Wednesday, 22 March 2023
POLITICS

‘ภูมิใจไทย’ แจง!! เงินบริจาคถูกต้องตาม กม. ยัน!! ที่ผ่านมาแค่ 'ชูวิทย์' จินตนาการไปเอง

(22 มี.ค.66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายธนิต ศรีประเทศ อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หนึ่งในทีมกฎหมายพรรค ภท. ร่วมกันแถลงถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นต่อ กกต.ให้ยุบพรรคภท. อันเนื่องมาจากเงินบริจาคพรรคการเมือง ไม่เป็นไปตาม ม.72 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง

โดยนายศุภชัย กล่าวยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ การบริจาคเงินให้พรรคการเมือง เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ได้กำหนดรายละเอียด ว่า ถ้าหากจะมีการดำเนินการใดๆ จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ที่แบ่งเป็นสองส่วนคือการบริจาคเงินจากบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ซึ่งเมื่อมีการบริจาคจากทั้ง 2 ส่วน ทางพรรคภท.ในฐานะเป็นผู้รับบริจาค จะต้องตรวจสอบว่า แหล่งที่มาของเงินถูกต้องหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าเราทำถูกต้องทุกประการ โดยยอดบริจาค ตั้งแต่ปี 2561 -ปัจจุบัน อยู่ที่ 355,033,639 บาท แบ่งเป็นปี 2561 จำนวน 10 ล้านบาท ปี 2562 จำนวน 161 ล้านบาท ปี2563 จำนวน 24,884,289 บาท ปี 2564 จำนวน 35,952,000 บาท ปี2565 จำนวน 123,197,350 บาท และปี2566 จำนวน 8,730,000 บาท โดยทั้งหมดบริจาคเป็นเงินสด รวมถึงมีบางส่วนที่บริจาคเป็นทรัพย์สิน ซึ่งต้องมีการลงทะเบียนแล้วแจ้งต่อ กกต. เพื่อประกาศต่อสาธารณะ และขอยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ด้านนายธนิต กล่าวยืนยันว่า การบริจาคของพรรคเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของกกต. รวมถึงมีระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้หมดแล้ว ที่พรรคการเมืองจะต้องพึงสังวร เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมือง โดนโทษจนถึงขั้นถูกยุบพรรค ขณะที่ขั้นตอนการบริจาคทั้ง ในส่วนของบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ได้กำหนดไว้ให้บริจาคไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะต้องมีหลักฐานยืนยัน อาทิ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หนังสือบริคณห์สนธิ (ตราสารที่ผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทได้ตกลงร่วมกันจัดทำขึ้น) หนังสือลงนามมอบอำนาจต่างๆ ที่จะต้องรวบรวมแล้วส่งไปยัง กกต.ทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจากส่งให้กกต.ตรวจแล้ว ก็จะต้องไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบในแง่ของนิติบุคคลอีกด้วย ทั้งนี้เงินบริจาคไม่สามารถนำไปใช้อย่างอื่นได้ ซึ่งจะต้องนำมาดำเนินการ เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองและการเลือกตั้งเท่านั้น

'โทนี่’ เย้ย ‘บิ๊กป้อม’ แค่ที่เกาะหากินของลูกน้อง ยัน!! ไม่มีดีล 'พปชร.' ตั้งรัฐบาลแน่นอน

(22 มี.ค.66) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม ตอบคำถามผ่าน CareTalk x Care ClubHouse เลือก•เคลื่อน•ไทย 2566 EP4: เติมเงินครั้งใหญ่ คนไทยไร้จน! ไม่จกตาแน่นะวิ? เรื่องกระแส การดีลระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคพลังประชารัฐ จะจับมือกันไหม เพื่อฝ่าด่าน 250 ส.ว. ดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น นายกฯ และป้องกัน รัฐประหาร ว่า ผมว่าน่าจะยาก เพราะลุงป้อมเองวันก่อนไปที่จ.เชียงใหม่ ก็เป็นนายกฯขึ้นนายกฯลงแล้ว คือเดี๋ยวต้องยกขึ้นยกลงจากเวทีแกคงต้องพักผ่อนแล้วลูกน้องก็อยากค้ำแกไว้ เพื่อไว้เกาะทำมาหากิน ซึ่งผมสงสารแกนะ ต้องพักได้แล้ว สังขารมันไม่ได้แล้ว จะมานั่งทำงานให้ประเทศก็ไม่ไหวแล้ว ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ยากที่ใครจะไปนั่งคุยกัน

วันนี้ประชาชนเขาบอกว่า เดี๋ยวเขาเลือกให้เอง ไม่ต้องไปรบกวน ส.ว. หรอก ให้ ส.ว. ที่เขาอิสระ ไม่สังกัดใคร เขาก็จะใช้ดุลพินิจตามประชาชน ก็มีจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว คือ เขามีอิสระ เขาจะไม่ยกให้ ก็คงช่วยไม่ได้

ส่วนที่มีการโยงคอนเน็กชั่นระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า นายทักษิณ กล่าวว่า ถามว่าคุณหญิงกับป้อมรู้จักกันดีไหมก็รู้จัก แต่ไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้น ส่วนกับ พล.ต.อ.พัชรวาท (น้องชาย ‘บิ๊กป้อม) ก็รู้จักกัน แต่ไม่สนิท ขนาดมาชี้นำการเมือง คุณหญิงไม่ยุ่งการเมือง ยุ่งแต่เรื่องสังคม ที่ไปมาหาสู่ ไม่บอกชี้นำการเมือง

‘ทักษิณ’ เชื่อ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ ได้ดีกว่าตน ลั่น!! แม้เป็น ‘พ่อ’ ก็ไม่สามารถชี้นำได้

(22 มี.ค.66) เพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่บทสนทนาของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม กล่าวผ่าน CareTalk x Care ClubHouse เลือก•เคลื่อน•ไทย 2566 EP4 : เติมเงินครั้งใหญ่ คนไทยไร้จน! ไม่จกตาแน่นะวิ? ตอนหนึ่งกล่าวถึงบุตรสาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่า
“...ผมชี้นำเขาไม่ได้ เขาต้องตัดสินใจเอง เพราะผมครอบงำเขาไม่ได้...”

นายกชายมั่นใจ สงขลา 'ประชาธิปัตย์' สู้ได้ทุกเขต

นายเดชอิศม์ ขาวทอง ( นายกชาย ) สส.เขต 5 จ.สงขลา และ รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ที่รับผิดชอบการเลือกตั้งในภาคใต้ เปิดเผย หลังมีการประกาศยุบสภาฯ ว่า ในส่วนของ 'ประชาธิปัตย์' มีความพร้อมที่สุด เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี่ในพื้นที่ภาคใต้ ตนและนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการเลือกตั้ง ร่วมกันในการรับผิดชอบ  ที่ผ่านมาพรรคฯได้มีการเปิดตัวผู้สมัคร และลงพื้นที่พบปะ ประชาชน ในแต่ละเขตเลือกตั้งตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มีการจัดปราศรัยไปแล้วมากกว่าทุกพรรคที่ส่งผู้สมัครในภาคใต้ พรรคมีกระแสตอบรับที่ดี และดีขึ้นโดยตลอด ทั้งกระแสพรรคกระแสผู้สมัครและหัวหน้าพรรค

การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคมีความพร้อมทั้งหัวหน้าพรรค เลขาพรรค และรองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบ ไม่หนักใจและยอมรับว่าเหนื่อย เพราะทุกพรรคที่เป็นคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ต่างหวังที่จะ เจาะที่นั่งในภาคใต้ให้มากที่สุด แต่เราก็สู้สุดฤทธิ์ ทั้งในการรักษาที่นั่งเดิม และเอาที่นั่งที่เสียไปเมื่อการเลือกตั้งในปี 2562 กลับคืนมา ให้ได้มากที่สุด ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ภาคใต้มี สส.เพิ่มขึ้นจำนวน 60 เขต เรายังมั่นใจเต็มร้อยว่าจะได้อย่างต่ำ 40 เขต ส่วนอีก 20 เขต เป็นการชิงกัน ระหว่าง ประชาธิปัตย์ กับพรรคอื่นๆ ซึ่งเรายังอาจจะได้จำนวน สส.ใน 20 เขตนี้เพิ่มขึ้นก็ได้

'ชัยวุฒิ' เชื่อพรรคร่วมรัฐบาลอยากจะทำงานร่วมกันต่อ บอกหากขัดแย้งกันจริง รัฐบาลล้มไปนานแล้ว

'ชัยวุฒิ' เผย นายกฯ ไม่กำชับ รมต.-ส.ส. หวั่นผิดระเบียบ กกต. บอกทุกคนรู้อยู่แล้ว เชื่อพรรคร่วมรัฐบาลอยากจะทำงานร่วมกันต่อ บอกขัดแย้งกัน รัฐบาลล้มไปแล้ว

(21 มี.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือ​ พปชร.เปิดเผยภายหลังเข้าอวยพร พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันเกิดอายุครบ 69 ปี ว่า นายกฯ ขอให้ทุกคนทำงานราบรื่นประสบความสำเร็จ ให้รักและสามัคคีกันไว้ เป็นพรรคร่วมรัฐบาลทำงานมาดูกัน 4 ปีไม่มีความขัดแย้งอยู่แล้ว รักกัน สามัคคีกันอยู่แล้ว ก็น่าจะทำงานด้วยกันต่อไป

เมื่อถามว่า นายกฯ ยังคาดหวังว่าจะทำงานร่วมกันต่อกับพรรค พปชร.ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน แต่การเมืองก็เป็นเรื่องของการเลือกตั้ง ก็ว่าไปตามพื้นที่และบริบทของผู้สมัคร การแข่งขันตามระบบประชาธิปไตย ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ผมก็เชื่อว่าทุกคนอยากจะทำงานร่วมกันต่อไป  พร้อมยืนยันว่าไม่มีการขัดแย้งกันถึงเดินหน้ามาได้ 4 ปี ถ้ามันขัดแย้งกันก็คงล้มไปแล้วรัฐบาล

'บิ๊กตู่' ปลื้ม 'บิ๊กป้อม' พา ครม.อวยพรวันคล้ายวันเกิด ด้าน 'เสี่ยหนู' โผกอด!! การันตียังรักและผูกพัน

นายกฯ เผย ประวิตร นำครม.อวยพรวันคล้ายวันเกิด ให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ยืนยันไม่ขัดแย้งกับใคร ชมครม.ชุดนี้อยู่กันนาน เกิดความรักความผูกพัน ด้านอนุทินโผกอดนายกฯ ยืนยันสัมพันธ์แน่น 

(21 มี.ค.66) ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง บรรดารัฐมนตรีได้นำแจกันดอกไม้ พวงมาลัย เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ห้องสีเหลืองตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

จากนั้นพลเอกประยุทธ์ เปิดเผยว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี อวยพรวันคล้ายวันเกิดให้กับตนเอง เป็นประจำทุกปี ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมของคนไทยด้วยกันอยู่แล้ว และคณะรัฐมนตรีชุดนี้อยู่ด้วยกันมายาวนาน จึงเกิดความรักและความผูกพันกันเป็นอย่างมาก และมากกว่าอย่างอื่น ดังนั้นหลายเรื่องขออย่านำไปโยงให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน ซึ่งพลเอกประวิตรอวยพรให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ประสบความสำเร็จ 

และยืนยันว่าตนเองมีความสุขทุกวันกับการทำงานร่วมกับ ครม. เนื่องจากไม่เคยมีปัญหาใดๆ กับคณะรัฐมนตรี และทุกพรรคการเมืองถ้าไม่รักกันก็จะทำงานไม่สำเร็จ ดังนั้นในห้วงเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ย้ำว่าก็เพราะร่วมมือกัน รักกัน ไม่ขัดแย้งกันจึงสำเร็จ

ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้มีวาระการพิจารณาน้อย โดยเน้นหนักไปที่การทำความเข้าใจกฎระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ว่าตามกฎหมายแล้วมีสิ่งใดที่ทำได้หรือทำไม่ได้บ้าง ซึ่งบางโครงการอาจทำได้ แต่จำเป็นต้องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นชอบก่อน เพราะเป็นช่วงเวลาของการเมืองที่เดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องบริหารราชการแผ่นดินควบคู่ไปด้วย โดยรัฐมนตรีทุกคนรับทราบแนวปฏิบัตินี้แล้วทุกเรื่อง

'เศรษฐา' ชี้!! ซีเซียม-137 ส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพ ห่วงคนปราจีนฯ-ใกล้เคียง แนะรัฐอย่าปล่อยปละ

(21 มี.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ซีเซียม-137 เป็นเรื่องใหญ่นะครับ เป็นสารกัมมันตรังสีที่ส่งผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพประชาชน สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ

สิ่งสำคัญคือความชัดเจนของภาครัฐที่ต้องให้ข้อมูลอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา ชัดเจน และรวดเร็ว รวมไปถึงการบริหารจัดการหลังเกิดเหตุ การทำพื้นที่ปิดของสารอันตราย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนถึงความปลอดภัยได้ครับ

‘สมศักดิ์’ มั่นใจ 99% ‘เพื่อไทย’ ได้เป็นรัฐบาล ชี้ เห็นโอกาส มีนายกฯหญิงคนที่ 2

‘สมศักดิ์’ มั่นใจ 99% ‘เพื่อไทย’ เป็นรัฐบาล เผื่อใจเป็นฝ่ายค้านแค่ 1% ชี้เห็นโอกาส มีนายกฯหญิงคนที่ 2 จากตระกูลชินวัตร ยันตีไข่แตก ส.ส.ใต้ได้แน่ ปัดคุยจับขั้ว ‘พท.-พปชร.-ภท.’ 

วันที่ 20 มี.ค.2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่า ตนเองได้ส่งหนังสือสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ววันนี้ พร้อมระบุเหตุผลที่ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เพราะชื่นชอบทีมงานโดยเฉพาะทีมนโยบาย ที่สามารถปฏิบัติสำเร็จได้จริง ต่างจากพรรคการเมืองอื่น ที่ยังมีปัญหาเรื่องการไปสู่เป้าหมาย ไม่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และไม่มีความชัดเจน 

นายสมศักดิ์ ยังมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทย จะตีไข่แตกได้ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และส่วนตัวมีความคุ้นเคยกับคนภาคใต้หลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องที่เคยทำหรือมีแนวคิด เช่นปลดล็อกกระท่อมออกจากยาเสพติด โครงการเปลี่ยนวัวชนเป็น Soft Power ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามา การไกล่เกลี่ยหนี้สินให้ประชาชนทั่วประเทศได้ถึงแสนครอบครัว ตัดวงจรยาเสพติดสามารถยึดทรัพย์ได้หลายพันล้าน ซึ่งการเข้าพรรคเพื่อไทยก็จะนำนโยบายที่เคยทำเหล่านี้และมีแนวคิดจะทำไปนำเสนอ ดังนั้นขอให้คอยดูเพราะพรรคเพื่อไทย มีพื้นที่ว่างเพื่อให้ไปขับเคลื่อนได้ รวมถึงมั่นใจว่าเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาล 99% ถ้าได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียวเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ส่วนถ้าสถานการณ์การเมืองพลิกการประเมินเกิดพลาดและเป็นฝ่ายค้าน นายสมศักดิ์กล่าวว่า เปอร์เซ็นต์ต่ำมาก ไม่ถึง 1% ส่วนโอกาสจะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวหรือไม่อยู่ที่พี่น้องประชาชน แต่ที่เข้าพรรคเพื่อไทยจะช่วยเท่าที่ทำได้ เพื่อเป้าหมายแลนสไลด์ 310 ส.ส.

ส่วนเรื่องขั้วการเมือง เพื่อไทย พลังประชารัฐและภูมิใจไทย หลังปรากฏภาพนายอนุทิน ชาญวีรกูล นำคณะแกนนำพรรคภูมิใจไทยไปพบพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และถัดมาอีกวันนายสมศักดิ์ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าพบพลเอกประวิตรนั้น นายสมศักดิ์ ยืนยันไม่ได้เป็นการพูดคุยเรื่องจัดตั้งรัฐบาล เพียงแต่เข้าพบเพื่ออำลา ในอนาคตถ้ามีปัญหาขัดแย้งก็สามารถพูดคุยกันได้ 

เมื่อถามว่าขั้วการเมืองเหล่านี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้อาจจะเขม็งเกลียวในการเลือกตั้งแย่งคนจากพรรคนั้นไปพรรคนี้วิพากษ์วิจารณ์ว่ากันไป แต่หลังการเลือกตั้ง อาจต้องใช้คำพูดของพลเอกประวิตรคือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่วันนี้ไม่ได้จับมือตั้งรัฐบาล ไม่ได้คุย และตนไม่ได้มีหน้าที่ ส่วนคู่แข่งในสนามเลือกตั้ง ครั้งนี้ ของพรรคเพื่อไทยคือความยากจนและการทำความเข้าใจกับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง คู่แข่งไม่ใช่พรรคการเมืองที่จะสู้กัน เพราะมันข้ามจุดนั้นไปแล้ว 

นายสมศักดิ์ ยังปฏิเสธไม่ได้พูดคุยหรือดีลตรงกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย แต่คนในพรรคเพื่อไทยขานรับดีมาก ขอบคุณที่เข้าไปแล้วไม่ว้าเหว่ ได้ทำงานร่วมกัน และยืนยันว่าจะไม่มีกลุ่มไปต่อรองใดๆ โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตรตอนนี้แยกย้ายไปอยู่หลายพรรค

‘จุรินทร์’ หนุนเงินกู้ประกอบอาชีพผู้สูงวัยกว่า 165 ล้านบาท พร้อมชูเกียรติ ‘ประยงค์ รณรงค์’ เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ปี 66

จุรินทร์ นั่งหัวโต๊ะ คกก. ผู้สูงอายุแห่งชาติ หนุนเงินกู้ประกอบอาชีพผู้สูงอายุ 5,500 ราย 165 ล้านบาท  
.
(20 มี.ค.66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันที่ 20 มี.ค.66 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมผ่านระบบ Zoom เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ 

โดยที่ประชุม เห็นชอบให้ดำเนินการจัดงานสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติรองรับสังคมสูงวัย ปี 2566 ในวันที่ 4 เมษายน 2566 ที่ โรงแรม ทีเค ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร รวมถึงสนับสนุนการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพของผู้สูงอายุ จำนวน 5,500 ราย เป็นเงิน 165,000,000 บาท และโครงการที่ขอรับการสนับสนุนในการดำเนินโครงการ-กิจกรรม ด้านผู้สูงอายุ จำนวน 200 โครงการ เป็นเงิน 20,000,000 บาท  มากไปกว่านั้น ที่ประชุมยังได้พิจารณาให้ความเห็นชอบการประกาศสดุดีเกียรติคุณยกย่องผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2566 ให้นายประยงค์ รณรงค์  อายุ 79 ปี ปราชญ์ด้านการเกษตรจาก จังหวัดนครศรีธรรมมราช เป็นผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2566

‘บิ๊กตู่’ ชี้!! สถานการณ์การเงินไทยแข็งแกร่ง ไม่หวั่นเหตุ Credit Suisse แต่ก็ไม่ติดประมาท

‘นายกฯ’ ยืนยันสถานการณ์การเงินของประเทศไทยยังแข็งแกร่ง ไม่ประมาทต้องคอยระวัง หลัง Credit Suisse เกิดวิกฤตเกิดสภาพคล่อง

(20 มี.ค.66) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ธนาคาร Credit Suisse ธนาคารระดับโลก เกิดวิกฤตเกิดสภาพคล่อง โดยกล่าวย้อนถามว่า... 

‘บิ๊กป้อม’ ลุย ‘กระบี่-พังงา’ หาแนวทาง รับมือน้ำท่วม-ภัยแล้ง พร้อมหนุน ‘ศูนย์กลางผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ’

‘บิ๊กป้อม’ โหมงาน ลุยกระบี่-พังงา ติดตามพัฒนาแหล่งน้ำ-เมืองท่องเที่ยว-ดัน พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมัน ชู ไทย ‘ศูนย์กลางผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ’ และมีหน่วยงานรองรับตรง 

(20 มี.ค. 66) เมื่อเวลา 09.30. น.ที่ จ.กระบี่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.กระบี่ และพังงา โดยจุดแรก ติดตามความคืบหน้าโครงการฝายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการอนุรักษ์แหล่งน้ำในพื้นที่ มี ผวจ.กระบี่และพังงา เลขา สทนช. อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ อธิบดีกรมชลประทาน และหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ให้การต้อนรับ 

โดยรับฟังการบรรยายสรุปในพื้นที่ โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำหนองไหล ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จว.กระบี่ พร้อมพบปะรับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่ ภาพรวมสถานการณ์น้ำของ จว.กระบี่ปัจจุบัน ปี 61 - 65 ดำเนินการแล้ว 447 โครงการ ประชาชนได้ประโยชน์กว่า 15,000 ครัวเรือน พื้นที่รับประโยชน์กว่า 23,500 ไร่  ปี 66 อยู่ระหว่างดำเนินการ 13 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์  1,430 ไร่ ประชาชนได้ประโยชน์กว่า 1,000 ครัวเรือน และปี 67 เตรียมโครงการรรองรับ 148 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์กว่า 48,000 ไร่ ประชาชนรับประโยชน์กว่า 7,100 ครัวเรือน สำหรับปี 66 คาดการณ์มีภาวะฝนทิ้งช่วง มิ.ย.- กค. ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำสะสมน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด

‘ชวน’ ปลื้ม!! สภาอยู่ครบ 4 ปี ผ่าน กม. หลายฉบับ แต่เสียดาย เริ่มทำงาน 500 คน สุดท้ายเหลือ 393 คน

‘ชวน’ แถลงขอบคุณสื่อสภา นำเสนอพฤติกรรมนักการเมือง ชี้มีส่วนช่วยตัดสินใจวันกาบัตร ปลื้มผ่าน กม.หลายฉบับ เสียดายแผ่วปลายช่วงท้าย เหตุองค์ประชุมไม่ครบ เผยเริ่มต้นทำงาน 500 คน สุดท้ายเหลือ 393 คน

(20 มี.ค. 66) ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวขอบคุณสื่อมวลชนประจำรัฐสภาตลอดการทำงานร่วมกัน 4 ปีที่ผ่านมาว่า วันนี้คาดหมายว่าน่าจะมีประกาศพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภา ดังนั้น จึงถือโอกาสนี้รายงานสถานภาพของสภาผู้แทนราษฎรให้พี่น้องสื่อมวลชนได้ทราบเป็นครั้งสุดท้าย

นายชวนกล่าวว่า ความจริงตัวเลขของผู้แทนราษฎรชุดนี้เริ่มต้น 500 คน แต่เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบทำให้ ส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคสิ้นสภาพไป 11 คน, มี ส.ส.ที่ศาลฎีกาสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เรื่องเสียบบัตรแทนกัน 3 คน, มี ส.ส.ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ 4 คนกรณีขอสร้างสนามฟุตซอล, มี ส.ส.พรรคต่าง ๆ ที่ถูกศาลตัดสินให้พ้นสมาชิกภาพโดยไม่มีการเลือกตั้งซ่อมและไม่มีการเลื่อนลำดับทดแทน 4 คน, และมี ส.ส.ลาออกในช่วง 180 วัน ทำให้สมาชิกลดลงไปอีก 84 คน และเสียชีวิตในช่วงเวลานั้นอีก 1 คน ดังนั้น ในวันนี้จึงเหลือ ส.ส.อยู่ 393 คน

นายชวนกล่าวว่า ถ้าเราทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ของสภาชุดนี้ก็จะเห็นว่าเป็นชุดพิเศษที่หลังว่างเว้นให้มีการเลือกตั้งมา 5 ปี จึงเป็นเหมือนชุดที่เริ่มใหม่ สมาชิกที่เข้ามาใหม่ 500 คน ตอนเริ่มแรกนั้นจึงเป็นสมาชิกใหม่เกินกว่าครึ่งหนึ่ง จึงมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ในพฤติกรรม ทั้งนี้ สภาชุดนี้ได้เริ่มใช้ที่ในการประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นย้ายไปห้องประชุมของ TOT ต่อมาย้ายมาที่ห้องประชุมจันทราของวุฒิสภา และห้องประชุมสุริยันของสภา จึงไม่มีเคยมีสภาชุดไหนที่เปลี่ยนที่ประชุมมากเท่านี้ ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19

“โชคดีว่าสภาขยันทำงานในช่วงต้น ประกอบกับรัฐบาลเสนอกฎหมายในช่วงต้นไม่มากนักจึงไม่มีอะไรค้าง จนกระทั่งเกิดวิกฤตโควิด-19 เราก็หยุดการประชุมไป 1 เดือน ตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แม้จะมีสมาชิกบางฝ่ายเสนอให้หยุดต่อเนื่องจนกว่าจะหายจากโรคระบาด แต่เราก็เชื่อว่าถ้าจะรอให้หมดการระบาดคงเป็นไปไม่ได้ เราจึงประชุมต่อเนื่องตลอดมา และชดเชยการประชุมในวันศุกร์” ประธานสภากล่าว

นายชวนกล่าวต่อว่า โดยหลักแล้วพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คือเครื่องมือของฝ่ายบริหารที่ต้องใช้ ดังนั้น กฎหมายของรัฐบาลจึงไม่มีฉบับใดค้างอยู่ ทั้งในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรและรัฐสภา แต่ในช่วงท้ายที่รัฐบาลส่งกฎหมายมาอีกหลายฉบับ แล้วก็ไม่นำองค์ประชุมมาด้วย จนตนต้องทำหนังสือถึงนายกฯ และเจ้ากระทรวงผู้เสนอกฎหมายนั้น แต่สุดท้ายองค์ประชุมก็ยังไม่ครบ

นายชวนกล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจที่สภาอยู่ได้มาจนครบ 4 ปี ซึ่งไม่ได้มีอย่างนี้ทุกครั้งไป ถือว่าฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่จนเกือบครบถ้วน ถ้าไม่มองช่วงปลายที่มีกฎหมายค้างอยู่ เช่น ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง และร่างรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ได้มีการพิจารณา เพราะองค์ประชุมไม่ครบ เกือบจะพูดได้ว่ากฎหมายของรัฐบาลได้ผ่านไปเกือบทั้งสิ้น ยกเว้นช่วงปลายซึ่งเป็นกฎหมายที่เสนอเข้ามาใหม่และองค์ประชุมไม่ครบ

นายชวนกล่าวว่า ส่วนตนที่ได้นั่งเป็นประธานสภาตลอด 4 ปี ตั้งใจจะคุมสภานี้ให้ถึงที่สุด และคิดว่าสมาชิกใหม่ต้องการคำแนะนำหลายเรื่อง ซึ่งสมาชิกเหล่านี้ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยมีปรากฏการณ์ใหม่ก็คือ  เรื่องการรักษาเวลาการอภิปราย ทำให้ทุกคนที่ได้อภิปราย แต่มีบางเรื่องคือพรรคที่มีเสียงมากอภิปรายไม่กี่คน ส่วนพรรคที่เสียงน้อยกลับอภิปรายมาก ทั้งที่ความจริงควรจะเป็นไปตามสัดส่วนของจำนวน ส.ส.ของพรรคนั้นๆ

‘พี่ศรี’ ไม่ทน!! โร่ฟ้องกกต. เอาผิด ‘ปดิพัทธ์ หลังปราศรัยพิษณุโลกพาดพิงถึงสถาบัน ชี้!! มีผลยุบพรรค

‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นกกต. เอาผิด ‘ปดิพัทธ์’ ส.ส.ก้าวไกล ปราศรัยพาดพิงสถาบันระหว่างหาเสียงที่พิษณุโลก มีผลยุบพรรค

(20 มี.ค. 66) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางยื่นคำร้องต่อกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบถ้อยคำปราศรัยของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่ได้ปราศรัยหาเสียงพาดพิงสถาบัน ที่จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า วันนี้ตนนำหลักฐานเป็นคลิปคำปราศรัยของกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล โดยในคำปราศรัยล้วนแล้วพูดถึงแต่สถาบัน บางถ้อยคำปรากฏชัดเจนว่าเป็นการพาดพิงไปถึงโครงการพระราชดำริมากมาย มีการคอร์รัปชัน ซึ่งคำพูดดังกล่าวตนคิดว่าเป็นการให้ร้ายต่อสถาบัน โดยโครงการพระราชดำริเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทรงพระราชทานให้กับพสกนิกร ประชาชน เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปของประชาชนชาวไทย และชาวต่างประเทศ ซึ่งมีมากกว่า 4,700 โครงการ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาให้กับคนทั้งประเทศ

‘บิ๊กตู่’ ตอบนักข่าว หลังถามเรื่องยุบสภาฯ พร้อมย้ำ ขรก. ระวังใช้จ่ายงบฯ ช่วง รบ. รักษาการ

‘บิ๊กตู่’ เตือน ขรก.จากนี้ไปทำอะไรต้องระวังช่วงเป็นรัฐบาลรักษาการ ก่อนตอบนักข่าว “ก็คอยซิจ๊ะ” หลังถามว่าราชกิจจานุเบกษาฯ จะประกาศในวันนี้หรือไม่

(20 มี.ค. 66) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวตอนหนึ่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2566 โดยกำชับในที่ประชุมว่า ช่วงนี้ต้องระมัดระวัง จากนี้ไปต้องระวังในเรื่องการเป็นรัฐบาลรักษาการ ในการใช้จ่ายงบประมาณริเริ่มทำโครงการใหม่ ๆ ก็ตาม วันนี้จะมีการประชุมเพื่อรับทราบแนวนโยบายจากคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีนำทีมหารือในเช้าวันเดียวกันนี้ เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้

‘ไพศาล’ ฟัน!! ยุบสภาฯ พาการเมืองไทยเข้าสู่ ‘กลียุค’ พรรคการเมืองเก่า-ใหม่ ผวา!! หวิดถูกยุบพรรคเป็นพรวน

(20 มี.ค. 66) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า จากยุบสภาสู่การยุบพรรคและกลียุค!!!

1. การนับเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ต้องนับวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ว่า จะสิ้นสุดลงในเวลา 24.00 น. วันที่ 22 มี.ค. 66 ซึ่งเป็นที่ยุติชัดเจนแล้วว่าไม่มีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาตราพระราชกฤษฎีกายุบสภา เพราะมีคนถือว่า ‘เป็นเรื่องพิเศษ’ กล่าวง่าย ๆ คือเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

แต่รัฐธรรมนูญบัญญัติในเรื่องนี้ไว้เฉพาะแล้วว่า “พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจอธิปไตยผ่านคณะรัฐมนตรี” และ “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการยุบสภา” คือลงว่าเป็นพระราชกฤษฎีกาแล้วก็ต้องปฏิบัติตามนี้ ไม่มีกรณีพิเศษนอกเหนือจากนี้

2. จับตาว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษายุบสภาในวันนี้ตามที่เป็นข่าวลือกันหรือไม่ ถ้าจริง ก็จะลบล้างกำหนดการเลือกตั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศ ก่อนหน้านี้ และทำให้เวลาการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งขยายเอาไป ซึ่งคงจะขยายไปถึงต้นเดือนเมษายน 66 ก็จะขยายเวลาตกปลาในอ่างได้อีกระยะหนึ่ง

จากนั้นก็ต้องติดตามข่าวกระบวนการเดินหน้าในเรื่องยุบพรรค โดยเฉพาะการยุบพรรคเพื่อไทย (พท.) ก้าวไกล (ก.ก.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และขณะนี้ ก็มีเรื่องการยุบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และรวมไทยรักษาชาติ (รทสช.) ตามเข้ามาเป็นพรวนด้วย

3. การกล่าวหาเรื่องใช้อำนาจอ้างการตรวจราชการเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง รวม 19 ครั้ง ที่พรรคเสรีรวมไทยโดยอาจารย์สมชัยและคุณวีระเป็นผู้กล่าวหานั้น ได้ยินว่ามีข้อพิสูจน์ง่ายมาก

~การกระทำทั้ง 19 ครั้งมีหลักฐานชัดเจนทั้งภาพถ่ายและคลิป รวมทั้งตัวบุคคล

~สามารถเปรียบเทียบการตรวจราชการในช่วง 3 ปีก่อนนี้ว่ามีลักษณะรูปแบบอย่างไรแตกต่างกับ ที่อ้างไปตรวจราชการในช่วงก่อนเลือกตั้งนี้อย่างไร ที่ชัดเจนคือการระดมบุคคลหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งจังหวัดมาต้อนรับ การจัดรายการพบปะราษฎรและการกล่าวปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง รวมทั้งการนำผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งขึ้นโชว์ตัวกันเป็นตับ

อย่าทำเป็นเล่นไป เพราะถ้าวันใดกระบวนการยุติธรรมแสดงความศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ก็คงน่าดูชม ไม่ใครก็ใครอาจต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top