Sunday, 11 May 2025
LITE TEAM

วันนี้เมื่อ 54 ที่แล้ว ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดมหาวิทยาลัยขอนแก่นอย่างเป็นทางการ

มหาวิทยาลัยขอนแก่น (อังกฤษ: Khon Kaen University; อักษรย่อ: มข., KKU.) เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อตั้งขึ้นตามนโยบายการขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาสู่ส่วนภูมิภาคตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 1 ของประเทศ 

โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนากำลังคนและองค์ความรู้เพื่อการแก้ปัญหาให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีประชากรเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ ในแต่ละปีต้องเผชิญกับปัญหาภัยแห้งแล้งและผลผลิตทางภาคการเกษตรไม่ดีอย่างต่อเนื่อง 

อีกทั้งยังมีประชากรที่ยากจนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดมหาวิทยาลัยขอนแก่นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พุทธศักราช 2510 และได้พระราชทานพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า

States TOON EP.40

ฤดูโยกย้าย!!

ติดตามการ์ตูนอัปเดตได้ทุกสัปดาห์…
 

19 ธันวาคม พ.ศ. 2423 วันประสูติ ‘เสด็จเตี่ย’ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอลำดับที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมารดาคือ เจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2423

พระองค์ทรงได้รับถวายพระสมัญญาจากกองทัพเรือว่าเป็น “พระบิดาของกองทัพเรือไทย” และต่อมาได้แก้ไขเป็น “องค์บิดาของทหารเรือไทย” เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2544 จากพระกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงวางรากฐานและพัฒนาปรับปรุงทหารเรือสยามให้เจริญก้าวหน้าตามแบบประเทศตะวันตก

ส่วนกรณีที่นักเรียนนายเรือพากันเรียกพระองค์ว่า “เสด็จเตี่ย” นั้น พลเรือโท ศรี ดาวราย สันนิษฐานว่า มาจากการที่พระองค์ทรงขัดดาดฟ้าให้นักเรียนนายเรือใหม่ ๆ ที่ฝึกภาคทางทะเลบนเรือหลวงพาลีรั้งทวีปดูเป็นแบบอย่าง ในปี พ.ศ. 2462 หลังจากที่ทอดพระเนตรเห็นนักเรียนเหล่านั้นทำงานนี้ด้วยท่าทางเงอะงะเก้งก้าง โดยตรัสกับพวกนักเรียนเหล่านั้นว่า “อ้ายลูกชาย มานี่เตี่ยจะสอนให้”

เมื่อช่วงต้นรัชกาลที่ 6 กรมหลวงชุมพรฯ ทรงออกจากราชการซึ่ง สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพระนิพนธ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “…กรมหลวงชุมพรฯ ไม่ทรงสบาย ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตออกเป็นนายทหารกองหนุนอยู่ชั่วคราว ๑ จนถึงปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๖๐ จึงเสด็จกลับเข้ามารับราชการเป็นตำแหน่งจเรทหารเรือ…”

แต่กรณีนี้ ศรัณย์ ทองปาน มีความเห็นต่างออกไปโดยเห็นว่า “…ในช่วงต้นรัชกาลที่ ๖ เกิดเหตุนายทหารเรือผู้หนึ่งเมาสุราในร้านอาหารสันธาโภชน์ ที่ตำบลบ้านหม้อ แล้วเกิดวิวาทกับมหาดเล็กหลวง ทำให้รัชกาลที่ ๖ ทรงพิโรธ ดังความในพระราชหัตถเลขาตอนหนึ่งว่า ‘…ปรากฏชัดว่าได้ฝึกสอนนักเรียนนายเรือในหนทางไม่ดี ทำให้มีจิตฟุ้งซ่านจนนับว่าเสื่อมเสียวินัยและนายของทหาร…สมควรลงโทษเป็นตัวอย่าง’

ประกอบกับมีข่าวลือว่า กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์กับกรมขุนนครสวรรค์วรพินิต กำลังวางแผนก่อกบฏ ชิงราชสมบัติ โดยแม้ว่าพระองค์ทรงออกจากราชการแล้วทางการก็ยังให้ตำรวจท้องที่คอยติดตามการเคลื่อนไหวของพระองค์…”
 

จับฆาตกรโหด!! ‘คิด เดอะริปเปอร์เมืองไทย’ ที่สถานีรถไฟปากช่อง หลังก่อคดีฆ่าต่อเนื่อง 6 ศพ 

สำหรับคดีดังกล่าว เป็นคดีดังช่วงปลายปี 2562 โดยช่วงสายวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ตำรวจ สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น ระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมนางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 293 ม.19 ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ของผู้ตาย เจ้าหน้าที่พบศพนางรัศมีถูกห่อด้วยผ้าห่ม ท่อนบนสวมเสื้อยืด ลำคอถูกพันด้วยเทปใส ข้อเท้ามัดด้วยสายชาร์จแบตโทรศัพท์ ซุกอยู่ในฟูกที่นอนที่วางอยู่ในห้อง ตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตมาประมาณ 8 ชั่วโมง ร่างกายไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย ไม่มีร่องรอยต่อสู้ ไม่มีร่องรอยรื้อค้นในบ้าน คาดคนร้ายลงมือตอนที่ผู้ตายนอนหลับ

สอบสวนทราบว่าก่อนหน้านี้ผู้ตายมีอาชีพเป็นแม่บ้าน เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม มีผู้ชายคนหนึ่ง ทราบชื่อว่า “แขก” เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านของ น.ส.รัศมี ในลักษณะคบหาเป็นแฟนกัน โดยระบุว่าแฟนใหม่เป็นชาวนครศรีธรรมราช ประกอบอาชีพทนายความ กระทั่งเช้าวันที่ 14 ธันวาคม นายแขกขี่จักรยานยนต์ไปส่งนางรัศมีทำงานที่โรงแรมตามปกติ แต่พอช่วงเลิกงาน นายแขกไม่ได้ไปรับ ทำให้นางรัศมีกลับบ้านเอง กลางคืนนายแขกกลับมาที่บ้าน แต่ก็ไม่มีรถจักรยานยนต์กลับมาด้วย
 

วันพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ “เกษตรศาสตร์” โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานให้เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

วันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ‘พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง’ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาจารย์ นิสิตเก่า และนิสิตปัจจุบันของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด พระราชทานเลี้ยงอาหารเย็น ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต และทรงดนตรีร่วมกับวง อ.ส. 

พร้อมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ "เกษตรศาสตร์" ให้เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นในวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2509 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่ชาวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อย่างหาที่สุดมิได้ 

สำหรับเพลงพระราชนิพนธ์ "เกษตรศาสตร์" นี้ ในเวลานั้นมีเพียงทำนองยังไม่มีเนื้อร้อง จึงเรียกว่า เพลง K.U. Song ภายหลัง ศ. ดร. ประเสริฐ ณ นคร ได้เป็นผู้แต่งเนื้อร้องให้ดังที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน


ที่มา : http://archives.psd.ku.ac.th/kuout/p9007.html

‘วันกีฬาแห่งชาติ’ 16 ธันวาคม เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” รัชกาลที่ 9

"การแล่นใบ สอนให้คนคิดเองทำเอง เพราะเมื่อเราลงไปเล่นเรือใบแล้วเรือไม่วิ่ง จะไม่มีใครมาคอยสอน เราต้องคิดเอง ทำเอง ว่าลมมาทางไหน ลมแรงขนาดนี้ เราสู้ไหวไหม ถ้าไหวเราก็สู้ แต่ถ้าไม่ไหวแล้วเรายังสู้ เรือก็จะคว่ำ ถ้าลมเบาเราจะต้องทำอย่างไรเรือจึงจะวิ่ง แล้วถ้าไม่มีลมเราจะทำอย่างไร เราก็ควรจะนั่งรอสักครู่ให้ลมมา ถ้าเราเล่นเรือเป็น ดูทิศทางลมเป็น ถ้าเราเป็นตัวนี้ เด็กไทยเป็นตัวนี้แล้วนำมาใช้ในชีวิต นำมาใช้ในกิจการงานได้ ไม่มีทางขาดทุน เพราะรู้เทคนิคการใช้ชีวิต เด็กไทยจะรู้จักและเข้าใจในการคิดเอง ทำเอง" พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว " ในหลวงรัชกาลที่ 9"  

"เรือใบ" เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬา ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ในหลวงรัชกาลที่ 9" ทรงโปรดปราน เช่นเดียวกับ แบดมินตัน, เทนนิส และยิงปืน "ในหลวงรัชกาลที่ 9" ทรงต่อเรือใบพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง และทรงนำไปแข่งขันในกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 9 - 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นซีเกมส์) 

พระองค์ทรงแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในการแล่นเรือ ที่ต้องใช้ลมในการบังคับทิศทางจนได้รับชัยชนะในการแข่งขันเรือใบประเภท OK เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ทรงครองเหรียญทอง ร่วมกับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ได้รับการบันทึกให้เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกในทวีปเอเชีย ที่ได้ครองรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน เป็นที่ยอมรับในวงการกีฬาเรือใบระดับโลก 

‘วันชาสากล’ วันที่เกษตรกรผู้ปลูกชา ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมในการค้าชา และเป็นวันแห่งเครื่องดื่มยอดนิยมของคนทั่วโลก!! 

วันที่ 15 ธันวาคมของทุกปีเป็น “วันชาสากล” (International Tea Day) ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2548 โดยจุดเริ่มต้นของวันชาสากลมาจากเกษตรกรผู้ปลูกชากลุ่มเล็ก ๆ หลายกลุ่มในเบงกอลตะวันตกและหลายรัฐทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องถึงสิทธิและความชอบธรรมในการค้าชาของตนเอง

ในช่วงนั้นแม้ชาจะเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่มีการปลูกอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ แต่อุตสาหกรรมค้าชาในประเทศอินเดียกลับมีความอ่อนแอและบริหารจัดการได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ เกษตรกรผู้ปลูกชากลุ่มเล็ก ๆ ในหลายพื้นที่ได้นำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการปลูก ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตดีขึ้น ได้ผลิตผลเพิ่มมากขึ้น และชาที่ได้ก็มีคุณภาพดี

แต่อย่างไรก็ตาม เกษตรกรเหล่านี้กลับไม่ได้รับความเป็นธรรมในการค้าขาย พวกเขาถูกเอารัดเอาเปรียบและถูกกดราคา จนทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง จนกระทั่งองค์กรเพื่อการสื่อสารและการศึกษาของประเทศอินเดีย (CEC-Centre for Communication and Education) ซึ่งเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสิทธิของเกษตรกรและผู้ผลิตรายย่อยในประเทศ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาและได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ พวกเขาได้ร่วมมือกับองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติเข้ามาพัฒนาและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ค้าชากลุ่มย่อย ๆ ให้ได้รับความเป็นธรรมในการค้าชาและทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น

14 ธันวาคม ค.ศ. 1701 ‘วันแห่งการแก้แค้น ของ 47 โรนิน’

‘การแก้แค้นของ 47 โรนิน’ บางครั้งอาจเรียกว่า 'การแก้แค้นของ 47 ซามูไร' หรือ ‘เหตุการณ์เก็นโรกุอาโก’ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเอโดะในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 นักประวัติศาสตร์ชาวดัตช์ชื่อ ไอแซก ทิทซิงก์ กล่าวว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญในวิถีบูชิโด 

เรื่องราวกล่าวถึงกลุ่มนักรบซามูไรจำนวน 47 คนในสังกัดของไดเมียวอาซาโนะ นางาโนริ ซึ่งถูกบังคับให้กระทำเซ็ปปูกุ (การฆ่าตัวตายโดยการคว้านท้อง) เมื่อปี ค.ศ. 1701 หลังจากบันดาลโทสะ ใช้ดาบทำร้ายคิระ โยชินากะ ข้าหลวงผู้มีอิทธิพลของโชกุนโทกูงาวะ สึนาโยชิ ที่ปราสาทมัตสึโอะโอโรกะ 

8 เรื่องต้องรู้! ‘แอนชิลี’ Miss Universe Thailand 2021 ผู้ฉีกกฎความสวยแบบเดิมๆ!

เชื่อว่าช่วงนี้ สายนางงามคงนั่งเกาะจอ รอลุ้นให้เหล่าสาวสวยในดวงใจผ่านเข้ารอบและถึงแม้ว่าสาว ‘แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส’ ตัวแทนสาวไทย ผู้เข้าร่วมการประกวด Miss Universe 2021 ของเรา จะพลาดเข้าชิงมงกุฎในรอบ 16 คนสุดท้าย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอคนนี้ สร้างแรงกระเพื่อมให้กับวงการนางงามได้ไม่น้อย วันนี้ THE STATES TIMES จะพาทุกคนมาดู 8 เรื่องต้องรู้ ที่จะทำให้คุณรู้จัก ‘แอนชิลี’ กันมากขึ้น ตามมาดูกันได้เลย!!

1.) ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย - แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส เป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย อายุ 22 ปี คุณพ่อเป็นชาวออสเตรเลีย ส่วนคุณแม่เป็นคนจังหวัดฉะเชิงเทรา

2.) ความหมายชื่อ ‘แอนชิลี’ - มาจากคำว่า ‘แอน’ รวมกับ ‘ชิลี’ ซึ่งเมื่อนำทั้งสองคำมาผสานกันแล้ว ได้ความหมายว่า ‘ไหว้ได้อย่างสวยและสง่างาม’

3.) การศึกษา - แอนชิลี เติบโตที่กรุงเทพมหานคร จบมัธยมปลายจากโรงเรียนนานาชาตินิสท์ (NIST) ในระดับปริญญาตรี จบจากคณะรัฐศาสตร์ สาขาสังคมวิทยา จากมหาวิทยาลัยในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

4.) ‘แอนชิลี’ ไม่เคยคิดเข้าวงการบันเทิง - แต่ความโดดเด่นที่ไม่ซ้ำใคร จึงได้รับการชักชวนไปเป็นนางแบบ โดยปัจจุบันเธอจึงมีอาชีพเป็นนางแบบ ‘Curve Model’ หรือ ‘นางแบบพลัสไซส์’

30 ปี ‘อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา' ได้รับการยกย่อง เป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม จาก ‘ยูเนสโก’

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่ 1,810 ไร่ โดยตั้งอยู่ภายในเกาะเมืองอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน 

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ 3,000 ไร่ โดยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศเหนือ ตามถนนสายเอเชีย ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร ได้รับการพิจารณาเป็นมรดกโลกเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ในนามนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

ประวัติความเป็นมาเริ่มจากพระเจ้าอู่ทองทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้นใน พ.ศ. 1893 และได้ถูกพม่าทำลายลงในพุทธศตวรรษที่ 23 แม้จะถูกทำลายลงก็ยังคงมีร่องรอยความยิ่งใหญ่และความเจริญรุ่งเรืองของเมืองดังที่ปรากฏมาจนถึงปัจจุบัน 

ต่อมาครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นเป็นราชธานี ได้มีการรื้ออิฐจากสถาปัตยกรรมในกรุงศรีอยุธยาเพื่อไปก่อสร้างกรุงเทพมหานคร ทำให้โบราณสถานต่าง ๆ ถูกทำลายและทิ้งร้างไป จนกระทั่งถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้อนุรักษ์และฟื้นฟูโบราณสถานในกรุงศรีอยุธยาขึ้นอีกครั้ง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top