Monday, 9 June 2025
Hard News Team

ผบ.หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ตรวจเยี่ยมการรับทหารกองประจำการ รุ่นปี ผลัดที่ 2

ที่สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์) พล.อ.ท.วิญญา  โพธิ์คานิช ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน พร้อมด้วย พล.อ.ท. ชัยนาท  ผลกิจ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ เดินทางไปตรวจเยี่ยมกรรมวิธีการรับทหารกองประจำการ รุ่นปี 2564 ผลัดที่ 2 

สำหรับการรับทหารกองประจำการ ณ ที่ตั้งดอนเมืองในวันนี้ มีทหารใหม่ ผลัดที่ 2 รายงานตัวเข้าประจำการ จำนวน 2,092 คน โดยกองทัพอากาศได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอนตามนโยบายของรัฐบาล โดยหลังจากที่ทหารใหม่รายงานตัวเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ ATK หากพบผู้ติดเชื้อในขั้นตอนนี้ จะได้รับการตรวจ RT-PCR อีกครั้งเพื่อยืนยันผล ก่อนจะส่งตัวเข้ารักษาในสถานพยาบาลในสังกัดกองทัพอากาศต่อไป 

“โฆษกรัฐบาล”ชี้ ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ย้ำ รัฐไม่เสียประโยชน์-ปชช.ได้ใช้บริการ  ยัน ไม่เอื้อนายทุน 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานบอร์ดอีอีซี ขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าสิทธิในการบริหารรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยาน หรือ Airport Rail Link (ARL) มูลค่า 10,671 ล้านบาท ตามเงื่อนไขสัญญาการร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน คือบริษัท เอเชีย เอราวัน จำกัด ที่ถือหุ้น 70 เปอร์เซ็นต์โดยกลุ่มซีพี

เป็นการกระทำที่เข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนใหญ่ด้วยผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ทั้งที่คู่สัญญาทำผิดเงื่อนไข แต่รัฐยังเปิดโอกาสให้เดินรถได้โดยชำระเงินเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ว่า ยืนยันว่าไม่ใช่การจับประชาชนเป็นตัวประกัน หรือเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน ถ้าจะมีใครที่จับประชาชนเป็นตัวประกันนั้น น่าจะเป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่มักจะออกมาให้สัมภาษณ์สนับสนุน รวมถึงช่วยประกันตัวกลุ่มผู้ชุมนุมที่ประท้วงด้วยการใช้ความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินราชการ และจาบจ้วงสถาบันอยู่ไม่เว้นแต่ละวัน

นายธนกร กล่าวอีกว่า การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก โดยการดำเนินการอยู่บนความเท่าเทียมและเป็นธรรม หากปกปิดข้อมูลจริง ฝ่ายค้านคงจะไม่มีข้อมูลมาจับแพะชนแพะ สร้างความสับสนให้ประชาชนจนรัฐบาลต้องมาคอยแก้ข่าวเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนอยู่ทุกวัน เหมือนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายครั้งที่ผ่านมา

 

คลังเล็งออกคนละครึ่งเฟส 4 ต้นปีหน้า 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังจากกระทรวงการคลัง ได้เปิดให้ประชาชนให้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ” ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ในวันนี้ (1 พ.ย.) เพื่อเก็บตกผู้ที่ลงทะเบียนไม่สำเร็จที่ผ่านมาจาก 28 ล้านสิทธิ มีจำนวน ทั้งสิ้น 119,974 สิทธิ นั้น ทราบว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่เปิดให้สามารถลงทะเบียนได้ตอนนี้สิทธิเต็มครบจำนวนแล้ว ล่าสุดกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและความเหมาะสมของโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ในช่วงต้นปี 2565 

ทั้งนี้ต้องดูสถานการณ์อีกที โดยพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีนโยบายแผนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว คู่ขนานไปกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เน้นความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้งอย่างแน่นอน โดยโครงการคนละครึ่ง ถือว่าเป็นโครงการที่ครองใจประชาชนมากที่สุด เพราะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละวันได้ ช่วยประคับประคองการบริโภค ทำให้ประชาชนมีการวางแผนการใช้จ่ายดีขึ้น ได้รับการตอบรับที่ดี พิสูจน์ได้ว่า ประชาชนมีการนำเงินออกมาใช้จ่าย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ประชาชน ร้านค้า ได้ประโยชน์ร่วมกันหมด แสดงถึงความสำเร็จของมาตรการที่นายกรัฐมนตรีพยายามดำเนินการเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

1 พ.ย. 64 ประเทศไทยเปิดประเทศ - เปิดโรงเรียน - เปิดให้ดื่มสุรา แบบ New Normal

???? Re-Open 1 พ.ย. 64
วันนี้ ประเทศไทย กลับมาเปิดหลาย ๆ กิจกรรม อีกครั้งแบบ New Normal ใช้ชีวิตอยู่กับโควิด-19 อย่างปลอดภัย

????เปิดประเทศ
63 ประเทศ เดินทางเข้าไทย ไม่ต้องกักตัว

‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’ ลั่น จำชื่อไว้ นักการเมืองพรรคใดเสนอแก้ ม.112 อย่าไปเลือก

อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กดุเดือด ประกาศจำชื่อไว้นักการเมืองพรรคใดเสนอแก้ไข ม.112 อย่าไปเลือกมัน

1 พ.ย. 64 - นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart สั้น ๆ ระบุว่า “จำชื่อไว้นักการเมืองพรรคใดเสนอแก้ไข ม.112 อย่าไปเลือกมัน”

5 วิธีโปรโมทเที่ยวไทยให้ปังแบบ 'รัสเซล โครว์' ไม่ต้องอวยจนเอียน แต่เนียนจนใครก็อยากไป

นายเถกิง สมทรัพย์ อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ไทย ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก 'เถกิง สมทรัพย์' เผย 5 ข้อคิดการโปรโมทท่องเที่ยวไทย หลังเลนส์ดาราฮอลลีวูดอย่าง 'รัสเซล โครว์' ไว้อย่างน่าสนใจและควรทำตาม ว่า... 

แกกลับไปแล้ว...>> อะไรที่ควรคาดหวัง

1.) รัสเซล โครว์ นำเสนอเมืองไทยแบบนักท่องเที่ยว ไม่นำเสนอแบบ “นายแบบรับจ้างโปรโมท” ที่ถ่ายทำสวยงามแบบเฟก ๆ

2.) จุดที่นำเสนอผ่านทวิตเตอร์ เป็นแบบ “ธรรมชาตินักเที่ยว” ทั่วไป ไม่เน้นถ่ายทำสวย ๆ หรือบรรยายอะไรหรูหรา

3.) ไม่เน้นจุดท่องเที่ยว ไฮเอนด์ ตามแบบฉบับดาราดัง ๆ คนอื่น จึงทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้

4.) มุมมองเมืองไทยผ่านสายตาของรัสเซลคือ เมืองไทยทั่ว ๆ ไป ไม่ใช่เมืองไทยแบบในโฆษณาท่องเที่ยวเนี้ยบ ๆ

5.) คนรับทราบความเคลื่อนไหวของรัสเซลผ่านทวิตเตอร์ จะได้ความรู้สึกว่า “มาเมืองไทยได้ง่าย ๆ สบาย ๆ เป็นมิตรไม่ต้องกังวลเรื่องควอรันทีนแบบอึดอัดเข้มงวด”

‘นัท นิสามณี’ แต่งเลียนแบบพระพุทธเจ้า โลกโซเชียลวิจารณ์หนัก จวกไม่เหมาะสม

ดราม่าร้อน! นัท นิสามณี สะบัดแปรง แต่งหน้าแต่งตัวเป็นพระพุทธเจ้า ในวันฮาโลวีน โลกโซเชียลรุมจวกไม่เหมาะสม เสี่ยงนรก เล่นกับความเชื่อของชาวพุทธ

กลายเป็นกระแสวิจารณ์ในโลกโซเชียล สำหรับ ‘นัท นิสามณี’ บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ‘สะบัดแปรง’ หลังเจ้าตัวได้แต่งหน้าแปลงโฉมเลียนแบบพระพุทธเจ้า ต้อนรับเทศกาลวันฮาโลวีน 31 ตุลาคม พร้อมเขียนแคปชั่นภาพว่า ‘#สะบัดแปรงHalloween...Look5 Buddha’

โดย นัท นิสามณี ได้เผยด้วยว่า ‘นัทไม่ได้กล้าทำอะไรทั้งนั้น มองในแนวคอนเซ็ปต์ของงานนี้ นัททำทุกศาสนาที่นัทหาข้อมูลได้ แต่งไปเล่าไป มองแบบเปิดใจดู ความศรัทธา ศักดิ์สิทธิ์ แก่นคำสอนไม่ได้เปลี่ยนเลยจากการมีคนทาแต่งตัวเป็นพระ ทำขนมพระเครื่อง หรือเอาปลักขิดมาเป็นพร็อพแต่งบ้าน ยึดที่หลักคำสอนไหมว่า อะไรคือหนทางพ้นทุกข์ หากมองให้เกิดปัญญา ปัญญาก็จะเกิด หากมองให้เกิดปัญหา ปัญหาก็จะเกิด’

“แรมโบ้” ยุ ปชช. ต้าน “ม็อบ 3 นิ้ว” เคลื่อนไหว ชี้ทำลายบรรยากาศดี ช่วงเปิดประเทศ ซัด พวกหนักแผ่นดิน

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎร นำโดยรุ้ง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เมื่อวันที่31 ต.ค.ที่แยกราชประสงค์ว่า ตนเชิญชวนประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่ม 3 นิ้ว ออกมาประณามการชุมนุม เนื่องจากทำให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ในขณะที่ประเทศไทยกำลังจะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว รวมถึงจะทำให้ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ภาคธุรกิจ มีรายได้  แต่มีกลุ่มม็อบ 3 นิ้วออกมาชุมนุม ซึ่งอาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางเข้ามายังประเทศไทยด้วย และทำให้ประชาชนเสียโอกาสทำมาหากิน 

นายเสกสกล กล่าวว่า การที่แกนนำออกมาเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมืองและยกเลิกมาตรา 112 เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเพราะหากมีการกระทำความผิดก็ต้องได้รับโทษ หากไม่ลงโทษถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากกล้าที่จะทำความผิดต้องกล้าที่จะถูกลงโทษ ขณะเดียวกันประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศก็คงไม่ยอมให้มีการยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 

และการออกมาชุมนุมในขณะนี้ และจะเคลื่อนไหวมายังทำเนียบรัฐบาลเป็นการทำลายประเทศ ทำลายประชาชนที่กำลังจะได้รับโอกาสจากการเปิดประเทศ โดยไม่นึกถึงคนทั้งประเทศเอาแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก ขอเรียกร้องให้หยุดการเคลื่อนไหว และให้ผู้อยู่เบื้องหลังม็อบ 3 นิ้วที่คิดว่าจะได้ประโยชน์จากการสนับสนุนเป็นอีแอบอยู่เบื้องหลัง ควรหยุดพฤติกรรมนี้ และหันมาช่วยกันทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองรุ่งเรืองบ้าง

‘พระมหาไพรวัลย์’ โพสต์เหน็บแรง ไม่เคยทำเดรัจฉานวิชา - ปลุกเสกผ้ายันต์

เป็นประเด็นดราม่าเดือดต่อเนื่อง หลัง “พระมหาไพรวัลย์” ไลฟ์สดประกาศเตรียมสึก โดยระบุถึงเหตุผลสืบเนื่องมาจาก อาณาจักรรุกเข้ามาควบคุมศาสนจักรมากเกินไป หลัง พระราชปัญญาสุธี (อุทัย ญาโณทโย) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นเจ้าอาวาส

'จุรินทร์' ประกาศ ไทยยื่นสัตยาบัน RCEP แล้ว ตั้งเป้าต้นมกราคม 65 มีผลบังคับใช้ ลุยการค้า-การส่งออก ตลาดใหญ่ของโลก 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ แถลงข่าวเรื่อง RCEP หลังจากที่สมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค 15 ประเทศได้ร่วมลงนาม

นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องการให้สัตยาบัน RCEP( Regional Comprehensive Economic Partnership) โดยกติกาข้อตกลง RCEP ซึ่งมีสมาชิกปัจจุบัน  15 ประเทศ ประกอบด้วย อาเซียน 10 ประเทศ กับอีก 5 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งได้มีการเจรจาและเป็นที่ยุตติเมื่อปี 2562 ขณะที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพและได้มีการออกแถลงการณ์ร่วมกันเสร็จสิ้นแล้วในเวลานั้น แต่ว่ายังไม่มีผลบังคับใช้ เพราะเงื่อนไขที่กำหนดไว้ คือ อย่างน้อยในกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศต้องมีไม่น้อยกว่า 6 ประเทศให้สัตยาบัน และประเทศนอกสมาชิกอาเซียนที่มี 5 ประเทศอย่างน้อย 3 ประเทศร่วมให้สัตยาบัน รวม 3 + 6 ก็เป็น 9 ประเทศ ขณะนี้ในกลุ่มประเทศอาเซียนมีแนวโน้มว่าจะให้สัตยาบันครบ 6 ประเทศแล้ว ประกอบด้วย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชาและเวียดนาม รวมทั้งประเทศ ไทย ได้ยื่นให้สัตยาบันแล้วเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โดยยื่นต่อสำนักเลขาธิการอาเซียนที่ประเทศอินโดนิเซีย ส่วนประเทศนอกสมาชิกอาเซียน มีจีนกับญี่ปุ่นยื่นไปแล้ว ถ้ามีอีกหนึ่งประเทศ ก็ถือว่าครบตามเงื่อนไข ซึ่งคาดว่าต้นปีหรือเดือนมกราคม 65  ข้อตกลง RCEP จะบังคับใช้ในประเทศสมาชิก 15 ประเทศต่อไป ซึ่งจะมีผลให้ RCEP กลายเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรรวมกันถึง 2,300 ล้านคน คิดเป็น 30% ของประชากรโลก และทำให้กลุ่มประเทศ RCEP มีจีดีพี 33.6% ของจีดีพีโลก หรือ 1 ใน 3 ของจีดีพีโลก มูลค่าการค้าประมาณ 30% ของมูลค่าการค้าโลก ถ้ามีผลบังคับใช้ก็จะเป็นประโยชน์กับประเทศสมาชิกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศไทย 

" ยกตัวอย่าง เช่น ประเด็นที่1 การส่งออกภาษีเป็นศูนย์อย่างน้อย 39,366 รายการ โดยลดเหลือศูนย์ จำนวน 29,891 รายการทันทีที่บังคับใช้ ประเด็นที่2 ตลาด RCEP จะเป็นการเพิ่มโอกาสส่งออกสินค้าไทยหลายรายการ เช่น ผลไม้สดและแปรรูป สินค้าประมง ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์และส่วนประกอบ พลาสติก เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เป็นต้น ประเด็นที่3 ไทยจะได้รับการอำนวยความสะดวกทางการค้าโดยเฉพาะในการส่งออก  เมื่อสินค้าไปสู่ด่านถ้าเป็นสินค้าเน่าเสีย ผู้ค้าจะต้องปล่อยสินค้าภายในเวลา 6 ชั่วโมง จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออกผลไม้ ผักและสินค้าเน่าเสียหลายรายการของไทย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top