Sunday, 11 May 2025
LITE TEAM

๕ ธันวาคม วันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

๕ ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมกำหนดให้ วันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญของชาติไทย ดังนี้

๑.) เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ - ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙) เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ ๙ แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จสู่พระราชสมบัติตั้งแต่วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ เป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงครองราชสมบัติยาวนานที่สุดในประเทศไทย

๒.) เป็นวันชาติ : เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย เดิมกำหนดให้วันที่ ๒๔ มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันชาติ เนื่องจากเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้เปลี่ยนมาเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระมหากษัตริย์ไทย ตามขนบธรรมเนียมประเพณีอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ และเป็นวันศูนย์รวมจิตใจความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ปัจจุบันจึงตรงกับวันที่ ๕ ธันวาคม ของทุกปี

๓.) เป็นวันพ่อแห่งชาติ : วันพ่อแห่งชาติ มีขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา เป็นผู้ริเริ่มหลักการและเหตุผลในการจัดตั้งวันพ่อแห่งชาติ เพราะพ่อเป็นผู้มีพระคุณที่มีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคม สมควรที่ผู้เป็นลูกให้ความเคารพเทิดทูนตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสมควรที่สังคมจะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ 

จึงถือเอาวันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปีซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็น “วันพ่อแห่งชาติ” ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.๙) ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างนานัปการ ทรงเป็นพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงรักใคร่และให้ดอกพุทธรักษาเป็นสัญลักษณ์ของวันพ่อแห่งชาติ

ตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๐๒ เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกระชับสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ 

ทั้งในยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และ เอเชีย และได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่าง ๆ ทุกภาคทรงประจักษ์ในปัญหาของราษฎร ในชนบทที่ดำรงชีวิตด้วยความยากจน ลำเค็ญและด้อยโอกาส ได้ทรงพระวิริยะอุตสาหะหาทางแก้ปัญหาตลอดมาตราบจนปัจจุบัน 
 

กำเนิดฟุตบอลประเพณี ‘จุฬาฯ - ธรรมศาสตร์’ 2 มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในขณะนั้น! ได้ร่วมสร้างสรรค์ประโยชน์ให้ประเทศชาติ

ฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ - ธรรมศาสตร์ ก่อกำเนิดครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2477 โดยแนวความคิดของนิสิตนักศึกษาทั้งสองสถาบันกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเคยเรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน ได้หารือกันว่าควรจะมีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างสถาบันเพื่อเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างนิสิตนักศึกษาทั้งสองสถาบัน และควรจัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปี ผู้ริเริ่มฝ่ายธรรมศาสตร์มีพล.ต.ท. ต่อศักดิ์ ยมนาค, บุศย์ สิมะเสถียร และฝ่ายจุฬาฯ มี ประสงค์ ชัยพรรค, ประถม ชาญสันต์ และประยุทธ สวัสดิ์สิงห์ การแข่งขันครั้งแรกนั้นทางฝ่ายธรรมศาสตร์คือ ดร. เดือน บุนนาค เลขาธิการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองสมัยนั้นรับจัดการแข่งขัน และได้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน

การแข่งขันทุกปีนั้น ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติว่า รายได้ที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะมีการมอบการกุศลทุกครั้งโดยในครั้งแรกซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2477 ณ สนามหลวง ท้องทุ่งพระสุเมรุ มีการเก็บเงินค่าผ่านประตูบำรุงสมาคมปราบวัณโรค ซึ่งถือว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงที่สุดของไทยขณะนั้น หลังจากนั้นก็มีการเก็บเงินบำรุงการกุศลเรื่อยมา เช่น ในช่วงแรก ๆ มีการเก็บ เงินบำรุงทหาร สมทบทุนสร้างเรือนพักคนไข้วัณโรค ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยบำรุงสภากาชาด บำรุงมูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก สมทบทุนอานันทมหิดล สร้างโรงเรียนชาวเขา ฯลฯ นอกจากนี้ก็ยังมีการเก็บเงินเพื่อบำรุงการศึกษาของทั้งสองสถาบัน และตั้งแต่การแข่งขันครั้งที่ 34 (พ.ศ. 2521) จนถึงปัจจุบัน คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้นำเงินรายได้ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

รู้จัก COVID 5 สายพันธุ์ เฝ้าระวัง! รู้ทันป้องกันได้!!

สถานการณ์โควิดในบ้านเราตอนนี้แม้เริ่มมีการผ่อนปรนกันมากขึ้นในมาตรการต่าง ๆ แต่อย่าลืมว่า เจ้าโควิดตัวร้ายยังไม่หายไปไหน!! 

วันนี้ THE STATES TIMES จะพาทุกคนมารู้จักกับ ‘โควิด 5 สายพันธุ์’ ที่ควรต้องรู้จัก! พร้อมบอกสูตรยาแรง ที่ปราบโควิดอยู่หมัดแน่นอนหากปฏิบัติตาม! จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยยย

>> โควิด 5 สายพันธุ์
1.) BETA สายพันธุ์เบตา
2.) ALPHA สายพันธุ์แอลฟา
3.) DELTA สายพันธุ์เดลตา
4.) OMICRON สายพันธุ์โอไมครอน
5.) GAMMA สายพันธุ์แกมมา

ครบ 34 ปี ‘ศรินทิพย์ ศิริวรรณ’ ดาราที่หายสาบสูญ ระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์ “อีจู้กู้ปู่ป้า” จนปัจจุบันยังไม่มีการพบตัว!!

ย้อนกลับไปเมื่อ 34 ปีที่แล้ว ประเทศไทยเคยมีนักแสดงลูกครึ่งผมดำ ที่สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการบันเทิงไทยในฐานะนักแสดงแถวหน้า การันตีรางวัลตุ๊กตาทองในปี 2525 และรางวัลตลกหญิงยอดเยี่ยมในปี 2529

ชื่อของเธอคือ “ศรินทิพย์ ศิริวรรณ” หรือ ไพลิน คอลลิน สาวมากความสามารถที่ผู้คนรู้จักเธอในฐานะนักร้องของวงดนตรีกรมสรรพสามิต และนักแสดงคู่บุญของ รัตน์ เปสตันยี จากภาพยนตร์เรื่อง “โรงแรมนรก” และ “แพรดำ” ซึ่งต่อมาได้สร้างชื่อและผลักดันให้เธอได้รับบทหม่อมแม่ ในละครบ้านทรายทอง (1979) ซึ่งถือเป็นช่วงขาขึ้นในอาชีพการแสดงของเธอ

การแสดงดี ดนตรีก็ไม่แพ้กัน เพราะในอีกด้าน ศรินทิพย์ก็ยังเป็นนักร้องของวงดนตรีกรมสรรพสามิต และที่นั่น เธอได้พบรักกับ ชาลี อินทรวิจิตร ครูเพลงมากความสามารถที่ช่วยกันฝ่าอุปสรรคในชีวิตต่าง ๆ ด้วยกันตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่ศรินทิพย์ถูก จำเนียร รัศมี สามีเก่า ฟ้องร้องหลังนำเรื่องราวที่คล้ายคลึงกับชีวิตคู่ครั้งก่อนไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ที่หลังจากเหตุการณ์นั้น ชาลี อินทรวิจิตร ได้แต่งเพลงชื่อ “ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก” เพื่อเตือนใจว่า ในโลกของความรักไม่มีทุกข์หรือสุขที่จะอยู่จีรังในความสัมพันธ์ไปตลอด

เครียดได้..ก็ต้องคลาย (เครียด)! รวม 4 วิธี แสนง่าย ช่วยจัดการกับความเครียด!!

ช่วงนี้หลายคนอาจจะแอบเครียดหลาย ๆ เรื่อง แต่ THE STATES TIMES มีวิธีแบ่งเบาความเครียดให้น้อยลง เลยอยากมาแนะนำเพื่อน ๆ ด้วย จะได้ช่วยแบ่งเบาความเครียดกันเนอะ มาค่ะ!!

1.) ความชอบ
ความชอบของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น อาจจะเป็นเล่นเกม หรือช็อปปิง ส่วนตัวเป็นคนชอบเที่ยว แต่ช่วงโควิดนี้ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยค่ะ แต่ก็มองหาที่เที่ยวตามที่เค้ารีวิว เปิดดูรูปและอ่านรีวิวที่น่าสนใจ ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนใครชอบอะไรลองอยู่กับตัวเอง แล้วทำสิ่งที่ชอบดูนะคะ หาเวลาให้ตัวเองจะช่วยแบ่งเบาได้ค่ะ

2.) ฟังเพลง
พยายามเปิดฟังเพลง ขอเป็นเพลงที่ไม่เศร้าหรือฟังเพลงที่มีจังหวะเร็วและสบายหูกันนะคะ บางทีเราอาจจะร้องตามไปด้วยก็ได้ รับรองจะรู้สึกดีขึ้นแน่นอนจ้า

22 ปีที่แล้ว เกิดเหตุเพลิงไหม้!! ‘โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์’ นับว่าเป็นเหตุการณ์เพลิงไหม้คลังเก็บน้ำมัน ที่ร้ายแรงที่สุดในประเทศไทย!! 

จุดเริ่มต้นของการสูญเสียในครั้งนี้ เริ่มมาจากการเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นบริเวณถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง หมายเลข T-3003 ซึ่งมีความจุทั้งสิ้น 3 ล้านลิตร (แต่ในขณะนั้นมีเพียง 1.5 ล้านลิตร) และต่อมาได้ลุกลามไปยังถังเก็บน้ำมันข้างเคียงอีก 3 ถัง คือ T-3004, T-3005 และ T-3006 ซึ่งในขณะนั้นพนักงานอยู่ในช่วงพักผ่อน นันทนาการ จึงทำให้ไม่มีใครสนใจเสียงสัญญาณเตือนภัยที่ดังขึ้น 

จนกระทั่งทุกคนเริ่มรู้สึกตัวเพราะได้กลิ่นน้ำมันที่โชยออกมา ทำให้ยามที่รักษาการณ์อยู่ รวมถึงเจ้าหน้าที่อีก 4 คนตัดสินใจเข้าไปตรวจสอบความผิดปกติ ซึ่งพอดีกับที่เสียงระเบิดดังขึ้น และตามมาด้วยเปลวไฟที่ลุกโหม แรงระเบิดที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้กับโรงกลั่นไทยออยล์เท่านั้น แต่แรงสั่นสะเทือนยังส่งไปไกลถึงชุมชนที่อยู่รอบข้าง ทำให้ชาวบ้านหลายรายได้รับบาดเจ็บ บ้านเรือนถูกแรงอัดของระเบิดพังเสียหาย แล้วทุกอย่างก็ได้ตกอยู่ในความชุลมุนทันที

ซึ่งน้ำมันเบนซินที่อยู่ที่โรงกลั่นไทยออยล์ ก็เป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี ทำให้ไฟยิ่งโหมแรงขึ้น และไม่มีท่าทีว่าจะดับได้ง่าย ๆ และไม่สามารถดับได้ด้วยน้ำอย่างเดียวอีกต่อไป จึงต้องมีการนำโฟมมาใช้ในการดับไฟร่วมด้วย แต่ท่อส่งโฟมของโรงกลั่นถูกแรงระเบิดอัดจนเสียหาย ทำให้ต้องระดมหน่วยงานดับเพลิงจากที่ต่าง ๆ กว่า 70 แห่งมาช่วย ทำให้กว่าจะดับไฟได้ก็กินเวลาไปกว่า 48 ชม.หรือ 2 วันเต็ม ๆ

ซึ่งสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ และยังสร้างความตื่นตระหนกหวาดผวาให้กับชาวบ้านรอบข้างจำนวนมาก หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพหนีตาย โดยเฉพาะหมู่บ้านทุ่งที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดโดยตรง จนมีผู้บาดเจ็บหลายราย ส่วนบ้านแหลมฉบังซึ่งอยู่ไกลออกไปราว 3 กิโลเมตร แม้จะไม่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดโดยตรง แต่เศษถังน้ำมันที่ปลิวร่อนมาตกบนหลังคาบ้าน ก็สร้างความหวาดผวาให้ไม่น้อย และต้องอพยพไปอาศัยอยู่ที่บริเวณสวนสัตว์เปิดเขาเขียวและเทศบาลเมืองชั่วคราว

“วันเอดส์โลก” ยุติความเหลื่อมล้ำ ยุติเอดส์!!  

วันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้เป็น “วันเอดส์โลก” (World AIDS Day) ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกประเทศทั่วโลก จะร่วมกันรณรงค์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเอดส์!! 

วันนี้ THE STATES TIMES เลยอยากเชิญชวนทุกคนร่วมสร้างการป้องกัน!! และช่วยกันปฏิบัติกันอย่างถูกต้อง เพื่อลดการผู้ติดเชื้อรายใหม่, ไม่มีการเสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ และไม่มีการเลือกปฏิบัติ ตามที่ UNAIDS ได้กำหนดธีมรณรงค์ ในปี 2564 นี้... "End inequalities. End AIDS. End pandemics. ยุติความเหลื่อมล้ำ ยุติเอดส์” เพื่อเป็นแรงช่วยให้สู่ความสำเร็จในการ ยุติปัญหาเอดส์ไปพร้อมกัน

แนวโน้มของผู้ติดเชื้อเอชไอวีในปัจจุบัน
>> ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อที่มีชีวิตอยู่ 470,000 ราย 
>> ในประเทศไทยคาดว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อมากถึง 1,000,000 ราย 
>> ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อมากถึง 38,000,000 ราย

“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” มีพระราชดำรัสทรงตอบรับ ขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราชวโรกาส ให้พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา เข้าเฝ้าฯ ที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เพื่อกราบบังคมทูลอัญเชิญ ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่

โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชดำรัสว่า ตามที่ประธาน สนช. ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานรัฐสภา ได้กล่าวในนามของปวงชนชาวไทย เชิญข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ เป็นไปตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ และรัฐธรรมนูญนั้น ข้าพเจ้าขอตอบรับเพื่อสนองพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง หลังจากนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้กราบบังคมทูลต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อขึ้นทรงราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10

หลังจากนั้นนายพรเพชร แถลงต่อประชาชนว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 มาตรา 2 วรรค 2 ประกอบรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 23 วรรคหนึ่ง บัญญัติเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สถาปนาพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระรัชทายาท เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 โดย สนช. ทำหน้าที่รัฐสภาตามรัฐธรรมนูญปี 2557 ได้รับทราบกรณีสวรรคตดังกล่าวด้วยความโทมนัสยิ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 สนช. ได้ประชุมเพื่อรับทราบการแต่งตั้งพระรัชทายาท และประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานรัฐสภา นำความกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 มาตรา 2 วรรคสอง ประกอบรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 23 วรรคหนึ่ง จึงขอประกาศให้ทราบทั่วกันว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559

พล.อ.ประยุทธ์ แถลงต่อประชาชนว่า ประกาศให้ประชาชนชาวไทย ทั้งที่อยู่ในไทย และต่างประเทศทราบว่า วันนี้ประเทศไทยมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ตามการกราบบังคมทูลเชิญขึ้นทรงราชย์ของประธาน สนช. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยมีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นายกรัฐมนตรี และประธานศาลฎีกา ร่วมเป็นสักขีพยานในพระราชพิธีประวัติศาสตร์นี้ และประธาน สนช. มีประกาศแจ้งต่อประชาชนแล้ว

การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎมณเฑียรบาล และโบราณราชประเพณีทุกประการ ที่สนองพระราชดำริของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานไว้ตั้งแต่แรกว่า ระหว่างที่พระองค์เอง และประชาชนทุกข์โศกใหญ่หลวงจากกรณีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต และยังไม่ควรสืบราชสมบัติ แต่ควรรอพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล เปิดโอกาสให้ประชาชนเคารพพระบรมศพระยะหนึ่ง บัดนี้ถึงพระราชพิธีปัญญาสมวาร (ครบ 50 วัน) ประชาชนได้มีโอกาสได้ถวายบังคมพระบรมศพแล้ว ขอพระราชทานพระราชานุญาตดำเนินการตามกฎหมายต่อไป อนึ่งเป็นไปตามพระราชประเพณี ไม่ขัดต่อกฎหมาย และสอดคล้องกับนานาประเทศที่ราชอาณาจักรไม่ว่างเว้นขาดตอนจากพระมหากษัตริย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ณ บัดนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงสถิตราชสถานะ องค์พระรัชทายาท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2515 เป็นเวลา 44 ปี เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10

ภัยร้าย ซ่อนเร้น!! ‘หมอนรองกระดูกเสื่อม’ โรคยอดฮิตของคนปวดหลัง!!

‘ปวดหลัง’ อาการยอดฮิตที่ไม่ว่าวัยไหนก็เจอได้ แต่รู้หรือไม่ว่าอาการปวดหลัง น่ากลัวกว่าที่คิด เพราะอาจเป็นสาเหตุของ ‘หมอนรองกระดูกเสื่อม’ วันนี้ THE STATES TIMES จะพาทุกคนมากเช็กอาการ พร้อมหาทางออกไปด้วยกัน ตามมาดูกันเลย!!

เช็ก! อาการหมอนรองกระดูกเสื่อม 
- ปวดหลังส่วนล่าง บริเวณเอว 
- มักมีอาการตอนนั่ง หรืองอตัวไปข้างหน้า 
- ชาที่ขา อาจเริ่มตั้งแต่เอว ไล่ไปถึงนิ้วเท้า 

30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 รำลึก ‘สุรินทร์ พิศสุวรรณ’ อดีตเลขาธิการอาเซียน ถึงแก่อนิจกรรม จากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2492 เป็นคนบ้านตาล ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในเรื่องการศึกษานั้น ดร.สุรินทร์ ศึกษาระดับปริญญาตรีที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยเรียนปี 1-2 และได้รับทุน Frank Bell Appleby ไปศึกษาต่อ ปี 3-4 ด้านรัฐศาสตร์ที่ Claremont Men’s College, Claremont University และศึกษาในระดับปริญญาโทและเอกที่ Harvard University ด้านรัฐศาสตร์ โดยได้รับทุนจาก Rockefeller

ซึ่งหลังจากจบการศึกษาปริญญาเอกจาก Harvard University ดร. สุรินทร์ ต้องกลับมาเป็นอาจารย์ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ตามเงื่อนไขของทุนการศึกษาที่ได้รับไปศึกษาในระดับปริญญาโทและเอก โดยเป็นอาจารย์เมื่อปี พ.ศ. 2525 

ต่อมาใน พ.ศ. 2529 ชีวิตการเป็นนักการเมืองของ ดร. สุรินทร์จึงได้เริ่มต้นขึ้น จากการชักชวนของ ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราชจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในตอนแรกนั้น ดร.สุรินทร์ ไม่ได้ตอบรับในทันที แต่ในเวลาต่อมาก็ตอบรับคำที่จะลงสมัครและก็ได้รับเลือกตั้งในที่สุด

เมื่อได้เป็น ส.ส. ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ชักชวนให้ ดร. สุรินทร์ มารับหน้าที่เป็นเลขานุการประธานสภาฯ หลังจากนั้นเมื่อมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ในปี พ.ศ. 2531 ดร. สุรินทร์ ก็ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. อีกครั้งและได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการให้กับ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 

ด้วยเหตุที่ ดร. สุรินทร์ ศึกษามาทางด้านรัฐศาสตร์อยู่แล้ว ทางผู้ใหญ่ในพรรคจึงเห็นว่าน่าจะเหมาะสมที่จะไปช่วยงานในกระทรวงมหาดไทย หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2535 เมื่อชวน หลีกภัยได้รับการเลือกตั้งจากสภาฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดร. สุรินทร์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย 1 พ.ศ. 2535 - 2538) 

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top