Saturday, 4 May 2024
สหรัฐอเมริกา

จีนยก ‘การทูตปิงปอง’ ร่วมมือกันได้ แม้แตกต่าง สูตรเติมสัมพันธ์ ‘จีน-สหรัฐฯ’ ขจัดมิติสงครามเย็น

กระทรวงการต่างประเทศจีน เน้นย้ำ ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ไม่มีแนวคิดแบบสงครามเย็นมาเกี่ยวข้อง พร้อมยก ‘การทูตปิงปอง’ เป็นตัวอย่างการทูตครั้งประวัติศาสตร์สองประเทศ ร่วมมือกันได้ แม้แตกต่าง

สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (CMG) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงการณ์ถึงวาระครบรอบ 50 ปี การทูตปิงปองระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า...

“จีนและอเมริกาเริ่มต้นสัมพันธ์ทางการทูตฉันมิตรผ่านการแข่งขันกีฬาปิงปอง เมื่อ 10 เมษายน ค.ศ. 1971 หรือกว่า 50 ปีที่แล้ว โดยจีนได้เชิญทีมนักกีฬาปิงปองจากสหรัฐอเมริกาไปเยือนจีนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 1949 ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นเครื่องเตือนใจให้สหรัฐฯ ทราบว่าความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ไม่ควรถูกครอบงำด้วยความคิดแบบสงครามเย็นและจะต้องไม่มีการวาดเส้นทางอุดมการณ์แบบแบ่งพรรคแบ่งพวก”

สหรัฐฯ อ่วม!! โควิดระลอกล่าสุด ‘รุนแรง-เลวร้าย’ กว่าปีก่อน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ระลอกล่าสุดในสหรัฐอเมริกา กำลังส่งผลกระทบต่อแผนกผู้ป่วยหนักของบางรัฐท้องถิ่น ขณะหลายพื้นที่ของประเทศเผชิญการระบาดที่รุนแรงกว่าปีก่อน

จากรายงานข่าวเมื่อวันจันทร์ (22 พ.ย. 64) อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ ระบุว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันผลหรือเป็นผู้ป่วยต้องสงสัยใน 15 รัฐท้องถิ่น กำลังมีสัดส่วนการครองเตียงในแผนกผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้ว

‘ปณิธาน’ แฉ!! เวทีประชาธิปไตย แค่เกมการเมืองสหรัฐฯ ฟากความมั่นคงชี้!! ไทยหลุดโผ สะท้อนไม่ใช่ลิ่วล้อมะกัน

สำนักข่าวอิศรา ได้เผยถึงกรณีที่ไทยถูกเมินและไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมเวทีการประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ผ่านมุมมอง รศ.ดร. ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์พิเศษประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า…

การไม่มีชื่อไทยเข้าร่วมประชุมสุดยอดด้านประชาธิปไตยที่สหรัฐฯ ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อประเทศไทยเลย แต่อาจถูกด้อยค่าบ้างจากการเมืองภายในประเทศเท่านั้น

สำหรับการประชุมดังกล่าวนี้มีหัวข้อสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.) นิวเคลียร์ในเกาหลีเหนือและอิหร่าน 2.) ปัญหา Climate Chang (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) และ 3.) ประชาธิปไตยแบบเสรีนิยมตะวันตก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ประกาศไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งก่อนเข้าดำรงตำแหน่ง

โดยเฉพาะประชาธิปไตยเสรีนิยมแบบตะวันตก ถือว่ามีความตกต่ำอย่างมากในระยะหลัง มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ระบุว่า ระบบการปกครองแบบนี้กำลังจะตาย เพราะแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำหรือสีผิวไม่ได้ จนถึงขั้นมีม็อบบุกอาคารรัฐสภาของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันการบริหารงานของโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีคนก่อนหน้าโจ ไบเดน ก็ส่งผลต่อประชาธิปไตยอย่างมากเช่นกัน

'ไบเดน' รับหวั่น!! Omicron​ แต่ยังไงก็ไม่ล็อกดาวน์ แนะ!! ปชช.สหรัฐฯ​ อย่าตื่นตระหนกเกินเหตุ 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เผย​ ตัวกลายพันธุ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ Omicron​ เป็นบ่อเกิดแห่งความกังวล แต่แนะพลเมืองอเมริกาอย่าได้ตื่นตระหนก และเผยว่าอเมริกากำลังจัดทำแผนฉุกเฉินกับบริษัทยาทั้งหลายหากว่าวัคซีนใหม่มีความจำเป็น

ไบเดนระบุว่าสหรัฐฯ​ จะไม่กลับเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของ​ Omicron​ และจะเปิดตัวกรอบยุทธศาสตร์ในวันพฤหัสบดี​ (2 ธ.ค. 64) สำหรับต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ในช่วงฤดูหนาว พร้อมเรียกร้องประชาชนเข้ารับวัคซีน ฉีดเข็มกระตุ้นและสวมหน้ากาก

"ตัวกลายพันธุ์นี้เป็นบ่อเกิดแห่งความกังวล แต่ไม่ได้ก่อความตื่นตระหนก" ไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาว หลังประชุมร่วมกับคณะทำงานด้านโควิด-19 ของเขา "เรากำลังจะสู้และเอาชนะตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้" ไบเดนระบุ

ทั้งนี้​ Omicron​ กำลังกระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ​ ทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ จำกัดการเดินทางจากภูมิภาคทางใต้ของทวีปแอฟริกา หลังจากพบไวรัสตัวดังกล่าว ผนวกกับในวันจันทร์​ (29 พ.ย.) องค์การอนามัยโลกเตือนว่า​ Omicron​ มีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อพุ่งพรวดขึ้นในหมู่นานาประเทศ แม้จนถึงตอนนี้จะยังไม่พบผู้เสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับตัวกลายพันธุ์ล่าสุดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดังกล่าวก็ตาม

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดน​ ยอมรับว่า​ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เคสผู้ติดเชื้อ​ Omicron​ จะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ แต่ เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวยืนยันว่าตัวกลายพันธุ์นี้ไม่ควรเป็นสาเหตุให้ชาวอเมริกันชนเปลี่ยนแผนการเดินทางช่วงวันหยุดยาว ตราบใดที่พวกเขาฉีดวัคซีนแล้วและสวมหน้ากาก

ไบเดนเชื่อว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะยังคงปกป้องการติดเชื้ออาการรุนแรง แต่ระบุรัฐบาลของเขากำลังทำงานร่วมกับบรรดาผู้ผลิตวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นไฟเซอร์, โมเดอร์นา​ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เพื่อร่างแผนฉุกเฉิน

"ในกรณีที่...ซึ่งหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น วัคซีนรุ่นอัปเดตหรือเข็มกระตุ้นมีความจำเป็นสำหรับตอบโต้ตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้ เราจะเร่งพัฒนามันและใช้งานมันร่วมกับทุกเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถหยิบหาได้" เขากล่าว พร้อมระบุว่าเขาจะสั่งการไปยังสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ​ (เอฟดีเอ) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ​ (ซีดีซี) เพื่อให้วัคซีนเหล่านี้หยิบหาได้โดยเร็วที่สุด

สหรัฐฯ แถลงไม่ส่งผู้แทนฯ ร่วม ‘โอลิมปิกปักกิ่ง’ เหตุละเมิดสิทธิมนุษย์ฯ จีนโต้ ‘ไม่ได้เชิญฯอยู่แล้ว’

โฆษกทำเนียบขาวแถลงยืนยันเมื่อวานนี้ (6 ธ.ค.) สหรัฐอเมริกาจะไม่ส่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลไปเข้าร่วมมหกรรมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ณ กรุงปักกิ่งในปีหน้า เพื่อต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะการทำทารุณกรรมต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง

ในเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศแก่ชาวโลกว่ากำลังพิจารณามาตรการบอยคอตจีนจากกรณีที่มีวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งเหตุที่วอชิงตันชี้ว่าเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” มุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงทางภาคตะวันตกจีน

“รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนจะไม่ส่งเจ้าหน้าที่ทางการทูตหรือผู้แทนจากหน่วยงานรัฐใด ๆ ไปเข้าร่วมงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2022 และพาราลิมปิกเกมส์ เพราะสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก่ออาชญากรรมทำลายมนุษยชาติในซินเจียง และละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่น ๆ” คำแถลงของ นาง เจน ซากิ โฆษกทำเนียบขาวต่อที่ประชุมข่าวในวันจันทร์ (6 ธ.ค.)

Omicron ถล่มสหรัฐฯ ยอดติดพุ่งแสนต่อวัน ด้าน Pfizer ฟัน!! เชื้อระบาดยาวยันปี 2024

กลับมายืนที่เดิมอีกครั้งในวิกฤติ Covid-19 ของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ Omicron ในประเทศได้ไม่กี่สัปดาห์ การระบาดก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นจนฉุดไม่อยู่ ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็กลับยืนหลักแสน ที่ตัวเลข 123,000 รายต่อวัน มากขึ้นถึง 40% จากตัวเลขเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีนี้ 

สื่อในสหรัฐฯ หลายสำนักเห็นตรงกันว่า นี่คือคลื่นการระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง ที่มาปิดท้ายปลายปี 2021 ซึ่งจะครบ 2 ปีที่สหรัฐอเมริกาต้องผจญกับคลื่นการระบาดของเชื้อ Covid-19 มาแล้วหลายระลอก 

แม้สหรัฐฯ จะเป็นประเทศที่สามารถพัฒนาวัคซีนอยู่ในระดับแถวหน้าของโลก แต่วงจรซ้ำแล้วซ้ำเล่า และวนกลับมายืนในจุดวิกฤติเดิมซ้ำซากนี้ กำลังจะทำลายระบบสาธารณสุขให้กลับมาเลวร้ายอีกครั้ง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่กลับมาสูงขึ้น ส่งผลให้โรงพยาบาลในสหรัฐฯ มีคนไข้ที่ต้องเข้ารับการรักษาจากโรค Covid-19 เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 45% จากเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งนับว่าน่าเป็นห่วงมาก หากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มหลักแสนเช่นนี้ทุกวัน

สำหรับการแพร่ระบาดของ Covid19 ในระลอกใหม่ โดยสายพันธุ์ Omicronนั้น ทำให้ทาง Pfizer บริษัทผู้พัฒนาวัคซีน Covid-19 ชื่อดัง คาดการณ์ว่า Covid-19 อาจอยู่กับชาวโลกไปอีกนานจนถึงปี 2024 และยังบอกข่าวร้ายอีกว่า การทดสอบใช้วัคซีน Pfizer ในกลุ่มเด็กเล็กอายุ 2-4 ปี ด้วยปริมาณที่น้อยกว่าโดสปกติ ได้ผลลัพธ์ยังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร และอาจส่งผลถึงการพิจารณาให้ใช้วัคซีนในกลุ่มเด็กเล็กของภาครัฐได้

และยังมีแนวโน้มว่า เชื้อ Omicron มีโอกาสเป็นสายพันธุ์หลักแทน Delta ในไม่ช้า เนื่องจาก Omicron สามารถติดต่อได้ง่าย และเร็วกว่าสายพันธุ์อื่นๆ โดยยกตัวอย่างเคสที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ และอังกฤษ ที่ก็เจอปัญหาการระบาดหนักของสายพันธุ์ Omicron

‘ไบเดน’ อัดงบซื้อชุดตรวจเพิ่ม 500 ล้านชุด สกัดเชื้อ Omicron ส่งฟรีถึงบ้าน

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งด่วน ให้จัดงบสั่งซื้อชุดตรวจ Covid-19 แบบ Rapid Test เพิ่มอีก 500 ล้านชุด ส่งไปให้ชาวอเมริกันถึงบ้านฟรี เพื่อสกัดการระบาดของเชื้อ Covid-19 สายพันธุ์ Omicron ที่ตอนนี้กลายเป็นสายพันธุ์หลักของการระบาดในสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันกำลังจะทะยานสู่ 2 แสนรายต่อวัน ที่เป็นสายพันธุ์ Omicron มากถึง 73%

ทางทำเนียบขาวจึงต้องเร่งจัดส่งชุดตรวจ Rapid Test ให้ชาวอเมริกันถึงที่บ้านเพื่อใช้ตรวจเชื้อเบื้องต้นด้วยตัวเอง ลดการแออัดที่จะเดินทางไปต่อคิวที่หน่วยตรวจเชื้อ ที่อาจยิ่งเสี่ยงสัมผัสเชื้อ และเกิดการระเบิดเพิ่มขึ้นไปอีก

โจ ไบเดน มั่นใจว่า รัฐบาลยังเอาอยู่กับการจัดการปัญหาด้านการแพร่ระบาด โดยจะกระจายชุดตรวจเชื้อให้ได้มากที่สุด และจัดส่งกองกำลังจากกองทัพเข้าไปช่วยเสริมแรงตามโรงพยาบาลต่างๆ ด่านหน้าที่ต้องรับมืออย่างหนักกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อที่กลับมาพุ่งสูงอีกครั้งแล้วในตอนนี้จากการระบาดของ Omicron

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวย้ำอย่างมั่นใจว่า "นี่ไม่ใช่เหตุการณ์เมื่อเดือนมีนาคม 2020 เพราะเราได้เรียนรู้ และเตรียมตัวรับมืออย่างดี" 

ซึ่งช่วงเดือนมีนาคม 2020 ที่โจ ไบเดน อ้างถึงนั้น นับเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด Covid-19 ในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในสมัยของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และการแพร่ระบาดเป็นไปอย่างทวีคูณ และเคยทำสถิติผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดถึง 3 แสนรายต่อวันมาแล้ว

"แต่มาวันนี้ เรามีชุดตรวจเชื้อให้ประชาชนฟรี เรามีวัคซีนในคลังพร้อม รวมถึงวัคซีนเข็มกระตุ้น เพียงแต่ขอให้ชาวอเมริกันมาฉีดให้ครบโดส ตามที่หน่วยงานควบคุมโรคแนะนำเท่านั้น และตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องปิดเมือง" ไบเดนกล่าว

แต่คำถามที่หลายคนยังเป็นห่วงคือ ชุดตรวจ 500 ล้านชุด จะพอหรือ?

สหรัฐฯ เสียงแข็ง ปฏิเสธส่งอาวุธชนกลุ่มน้อย บอกสื่ออย่าเชื่อ ‘โซเชียลมีเดีย’

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) Mr. Michael Heath อุปทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย กล่าวถึงกระแสข่าวสหรัฐฯ สนับสนุนอาวุธให้กับชนกลุ่มน้อยต่อสู้กับกองทัพเมียนมาตามแนวชายแดนว่า ไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนยุทโธปกรณ์ให้กับฝ่ายตรงข้ามเมียนมา เรากับไทยช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมและวัคซีน อย่าเชื่อสิ่งใดที่อ่านในโซเชียลมีเดีย และขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่เป็นความจริง

“นายกฯ” ขอบคุณสหรัฐฯ มอบอุปกรณ์สู้โรคโควิด-19 ชี้ แสดงถึงมิตรภาพใกล้ชิดสองประเทศ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯและนายไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่ส่งมอบอุปกรณ์เพิ่มเติมในการตรวจวินิจฉัยและการฉีดวัคซีนมูลค่ากว่า 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (49.5 ล้านบาท)ให้แก่ประเทศไทยในการต่อสู้โรคโควิด-19 โดยน้ำใจไมตรีของสหรัฐฯ สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของไทย-สหรัฐฯ มาเป็นระยะเวลายาวนาน รวมถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลทั้งสองประเทศที่ต้องการแก้ไขสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ร่วมกัน

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้ส่งมอบอุปกรณ์ในนามขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development: USAID) ประกอบด้วยน้ำยาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR และตรวจหาการกลายพันธุ์ด้วยเทคโนโลยี NGS (Next Generation Sequencing) อุปกรณ์สำหรับการฉีดวัคซีน และชุดป้องกันร่างกายส่วนบุคคล โดยส่งมอบให้แก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ณ กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่ง USAID มอบความช่วยเหลือให้แก่รัฐบาลไทยในการรับมือกับโรคโควิด-19 แล้ว กว่า 12.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (409 ล้านบาท) ผ่านหน่วยงานต่างๆของรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมยังสนับสนุนไทยส่งเสริมศักยภาพในการวินิจฉัยโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ ในช่วงแรกของการระบาด มอบอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของไทย สื่อสารข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโรคโควิด-19 แก่แรงงานข้ามชาติและบุคคลในชุมชนที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพในการวินิจฉัยและกำลังคนในการตรวจโรค

UAE จ่อเทนกเหล็กสหรัฐฯ!! ประท้วงเงื่อนไขเข้มงวด พร้อมเบี่ยงแผนจัดซื้อเครื่องบินรบจากจีนแทน

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดเผยในวันพุธ (23 ก.พ.) มีแผนซื้อเครื่องบินรบ L15 ของจีนจำนวนกว่า 10 ลำ ในขณะที่พวกเขากำลังหาทางเพิ่มแสนยานุภาพในการป้องกันตนเอง หลังเผชิญการโจมตีของพวกกบฏฮูตีครั้งแล้วครั้งเล่า

ในเดือนธันวาคม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ขู่ฉีกทิ้งข้อตกลงจัดซื้อฝูงบินรบ F-35 ของสหรัฐฯ มูลค่ามหาศาล ประท้วงเงื่อนไขที่เข้มงวดต่างๆ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับจีนของวอชิงตัน

ตามรายงานของสำนักข่าว WAM สื่อมวลชนแห่งรัฐ กระทรวงกลาโหมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระบุว่า พวกเขามีความตั้งใจลงนามในสัญญากับไชนา เนชันแนล แอโร-เทคโนโลยี อิมพอร์ท แอนด์ เอ็กซ์พอร์ม คอร์ปอเรชัน (CATIC) ในการจัดซื้อเครื่องบินรบเบา L15 จำนวน 12 ลำ พร้อมออปชันซื้อเครื่องบินรุ่นเดียวกันเพิ่มเติมอีก 36 ลำ

"เรามาถึงขั้นสุดท้ายในการเจรจากับฝ่ายจีน สัญญาขั้นสุดท้ายจะมีการลงนามเร็วๆ นี้" สำนักข่าว WAM รายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของ ทาเรก อัล-โฮซานี ซีอีโอของ Tawazun Economic Council องค์การจัดซื้อด้านกลาโหมและความมั่นคง ให้แก่กองทัพและตำรวจยูเออี

ไม่มีการเปิดเผยมูลค่าของข้อตกลงในครั้งนี้

Tawazun Economic Council กำลังเสาะแสวงหาหนทางพัฒนาศักยภาพด้านป้องกันตนเองของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และมุ่งหวังบรรลุเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ที่พวกเขาให้ความสำคัญลำดับต้นๆ สำนักข่าว WAMระบุ

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังไม่สามารถปิดข้อตกลงซื้อขายอาวุธมูลค่า 23,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในนั้นรวมไปถึงฝูงบินรบ F-35

สมาชิกจากพรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามหาทางหยุดการขาย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยอ้างถึงบทบาททางทหารของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อสงครามกลางเมืองเยเมน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการเข้ามาพัวพันของจีนกับชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ แห่งนี้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top