Friday, 16 May 2025
ECONBIZ NEWS

เคลียร์แล้วส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ก.เกษตรประสานเปิดด่าน 4 ม.ค. เน้นตรวจเข้มโควิด19

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศจีนได้ออกมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เข้มงวด ณ ด่านนำเข้าจีน ส่งผลต่อการส่งออกผลไม้ของไทยในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก ซึ่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าได้หารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกการขนส่งผลไม้ไทย และทูตเกษตรได้ประสานงานกับทางการจีนมาโดยตลอด ขณะนี้ประเทศจีนได้เปิดด่านรถไฟผิงเสียง (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง)แล้ว

โดยกำหนดให้นำเข้าผลไม้ไทยได้ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2565 เพื่อคลี่คลายปัญหากรณีด่านตงซิง (เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง)ปิดด่าน ส่งผลให้ทุเรียนและลําไยสดปริมาณมากต้องติดค้างอยู่ที่ด่าน โดยทางการจีนพร้อมอํานวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการผลไม้ไทยทําการเปลี่ยนแปลงใบรับรองสุขอนามัยพืชจากด่านตงชิงเป็นด่านรถไฟผิงเสียง จะได้ขนส่งเข้าประเทศจีนได้ และต้องระมัดระวังอย่าให้มีการปนเปื้อนโควิด19 ทั้งคนขับ รถและสินค้าเพราะถ้าพบทางการจีนจะปิดด่านทันที รัฐบาลจึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ช่วยกันเข้มงวดกวดขันอย่างเต็มที่ 

นางสาวรัชดา ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ไทย กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดทำเอกสารประกอบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับระเบียบใหม่ของสำนักงานศุลกากรจีน ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนผู้ผลิตอาหารนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา เอกสารประกอบด้วย 1) คู่มือการเข้าใช้ระบบฉบับภาษาไทย 2) คู่มือการดำเนินงานการให้บริการของทางการ “การขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการผลิตอาหารในต่างประเทศที่นำเข้ามายังสาธารณรัฐประชาชนจีน” ฉบับภาษาไทย และ 3) เอกสารรวบรวมประเด็นข้อคำถามของผู้ผลิตอาหารที่พบบ่อยในการปฏิบัติตามระเบียบฯ จากการประสานงานกับศุลกากรจีน หากผู้ประกอบการผลิตอาหารต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ https://www.moac.go.th/site-home หรือ https://www.opsmoac.go.th/news-preview-432991791570

'มัลลิกา' เผย ราคาข้าวขยับขึ้น! จ่ายส่วนต่างลดลง “ข้าวเปลือกเจ้า” รับชดเชยสูงสุด ตามด้วย “ข้าวเปลือกหอมมะลิ ชาวนายิ้มแป้น! "จุรินทร์" เดินหน้า จ่ายงวดที่ 11-12 ข้าวฤดูนี้ ชดเชย 5 ชนิดเหมือนเดิม v

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรต่อเนื่อง ล่าสุดให้แจ้งเกษตรกรโดยเฉพาะพี่น้องชาวนาที่แจ้งการเก็บเกี่ยวตรงกับงวดที่ 11-12 การเพาะปลูกข้าวปี 2564/2565 ในขอบล่าสุดซึ่งเป็นการจ่ายส่วนต่างราคาข้าวผู้ที่ทราบ ซึ่งโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีที่ 3 ได้ประกันราคาข้าวเปลือก 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน

สำหรับงวด 12 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงได้ประกาศอนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงฯ สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 24-30 ธ.ค.2564 จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว 

สำหรับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการจ่ายเงินส่วนต่าง งวดที่ 12 ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 11,221.50 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,778.50 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 10,895.61 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,104.39 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคา 9,925.94 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,074.06 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 8,191.25 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,808.75 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 9,511.47 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,488.53 บาท โดยงวด12 เกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 12 สูงสุด ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 52,899 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 49,670.24 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 26,851.50 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 54,262.50 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 39,816.48 บาท

ส่วนงวดที่ 11 มีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 17-23 ธ.ค.2564 และประกาศราคากลางฯเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2564 หรือก่อนหน้านี้งวดล่าสุด 1 สัปดาห์ โดยราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 11,200.61 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,799.39 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 10,867.60 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,132.40 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคา 9,936.67 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,063.33 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 8,154.29 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,845.71 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 9,316.15 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,683.85 บาท โดยเกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 11 สูงสุด ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 53,191.46 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 50,188.40 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 26,583.25 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 55,371.30 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 42,941.60 บาท

ททท. หวังท่องเที่ยวปีนี้กลับมา 50% หลังปีก่อนเจอโควิดทุบหลุดเป้า

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 2565 ททท.ยังคงเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในภาพรวมประมาณ 50% ของรายได้ที่เคยทำได้ในปี 2562 ที่ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท หรือ ปี 2565 ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 7.5-8 แสนล้านบาท ตามนโยบายของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะต้องหาทางฟื้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยการท่องเที่ยว

ส่วนตัวเลขตลอดปี 2564 พบว่า ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 3.84 แสนล้านบาท ลดลง 21% จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 4.82 แสนล้านบาท แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยประมาณ 4 แสนคน สร้างรายได้ประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท 

เฮ! คลังรับ คนละครึ่ง เฟส 4 ไม่ต้องลงทะเบียน กดยืนยันได้เลยเฮ! คลังรับ คนละครึ่ง เฟส 4 ไม่ต้องลงทะเบียน กดยืนยันได้เลย

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.2565 ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมโครงการ เบื้องต้น ผู้ที่ได้สิทธิ์ในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 แล้วที่มีอยู่จำนวน 27.98 ล้านราย ไม่ต้องมีการลงทะเบียนใหม่ แต่จะต้องกดยืนยันตัวตนอีกครั้งผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เหมือนการลงทะเบียนคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ส่วนผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียน ก็จะต้องสมัครผ่านทาง www.คนละครึ่ง.com ส่วนวงเงินที่จะให้นั้น ตอนนี้ยังไม่ได้สรุปว่าจะให้วงเงินเท่าใด เพราะอยู่ระหว่างจัดสรรงบประมาณที่จะมาใช้ในโครงการ

สำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2564 มีผู้ใช้สิทธิสะสมจำนวน 26.35 ล้านราย จากผู้ได้รับสิทธิจำนวน 27.98 ล้านราย และมีจำนวนผู้ใช้สิทธิครบ 4,500 บาท แล้วกว่า 10.87 ล้านราย โดยมียอดการใช้จ่ายสะสมรวม 223,921.8 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายสะสม 113,936 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 109,985.8 ล้านบาท 

นายกฯ จี้ ก.พาณิชย์ เร่งแก้ปม ราคาเนื้อหมูแพง ลดผลกระทบผู้บริโภค 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบความเดือดร้อนของผู้บริโภคจากปัญหาราคาเนื้อหมูที่ปรับตัวสูงขึ้น จากต้นทุนประกอบการที่เพิ่มขึ้น ทั้งราคาอาหารสัตว์ ยารักษาโรค และโรคระบาดหมู  ส่งผลให้หมูในระบบมีปริมาณลดลง ราคาหมูขายปลีกหน้าเขียงมีราคาสูงขึ้น  ขณะเดียวกันการที่ภาคบริการ การท่องเที่ยว ร้านอาหารกลับมาเปิดบริการได้มากขึ้น ทำให้ความต้องการบริโภคหมูโดยรวม กลับมาเพิ่มมากขึ้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งดูแลแก้ปัญหาราคาเนื้อหมูแพงตั้งแต่ต้นทาง-ปลายทาง ตั้งแต่ภาระเกษตรกรฟาร์มสุกร พ่อค้าคนกลาง ผู้ขายหมูหน้าเขียง ประชาชนผู้บริโภค รวมไปถึงผู้ประกอบการร้านอาหาร เพื่อลดผลกระทบราคาหมูแพงในขณะนี้ โดยไม่ให้เสียกลไกตลาด 

นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ขยายการดำเนินการโครงการพาณิชย์ลดราคา (หมูเนื้อแดง) พร้อมให้พาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายอย่างใกล้ชิด  เข้มงวดผู้ขายในตลาดปิดป้ายแสดงราคา และ ขอความร่วมมือทางห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ช่วยตรึงราคาจำหน่ายหมูเนื้อแดง ออกไปอีกระยะหนึ่ง 

สสว. หวังปีหน้า เอสเอ็มอีรายเล็กกลับมาฟื้นได้หากคุมโอมิครอนอยู่

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยสถานการณ์ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็ก หรือไมโครเอสเอมอี (MSME) ในปี 2565 ว่า หากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้ คาดว่า จีดีพี MSME จะเติบโตระหว่าง 3.2 – 5.4% หรือมีมูลค่าประมาณ 5.669 – 5.789 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยบวกมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง 

ทั้งนี้ สสว. ประเมินว่า ในปีหน้าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น 30 – 40% มีรายได้จากการท่องเที่ยว 5.9 แสนล้านบาท คาดว่าธุรกิจในภาคบริการจะเติบโตระหว่าง 3.4 – 5.8% และธุรกิจที่น่าจับตามองในปี 2565 ได้แก่ ธุรกิจอาหารแปรรูป ธุรกิจให้ความบันเทิง (สันทนาการ) ธุรกิจที่พักแรม ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจเครื่องสำอาง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจคลังสินค้า ธุรกิจโมเดิร์นเทรด ธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจแปรรูปยางพารา

แบงก์ชาติ ชี้ เศรษฐกิจไทยพ.ย. ปรับตัวดี พร้อมจับตาโอมิครอนปีหน้า

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนพ.ย. 2564 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้า และปัญหา supply disruption ที่ทยอยคลี่คลายลง สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับเพิ่มขึ้นหลังการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ด้านการใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นทั้งการบริโภคและการลงทุน ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐยังมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผ่านรายจ่ายเงินโอน ซึ่งอุปสงค์ที่ฟื้นตัวทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมทยอยปรับดีขึ้น

ส่วนด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นตามราคาอาหารสดที่ได้รับผลกระทบชั่วคราวจากสถานการณ์น้ำท่วม ขณะที่ราคาในหมวดพลังงานยังอยู่ในระดับสูงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้านตลาดแรงงานทยอยปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่โดยรวมยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุลเล็กน้อย เนื่องจากดุลรายได้ บริการ และเงินโอนขาดดุลน้อยลง ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลมากขึ้น

‘คนกลางคืน’ เฮ! เตรียมรับเงินเยียวยา รายละ 5,000 บาท งวดแรก เริ่ม 29 ธ.ค. 64 นี้!

(28 ธ.ค. 64) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีมติเห็นชอบอนุมัติมาตรการช่วยเหลือเยียวยา พี่น้องผู้ประกอบอาชีพอิสระ คนทำงานกลางคืนในกิจการสถานบันเทิง ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ 

โดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน จะจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกอบอาชีพรายละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 1 เดือน ให้กับผู้ประกันตนที่มีสัญชาติไทย ทั้งมาตรา 33 ที่ทำงานในกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 และได้รับการรับรองจากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงที่จดทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทย หรือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่าทำงานในสถานบันเทิงกลางคืนนั้นจริง

‘ซัมซุง’ เผย 'ไทย' ฐานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ‘ใหญ่สุดในโลก’ ชี้!! 32 ปี ลงทุนร่วม​ 5​ แสนล้านดอลฯ

“ไทยซัมซุง” ฉลอง 32 ปี เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจในไทย ชูฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่สุดในโลก หลังลงทุนแล้วกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ นายจุนฮวา ลี ประธาน บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน ไทยซัมซุงฯ ถือเป็นฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ามีกำลังผลิตสูงสุดใน 28 ประเทศทั่วโลก และมีจำนวนประเภทสินค้า (SKU) มากที่สุด แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เตาอบ และเครื่องล้างจาน

โดยมีกำลังการผลิตรวมสูงถึง 10 ล้านยูนิตต่อปี คิดเป็นสัดส่วนสินค้าส่งออกถึง 90% เรียกได้ว่ากว่าครึ่งหนึ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุงในครัวเรือนทั่วโลกถูกผลิตและส่งออกจากโรงงานแห่งนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มเตาอบและเครื่องล้างจานที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกเพียงรายเดียวในโลก

“ซัมซุงดำเนินธุรกิจเคียงคู่ประเทศไทยมาแล้วกว่า 32 ปี นับเป็นบริษัทสาขาที่ดำเนินกิจการนอกประเทศเกาหลีใต้ยาวนานที่สุด ซึ่งการที่เราสามารถพัฒนาและเติบโตอย่างมั่นคงดังเช่นทุกวันนี้ เกิดขึ้นจากแรงสนับสนุนอย่างดีของคนไทย

ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (โรงงานศรีราชา) มีมูลค่าการลงทุนในประเทศไทยรวมแล้วกว่าห้าแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนาน มีการสร้างโอกาสการจ้างงาน สร้างรายได้หมุนเวียนที่สู่ 4,000 ครอบครัว รวมถึงพนักงานจากบริษัทคู่ค้าอีกกว่า 50,000 คนทั่วประเทศ

เที่ยวบินปีใหม่ลดฮวบ 17% หลังคนหวั่น 'โอมิครอน'

นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ด้านปฏิบัติการ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า บวท. ประเมินตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค.64-3 ม.ค.65 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนเดินทางเป็นจำนวนมาก จะมีเที่ยวบินรวม 9,440 เที่ยวบิน หรือ 944 เที่ยวบินต่อวัน อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ปริมาณเที่ยวบินลดลง 17% ซึ่งมีเที่ยวบินรวม 11,443 เที่ยวบิน 

ทั้งนี้จากการที่รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศ ส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 23% มีเที่ยวบินรวม 30,457 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบินภายในประเทศ 20,002 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 7,287 เที่ยวบิน นอกนั้นเป็นเที่ยวบินผ่านน่านฟ้า (Overfly) และอื่นๆ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top