Monday, 23 June 2025
Hard News Team

บ.เยอรมนี เซ็นซื้อก๊าซ บ.รัสเซียต่ออีก 10 ปี ด้านมะกะโรนีจ่อตามรอยเบียร์ติด ๆ

สหรัฐฯ กุมขมับ หลังส่อแววอดขายก๊าซแพง เมื่อ Uniper ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีประกาศเลิกเล่นละครลิง เดินหน้าสู่วิถีคนจริง ยอมรับกันตรง ๆ ว่าจะนำเข้าก๊าซจากรัสเซียต่อไปอีกอย่างน้อย 10 ปีแม้สหภาพยุโรปจะมีมติหรือหรือการรณรงค์ให้คว่ำบาตรพลังงานรัสเซียก็ตาม

World Maker เผย ล่าสุดเยอรมนีเซ็นสัญญาค้าก๊าซกับรัสต่ออีก 10 ปี โดยไม่ฟังคำสั่งสหรัฐฯ ที่เริ่มเสื่อมอำนาจ และยังกล่าวอีกว่า จนถึงตอนนี้บริษัท Gazprom ของรัสเซียก็ยังถือเป็น Supplier ที่ไว้ใจได้เสมอ ทำให้เยอรมนีไม่อาจตัดขาดก๊าซจากรัสเซียได้

Klaus-Dieter Maubach ซีอีโอ ของ Uniper ซึ่งถือเป็น 1 ในผู้ซื้อก๊าซรัสเซียรายใหญ่ที่สุดของทวีป ประกาศว่าล่าสุดได้ทำสัญญากับ Gazprom PJSC ต่ออีก 10 ปี (จะหมดอายุในกลางทศวรรษที่ 2030)

อย่างไรก็ตาม Klaus ก็ยังมีฟอร์มอยู่เล็กน้อย โดยเขากล่าวว่า Uniper จะไม่ขยายสัญญาเหล่านี้ หรือเริ่มต้นสัญญาใหม่ใด ๆ ในตอนนี้

‘ดร.อานนท์’ ยัน เพลง ‘พ่อมึง’ ไม่มีอะไร แค่รุ่นใหญ่สั่งสอน ‘เด็กขนอุย’ งง ทำไมต้องดิ้น

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์นิด้า สงสัยเหตุใด 3 กีบของขึ้น หลังฟังเพลง ‘พ่อมึง’ ของ ‘ไทยเทเนียม’ ชี้เพลงก็ไม่มีอะไร แค่รุ่นใหญ่สั่งสอนเด็กขนอุย อย่าคิดว่าแน่นักหนา

จากกรณี ‘ไทยเทเนียม’ ปล่อยเพลงใหม่ออกมากับเพลงที่มีชื่อว่า ‘พ่อมึง’ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งเป็นซิงเกิลล่าสุดที่สมาชิก ขัน, เดย์, เวย์ กลับมารวมตัวกันทำเพลงอีกครั้ง หลังจากประกาศแยกวง ปิดตำนานไทยเทเนียมไปแล้วเมื่อปีก่อน แต่หลังจากที่แฟนๆ ได้ฟังเพลง พ่อมึง ทางยูทูบช่อง THAITANIUM แล้วล้วนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันถ้วนหน้า เช่น เนื้อเพลงไม่สร้างสรรค์เลย เอาจริงๆ พันช์ไลน์ก็ไม่คมเพราะไม่มีใครเขาไปดิสคุณ อันนี้เหมือนคุณอยู่ดีๆ ก็ไปดิสเหมารวมเขาโดยการเหยียดเจเนอเรชัน โดยส่วนใหญ่กลุ่มที่วิพากษ์วิจารณ์ก็คือกลุ่มสามกีบ

'กรณ์ - อรรถวิชช์' นำ 12 ส.ก. ลงนามสัตยาบรรณ ถือคำมั่น ปฏิบัติหน้าที่โปร่งใส - ไร้เงินทอน

"กรณ์ - อรรถวิชช์" นำผู้สมัคร ส.ก.พรรคกล้า 12 เขต ลงนามสัตยาบรรณต่อ "องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)" ปฏิบัติหน้าที่ ส.ก.ยุคใหม่ โปร่งใส ไร้เงินทอน พร้อมร่วมตรวจสอบการใช้งบประมาณเขต "มานะ" ย้ำ สัตยาบันถือเป็นคำมั่นสัญญา ต้องปฏิบัติหน้าที่โปร่งใส

15.30 น. 18 พ.ค. 65 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า, นายสมัย เจริญช่าง นำผู้สมัคร ส.ก.พรรคกล้า ทั้ง 12 คน เข้ายื่นหนังสือลงนามสัตยาบัน พร้อมให้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมตรวจสอบการใช้งบประมาณเขตพื้นที่ หากผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 12 เขตพื้นที่ ได้รับเลือกตั้งเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ตามแนวคิด "ส.ก.ยุคใหม่ ต้องโปร่งใส ไร้เงินทอน" โดยมี ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เป็นผู้รับมอบหนังสือ

นายกรณ์ กล่าวว่า ปัญหากรุงเทพมหานครมีเยอะหลายเรื่อง วันก่อนที่ตนเองไปรณรงค์เรื่องใบอนุญาตการสร้างสูง หรือเมื่อคืนนี้ที่เลขาธิการพรรคต้องลงพื้นที่ไปติดตามการระบายน้ำ รวมถึงอีกหลายปัญหาที่ได้รับฟังจากประชาชนระหว่างการหาเสียง ส่วนหนึ่งก็มาจากการทุจริตคอรัปชั่น แต่หากผู้สมัคร ส.ก. ทั้ง 12 คนของพรรคกล้า ให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใส และมีโอกาสได้รับเลือกตั้งเข้าทำงาน รวมถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมตัดสินใจในการใช้งบประมาณ จะทำให้การทุจริตคอรัปชั่นมีโอกาสเกิดได้ยากขึ้น

'ก.อ.' เชือด 'เนตร นาคสุข' ให้ออกจากราชการ ชี้ ใช้ดุลพินิจไม่รอบคอบ สั่งไม่ฟ้องคดี ‘บอส อยู่วิทยา’

ก.อ.มีมติเอกฉันท์ เชือด ‘เนตร นาคสุข’ กรณีไม่สั่งฟ้อง ‘บอส อยู่วิทยา’ ขับรถชน ตร.ตาย โดยกำหนดโทษให้ออกจากราชการ ลดจากโทษ ‘ปลดออกจากราชการ’ เหตุเพราะรับราชการมา40 ปี ทำประโยชน์ให้ราชการมามาก 

18 พ.ค.2565 - ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนเเจ้งวัฒนะ นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ. )เป็นประธาน การประชุม ก.อ. โดยในที่ประชุมได้มีลงมติ ผลสอบคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหา คดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อเสียชีวิต ซึ่งได้มีการส่งผลการสอบสวนให้ นายพชร ประธาน ก.อ.เมื่อช่วงหลังหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา

โดยภายหลังการประชุม นายพชร กล่าวว่าในวันนี้ที่ประชุม ก.อ.มีผู้เข้าร่วมประชุม 14 คน ลา 1 คน ซึ่งมี ก.อ.ที่เคยถูกตั้งเป็นกรรมการสอบสวนวินัย นายเนตรจำนวน6 คนที่ประชุมจึงให้งดออกเสียงโดยกรรมการที่มีสิทธิลงมติจึงเหลือ 8 คน

กรรมการทั้ง 8 มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นว่า นายเนตรขาดความระมัดระวังละเอียดรอบคอบในการรับฟังข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่สำคัญในคดีและ ไม่ให้ความสำคัญกับสำนวนทุกประเภท ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญา ของพนักงานอัยการ (อันเป็นระเบียบที่ใช้บังคับในขณะกระทำความผิดตามที่ ถูกกล่าวหา) เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง อันเป็นการกระทำความผิด ฐานไม่ปฏิบัติ หน้าที่ราชการด้วยความระมัดระวัง เป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการ ไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบ แบบแผนของทางราชการ ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการ อย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 และความผิดฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความระมัดระวัง เป็นเหตุ ให้เสียหายแก่ราชการ และฐานไม่ถือและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ตาม แห่งพรบ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 เป็นความผิด วินัยไม่ร้ายแรง 

ส่วนความผิดฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ ราชการอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการกระทำครั้งเดียวผิดวินัย หลายฐาน จึงเห็นควรลงโทษในสถานความผิดวินัยอย่างร้ายแรงที่มีโทษหนักกว่า แต่ทางสอบสวน ไม่ ปรากฏพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าผู้ถูกกล่าวหาทุจริตต่อหน้าที่ราชการ จึงยังไม่ถึงขนาดที่จะต้องถูกไล่ออกจากราชการ เห็นพ้องกันว่าควรลงโทษผู้ถูกกล่าวหา “ปลดออกจากราชการ” แต่เมื่อพิจารณา ถึงประวัติการรับราชการพบว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่เคยถูกลงโทษในการกระทำความผิดทางวินัยมาก่อน และกรณีดังกล่าวนี้เป็นการกระทำความผิดทางวินัยครั้งแรก ผู้ถูกกล่าวหาเองได้รับราชการมาเป็น ระยะเวลานานกว่า 40 ปี ทำคุณประโยชน์แก่ราชการไว้มาก กรณีมีเหตุอันควรลดหย่อนโทษให้แก่ ผู้ถูกกล่าวหาคณะกรรมการ ก.อ.ทั้ง 8 ซึ่งรวมตนด้วยจึงมีมติเเละคำสั่งให้ ลงโทษนายเนตร นาคสุข ผู้ถูกกล่าวหา ในสถาน “ให้ออกจากราชการ” ตาม พรบ. ข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 85,87

นายพชร กล่าวต่อว่า มติก.อ.วันนี้ถือว่าสิ้นสุดแล้วในส่วนของการดำเนินการทางวินัย หากนายเนตรไม่เห็นด้วย กับมติ ก.อ.ก็ยังสามารถใช้วิธีทางปกครองโดยการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้ ทั้งนี้คำสั่งให้ออกจากราชการมีผลตั้งแต่วันที่มีการอนุมัติให้ลาออกจากราชการแล้วในส่วนการดำเนินคดีอาญากับนายเนตร ในส่วนของสำนักงานอัยการ นั้นคงไม่มีแล้ว คงให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่น อย่างไรก็ตามในส่วนของนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องในการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถยนต์นั้น เราก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงโดยมี นายประพัฒน์พงศ์ สุคนธ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครอง เป็นประธานสอบ แต่จะเป็นความผิดสถานใดก็ต้องรอดูผลสอบสวน

เมื่อถามว่า การลงโทษนายเนตร นาคสุข แค่ให้ออกจากราชการมองว่าเป็นการช่วยเหลือกันหรือไม่

นายพชรยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือกัน เพราะนายเนตร นั้นในหมู่อัยการรู้นิสัยกันดีว่าจริงๆแล้วนายเนตรไม่ควรจะขาดความรอบคอบ แต่เราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า การสั่งคดีนั้นมีการทุจริตตรงไหน นายเนตรถือเป็นอัยการที่มือสะอาด แต่การใช้ดุลพินิจในขณะนั้นจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ถือว่าขาดความรอบคอบจากมาตรฐานของคนที่ทำคดีมายาวนาน ซึ่งต้องมีความรอบคอบมากขึ้น และต้องสอบพยานคนกลางที่มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้เป็นที่ยอมรับของสังคม

“องค์กรอัยการเราอยู่มาถึง 140 กว่าปี ถ้าเราไม่ได้รับความเชื่อถือต่อสังคม เรารับไม่ได้ เพราะองค์กรจะต้องอยู่ต่อไป เราเป็นทนายแผ่นดิน เป็นข้าแผ่นดิน ถ้าทนายแผ่นดินเชื่อถือไม่ได้ ก็ไม่รู้จะสรรหากระบวนการยุติธรรมไหนที่เชื่อถือได้อีกแล้ว” ประธานก.อ.ระบุ

SME D Bank เติมวงเงิน 'สินเชื่อ 3D' อีก 4 พันล้าน หนุนผู้ประกอบการขยายโอกาสรับเปิดประเทศ

SME D Bank อัดฉีดวงเงิน “สินเชื่อ 3D” เพิ่มอีก 4,000 ล้านบาท รวมเป็น 19,000 ล้านบาท หนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน เดินหน้าธุรกิจได้เต็มที่ รับกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้นจากนโยบายเปิดประเทศ แถมขยายหลักเกณฑ์ เปิดกว้างกู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หากหลักประกันไม่พอ สามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้

น.ส.นารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า ทางธนาคาร เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนขานรับนโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล โดยเพิ่มวงเงิน “สินเชื่อ 3D” อีก 4,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 15,000 ล้านบาท รวมเป็น 19,000 ล้านบาท รวมถึงขยายเกณฑ์เปิดกว้าง กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล หากหลักประกันไม่พอสามารถใช้ บสย. ค้ำประกันได้

สำหรับ “สินเชื่อ 3D” ครอบคลุมทุกความต้องการของทุกกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี วงเงินกู้สูงสุดถึง 50 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.5% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี ประกอบด้วย...

สหรัฐฯ วิเคราะห์ข้อมูลกล่องดำ ‘ไชน่าอีสเทิร์น’ ชี้ เหตุเครื่องบินโหม่งโลก เกิดจาก ‘ความจงใจ’

2 เดือนหลังเครื่องบินไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลนส์ตกในภูเขาดับยกลำ สหรัฐฯ วิเคราะห์กล่องดำ พบ “ใครบางคนในห้องนักบิน จงใจนำเครื่องบินดิ่งพสุธา”

หลายคนอาจยังจำกันได้ เมื่อวันที่ 21 มี.ค. เกิดเหตุโศกนาฏกรรม เครื่องบินโบอิ้ง 737 รุ่น 737-800 ของสายการบินไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลน์ส ตกบนภูเขาทางตอนใต้ของจีน เที่ยวบินที่ MU 5735 ขณะเดินทางจากเมืองคุนหมิงไปกวางโจว จนเป็นเหตุให้ 132 ชีวิตบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด

จากข้อมูลของ FlightRadar24 เครื่องบินกำลังแล่นที่ระดับความสูง 29,100 ฟุต (ประมาณ 9,000 เมตร) แต่หลังจากนั้น 2 นาที 15 วินาทีก็ร่วงลงมาอยู่ที่ 9,075 ฟุต ซึ่งคาดว่าการตกเป็นลักษณะเครื่องเอาหัวดิ่งลงมา

โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถเก็บกู้กล่องดำของเครื่องบินลำดังกล่าวได้ และได้นำไปตรวจสอบหาสาเหตุการตก

ล่าสุด ผ่านไปเกือบ 2 เดือนหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นจากกล่องดำ และพบว่า “มีใครบางคนในห้องนักบิน จงใจนำเครื่องบินดิ่งพสุธา”

แหล่งข่าวซึ่งไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ บอกว่า ข้อมูลจากกล่องดำที่กู้คืนได้ บ่งชี้ว่า ตอนเกิดเหตุ “มีการอินพุต (ใส่คำสั่ง) ไปยังส่วนควบคุม ให้เครื่องบินทิ้งดิ่งลงมา”

แหล่งข่าวเสริมว่า “เครื่องบินทำตามที่คนในห้องนักบินบอกให้ทำ”

นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่จีนซึ่งเป็นผู้นำการสอบสวน ยังไม่ได้ระบุพบปัญหาทางกลไกหรือการควบคุมการบินใด ๆ ซึ่งเป็นการสนับสนุนผลการประเมินของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ

อียู ไฟเขียว สมาชิกซื้อแก๊สตามกลไกรัสเซีย ชี้ ไม่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตร แค่ปรับท่าที

สหภาพยุโรป (อียู) ระบุบริษัทต่างๆ สามารถซื้อแก๊สรัสเซียโดยไม่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตร ถือเป็นการปรับท่าทีโอนอ่อนลงในการเผชิญหน้ากับรัสเซียเกี่ยวกับอุปทานทางพลังงาน

คณะกรรมาธิการยุโรปได้ออกคำแนะนำที่ปรับใหม่ แล้วส่งไปยังชาติสมาชิกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พ.ค.) โดยเนื้อหาที่ปรับปรุงใหม่ระบุไว้ว่าบริษัทต่างๆ ต้องทำให้ชัดเจนว่าพวกเขามีเจตนาในการปฏิบัติตามข้อบังคับภายใต้สัญญาที่มีอยู่ และถือว่าได้ทำตามข้อกำหนดครบแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งชำระค่าก๊าซด้วยเงินสกุลยูโร หรือดอลลาร์สหรัฐ

คำแนะนำของคณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า "มาตรการคว่ำบาตรของอียู ไม่ได้ขัดขวางผู้ประกอบการจากการเปิดบัญชีธนาคารหนึ่งในธนาคารที่กำหนดไว้ เพื่อชำระเงินภายใต้สัญญาณต่างๆ สำหรับจัดหาก๊าซธรรมชาติ ด้วยสกุลเงินที่ระบุในในสัญญา" คณะกรรมาธิการกล่าว "พวกผู้ประกอบการควรแสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าพวกเขามีความตั้งใจทำตามเงื่อนไขของสัญญาต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และพิจารณาว่าได้ทำตามภาระผูกพันในเรื่องของการชำระหนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ด้วยการจ่ายเงินเป็นยูโรหรือดอลลาร์ ตามกรอบของสัญญาที่มีอยู่"

ในคำแนะนำใหม่นี้ไม่ได้ห้ามบริษัทต่างๆ เปิดบัญชีธนาคารกับก๊าซพรอมแบงก์ และจะช่วยให้พวกเขาซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียตามกรอบมาตรการคว่ำบาตรที่อียูกำหนดเล่นงานรัสเซียต่อกรณีรุกรานยูเครน แต่มันไม่ได้พูดถึงข้อบังคับของมอสโกที่ขอให้เปิดบัญชีที่ 2 ในสกุลเงินรูเบิล ซึ่งมันมีความจำเป็นตามคำสั่งฉบับหนึ่งของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพื่อให้การชำระเงินนั้นเสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้คำแนะนำดังกล่าวเป็นไปตามที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันเสาร์ (14 พ.ค.)

ญี่ปุ่น นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวไทย แต่มีเงื่อนไขฉีดวัคซีน 3 เข็ม - ไปกับทัวร์เท่านั้น

รัฐบาลญี่ปุ่นอนุญาตนักท่องเที่ยวจาก 4 ประเทศมายังญี่ปุ่นได้ มีเงื่อนไขต้องฉีดวัคซีนแล้ว 3 เข็ม และไม่สามารถเดินทางอิสระได้ เดือนนี้รับแค่ 50 คนเท่านั้น

กรมการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่นประกาศแผนให้นักท่องเที่ยวจากสหรัฐ ออสเตรเลีย ไทย และสิงคโปร์ มาท่องเที่ยวในญี่ปุ่นได้ โดยมีข้อกำหนด คือ

- ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดแล้ว 3 เข็ม (ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศรายชื่อวัคซีน แต่วัคซีนที่รัฐบาลญี่ปุ่นรับรองให้ใช้กับประชาชนในญี่ปุ่น ได้แก่ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา แอสตร้าเซนเนก้า และ โนวาแวกซ์)

- เดินทางมากับบริษัทท่องเที่ยว เป็นกลุ่มขนาดเล็ก ตามเส้นทางที่กำหนดไว้ และต้องมีไกด์ในญี่ปุ่นติดตามตลอดเส้นทาง (ไม่สามารถออกนอกเส้นทาง และท่องเที่ยวอิสระได้)

- พื้นที่ท่องเที่ยวต้องไม่อยู่ภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (ขณะนี้ทั้งประเทศญี่ปุ่นสิ้นสุดการบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว) และทางการท้องถิ่นต้องเห็นชอบด้วย

- ต้องมีประกันสุขภาพ (ยังไม่กำหนดวงเงิน และเงื่อนไข)

- ต้องปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมโรคระบาด, มีแผนรองรับหากติดเชื้อโควิด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งทุกหน่วย เร่งระดมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า จากกรณี มีฝนตกหนักในพื้นภาคเหนือ พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง และน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนเป็นวงกว้าง รวมถึงกรณีน้ำท่วมขังผิวจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อน จึงได้กำชับพร้อมสั่งการไปยังทุกหน่วย ได้เร่งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยด่วน ทั้งในเรื่องการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินของประชาชน การอำนวยความสะดวกด้านจราจร การจัดเตรียมสถานที่รองรับหากมีการอพยพ และการเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภค สำหรับแจกจ่ายบรรเทาความเดือดในเบื้องต้น

พล.ต.ต.ยิ่งยศฯ กล่าวอีกว่า เมื่อ 17 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่า ได้เกิดเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก บ้าน ม.1(บ้านดอกคำใต้) ม.3 (บ้านน้ำหลง) ม.4(บ้านงิ้วงาม) ต.แม่ตีบ อ.งาว จว.ลำปาง  ทำให้น้ำป่าเริ่มไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ทำให้สิ่งสาธารณประโยชน์ พืชผลทางการเกษตร ด้านปศุสัตว์ ด้านประมง ได้รับความเสียหายหนักนั้น

ทาง พ.ต.อ.สมพงษ์ บุญมาประเสริฐ ผกก.สภ.งาว จว.ลำปาง ได้ลงพื้นที่ พร้อมทั้ง มอบหมายให้ พ.ต.ท.โกศล วงศสถาน รอง ผกก.ป.ฯ, พ.ต.ต.ธนาศักดิ์ ศรีแปงวงค์ สว.ธร.ฯ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจจิตอาสา และ ชุด ชมส.สภ.งาว จว.ลำปาง เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยง เก็บไว้ที่ปลอดภัย ร่วมกับนายอำเภองาว พร้อมคณะ นายก อบต.แม่ตีบ และ นายก อบต.ในพื้นที่ หน่วยป่าไม้ ทหารค่ายประตูผา, กู้ภัย อ.งาว จว.ลำปาง  โดยได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ โดยช่วยขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยง เก็บไว้ที่ปลอดภัย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเร่งช่วยเหลือเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง นำน้ำดื่มและอาหาร พร้อมทั้งบรรจุกระสอบทรายนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 

“บิ๊กโอ๋” แถลงจับคนร้ายฆ่าคนตายและวิ่งราวทรัพย์ที่เพชรบุรี

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม พ.ต.อ.โกศล ยามา รอง ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.โชคชัย เนียลเซ็นผกก.สภ.ท่ายาง และ พ.ต.อ.วรวัชร แค้มวงค์ ผกก.สภ.เขาย้อย ร่วมแลงข่าวจับกุมคนร้าย 2 คดี โดยคดีแรกจับตัว นางจันทิมา หรือฟ้า วงค์วัทกี อายุ 26 ปี ชาว อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตามหมายจับศาล จ.เพชรบุรี ที่ 110/2565 ลงวันที่ 16 พ.ค. 65 ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 

ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายใช้ไม้ตี นางตี๋ แซ่ภู่ อายุ 70 ปี อาชีพทำไร่กล้วย-มะนาว จนเสียชีวิตขณะอยู่เพียงลำพังภายในบ้าน หมู่ 4 บ้านน้ำลัด ต.ท่าแลง อ.ท่ายาง ก่อนรื้อค้นเอาทรัพย์สินจำนวนหนึ่งหลบหนีไป จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นางจันทิมา ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ผู้ตาย

จึงตามจับตัวมาสอบปากคำและให้การรับสารภาพว่าเป็นคนใช้ไม้ตีนางตี๋จนเสียชีวิต สาเหตุโกรธแค้นที่ผู้ตายทวงเงินที่ตนเป็นหนี้อยู่ประมาณ 3 แสนบาท และด่าว่าตนเสียๆ หายๆ จึงตัดสินใจลงมือฆ่าเอาทรัพย์สินผู้ตายแล้วหลบหนีก่อนถูกจับได้ในที่สุด 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top