Omicron ถล่มสหรัฐฯ ยอดติดพุ่งแสนต่อวัน ด้าน Pfizer ฟัน!! เชื้อระบาดยาวยันปี 2024

กลับมายืนที่เดิมอีกครั้งในวิกฤติ Covid-19 ของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ Omicron ในประเทศได้ไม่กี่สัปดาห์ การระบาดก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นจนฉุดไม่อยู่ ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็กลับยืนหลักแสน ที่ตัวเลข 123,000 รายต่อวัน มากขึ้นถึง 40% จากตัวเลขเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีนี้ 

สื่อในสหรัฐฯ หลายสำนักเห็นตรงกันว่า นี่คือคลื่นการระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง ที่มาปิดท้ายปลายปี 2021 ซึ่งจะครบ 2 ปีที่สหรัฐอเมริกาต้องผจญกับคลื่นการระบาดของเชื้อ Covid-19 มาแล้วหลายระลอก 

แม้สหรัฐฯ จะเป็นประเทศที่สามารถพัฒนาวัคซีนอยู่ในระดับแถวหน้าของโลก แต่วงจรซ้ำแล้วซ้ำเล่า และวนกลับมายืนในจุดวิกฤติเดิมซ้ำซากนี้ กำลังจะทำลายระบบสาธารณสุขให้กลับมาเลวร้ายอีกครั้ง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่กลับมาสูงขึ้น ส่งผลให้โรงพยาบาลในสหรัฐฯ มีคนไข้ที่ต้องเข้ารับการรักษาจากโรค Covid-19 เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 45% จากเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งนับว่าน่าเป็นห่วงมาก หากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มหลักแสนเช่นนี้ทุกวัน

สำหรับการแพร่ระบาดของ Covid19 ในระลอกใหม่ โดยสายพันธุ์ Omicronนั้น ทำให้ทาง Pfizer บริษัทผู้พัฒนาวัคซีน Covid-19 ชื่อดัง คาดการณ์ว่า Covid-19 อาจอยู่กับชาวโลกไปอีกนานจนถึงปี 2024 และยังบอกข่าวร้ายอีกว่า การทดสอบใช้วัคซีน Pfizer ในกลุ่มเด็กเล็กอายุ 2-4 ปี ด้วยปริมาณที่น้อยกว่าโดสปกติ ได้ผลลัพธ์ยังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร และอาจส่งผลถึงการพิจารณาให้ใช้วัคซีนในกลุ่มเด็กเล็กของภาครัฐได้

และยังมีแนวโน้มว่า เชื้อ Omicron มีโอกาสเป็นสายพันธุ์หลักแทน Delta ในไม่ช้า เนื่องจาก Omicron สามารถติดต่อได้ง่าย และเร็วกว่าสายพันธุ์อื่นๆ โดยยกตัวอย่างเคสที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ และอังกฤษ ที่ก็เจอปัญหาการระบาดหนักของสายพันธุ์ Omicron

ถึงแม้จะมีข้อมูลจากทีมแพทย์ในแอฟริกาใต้ ยืนยันว่าผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ Omicron มีอาการไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ Delta แต่จากข้อมูลที่ศึกษาในอังกฤษกลับชี้ให้เห็นว่าทั้ง 2 สายพันธุ์นี้มีความรุนแรงของอาการพอๆ กัน และรณรงค์ให้ชาวอังกฤษไปฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 โดยเร็วที่สุด 

ด้าน ด็อกเตอร์ แอนโธนี ฟาวซี หัวหน้าศูนย์ประสานงาน Covid-19 แห่งสหรัฐอเมริกาก็มีความเห็นไปในทางเดียวกับอังกฤษ ว่าหาก Omicron เป็นสาเหตุของการระบาดระลอกใหม่ ย่อมมีผู้ป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นสูงอย่างไม่ต้องสงสัย และตอนนี้ทางการสหรัฐฯ กำลังพิจารณามาตรการใหม่ที่จะผลักดันให้ผู้คนไปรับวัคซีนครบโดสตามจำนวน รวมถึงการฉีดเข็มบูสเตอร์ด้วยเช่นกัน 

ดังจะเห็นได้ว่า รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เริ่มออกมาตรการเข้มแกมบังคับลูกจ้างภาครัฐให้เข้ารับวัคซีนทุกคน หรือบังคับตรวจเชื้อก่อนเข้าทำงานทุกครั้งหากไม่เข้ารับได้รับวัคซีน ส่วนมาตรการเข็มบูสเตอร์ ทางกรมควบคุมโรคแนะนำให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปที่ฉีดวัคซีนครบโดสไปแล้ว 6 เดือน สามารถเข้ารับการฉีดเข็ม 3 ได้ทันที

สำหรับการกลับมาระบาดของเชื้อ Omicron ในช่วงปลายปีนี้ ดูจะสร้างผลกระทบอย่างมากกับกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าเป็นจำนวนมาก งานแข่งขันกีฬาต่างๆ ต้องเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด งานคอนเสิร์ต, การแสดงถูกยกเลิกอย่างกะทันหัน งานอีเวนต์ที่เป็นไฮไลต์ส่งท้ายปี เริ่มกร่อยลงทันที ชาวอเมริกันหลายครอบครัวต่างเปลี่ยนแผนเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวกันใหม่หมด

ฉะนั้นหากวิกฤติ Covid-19 จะยังเจ็บกันไม่จบถึงปี 2024 อย่างที่ Pfizer คาดการณ์ไว้จริงๆ ยิ้มเจื่อนๆ ก็คงยังปนเปื้อนอยู่บนริมฝีปากของมะกันชนต่อไปอย่างแน่นอน


เรื่อง: ยีนส์ อรุณรัตน์
อ้างอิง: Reuters