Monday, 7 July 2025
Hard News Team

สศช. คาดจีดีพีไทยปีนี้โต 3.5 – 4.5%

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 4 ทั้งปี 2564 และแนวโน้มปี 2565 ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 4 ขยายตัว 1.9% โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกตัว ทั้งนี้การขยายตัวของเศรษฐกิจไตรมาสดังกล่าว เป็นผลมาจากตัวเลขการส่งออกที่ยังคงขยายตัวได้ในระดับสูง โดยเฉพาะปริมาณการส่งออกสินค้าขยายตัว 16.6% รวมถึงปริมาณส่งออกบริการขยายตัว 30.5% ยกเว้นการลงทุนรวมที่ยังติดลบอยู่ 0.2%

ดังนั้นจึงส่งผลให้ทั้งปี 2564 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ที่ 1.6% เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่เคยประเมินว่า จะขยายตัวได้ 1.2% เป็นผลมาจากการส่งออกสินค้าและบริการ และการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเร่งขึ้น เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนและการลงทุนภาครัฐกลับมาขยายตัว

'นายกรัฐมนตรี' พอใจเศรษฐกิจไทยปี 2564 เติบโต 1.6% สูงกว่าคาด ย้ำเดินหน้าฟื้นฟูประเทศในภาคท่องเที่ยว เร่งการลงทุนภาครัฐ ผลักดันการส่งออก ดูแลปัญหาหนี้สินครัวเรือน พร้อมจำกัดวงการแพร่ระบาดโควิด-19  

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาสที่4/64 และทั้งปี 2564 จากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ว่าทั้งปี 2564 เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ 1.6% ซึ่งสูงกว่าที่ สศช. ได้ประมาณการไว้1.2%  

ทั้งนี้ การเติบโตในหลายส่วนก็เป็นผลจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล เช่นการบริโภคของประชาชนที่ดีขึ้นจากที่รัฐบาลมีมาตรการเยียวยา แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย การบริโภคและลงทุนของรัฐที่เติบโตจากการเร่งรัดการเบิกจ่าย ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวจากการทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวภายใต้มาตรการที่ปลอดภัย ควบคู่ไปกับการดูแลประชาชนทั้งด้านการป้องกันและรักษาจากโรคโควิด-19  

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า  นายกรัฐมนตรีพอใจกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยเผชิญกับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงเช่นเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก  โดยรัฐบาลได้พยายามทุกวิถีทางอย่างเต็มที่ในการดูแลชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในช่วงเวลาที่ยากลำบาก  

สำหรับปี 2565 ที่สภาพัฒน์ได้ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจะดีกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายด้านแต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่าในปี 2565 นี้รัฐบาลจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการฟื้นฟูประเทศจากผลกระทบของโควิด-19 ควบคู่ไปกับการดูแลการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด   

โดยรัฐบาลจะรักษาแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวมาได้แล้วตั้งแต่ปลายปี 2564 ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายในครัวเรือน ที่จะมีการดูแลกลไกต่างๆ เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาสินค้าและค่าครองชีพของประชาชน แก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนให้ต่อเนื่อง  ฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว เร่งรัดการเบิกจ่ายภาครัฐทั้งส่วนของรายจ่ายประจำและการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่การลงทุนเอกชนจะดำเนินนโยบายสนับสนุนทั้งการฟื้นตัวและลงทุนของนักลงทุนไทย และการดึงดูดลงทุนของต่างชาติ ตลอดจนการขับเคลื่อนการส่งออกที่ปีนี้จะยังคงได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศ 

‘หญิงหน่อย’ กระตุกรัฐ!! หลังเตียงเริ่มไม่พอ พร้อมจี้ทบทวนสูตรไขว้วัคซีนให้กลุ่มเด็ก

‘สุดารัตน์’ นำทัพคาราวานไทยสร้างไทยเยือนทุ่งครุ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. พร้อมเตือนรัฐบาลรับมือโควิดระบาดหนัก อ้าง!! ชาวบ้านร้องเตียงไม่พอ จี้ทบทวนสูตรไขว้วัคซีนให้เด็ก แนะหาวัคซีนคุณภาพ-สร้างจุดตรวจคัดกรองแยกผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาโดยเร็ว

21 ก.พ. 65 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยนายสุธา ชันแสง ผู้บริหารพรรค นำทัพขบวนคาราวานสร้างไทย 77 จังหวัด พบปะประชาชนเขตทุ่งครุ พร้อมเปิดตัวนายฉัตรพล ขวัญบัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตทุ่งครุ โดยมีประชาชนชาวทุ่งครุให้การตอบรับอย่างคึกคักตลอดเส้นทาง

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก ถึงสถานการณ์โควิดที่ได้กลับมาแพร่ระบาดอย่างหนักในช่วงนี้ว่าเตียงโรงพยาบาล เริ่มไม่เพียงพอต่อผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งมีความน่าเป็นห่วง และน่ากังวลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ป่วยอาการหนัก ที่โรงพยาบาลหลายแห่งในกทม. และจังหวัดใหญ่ๆ เตียงสำหรับผู้ป่วยโควิดอาการหนัก เริ่มไม่พอรองรับ จึงขอให้รัฐบาลอย่านิ่งนอนใจ และต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือ เพราะจากตัวเลขข้อมูลของ ศบค. มีผู้ติดเชื้อที่รับการรักษากว่า 166,000 คน แบ่งเป็นรับการรักษาที่โรงพยาบาลกว่า 77,000 คน และโรงพยาบาลสนามและอื่นๆ อีก 89,000 คน 

เพจ 'ครูมานะ' โพสต์เตือนชาวพุทธ งดถวายเงินพระ ต้นตอทำพุทธศาสนาเสื่อม

เพจ 'ครูมานะ' ได้โพสต์ข้อความเตือนชาวพุทธที่มักนิยมการถวายเงินแก่พระ หรือภิกษุสงฆ์ ว่า... 

เลิกเอาเงินให้ภิกษุ-สงฆ์เสียทีเถิด พระรับเงินรับทองเป็นอาบัติที่รุนแรงมาก  

พระพุทธศาสนาของเราเสื่อมลงถึงวันนี้ เป็นเพราะโยมเอาเงินไปถวายพระ หรือภิกษุสงฆ์ออกอุบายให้เรี่ยไรบริจาค ล้วนเป็นบาป 

หยุดทำร้ายพระศาสนา, หยุดสร้างกลุ่ม "เบญจราคี" ที่สร้างความโสโครกโสมมเพิ่มขึ้น

การสวดอภิธรรมศพก็ดี, กิจนิมนต์สงฆ์ในพิธีต่างๆ ก็ดี จงงดเว้นการใส่ซองขาว

มิฉะนั้นอาบัติผิดวินัยอย่างร้ายแรง

- สมเด็จพระสังฆราช -


ที่มา : https://www.facebook.com/160220424163209/posts/1890980054420562/

อุทยานฯ น้ำตกสามหลั่น สั่งปิดจุดนอนชมวิวริมน้ำ หลังนักท่องเที่ยวมือบอนจุดไฟแช็กลนเชือกตาข่าย

อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น จ.สระบุรี ประกาศปิดจุดเทอร์เรซนอนชมวิวริมน้ำ ของอุทยานฯ เนื่องจากตรวจสอบพบนักท่องเที่ยวได้นำไฟแช็กมาลนเชือก ที่เป็นตาข่ายจุดนอนชมวิว ทำให้เกิดความชำรุดเสียหายและเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวท่านอื่นเป็นอย่างมาก ทางอุทยานฯ จำเป็นต้องขอแจ้งงดใช้พื้นที่นี้จนกว่าจะปรับปรุงแก้ไขให้อยู่ในสภาพแข็งแรงสมบูรณ์

ดันสหกรณ์ช่วยกระจายสินค้าเกษตรในปี 65

น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ว่าโครงการปรับโครงสร้างการผลิต การรวบรวม และการแปรรูปของสถาบันเกษตรกรรองรับผลผลิตทางการเกษตร ขณะนี้สามารถเบิกจ่ายได้ 1,583 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.5 ของงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาล 1,629 ล้านบาท 

สำหรับสหกรณ์ที่เข้าโครงการ 240 แห่ง ใน 59 จังหวัด โดยขณะนี้เกือบทุกแห่งสามารถที่จะรวบรวมผลผลิตทางการเกษตรได้เพิ่มขึ้น ในฤดูกาลผลิตปี 2565 นี้ จะใช้ระบบสหกรณ์เหล่านี้เข้าไปช่วยขับเคลื่อนเสริมกลไกตลาดที่สำคัญในการกระจายผลผลิตและเป็นแก้มลิงชะลอผลผลิตทางการเกษตรกรณีผลผลิตล้นตลาด ซึ่งในปีที่ผ่านมาการใช้ระบบสหกรณ์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

ห่วง!! Metaverse ส่งผลกระทบ 'เด็ก-กลุ่มเปราะบาง' แม้พร้อมรับ 'สุข-ทุกข์' แต่ขาดความรู้เท่าทันในโลกใหม่

หากเรามองย้อนไปถึงที่มาของเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ในทุกยุคทุกสมัย ล้วนเกิดขึ้นเพื่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่ได้เปรียบ แต่แทบไม่มีเทคโนโลยีใดเลยที่จะคิดคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมในระยะยาวและสร้างขีดจำกัดของการบริโภค รวมทั้งรวมต้นทุนความรับผิดชอบต่อสังคมนั้นไว้ตั้งแต่แรก ดังเช่นในขณะนี้ที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงของเมตาเวิร์ส จะมีสักกี่คนที่มองเห็นอนาคตของปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กและกลุ่มเปราะบางที่พร้อมจะหัวเราะและร้องไห้ไปกับโลกใหม่แต่ขาดความรู้เท่าทัน

“ปัญหาเด็กติดเกมที่ว่ารุนแรงและเรื้อรังแล้ว เมื่อเข้าสู่ยุคเมตาเวิร์สที่สามารถทำให้ผู้คนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงได้อย่างเต็มตัวแล้ว ยิ่งพบว่าจะทวีความรุนแรงได้มากกว่า ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ ผลกระทบต่อสุขภาวะจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนทางอารมณ์ (Stress Hormone) ที่ยิ่งจะทำให้เด็ก และกลุ่มเปราะบางเกิดความก้าวร้าวหรือซึมเศร้า ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม จากการเสพติดเกมหรือเชื่อมต่อสังคมในเมตาเวิร์สโดยขาดการควบคุมดูแลที่เหมาะสม”

รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวมหาวิทยาลัยมหิดล ให้มุมมองเกี่ยวกับเมตาเวิร์สในอีกด้านที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสังคม และเห็นว่า การออกแบบเมตาเวิร์สควรสร้างขึ้นด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบต่อสังคม เช่นเดียวกับการออกแบบโรงงานอุตสาหกรรม ที่จะต้องมีการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EIA หรือ EHIA) ก่อนทุกครั้ง ดังนั้น เพื่อการเติบโตทางเทคโนโลยีที่สมดุล ทุกฝ่ายจะต้องร่วมด้วยช่วยกันในการออกแบบระบบ

ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ ผู้บริโภค พ่อแม่ผู้ดูแล รวมทั้งเด็กๆ ที่เป็นผู้ใช้ จะต้องเรียนรู้ไปด้วยกันมีเป้าหมายที่สร้างสรรค์ และอยู่ภายใต้กรอบแห่งความรับผิดชอบร่วมกัน พร้อมกับอธิบายต่อไปว่า “พฤติกรรม” เกิดจากการทำงานของสมองที่นำมาซึ่งประสบการณ์ ความทรงจำ และทัศนคติ สามารถส่งเสริมให้เป็นไปในทางสร้างสรรค์และเกิดความสมดุล เช่น การเล่านิทานโดยใช้สื่อดิจิทัลแต่เพียงเป็นส่วนประกอบ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรปล่อยให้เด็กเรียนรู้แต่เพียงลำพัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก แต่ควรมีพ่อแม่ หรือผู้ปกครองคอยเล่าให้ฟัง และพูดคุยกับเด็กด้วย

องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ รับลูก 'โรม' ชงจุฬาฯ มอบปริญญา 'พล.ต.ต.ปวีณ'

จากการอภิปรายของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กรณีปัญหาการค้ามนุษย์ ขบวนการลักลอบขนชาวโรฮีนจา เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมกับเรื่องราวตำรวจเลวได้ดี ตำรวจดีต้องลี้ภัย โดยมีตัวอย่างของ พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตหัวหน้าทีมสืบสวนคดีค้ามนุษย์ที่ต้องลี้ภัยออกจากประเทศไทยไปเมื่อปี 2558 ที่มีพยานหลักฐานซึ่งรวบรวมเอาไว้ถึง 270,000 แผ่นกระดาษของ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่นายรังสิมันต์ นำมาใช้ในการเผยแพร่ทั้งในและนอกรัฐสภา

พร้อมกันนี้ยังมีวิดีโอคอลไปหาพล.ต.ต.ปวีณ โดยมีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ร่วมกันแถลงหลังเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152

“โฆษกรัฐบาล” ยัน รัฐบาล ทุ่มเทแก้ค้ามนุษย์ ซัด ฝ่ายค้านอย่าทำประชาชนสับสน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายปัญหาคอร์รัปชันจากเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะชาวโรฮีนจา ที่ถูกทรมานและโดนกระทำ ว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับปัญหาค้ามนุษย์ที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ตลอดจนภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผลกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังมาโดยตลอด

นายธนกร กล่าวว่า  กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับเน้นย้ำมาตลอด ให้ทุกส่วนราชการช่วยเหลือและคุ้มครองเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยไม่เลือกปฏิบัติในทุกเชื้อชาติเป็นการเร่งด่วน  เพื่อร่วมคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้เหยื่อที่ได้รับการบังคับกดขี่ โดยเฉพาะการค้าประเวณี และการใช้ความรุนแรงที่ยังคงเหลืออยู่ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐหากเข้าไปมีส่วนร่วมกับการค้ามนุษย์จะต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะมีตำแหน่งสูงแค่ไหนก็ตาม ห้ามละเว้นทุกกรณี

นายธนกร กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหากาค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลว่ามึความตั้งใจแก้ไขปัญหามากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา สอดคล้องกับผลสำรวจของซูเปอร์โพล (SUPER POLL)ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.0 ระบุ รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ให้ความสำคัญต่อด้านมนุษยธรรมและการคุ้มครองมากกว่าอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะการต่อต้านการค้ามนุษย์ ในขณะที่ร้อยละ 72.7 เห็นความสำคัญและตระหนักต่อเรื่องของมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน เสรีภาพและต้องการความคุ้มครองจากรัฐมากขึ้นในกลุ่มเด็ก เยาวชน และผู้หญิง ร้อยละ 75.1 เชื่อมั่นว่า ความตั้งใจจริงของรัฐบาล การใส่ใจจริงจังในหน้าที่ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง มีส่วนสำคัญในการป้องกันและแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน 

“โฆษกรัฐบาล” เผย นายกฯ ย้ำ ปชช.รู้ทันเทคโนโลยี วอน อย่าหลงเชื่อข่าวโควิด-19 ปลอม   แนะตรวจสอบแหล่งข้อมูลทุกครั้งก่อนแชร์   

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังการสร้างข่าวปลอม และบิดเบือนข้อมูลนโยบายรัฐบาล และข่าวสารทางราชการโดยเฉพาะในเรื่องโควิด-19  จากการติดตามตรวจสอบของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)ขณะนี้มีหลายข่าวที่มีการแชร์ข้อมูลจะมีการเชื่อมโยงกับสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ในความสนใจของประชาชนติดตามข่าวสาร เพื่อล่อลวงให้คนเข้ามาคลิกอ่าน เกิดความตื่นตระหนก หลงเชื่อ และแชร์ข่าวปลอมโดยรู้ไม่เท่าทัน

พร้อมกันนี้ก็ฝากย้ำเตือนไปยังประชาชนทุกคนใช้เทคโนโลยีและการรับข้อมูลข่าวต่าง ๆ อย่างรู้เท่าทัน อย่าลงเชื่อข้อมูลข่าวสารที่ได้รับโดยทันทัน แต่ขอให้มีการพิจารณา คิดวิเคราะห์ และตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ทุกครั้งก่อนเชื่อและเผยแพร่แชร์ข้อมูลออกไป

เพื่อช่วยกันป้องกันข้อมูลคลาดเคลื่อนที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและนำไปสู่ความตื่นตระหนกและความวุ่นวายในสังคมได้ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัดรวมทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บริหารจัดการสถานการณ์การแพร่รระบาดในพื้นที่ รวมทั้งเร่งนำผู้ป่วยโควิด-19 เข้าสู่ระบบการรักษาตามลำดับอาการ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top