Friday, 17 May 2024
Soft News Team

การเรียนสายอาชีพถือว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่น้อง ๆ ที่จบมัธยมศึกษาตอนต้นมาได้ลงมือปฏิบัติ และ สามารถต่อยอด สร้างฝัน สร้างอาชีพได้ บางครั้งน้อง ๆ อาจจะมองไม่เห็นตัวเองว่าถ้าเรียนในสายสามัญเป็นอย่างไร สายอาชีพถือว่าตอบโจทย์น้อง ๆ สำหรับผู้ทีชื่นชอบลงมือทำ

วันนี้ THE STUDY TIMES จะขอมาแนะนำการเรียนอีกสายหนึ่งที่ถือได้ว่าหลาย ๆ คนที่ยังรู้สึกว่าตัวเองอาจจะต่อยอดพวกสายวิทย์ - คณิต หรือ สายศิลป์ ไม่ได้การเรียนสายอาชีพก็ถือว่าเป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกัน

การเรียนสายอาชีวศึกษาหรือสายอาชีพ คือ การเรียนต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือ ปวช. เป็นการเรียนในหลักสูตรที่ไม่ได้เน้นการเรียนวิชาพื้นฐานเหมือนกับสายสามัญ รับนักเรียนที่จบมาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยการเรียนสายอาชีพมีระยะเวลาในการเรียน 3 ปี โดยหากเรียนจบแล้วจะมีทางเลือกในการเรียนต่อ 2 ทางเลือกใหญ่ ๆ คือ

1.) การเรียนต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือ (ปวส.) ใช้เวลาเรียน 2 ปี หลังจากจบแล้วสามารถเรียนต่อปริญญาตรี อีก 2 ปี

2.การเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย (ระดับปริญญาตรี) ใช้เวลาเรียน 4 – 5 ปี แล้วแต่คณะวิชาที่เลือก

สิ่งที่ถือเป็นจุดเด่นสำหรับการเรียนสายอาชีพคือสำคัญ ได้มีโอกาสเรียนในสายวิชาที่เน้นการทำงานจริงเป็นหลัก ต่อให้เรียนจบระดับ ปวช. ก็สามารถทำงานได้ และทำให้นักเรียนได้เข้าใจถึงการเรียนตามหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต

สำหรับข้อดีของการเรียนในระดับสายอาชีพมีดังต่อไปนี้

ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ มีรายได้ระหว่างเรียน
หลักสูตรสายอาชีพเน้นการลงมือภาคปฏิบัติอย่างแท้จริง ทุกหลักสูตรมีการฝึกงานเพื่อสร้างเสริม

ประสบการณ์และทักษะ
วิชาชีพตั้งแต่ยังเรียนอยู่ไม่น้อยกว่า 300 ชั่วโมง ได้มีโอกาสลงมือปฏิบัติงานจริง ฝึกใช้อุปกรณ์ เรียนรู้ กระบวนการในสายอาชีพนั้น ๆ เป็นประสบการณ์ตรงจากหน้างาน

มีทักษะวิชาชีพติดตัว
เพราะการฝึกฝนปฏิบัติงานเป็นประจำย่อมทำให้เกิดทักษะและความเชี่ยวชาญติดตัวไปตลอด เมื่อศึกษาจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพสามารถใช้เป็นใบเบิกทางสมัครงานได้เลย

เลือกเรียนได้หลากหลายสาขาและอาชีพ 
หลักสูตรสายอาชีพมีให้เลือกเรียนหลากหลายสาขาวิชา สามารถเลือกเรียนได้ตามความสนใจและความถนัดของตัวเอง

เป็นที่ต้องการของบริษัทและแรงงาน
ในปัจจุบันกำลังขาดแคลนช่างฝีมือและบุคลากรวิชาชีพทักษะเฉพาะ เพราะต่างต้องการแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญหรือมีฝีมือเฉพาะทางในด้านนั้น ๆ ทำให้เมื่อเรียนสายอาชีพจบมาแล้วจะตอบโจทย์กับบริษัทมากกว่า 



และนอกจากนี้สถานที่เรียนปวช.นั้นมีมากมายอยู่ทั่วทุกจังหวัด และการเรียนในสายอาชีพก็มีให้เลือกเรียนอีกมาก โดยจะขอยกตัวอย่างสาขาอาชีพที่เรียนในระดับชั้นปวช. มีดังต่อไปนี้

อุตสาหกรรม สาขาวิชา : ช่างยนต์ ช่างกลโรงงาน ช่างเชื่อมโลหะ ช่างไฟฟ้ากำลัง ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างก่อสร้าง เครื่องเรือนและตกแต่งภายใน สถาปัตยกรรม สำรวจ ช่างเขียนแบบเครื่องกล ช่างซ่อมบำรุง ช่างพิมพ์ เทคนิคแว่นตาและเลนส์ ช่างโทรคมนาคม ช่างเครื่องมือวัดและควบคุม อุตสาหกรรมยาง เมคคาทรอนิกส์ ช่างเทคนิคคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีฟอกหนัง ช่างเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศ เครื่องกลเกษตร
พาณิชยกรรม สาขาวิชา : การบัญชี การตลาด การเลขานุการ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ธุรกิจสถานพยาบาล การประชาสัมพันธ์ ธุรกิจค้าปลีก ภาษาต่างประเทศ โลจิสติกส์ การจัดการสำนักงาน การจัดการด้านความปลอดภัย ธุรกิจการกีฬา
ศิลปกรรม สาขาวิชา : วิจิตรศิลป์ การออกแบบ ศิลปหัตถกรรม ศิลปกรรมเซรามิก ศิลปหัตถกรรมรูปพรรณเครื่องถมและเครื่องประดับ ถ่ายภาพและมัลติมีเดีย เทคโนโลยีศิลปกรรม คอมพิวเตอร์กราฟิกอุตสาหกรรมเครื่องหนัง เครื่องประดับอัญมณี ช่างทองหลวง การพิมพ์สกรีน ออกแบบนิเทศศิลป์
คหกรรม สาขาวิชา : แฟชั่นและสิ่งทอ อาหารและโภชนาการ คหกรรมศาสตร์ ธุรกิจเสริมสวย ธุรกิจคหกรรม
เกษตรกรรม สาขาวิชา : เกษตรศาสตร์
ประมง สาขาวิชา : เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
อุตสาหกรรมท่องเที่ยว สาขาวิชา : การโรงแรม การท่องเที่ยว
อุตสาหกรรมสิ่งทอ สาขาวิชา : เทคโนโลยีสิ่งทอ เคมีสิ่งทอ เทคโนโลยีเครื่องนุ่งห่ม
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขาวิชา : เทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์
อุตสาหกรรมบันเทิงและดนตรี สาขาวิชา : อุตสาหกรรมบันเทิง การดนตรี การสร้างเครื่องดนตรีไทย
พาณิชย์นาวี สาขาวิชา : เดินเรือ ช่างกลเรือ

ดังนั้นการเรียนสายอาชีพถือว่าเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับนักเรียน หรือ นักศึกษาที่ต้องการลงมือปฏิบัติจริง ๆ อยากที่จะพัฒนาตัวเองและมีศักยภาพทางด้านอาชีพนั้น ๆ อย่างผู้เชี่ยวชาญ สามารถต่อยอดอาชีพในอนาคตได้ ทาง THE STUDY TIMES หวังว่าน้อง ๆ ทุกคนจะได้รู้แนวทางตัวเองและต่อยอดความฝันของน้อง ๆ ให้ประสบความสำเร็จได้นะคะ 


ที่มา 
https://www.yuvabadhanafoundation.org/th/highschool/studyplan/item4-2/
https://teen.mthai.com/education/176732.html

Click on Clever โฉมใหม่‼️ เวลาดีๆ ที่จะเรียนรู้ไปด้วยกันกับ Guest ที่โดดเด่น และเรื่องราวชีวิตของเขา

????Click on Clever โฉมใหม่‼️ เวลาดีๆ ที่จะเรียนรู้ไปด้วยกันกับ Guest ที่โดดเด่น และเรื่องราวชีวิตของเขา

????เก่งจริง เจ๋งจริง โปรดติดตาม!!

✅โดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา Program Director THE STUDY TIMES 

????ช่องทางรับชม
Facebook และ YouTube: THE STUDY TIMES / THE STATES TIMES

วิชาฟิสิกส์: เรื่อง การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงสำหรับนักเรียน ม.4

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม

วิชาฟิสิกส์: เรื่อง การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงสำหรับนักเรียน ม.4

โดย ครูพี่ปุ๊ องอาจ สุภัคชูกุล

อดีตตัวแทนคณิตศาสตร์โอลิมปิก นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น

#สอนวิชาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ม.ต้น-ม.ปลาย

#DekThaiOnline

https://dekthai-online.com/browse

.

.

ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว THE STUDY TIMES ได้แนะนำแอปพลิเคชันสอนภาษาจีนไว้ใช้ในช่วงโควิด วันนี้เราก็ขอมาแนะนำอีก 5 แอปพลิเคชันกันที่ไว้ใช้ศึกษาภาษาจีนเพิ่มเติมกัน ที่นอกจากจะได้ภาษาแล้วยังได้ความสนุกเพิ่มอีกด้วย !

Pleco Chinese Dictionary

เป็นแอปพลิเคชันพจนานุกรมภาษาจีนมีคำศัพท์ยอดนิยมกว่า 110,000 คำ และมีตัวอย่างประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันกว่า 25,000 ประโยค นอกจากนี้ยังมีแบบอักษรจีนสไตล์ Kai / Song / Xing อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นในการอ่านคำจากลายมือหรือเอกสารทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจและออกเสียงได้อย่างถูกต้องอีกด้วย

Chinese Zombie – เกมส์คำศัพท์ ภาษาจีน

เป็นแอปที่รวมคำศัพท์พื้นฐานที่ใช้บ่อยและจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเป็นการเรียนรู้ไปกับการท่องคำศัพท์และฆ่าซอมบี้ในเกม ทำให้ฝึกในการจำคำศัพท์ได้ง่าย ๆ 

Learn Mandarin Chinese 5,000 Words

โดยการเรียนรู้ในแอปพลิเคชันนี้คือการท่องจำคำศัพท์แบบ FlashCards (บัตรคำศัพท์) เพื่อให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาจีนกลาง เพื่อทำให้การท่องจำคำศัพท์ภาษาจีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

HelloChinese เรียนภาษาจีน

เป็นแอปพลิเคชั่นที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนภาษาจีนและสามารถเรียนรู้ได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยที่ผู้ใช้สามารถฝึกการพูดและการเขียนภาษาจีน ตัวแอปมีฟังก์ชันวิเคราะห์เสียงและฟังก์ชันการเขียนอักษรจีนด้วยมือ อีกทั้งยังมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจีนคอยเรียบเรียงบทเรียนภาษาจีนให้เหมาะสมกับระบบการเรียนรู้ของคนไทยโดยเฉพาะ

เรียนรู้ภาษาจีน

ในแอปพลิเคชันมีข้อความและคำศัพท์ในภาษาจีนที่ใช้เป็นประจำมากกว่า 800 รายการ มีเนื้อหาสำคัญ ๆ เป็นหมวดหมู่ เช่น การทักทาย สุขภาพ ความรัก ฯลฯ และคำศัพท์พื้นฐานที่ต้องใช้ทุกวัน เช่น วันที่ เวลา สภาพอากาศ สีต่าง ๆ ฯลฯ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นเรียนภาษาจีนมาก ๆ เลยค่ะ

หวังว่าผู้อ่านจะได้ลองฝึกภาษาจีนในช่วงที่ต้องกักตัวแบบนี้นะคะ ถือว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุด และทำให้เราได้ฝึกอีกภาษาหนึ่ง เป็นการเปิดโลกกว้างให้ตัวเราประสบคามสำเร็จอีกด้วยค่ะ นอกจากการเรียนผ่านแอปพลิเคชันที่เราได้แนะนำไปแล้วนั้น การฝึกภาษาง่าย ๆ อาจจะเป็นการดูซีรีส์หรือฟังเพลงก็จะช่วยพัฒนาทางด้านภาษาของเราไปได้อีกมากเลยละค่ะ

เก่งภาษาจีนได้ง่ายในช่วงโควิด ด้วย 10 แอปพลิเคชัน (ตอนที่ 1)
Click on Clever >> https://thestatestimes.com/post/2021071305


ที่มา : https://www.iphonemod.net/10-application-practice-chinese-language.html

ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ นามปากกาจาก 2 นักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่น ผู้มีแนวความคิดของโลกอนาคตบวกความสร้างสรรค์ ถ่ายทอดผลงานการ์ตูนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างเรื่อง "โดราเอมอน"

“การ์ตูนโดราเอมอน” ถือว่าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่มีความนิยมอย่างมาก แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักกับนักเขียนทีมีนามปากกาอย่าง ฟูจิโอะ เอฟ ฟูจิโกะ THE STUDY TIMES จะขอเล่าถึงประวัติและความสำเร็จของนักเขียนผู้นี้กัน  

ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ จริง ๆ แล้วเป็นนามปากกาของศิลปิน 2 ท่าน นั้นคือ ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ (ผู้แต่ง) และ อาบิโกะ โมโตโอะ (ผู้วาด)

ฮิโรชิ เกิดวันที่ 1 ธ.ค. ค.ศ.1933 ที่ เมืองทาคาโอกะ จังหวัดโทยาม่า ส่วน โมโตโอะ เกิดวันที่ 10 มี.ค. ค.ศ.1934 ที่เมืองทาคาโอกะ จังหวัด โทยาม่า เช่นเดียวกัน

ทั้ง ฮิโรชิ และ โมโตโอะ เจอกันครั้งแรก ในช่วงสมัยเรียนชั้นประถมปีที่ 5 และกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน เพราะต่างมีความชอบในการวาดการ์ตูน โดยทั้งคู่ได้ลงมือวาดการ์ตูน เขียนเรื่องราวด้วยกัน และได้ลองส่งสำนักพิมพ์ โดยเรื่องแรกที่ได้รับการตีพิมพ์คือเรื่อง นางฟ้าทามะจัง (Tenshi no Tama-chan) ลงตีพิมพ์เป็นประจำในนิตยสาร "ไมนิจิ โชกักเซ"

หลังจากที่ทั้งคู่เรียนจบในชั้นมัธยมปลาย ฮิโรชิได้เข้าไปทำงานในโรงงานลูกกวาด ส่วนโมโตโอะทำงานในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น แต่หลังจากทำงานได้ไม่นานฮิโรชิได้รับอุบัติเหตุระหว่างทำงาน จึงตัดสินใจลาออกจากงานและเขียนการ์ตูนอย่างจริงจังอยู่ที่บ้าน โดยมีโมโตโอะคอยมาช่วยเหลืออยู่ตลอดหลังจากเวลาว่างหลังเลิกงาน และได้ออกผลงานเรื่อง ล่องลอย 4 หมื่นปี  และมีผลงานการ์ตูนพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มแรกในนามปากการ่วมกันว่า "อาชิซึกะ ฟูจิโอะ" เรื่อง สงครามโลกครั้งสุดท้าย (UTOPIA—最後の世界大戦 หรือ Utopia: The Last World War) 



หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้ตัดสินใจจะเขียนการ์ตูนกันต่อไป และได้ย้ายมาอยู่ที่โตเกียว ทั้งคู่ได้ตัดสินใจเปลี่ยนนามปากกาเป็น "ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ" และได้มีการเขียนการ์ตูนส่งสำนักพิมพ์อย่างมากมาย แต่ก็มีช่วงหนึ่งที่ทั้งคู่เผลอลืมส่งต้นฉบับให้กับทางสำนักพิมพ์ ทำให้ชื่อเสียงของทั้งคู่ลดลงอย่างมาก แต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอมแพ้ลงทุนจัดตั้งบริษัท "สตูดิโอซีโร" และได้มีผลงานทำภาพยนตร์เรื่องยาวอย่างเรื่อง “เจ้าหนูอะตอม” และเริ่มประสบความสำเร็จขึ้นจากการเขียนการ์ตูนเรื่อง “ผีน้อยคิวทาโร่”  ได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน ซึ่งมีคนติดตามเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ผีน้อยคิวทาโร่ได้ผลิตเป็นการ์ตูนแอนิเมชันฉายทางโทรทัศน์ ส่งผลให้ชื่อเสียงโด่งดังขึ้นเป็นอย่างมาก 



หลังจากนั้น ปี ค.ศ.1969 ทั้งคู่เริ่มหาแนวทางสำหรับการ์ตูนเรื่องใหม่โดย ฮิโรชิ ก็ไปสะดุดกับกองของเล่นพวกตุ๊กตาของลูกสาวที่วางเกะกะบนพื้น ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่แมวข้างบ้านกำลังกัดกัน และเมื่อรวมกับจินตนาการส่วนตัวที่อยากได้เครื่องมือช่วยย้อนเวลาไปหาไอเดียใหม่ๆ เชิงวิทยาศาสตร์ จึงเป็นที่มาของหุ่นยนต์แมวสีน้ำเงินที่มาพร้อมสารพัดอุปกรณ์สำหรับแก้ปัญหาจากโลกอนาคต เลยเป็นแนวความคิดในการเขียนการ์ตูน โดราเอมอน โดยเริ่มแรกเป็นการตีพิมพ์ลงในหนังสือการ์ตูนยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก จนเมื่อค.ศ.1973 การ์ตูนโดราเอมอนได้ผลิตเป็นการ์ตูนแอนิเมชันฉายทางโทรทัศน์ ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก จนทั้งคู่ได้รับรางวัล จากสมาคมนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่น (Nihon Mangaka Association) และได้รับความนิยมอย่างมากจนได้ไปเผยแพร่ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก 



หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ทำผลงานอีกมากมาย แต่ด้วยความเห็นที่ไม่ค่อยตรงกันทำให้ตัดสินใจเลิกใช้นามปากการ่วมกันและแยกไปมีงานเขียนของตัวเอง ฮิโรชิใช้นามปากกาเป็น "ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ" ส่วนของอาบิโกะเป็น "ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ (เอ.)" และฮิโรชิก็ยังสร้างสรรค์ผลงานโดราเอมอนและผลงานอื่น ๆ อีกต่อไป จนกลายเป็นตำนานการ์ตูนญี่ปุ่นที่ทุกคนชื่นชอบจนมาถึงปัจจุบัน

ทาง THE STUDY TIMES ความพยายาม รักและชื่นชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ละทิ้งความฝันและความพยายามจะเป็นทางที่สู่ความประสบความสำเร็จได้ เหมือนกับนักเขียนการ์ตูน 2 ท่านนี้นะคะ 


ที่มา 
https://th.wikipedia.org/wiki/ ฟูจิโอะฟูจิโกะ 
https://www.kartoon-discovery.com/history/fujio.html
https://ahead.asia/2019/09/05/fujiko-fujio-doraemon-creators/

วิชาคณิตศาสตร์: เรื่อง โจทย์ความน่าจะเป็น

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม
วิชาคณิตศาสตร์: เรื่อง โจทย์ความน่าจะเป็น

โดย ครูพี่ปุ๊ องอาจ สุภัคชูกุล 
อดีตตัวแทนคณิตศาสตร์โอลิมปิก นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น
#สอนวิชาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ม.ต้น-ม.ปลาย  

#DakThaiOnline 
https://dekthai-online.com/browse

.

.

THE STUDY TIMES X DekThai Online สัปดาห์ที่สิบ พบกับวิดีโอสรุปเนื้อหา เทคนิค แนวข้อสอบ แต่ละรายวิชา

????THE STUDY TIMES X DekThai Online สัปดาห์นี้

????วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม - วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

⏰ทุกวัน เวลา 18.00 น.

พบกับวิดีโอสรุปเนื้อหา เทคนิค แนวข้อสอบ 5 รายวิชา 

????วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม
วิชาคณิตศาสตร์: เรื่อง โจทย์ความน่าจะเป็น

โดย ครูพี่ปุ๊ องอาจ สุภัคชูกุล 
อดีตตัวแทนคณิตศาสตร์โอลิมปิก นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น
#สอนวิชาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ม.ต้น-ม.ปลาย  

????วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม
วิชาฟิสิกส์: เรื่อง การเคลื่อนที่ในแนวเส้นตรงสำหรับนักเรียน ม.4

โดย ครูพี่ปุ๊ องอาจ สุภัคชูกุล 
อดีตตัวแทนคณิตศาสตร์โอลิมปิก นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น
#สอนวิชาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ม.ต้น-ม.ปลาย  

????วันพุธที่ 21 กรกฎาคม
วิชาดาราศาสตร์: เรื่อง Sun Moon & Earth สำหรับ ม.ต้น

โดย คุณน้ำหวาน ภิรมณ กำเนิดมณี
นักเรียนทุน พสวท. (ฟิสิกส์) ปริญญาตรี-ปริญญาเอก สหรัฐอเมริกา
#สอนวิชาฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ เตรียมเข้าม.4

????วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม
วิชาชีววิทยา: เรื่อง Hypothalamus

โดย ครูหมอเมศ กฤษณะ ธรรมศิริ 
ปริญญาตรี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
#สอนชีววิทยาม.ต้น-ม.ปลาย

????วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม
วิชาเคมี: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบวิชาเคมี (9 วิชาสามัญ)

โดย เจได สิบทิศ จตุรศิล 
แพทย์จุฬา รุ่น 76 (คะแนนรวม กสพท. 85.36)
เคมี 9 วิชาสามัญ 90/100 คณิต 9 วิชาสามัญ 100/100 ฟิสิกส์ 9 วิชาสามัญ 100/100 อังกฤษ 9 วิชาสามัญ 92.5/100 PAT1 288/300

????ช่องทางรับชม 
Facebook และ YouTube: THE STUDY TIMES


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top