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยกำหนดมาตรฐาน EV แล้วเสร็จ จำนวน 150 มาตรฐาน และอยู่ระหว่างกำหนดมาตรฐานเพิ่มเติมอีก 29 มาตรฐาน รวมทั้งกำหนดมาตรฐานเครื่องยนต์ เพื่อควบคุมการระบายมลพิษเป็น EURO 5 และ EURO 6

>>กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เร่งผลักดันโครงการเหมืองแร่โพแทช 3 โครงการ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยคาดว่าจะสามารถผลิตแร่โพแทชได้ภายใน 3 ปี โครงการเหมืองแร่โพแทชจะช่วยส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมผลิตปุ๋ยโปแตสเซียมในประเทศ ช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลิตผลทางการเกษตร นอกจากนี้ โครงการเหมืองแร่โพแทชยังจะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ และกระจายรายได้สู่ชุมชน

>>สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สำคัญในช่วง 3 เดือน ที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นช่วยเหลือชาวไร่อ้อย สนับสนุนอุตสาหกรรมน้ำตาล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เร่งจ่ายเงินตัดอ้อยสดฤดูการผลิตปีที่ผ่านมา กำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูการผลิตปี 2565/2566 โดยมีราคาเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 1,197.53 บาทต่อตัน กำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2566/2567 โดยมีราคาที่ 1,420 บาทต่อตัน และแจกพันธุ์อ้อยพันธุ์ดีให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยไปปลูกและขยายพันธุ์ จำนวน 900,000 ต้น

>>สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) มุ่งเน้นดำเนินงาน 3 ด้าน ได้แก่ การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจตาม Mega Trend ของโลก การพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา และข้อมูลเศรษฐกิจอุตสาหกรรม โดยด้านการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมนั้น สศอ. ได้กำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 5 สาขา เพื่อเป็น New Growth Engine ในการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจ 

นอกจากนี้ สศอ. ยังได้จัดทำข้อเสนอการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลและคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลให้เติบโตอย่างยั่งยืน 

>>การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) มุ่งมั่นพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ โดยเน้นพัฒนานิคมอุตสาหกรรม Smart Park เพื่อเป็นนิคมอุตสาหกรรมต้นแบบในการพัฒนาเชิงนิเวศและนวัตกรรม 

นอกจากนี้ กนอ. ยังได้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมของการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ เพื่อรองรับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเป้าหมาย New S-Curve ในอนาคต

ย้อนวลีเด็ด ‘เลขาฯ ขิง’ ต่อกรณี ‘มาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ’

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 67 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อภิปรายญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จว่า “ที่ตัดสินใจเสนอญัตติด่วนในวันนี้สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ซึ่งมีการเผยแพร่มีการรบกวนก่อกวนขบวนเสด็จ สร้างความสะเทือนใจให้กับคนไทย เพราะจากที่เห็นคลิปซึ่งมีการเผยแพร่ รู้สึกตกใจเนื่องจากขบวนเสด็จที่ใช้เป็นทางสัญจรเป็นขบวนที่สั้นมาก เห็นได้ชัดว่าการถวายความปลอดภัยในวันนั้นดำเนินการด้วยความระมัดระวังไม่ให้กระทบกับการจราจรของพี่น้องประชาชน และไม่ปรากฏว่ามีลักษณะการปิดถนนปิดกั้นการสัญจรของพี่น้องคนไทย มีการกัน เป็นจังหวะ เป็นช่วง เป็นตอน ให้การจราจรไหลไปตามปกติ แต่ปรากฏว่ามีรถคันหนึ่งของผู้ก่อเหตุ วิ่งมาด้วยความเร็วเจตนาชัดเจน โดยขบวนเสด็จผ่านไปแล้วยังพยายามวิ่งไล่ขบวนเสด็จ จนรถที่ปิดท้ายต้องมากันรถผู้ก่อเหตุออกไป และหลังจากนั้นปรากฏขึ้นอีกคลิปหนึ่งทำให้เห็นเจตนาของผู้ก่อเหตุในวันนั้นว่าคืออะไร”

นายเอกนัฏ กล่าวอีกว่า “หลังจากเห็นคลิปแล้ว เชื่อว่าความรู้สึกของตนเหมือนกับ สส. หลายคนในห้องนี้ และรู้สึกเช่นเดียวกับประชาชนหลายคน ซึ่งตนรู้สึกโกรธมากว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนี้ แต่มีประโยคหนึ่งที่แว่วทำให้ตนรู้สึกลดโทสะลงคือพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านทรงตรัสไว้ว่า Thailand is the Land of compromise หรือประเทศไทย คือดินแดนแห่งการประนีประนอม ทำให้ดึงสติตนลดความโกรธลดลงมา เพราะความจริงแล้วพฤติกรรมแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกับขบวนเสด็จ แค่มารยาททางสังคม เวลาเดินจะเข้าลิฟต์ยังต้องหลีกทางให้กันและกัน แม้กระทั่งบนถนนที่ใช้ก็มีมารยาทในการสัญจรการจราจรบนถนน สิ่งที่ตนคาดหวังหลังเกิดเหตุ คือเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรบ้าง แต่ปรากฏว่าเหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. รอมาเกือบสัปดาห์ปรากฏว่าท่าทียังไม่ชัดเจน จนกระทั่งวันที่ 10 ก.พ. ผู้ก่อเหตุยังเหิมเกริมไปทำโพลที่บีทีเอสสยาม จนเกิดการกระทบกระทั่งเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างประชาชนที่ไม่พอใจกับผู้ก่อเหตุ”

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า การเสนอญัตติครั้งนี้ไม่มีความตั้งใจที่จะมาพูดเพื่อซ้ำเติมความร้าวฉาน ความแตกแยกที่เกิดขึ้นอยู่แล้วในความรู้สึกของทั้งสองฝั่ง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ควรเกิดขึ้นอีก และถ้าเราปล่อยปละละเลยในที่สุดสถานการณ์ตามที่เราได้เห็นวันที่ 10 ก.พ. เริ่มมีการประท้วงมีการปะทะกันในหมู่ประชาชน ถ้าเราไม่รีบบริหารจัดการจะบานปลายไปสู่ความแตกแยกความรุนแรงที่อาจจะปะทุ บานปลายถึงความขัดแย้งระดับประเทศ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยบังคับกฎหมายในทันที เพื่อความสงบเรียบร้อยเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายจึงเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งบังคับใช้กฎหมาย ไม่มีอะไรที่อยู่เหนือกฎหมาย การใช้สิทธิเสรีภาพมีกรอบชัดเจนว่าต้องไม่ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น และต้องไม่กระทำความผิดกฎหมายตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายเอกนัฏ ยังเสนอให้ทบทวนระเบียบมาตรการต่าง ๆ รวมถึงแผนการถวายการอารักขาความปลอดภัยแก่ขบวนเสด็จ แม้ปัจจุบันกฎหมายที่ใช้ ถือว่ามีความทันสมัย ตามพ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย แต่ในความเห็นของตนเนื่องจากภารกิจนี้มีความสำคัญ และเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จนทำให้ตนกังวลว่าหากเราไม่ทบทวนมาตรการเข้มงวดจะเป็นการปล่อยปละละเลยจนกระทั่งการกระทำในลักษณะแบบนี้เป็นแฟชั่น เป็นค่านิยมใหม่ที่เกิดขึ้น และไม่อยากจินตนาการเลย ถ้าหากปล่อยให้บานปลายมากไปกว่านี้ 

ดังนั้นจึงควรต้องมีการปรับปรุง ระเบียบ และแผนในการปฏิบัติที่ยังใช้ของเดิมตั้งแต่ปี 2548 ในขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งและบริบททางสังคมเปลี่ยนไปเยอะ ใน 10 ปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งนิยามของภัยคุกคามหรือความพยายามที่จะก่อกวนขบวนเสด็จหรือก่อเหตุให้เกิดอันตรายก็เปลี่ยนแปลงไป เพราะไม่สามารถจินตนาการว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นหากกฎหมายอัปเดตแล้วระเบียบแผนมาตรการจะต้องอัปเดตตามกฎหมายด้วย จะต้องมีความกระชับ มีความชัดเจน มีเจ้าภาพ มีขอบเขตพื้นที่ที่ชัดเจน ไม่อยากให้เกิดข้อถกเถียงในการปฏิบัติหน้าที่ว่า เหตุเกิดขึ้นแล้วเป็นของใคร เรื่องของการถวายความปลอดภัยการถวายพระเกียรติถือเป็นภารกิจสำคัญมาก ๆ ต้องมีความชัดเจนและสิ่งสำคัญที่สุดคือการฝึกซ้อม

"เห็นไหมครับก่อเหตุปุ๊บถ่ายคลิปทันทีแบบนี้เจ้าหน้าที่จะต้องมีการฝึกซ้อม แผนรองรับ อะไรที่ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ อะไรที่ประชาชนผู้ก่อเหตุไม่สามารถทำได้ เมื่อเกิดเหตุสิ่งแรกที่จะต้องสื่อสารกับผู้ก่อเหตุคืออะไร เพราะประโยคนั้นเป็นประโยคที่สำคัญที่สุดถือเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการดำเนินการตามกฎหมายแล้ว แต่ผมไปดูคลิป ผมขอไม่วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่มากไปกว่านี้ เพราะเข้าใจว่าในส่วนของแผนมาตรการต่าง ๆ อาจจะลงไม่ชัดเจน ไม่มีการฝึกซ้อม ไม่มีคู่มือการปฏิบัติหน้าที่ แต่ผมหวังว่าหลังจากเหตุการณ์นี้จะไม่มีลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นอีก" นายเอกนัฏ กล่าว

นายเอกนัฏ กล่าวด้วยว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือการสื่อสารกับประชาชน เพราะต้องยอมรับว่าในภารกิจการถวายความปลอดภัย ไม่มีที่ไหนในโลกที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเลย แต่เชื่อว่า พี่น้องประชาชนเข้าใจ และถือว่าเป็นความปลอดภัยต่อสาธารณะด้วย”

"ขอส่งสัญญาณผ่านรัฐบาลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปรับปรุงสื่อสารถึงหน่วยงานต่าง ๆ เพราะกังวลว่าถ้าปล่อยผ่านละเลย และเราไม่เข้มงวดเหตุการณ์แบบนี้จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่นำไปสู่ความวุ่นวาย เกิดการปะทะกันในหมู่ประชาชนเกิดความแตกแยก และขอย้ำว่าพวกเราอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุขไม่อยากให้มีพฤติกรรมหรือค่านิยมแฟชั่นที่ออกมาบั่นทอนสถาบัน ที่เป็นสถาบันหลักของประเทศ จึงเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจขอเสนอเป็นญัตติด่วน เพื่อให้ สส. ได้พิจารณา ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บังคับใช้กฎหมายทบทวนระเบียบ แผน และมาตรการการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จให้เหมาะสม ทันสมัยมีการฝึกซ้อม และประชาสัมพันธ์กับประชาชน ถือเป็นความปลอดภัยให้สมพระเกียรติ เพื่อรักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ" นายเอกนัฎ กล่าว

8 ปัญหาที่ทำให้ 'ฟิลิปปินส์' 'ไม่พัฒนา' แม้คนพูดอังกฤษเก่งและเคยรวยกว่าไทย 3 เท่า!!

เมื่อวานนี้ (8 มี.ค.67) ผู้ใช้ติ๊กต๊อก ที่ชื่อว่า nickiiz_iizz ได้โพสต์คลิปเผยแพร่ ในเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศฟิลิปปินส์ โดยระบุว่า

8 ปัญหาที่ทำให้ 'ฟิลิปปินส์' 'ไม่พัฒนา'

1. การเรียนในโรงเรียนรัฐแออัดเกินไป เกิดปัญหาครูไม่พอ ห้องเรียนไม่พอ การศึกษาไม่ทั่วถึง แล้วก็ไม่ได้คุณภาพ 

2. ประชากรล้นประเทศ ชาวฟิลิปปินส์กว่า 95 % นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งมีความเชื่อว่า ไม่ควรมีการคุมกำเนิด เด็กทุกคนคือของขวัญจากพระเจ้า ทุกคนควรมีสิทธิ์เกิด จึงทำให้ประชากรล้นประเทศ

3. คนเก่งไหลออกนอกประเทศ เนื่องจากมีเงินเดือน มีรายได้ต่อหัวที่น้อยมาก จึงต้องออกไปทำงานนอกประเทศ ส่งผลให้ในประเทศขาดแคลนคนเก่งที่มีคุณภาพ

4. แรงงานส่งเงินกลับประเทศเยอะมาก ทำให้รัฐบาลไม่กล้าที่จะรื้อโครงสร้างการปกครองระบบแบบนี้ เพราะถ้ารื้อระบบใหม่ รัฐบาลจะสูญเสียรายได้ 

5. ขาดแคลนอาหาร ประเทศฟิลิปปินส์ต้องนำเข้าข้าว เพราะว่าการเพาะปลูกภายในประเทศนั้นไม่เพียงพอ รวมทั้งไม่มีคุณภาพ

6. ภัยพิบัติธรรมชาติ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีเกาะเยอะมาก ดังนั้นจึงต้องเจอกับภัยธรรมชาติ อยู่เป็นประจำ

7. อาชญากรรมสูง สาธารณูปโภคย่ำแย่ ประเทศนี้มีคนจนอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของประชากร อัตราการเกิดอาชญากรรมก็จึงสูงตามมา  ค่าน้ำค่าไฟ ก็มีราคาแพงมาก

8. คอร์รัปชัน ที่ประเทศนี้มีการคอร์รัปชันกันสูงมาก จึงทำให้ประเทศไม่มีการพัฒนา

ย้อนส่อง!! 'ค่าไฟฟ้า-ก๊าซหุงต้ม-น้ำมัน' ในรอบ 1 ปี ขยับแค่ไหน

ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ‘ค่าไฟฟ้า-ก๊าซหุงต้ม-น้ำมัน’ ในไทยมีการขยับปรับราคาอยู่ตลอดเวลา 

วันนี้ THE STATES TIMES ได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้แล้ว หากอยากรู้ว่าราคาขยับมาก-น้อยแค่ไหน มาดูกันเลย!! ✨✨

6 เดือน 6 งานเด่น 'รมว.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ' แห่งคมนาคม ครบทุกมิติ 'บก - น้ำ - อากาศ'

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินหน้าพัฒนาคมนาคมของไทย ครอบคลุมทุกมิติ ทั้ง 'บก - น้ำ - อากาศ' โดยมี 6 ผลงานเด่นที่เห็นเป็นรูปธรรมดังนี้

📌มาตรการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท หรือนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นำร่อง 2 โครงการ คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ - รังสิต และช่วงบางซื่อ - ตลิ่งชัน และต่อมาได้ขยายใช้ในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างสายสีแดงและสายสีม่วงได้ด้วย ซึ่งถือเป็นนโยบาย Quick Win นโยบายแรกของรัฐบาล เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนและจูงใจให้เปลี่ยนมาใช้ระบบรางในการเดินทาง

ทั้งนี้จะเร่งขยายมาตรการค่าโดยสาร 20 บาท ในรถไฟฟ้าเส้นทางอื่น ๆ ภายใน 2 ปี โดยขณะนี้ กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการหารือและพิจารณาร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประเมินทั้งโครงข่ายทุกสาย กรณีลดค่าโดยสารเหลือไม่เกิน 20 บาท รายได้ของผู้ให้บริการจะลดลง ซึ่งจะต้องมีเงินอุดหนุนประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท/ปี

📌การเปิดใช้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินในปัจจุบัน และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้โดยสารของสนามบินเชียงใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปัจจุบันที่มีผู้โดยสารระหว่างประเทศเฉลี่ย 4,800 คน/วัน จำนวน 20 เส้นทาง ปริมาณเที่ยวบิน 36 เที่ยวบิน/วัน วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 27 ธันวาคม รวมถึงรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ยังเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรอง หลังที่ 1 (SAT-1) พร้อมทั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติเชื่อมต่อระหว่างอาคาร SAT-1 กับอาคารผู้โดยสารหลัก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 โดยทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านคน/ปี เป็น 60 ล้านคน/ปี รองรับเที่ยวบินจาก 68 เที่ยวบิน/ชั่วโมงเป็น 94 เที่ยวบิน/ชั่วโมง เพื่อรองรับการเติบโตของภาคการท่องเที่ยว และนโยบายวีซ่าฟรี ตามนโยบายรัฐบาล

📌เร่งรัดการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน - นครราชสีมา (M6) และ สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี (M81) รวมถึงการเปิดให้ใช้ฟรี 2 เส้นทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 โดย M6 ช่วงปากช่อง - ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 77 กม. M81 ช่วงนครปฐม ฝั่งตะวันตก - กาญจนบุรี ระยะทาง 51 กม. เปิดทดลองใช้ฟรีปีใหม่ ตั้งแต่ 28 ธ.ค.66 - 3 ม.ค. 67 ซึ่งจะเปิดให้บริการใช้งานฟรีตั้งแต่ 28 ธ.ค.66 ต่อเนื่องจนกว่าด่านเก็บค่าผ่านทางจะแล้วเสร็จ ส่วน เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง

ขณะเดียวกัน ยังได้เร่งรัดโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ เส้นทางนครปฐม - ชุมพร และได้เปิดให้บริการช่วงสถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนถึงจุดหมายได้เร็วขึ้นถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทางของประชาชน รวมทั้งการขนส่งสินค้า โดยไม่ต้องเสียเวลาในการรอหลีกขบวนรถอีกต่อไป

📌การพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ โดยการยกมาตรฐานและปลอดภัยท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาให้สามารถเชื่อมโยงกับระบบขนส่งรูปแบบอื่นโดยการให้บริการด้วยระบบตั๋วร่วม พร้อมทั้งออกแบบรองรับผู้ใช้บริการทุกประเภท โดยมีแผนพัฒนาท่าเรือเป็นสถานีเรือ (ระบบปิด) ทั้งหมด 29 ท่า ซึ่งขณะนี้ปรับปรุงเสร็จแล้ว จำนวน 9 ท่า อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงและก่อสร้าง จำนวน 5 ท่า และในส่วนที่เหลืออีกจำนวน 15 ท่า จะมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อลดความคับคั่งในการเดินทางขนส่งทางบก รวมถึงพัฒนาท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ในอ่าวไทยและอันดามัน สร้างรายได้ท่องเที่ยวทางน้ำ

📌เดินหน้าโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย - อันดามัน (Landbridge) ผลักดันการพัฒนาท่าเรือชุมพรและระนอง รวมถึงรถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์ เพื่อเชื่อมขนส่งระหว่าง 2 ท่าเรือ ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อพลิกโฉมพื้นที่ภาคใต้เป็นศูนย์กล่างโลจิสติกส์ระดับโลก ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้เริ่มดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนต่างประเทศ (Road Show) โดยล่าสุดได้ร่วมประชาสัมพันธ์โครงการ Landbridge ในการประชุมเอเปค ครั้งที่ 30 ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน - ญี่ปุ่น ซึ่ง มีนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นสนใจเป็นจำนวนมากกว่า 30 บริษัท จากเดิมที่คาดว่าจะมีประมาณ 20 บริษัท และหลังจากนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามารับฟังข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมอย่างต่อเนื่อง

6 เดือน ‘รมช.กฤษฏา’ ปลดแอกหนี้ครัวเรือนไทย

‘กฤษฎา จีนะวิจารณะ’ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จากพรรครวมไทยสร้างชาติ สางหนี้ครัวเรือนไทย - กลุ่มเปราะบาง - ล้างหนี้เสีย - แก้กฎหมายเครดิตบูโร

📌สำหรับกลุ่มลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก Covid 19 (รหัส 21)
🟢ช่วยเหลือให้หลุดจากการเป็นหนี้เสีย พักชำระหนี้เพื่อผ่อนปรนภาระชั่วคราว และลูกหนี้ SMEs ที่เข้าเงื่อนไขปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างน้อย 3 เดือน จะได้รับการพักชำระหนี้ไม่เกิน 1 ปี และได้ลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 1 ต่อปี

📌กลุ่มมีรายได้ประจำ แต่มีภาระหนี้จำนวนมาก
🟢ช่วยลดดอกเบี้ยให้สมความเสี่ยง ถ่ายโอนหนี้ไว้ที่เดียว และผ่อนปรนการชำระ ทางด้าน ธปท. และเจ้าหนี้บัตรเครดิตรายใหญ่ ร่วมปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยนำเงินต้นคงค้างมาคำนวณตารางผ่อนใหม่ ยาว 10 ปี พร้อมลดดอกเบี้ย 75% ส่วน ธ.ออมสิน เข้าสนับสนุนสภาพคล่องแเก่สหกรณ์ เพื่อปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และการ Re-Finance

📌กลุ่มมีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้การชำระคืนหนี้ไม่ต่อเนื่อง
🟢พักชำระหนี้ชั่วคราว ลดเงินงวดให้สอดคล้องกับรายได้ที่ผันผวน กำหนดหลักเกณฑ์ควบคุม กำกับดูแลการให้สินเชื่อ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เกษตรกรได้เริ่มดำเนินการ โดยลูกหนี้เกษตรกรที่มีเงิน (Principle) รวมหนี้คงเหลือทุกสัญญาไม่เกิน 300,000 บาท พักชำระตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 30 กันยายน 2567

📌กลุ่มเป็นหนี้เสียคงค้างกับสถาบันทางการเงินมาเป็นเวลานาน
🟢ช่วยให้หลุดพ้นจากหนี้เสีย พักชำระหนี้เพื่อผ่อนปรนภาระเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุนระหว่าง SFIs และ บริษัท บริหารสินทรัพย์ (บบส.) โดย ธปท. อยู่ระหว่างหารือกับ ก.การคลัง และ SFIs เพื่อช่วยเหลือปิดจบหนี้ของลูกหนี้ได้คล่องตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ 'พรรครวมไทยสร้างชาติ' ยื่นเสนอกฎหมายฉบับแรกต่อสภาฯ แก้ไข 'พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. 2545' หรือ 'เครดิตบูโร' ซึ่งส่งผลเดือดร้อนแก่ประชาชน เพราะหลังสถานการณ์โควิด เกิดวิกฤตเกี่ยวกับบัตรเครดิต และหนี้สินภาคธุรกิจ ทำให้คนจำนวนมากมีปัญหาด้านการเงิน จนต้องหนีไปสู่วงจรหนี้นอกระบบ

2 เดือนแรกปี 67 นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 6.7 ล้านคน อานิสงส์ ‘ฟรีวีซ่า-เพิ่มเที่ยวบิน’ โกยรายได้ 3.2 แสนล้านบาท

เมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวล่าสุด พบขณะนี้ตั้งแต่วันที่ วันที่ 1 มกราคม - 3 มีนาคม 2567 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเที่ยวไทย ทั้งสิ้น 6,730,914 คน สร้างรายได้ 326,034 ล้านบาท

จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

-จีน 1,238,353 คน
-มาเลเซีย 889,948 คน
-รัสเซีย 444,837 คน
-เกาหลีใต้ 430,701 คน
-อินเดีย 327,768 คน

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ได้อัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์ล่าสุด (วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2567) พบว่า ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 749,680 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 14,175 คน หรือ 1.86 % คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 107,098 คน

โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาเลเซีย แซงนักท่องเที่ยวจีน ขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอันดับที่ 1 ซึ่งเป็นผลมาจากการการปิดภาคเรียนภายในประเทศ และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ โดยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่า 11,897 คน จากสัปดาห์ก่อนหน้า

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาด 5 อันดับแรกที่เที่ยวไทยมากที่สุด พบว่านักท่องเที่ยวมาเลเซีย 130,120 คน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 10.06 % นักท่องเที่ยวจีน 124,037 คน นักท่องเที่ยวรัสเซีย 47,831 คน นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ 42,956 คน และนักท่องเที่ยวอินเดีย 34,639 คน โดยนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ รัสเซีย จีน และอินเดีย ปรับตัวลดลงเล็กน้อย

สำหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ การลงนามยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน ที่มีผลช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และกระตุ้นให้สายการบิน เพิ่มจำนวนเที่ยวบิน รวมทั้งการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวอินเดีย ไต้หวัน และคาซัคสถาน

สรุป 15 ทิศทางของจีนประจำปี 2024 ผ่านเวทีการประชุม 'เหลี่ยงฮุ่ย' (两会)

‘จีน’ เริ่มการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (National People’s Congress : NPC) และสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ (Chinese People’s Political Consultative Conference : CPPCC) ที่เรียกว่า ‘ประชุมสองสภา’ (Two Sessions) หรือ ‘เหลี่ยงฮุ่ย’ ประจำปี 2024 ไปเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา

THE STATES TIMES ได้รวบรวม 15 ทิศทางที่จีนจะใช้เดินหน้าประเทศในปี 2024 ทั้งในด้าน การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม จะมีอะไรบ้าง มาดูกัน!!


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top