Friday, 19 April 2024
Omicron

'สธ.' ยัน!! Omicron ยังไม่หลุดเข้าไทย แต่หาวิธีตรวจจับแบบเร็วที่สุดไว้แล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอมีครอน (Omicron) ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีมาตรการป้องกันในระดับแรกแล้ว ส่วนการตรวจจับค้นหาเชื้อโอมีครอนจะเดินทางเข้ามาในประเทศจะต้องทำเต็มที่ รัดกุม และทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ที่มีการปรับแผนอนุญาตให้ตรวจแบบ ATK แล้วสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้แทนการตรวจ RT-PCR ในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่เข้ามาในไทย ขณะนี้จะต้องมีการทบทวนขยายเวลายังคงใช้ RT-PCR เหมือนเดิม ซึ่งเป็นมาตรการเข้มข้นเพื่อการตรวจจับค้นหาโอมีครอนที่จะมาจากต่างประเทศ

ส่วนที่มีการเสนอในหลาย ๆ รูปแบบจะต้องมีการติดตามข้อมูลให้มีความชัดเจนมากที่สุด ตนได้สั่งการไปที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทุกศูนย์ของกรมวิทย์ฯ รวมทั้งภาคีเครือข่ายจะต้องมีวิธีตรวจจับหาโอมีครอนให้ได้ดีที่สุด แต่ขณะนี้โดยเทคนิคมีการประเมินว่า ถ้าเชื้อเป็นเดลตาบางส่วนและอัลฟาบางส่วน ให้ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นโอมีครอน และในสเตปต่อไปจะมีน้ำยาตรวจจับโอมีครอนโดยตรง

Omicron อ่านยังไง?

Omicron อ่านยังไง?

เท่าที่ฟังข่าวต่างประเทศมา สรุปได้ว่าโควิดสายพันธุ์ใหม่ Omicron อ่านว่า...

ที่ยุโรป = "อ้อม-มิ-ครอน"
ที่อเมริกา = "อ้อม-เมอะ-ครอน"

ไม่ใช่ โอ-ไม-คร่อน (แต่ตอนแรกนักข่าวต่างประเทศหลายคนก็อ่านแบบนี้)

'ไบเดน' รับหวั่น!! Omicron​ แต่ยังไงก็ไม่ล็อกดาวน์ แนะ!! ปชช.สหรัฐฯ​ อย่าตื่นตระหนกเกินเหตุ 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เผย​ ตัวกลายพันธุ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ Omicron​ เป็นบ่อเกิดแห่งความกังวล แต่แนะพลเมืองอเมริกาอย่าได้ตื่นตระหนก และเผยว่าอเมริกากำลังจัดทำแผนฉุกเฉินกับบริษัทยาทั้งหลายหากว่าวัคซีนใหม่มีความจำเป็น

ไบเดนระบุว่าสหรัฐฯ​ จะไม่กลับเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของ​ Omicron​ และจะเปิดตัวกรอบยุทธศาสตร์ในวันพฤหัสบดี​ (2 ธ.ค. 64) สำหรับต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ในช่วงฤดูหนาว พร้อมเรียกร้องประชาชนเข้ารับวัคซีน ฉีดเข็มกระตุ้นและสวมหน้ากาก

"ตัวกลายพันธุ์นี้เป็นบ่อเกิดแห่งความกังวล แต่ไม่ได้ก่อความตื่นตระหนก" ไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาว หลังประชุมร่วมกับคณะทำงานด้านโควิด-19 ของเขา "เรากำลังจะสู้และเอาชนะตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้" ไบเดนระบุ

ทั้งนี้​ Omicron​ กำลังกระตุ้นให้ประเทศต่าง ๆ​ ทั่วโลก รวมถึงสหรัฐฯ จำกัดการเดินทางจากภูมิภาคทางใต้ของทวีปแอฟริกา หลังจากพบไวรัสตัวดังกล่าว ผนวกกับในวันจันทร์​ (29 พ.ย.) องค์การอนามัยโลกเตือนว่า​ Omicron​ มีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อพุ่งพรวดขึ้นในหมู่นานาประเทศ แม้จนถึงตอนนี้จะยังไม่พบผู้เสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับตัวกลายพันธุ์ล่าสุดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดังกล่าวก็ตาม

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไบเดน​ ยอมรับว่า​ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เคสผู้ติดเชื้อ​ Omicron​ จะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ แต่ เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวยืนยันว่าตัวกลายพันธุ์นี้ไม่ควรเป็นสาเหตุให้ชาวอเมริกันชนเปลี่ยนแผนการเดินทางช่วงวันหยุดยาว ตราบใดที่พวกเขาฉีดวัคซีนแล้วและสวมหน้ากาก

ไบเดนเชื่อว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะยังคงปกป้องการติดเชื้ออาการรุนแรง แต่ระบุรัฐบาลของเขากำลังทำงานร่วมกับบรรดาผู้ผลิตวัคซีน ไม่ว่าจะเป็นไฟเซอร์, โมเดอร์นา​ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เพื่อร่างแผนฉุกเฉิน

"ในกรณีที่...ซึ่งหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น วัคซีนรุ่นอัปเดตหรือเข็มกระตุ้นมีความจำเป็นสำหรับตอบโต้ตัวกลายพันธุ์ใหม่นี้ เราจะเร่งพัฒนามันและใช้งานมันร่วมกับทุกเครื่องไม้เครื่องมือที่สามารถหยิบหาได้" เขากล่าว พร้อมระบุว่าเขาจะสั่งการไปยังสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ​ (เอฟดีเอ) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ​ (ซีดีซี) เพื่อให้วัคซีนเหล่านี้หยิบหาได้โดยเร็วที่สุด

'ศ.นพ.นิธิ' ชี้ ต้องจับตา Omicron อย่างใกล้ชิด อย่าตระหนกเกินเหตุ ย้ำ!! ต้องสวมหน้ากาก - ล้างมือ - เว้นระยะห่าง

เรียกได้ว่ากลายเป็นข่าวระทึกโลกส่งท้ายปี 2021 กันเลยก็ว่าได้ สำหรับข่าวการค้นพบโควิด-19 สายพันธุ์ ‘Omicron (B.1.1.529)’ ซึ่งพบในแอฟริกาใต้ และขยายวงพบเจอในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร, เบลเยียม, เยอรมนี, อิตาลี, สาธารณรัฐเช็ก, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, เนเธอร์แลนด์, แคนาดา และล่าสุดกับสิงคโปร์ 

ปัจจุบันมีข้อมูลเพียงว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนนี้มีการกลายพันธุ์หลายตำแหน่งที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบ แต่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของความรุนแรงของโรค ยังอยู่ระหว่างการศึกษา 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และอธิการบดีวิทยาลัย วิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ (ววจ.) ได้เผยถึงความเข้าใจต่อโควิดสายพันธุ์ Omicron กับ THE STATES TIMES ผ่านรายการ Click on Clear THE TOPIC EP.96 เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 64 ไว้อย่างน่าสนใจ ว่า...

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดในปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์ของวัคซีนที่ยังฉีดกันไม่ทั่วถึงทั้งโลก ก็จะยังคงมีการกลายพันธุ์ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งโควิดเองก็มีการกลายพันธุ์ซ้ำหลายหน เช่นเดียวกันกับสายพันธุ์ล่าสุดอย่าง Omicron ที่ในความเป็นจริงอาจจะเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เราเพิ่งจะรู้จักมันเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากมองสายพันธุ์ Omicron ที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ ก็ไม่ได้ระบาดทั่วทั้งโลก และเท่าที่ทราบ คือ ต้นตออย่าง ‘แอฟริกาใต้’ ผู้คนที่ติดเชื้อก็ยังมีอาการไม่หนักมากนัก ฉะนั้นอย่าพึ่งตื่นตระหนก!! เพียงแต่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งตอนนี้หลายๆ ประเทศก็มีการเฝ้าระวังดูแลอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกันกับในประเทศไทย 

ทั้งนี้ เริ่มมีคำถามว่า วัคซีนและยาจะยังมีประโยชน์หรือไม่? เพราะหลายคนกังวลว่าจะรับมือ Omicron ไม่ได้ดีเท่ากับไวรัสรุ่นแรก ๆ แต่อยากให้เชื่อมั่นว่าวัคซีนที่มีอยู่ในตลาดยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการป่วยหนักได้ดีอยู่ ขณะเดียวกันไวรัสส่วนใหญ่ มักจะอ่อนแอลงไปตามธรรมชาติ และวัคซีนมี่ผลิตออกมาก็ทำได้เพียงวิ่งตามการกลายพันธุ์ของไวรัส ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกัน

ศ.นพ.นิธิ เผยอีกว่า ตอนนี้สิ่งที่คนไทยต้องตระหนัก คือ วัคซีนประจำตัว ได้แก่...
1.) การใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ช่วยให้ไม่แพร่เชื้อจากเราไปให้คนอื่นด้วยนอกจากที่จะรับเชื้อมา
2.) การอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเท และการรักษาระยะห่าง ควรมีความเคร่งครัดมากขึ้น และมีสติมากขึ้น
3.) ใครที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือถึงเวลาได้รับเข็มกระตุ้นแล้ว ก็ควรเร่งเข้ารับวัคซีน

‘นักวิชาการ’ แนะ!! คนไทยรอรับศึก Omicron เชื่อหลุดมาแน่ หลังทุกสายพันธุ์ไม่เคยอุดอยู่

2 ธ.ค. 64 ดร.สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง อาจารย์พิเศษคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า…

Covid-19 : ข่าวร้าย ยืนยันความสามารถในการแพร่เชื้อของ Omicron ที่เหนือกว่า Delta มากถึงมากที่สุด 
“The war is not over.”

ช่วงนี้สถานการณ์ในประเทศค่อนข้างดีมากนะครับ ขอให้ไปชาร์จแบตกันไว้ให้เต็มที่ ใช้ชีวิต พบปะคนที่รัก ทำยอดขาย เลี้ยงสังสรรค์ ดูหนัง ตัดผม อยากทำอะไรรีบทำครับ ผู้ร้ายตัวใหม่กำลังมาแล้ว และเก่งกว่าเดิมเยอะ แต่จะโหดกว่าหรือไม่ยังต้องลุ้นครับ 

>> สถานการณ์ใน South Africa : 

ตัวเลข New Case วันนี้ 2 ธ.ค. 8,561 คน ยืนยันความน่ากังวลทุกอย่างแล้วครับ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 25 พ.ย. ยังแค่ 1,275 

เกิด Exponential ขึ้นแล้วทั้ง ๆ ที่ยังอยู่ในมาตรการควบคุม Level 1 ที่เดิมสามารถกด Delta ลงได้อย่างอยู่หมัด แอฟริกาใต้ฉีดวัคซีน 2 เข็มไปได้แค่ 24.6% แต่ก็เอา Delta อยู่ แต่คงไม่ใช่สำหรับ Omicron แล้วล่ะครับ 

>> กราฟ %Increase : ระดับปรากฏการณ์ แบบไม่เคยเห็นมาก่อน 

ผมทำกราฟมาให้ดูในช่วง Transition ระหว่างสายพันธุ์ที่เก่งกว่าเดิม แล้วเกิดการระบาดเป็น Wave ใหม่ของ S.Africa มาให้ดูเทียบกัน 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1 จากไวรัส Wuhan มาเป็น Beta %Increase เพิ่มขึ้น 10 เท่าภายใน 9 สัปดาห์ 
ครั้งที่ 2 จาก Beta มาเป็น Delta มหาโหด %Increase เพิ่มขึ้น 10 เท่าภายใน 9 สัปดาห์ 
ครั้งที่ 3 ล่าสุด ชันสุด โหดสุด จาก Delta มาเป็น Omicron ระดับ Super Virus %Increase เพิ่มขึ้น 10 เท่าภายในเวลาแค่ 2 สัปดาห์!!!

ตอนนี้การระบาดของ Omicron ใน S.Africa มีระดับ Exponential ที่มี %Increase 27% หรือมี Doubling Day แค่ 3 วัน ทั้งที่อยู่ใน New Normal

ถ้าย้อนนึกเทียบกันกับบ้านเราที่ใช้ New Normal ที่คุม Alpha ได้สำเร็จช่วง พ.ค. - มิ.ย. 64 พอ Delta เข้ามาก็เกิด Exponential แต่ %Increase แค่ 12% หรือ Doubling Day ประมาณ 6-7 วัน แค่นั้นก็โกลาหลแล้วนะครับ 

>> พูดง่าย ๆ และสิ่งที่น่ากังวลก็คือ :
1.) Omicron เก่งกว่า Delta มากกว่าที่ Delta เก่งกว่า Alpha ประมาณ 2 เท่า
2.) Omicron อาจเก่งกว่า Delta ประมาณ 4 เท่า
3.) Alpha ยังมีประเทศใหญ่ที่กดลง Zero New Case ได้หลายประเทศ ส่วน Delta ไม่มีเลยสักประเทศ แต่พอ Dance ได้ถ้ามีวัคซีน หรือทุบแหลกแบบจีน ส่วน Omicron การลง Zero New Case ทำไม่ได้แน่ และอาจจะ Dance ไม่ไหวด้วยถ้าวัคซีนไม่ 100%
4.) จีนกด Delta แทบไม่อยู่แล้ว มีผุดขึ้นให้ทุบอยู่เรื่อย ถ้า Omicron ล่ะ จีนจะแตกหรือไม่ ถ้าจีนแตกเศรษฐกิจจะบรรลัยกันทั้งโลก
5.) ประเทศไทย Wave ของ Alpha ติดเชื้อไป 2 แสน Delta เก่งกว่า Alpha 60% ติดเชื้อเพิ่ม 10 เท่ากลายเป็น 2 ล้าน แล้ว Omicron ที่เก่งกว่า Delta 200 - 400% ตัวเลขจะไปไกลแค่ไหน วัคซีนจะเอาอยู่หรือไม่
 

มาเลเซีย พบผู้ติดเชื้อ Omicron รายแรก เผยเดินทางมาจากแอฟริกาใต้ 2 สัปดาห์ก่อน

กัวลาลัมเปอร์ 3 ธ.ค. - มาเลเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเป็นนักเรียนต่างชาติที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน และออกจากสถานที่กักตัวเพื่อดูอาการเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนหลังกักตัวครบ 10 วัน

นายไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย เผยวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่มาเลเซียได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิดซ้ำอีกครั้งในกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อช่วงก่อนหน้านี้ หลังองค์การอนามัยโลกประกาศให้เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวลเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 

นายจามาลุดดินระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกของมาเลเซียเป็นนักเรียนหญิงวัย 19 ปีที่เดินทางมาจากแอฟริกาใต้ เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่ไม่แสดงอาการ และได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบสองโดส โดยมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกเมื่อเดินทางถึงมาเลเซียในวันที่ 19 พฤศจิกายน หลังแวะเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์ จากนั้น นักเรียนคนดังกล่าวได้เข้าสู่มาตรการกักตัวเป็นเวลา 10 วัน และครบกำหนดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน

รู้จัก COVID 5 สายพันธุ์ เฝ้าระวัง! รู้ทันป้องกันได้!!

สถานการณ์โควิดในบ้านเราตอนนี้แม้เริ่มมีการผ่อนปรนกันมากขึ้นในมาตรการต่าง ๆ แต่อย่าลืมว่า เจ้าโควิดตัวร้ายยังไม่หายไปไหน!! 

วันนี้ THE STATES TIMES จะพาทุกคนมารู้จักกับ ‘โควิด 5 สายพันธุ์’ ที่ควรต้องรู้จัก! พร้อมบอกสูตรยาแรง ที่ปราบโควิดอยู่หมัดแน่นอนหากปฏิบัติตาม! จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยยย

>> โควิด 5 สายพันธุ์
1.) BETA สายพันธุ์เบตา
2.) ALPHA สายพันธุ์แอลฟา
3.) DELTA สายพันธุ์เดลตา
4.) OMICRON สายพันธุ์โอไมครอน
5.) GAMMA สายพันธุ์แกมมา

'Omicron' เขย่าเศรษฐกิจ หลายฝ่ายเชื่อระบบสาธารณสุขเอาอยู่

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจพบผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายแรกของไทย ว่า ไม่อยากให้ทุกฝ่ายต้องตื่นตระหนก จนถึงขนาดต้องกลับมาปิดประเทศอีกครั้ง เนื่องจากหากมีการปิดประเทศอีก เศรษฐกิจที่กำลังค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้น จะกลับมาอยู่ในภาวะช็อกได้ ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจะยิ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง เพราะการปิดประเทศ ไม่ถือเป็นการตอบโจทย์แล้ว ต้องหาวิธีที่ทำอย่างไรให้อยู่ร่วมกันได้ 

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า นโยบายการเปิดประเทศรับต่างชาติมาไทยก็ยังไม่ได้สะดุด แม้จะพบรายงานว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเข้ามาในประเทศไทยเป็นรายแรกแล้ว แต่ก็เชื่อว่าระบบสาธารณสุขของไทย สามารถรับได้ เพราะในกรณีนี้ พบว่ามาจากนักท่องเที่ยวที่มาในรูปแบบ Test & Go ก็ได้รับการคัดกรอง พร้อมกับตรวจหาเชื้อตั้งแต่วันแรกด้วยวิธี RT-PCR จึงมั่นใจว่า การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปด้วยความรอบคอบเฝ้าระวังสูงสุด และไม่ได้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีมากนักหากบริหารจัดการได้ดี

"สาธิต" เผย​ พบ 1ใน17 จากกลุ่มเสี่ยงสูง เคส​ นนท.สหรัฐฯ​ มีผลเป็นบวก​ 1​ ราย​ รอผลตรวจเชิงลึก 3-4วัน รู้ว่าใช่ 'โอไมครอน' หรือไม่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาธิต​ ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีตรวจพบเชื้อโอไมครอนในนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐอเมริกา​ 1​ ราย​ และมีผู้เสี่ยงสูง 17 ราย ว่า สถานการณ์ล่าสุดยังเป็นข้อมูลเดิม คือพบผู้ติดเชื้อเพียง 1 ราย​ ต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง โดยจากการสอบสวนโรคมีผู้เสี่ยงสูงทั้งหมด 17 ราย และจากการตรวจหาเชื้อโควิด-19​ มีผลเป็นลบ 16 ราย และมีผลเป็นบวก 1 ราย ซึ่ง​ 1​ รายที่มีผลเป็นบวก​เป็นเจ้าหน้าที่โรงแรม ที่เป็นผู้ส่งอาหารให้นักท่องเที่ยวชาวสหรัฐฯคนดังกล่าว โดยได้มีการดำเนินการสอบสวนโรคกับเจ้าหน้าที่โรงแรมรายนี้แล้ว​

พร้อมกับนำผลบวกนั้นไปตรวจสอบว่าเป็นเชื้อโอไมครอนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม​ ได้ให้เจ้าหน้าที่โรงแรมรายดังกล่าวเข้ารักษาตัวที่สถาบันบําราศนราดูรแล้ว​ ทั้งนี้ ในส่วนการสอบสวนโรคจะต้องแยกเป็น 2 ประเด็นคือ ดูว่าเขาติดเชื้อโควิดจากการเดินทางกลับต่างจังหวัด ที่​ จ.อุบลราชธานีหรือไม่ หรือติดเชื้อโควิดมาจากนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐฯ โดยต้องรอผลการตรวจเชื้อว่าเป็นโอไมครอนหรือไม่ประมาณ 3-4 วัน

นายสาธิต​ กล่าวว่า​ การเดินทางเข้าประเทศไทยยังคงต้องให้เข้มมาตรการป้องกัน แต่อย่างไรก็ตาม​ การพบโรคโควิด-19 กับการพบเชื้อกลายพันธุ์นั้นถือเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะโรคระบาดเราไม่สามารถปิดกั้นได้ ซึ่งขณะนี้ตามข้อมูลยังไม่พบว่าเชื้อโอไมครอนมีอาการรุนแรง และตามมาตรการของสาธารณสุขไทย หากผู้ติดเชื้อมีอาการไม่รุนแรง 80% เราสามารถใช้วิธี โฮมไอโซลูชั่นได้ เราเชื่อว่าศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทยดูแลได้ 

นราธิวาส - ผบ.กองกำลังเทพสตรี ตรวจช่องทางธรรมชาติ หวั่น!! โควิด ‘โอมิครอน’ แพร่ข้ามชาติ

พล.ต.วรเดช เดชรักษา ผบ.กองกำลังเทพสตรี/ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ได้เดินทางมายังด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อเป็นประธานประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.อ.กำธร ศรีเกตุ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.ต.ท.ธีระโชติ  ปฐมวณิชกะ ผบ.ร้อย ตชด.447 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร เจ้าหน้าที่ทหารพราน ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ทหารชุดควบคุมป้องกันชายแดน ในการวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน OMICRON ที่พบการแพร่ระบาดในประเทศมาเลเซีย

ซึ่งในที่ประชุม พล.ต.วรเดช เดชรักษา ผบ.กองกำลังเทพสตรี/ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ได้รับฟังการบรรยายสรุปของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยว โดยภาพรวมมีมาตรการที่เคร่งครัด สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นอย่างดี โดยเน้นย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าตั้งอยู่ในความประมาท เนื่องจากทราบว่า สายพันธุ์ติดโดยง่ายและไม่มีการแสดงอาการให้เห็น ซึ่งทุกคนถือว่าสุ่มเสี่ยงอย่าตั้งอยู่ในความประมาท

โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่กองกำลังที่ถูกส่งมาปฏิบัติหน้าที่แนวพรมแดน ทั้ง ตชด. ชุดควบคุมป้องกันชายแดน เจ้าหน้าที่ทหารพราน เราได้ปฏิบัติหน้าที่มากว่า 2 ปีแล้ว ต้องพยายามสร้างการข่าวและดึงชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วม ในการชี้เบาะแสเพื่อทำลายเครือข่ายกลุ่มขบวนการคนนำพาโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่ลักลอบเข้าตามช่องทางธรรมชาติ เพราะคนกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่เสี่ยงในการนำพาโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเข้ามาแพร่ระบาด จึงถือว่าการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคได้ถูกจุด

ต่อมา พล.ต.วรเดช เดชรักษา ผบ.กองกำลังเทพสตรี/ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ได้เดินทางไปเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณบ้านน้ำตก ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางธรรมชาติ ที่กลุ่มขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว ลักลอบหลบหนีข้ามแดนจากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้พบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กองกำลัง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top