Wednesday, 22 March 2023
NEWS

‘ทนายตั้ม’ โพสต์เตือนความจำ ‘ครูปรีชา’ หลังลงสมัครส.ส.แล้ว บอกอย่าลืมนัดที่ศาล

‘ทนายตั้ม’ โพสต์ข้อความถึง ‘ครูปรีชา’ บอก ยินดีกับชาวกาญจนบุรี หลังครูคนดังลงสมัคร ส.ส. พร้อมฝากเตือนความจำอย่าลืมมีนัดเดทกันที่ศาลอีกหลายคดี

จากกรณี เป็นที่ฮือฮา หลังอดีตคนดังจากคดีหวย 30 ล้าน เจ้าของวลีเด็ด “ความจริงก็คือความจริง” นายปรีชา ใคร่ครวญ ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชากรไทย (ปชท.)

'พล.ต.อ.สุรเชษฐ์' แถลงสรุปผลการดำเนินคดีเด็กสูญหาย พื้นที่ สภ.บางหลวง – ดำเนินคดีผู้ต้องหา 4 ราย

จากกรณีเมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 เวลา 08.30 น. ได้มี น.ส.พิไลภรณ์ หรือนิ่ม อายุ 17 ปี และ นายสิทธิโชค หรือพุด อายุ 19 ปี แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางหลวง ภ.จว.นครปฐม ว่า น้องต่อ อายุ 8 เดือน บุตรชายของตน ได้หายตัวออกจากบ้านไป โดยประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามตัวกลับมาโดยปลอดภัย ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอไปแล้วนั้น

หลังจากได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.บางหลวง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และออกค้นหาตัวน้องต่อ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบได้พบข้อสงสัยมากมาย จึงได้รายงานผลต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ต่อมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ทำการสืบสวนติดตามกรณีดังกล่าวเพื่อทำความจริงให้ปรากฏและตามหาตัวน้องต่อกลับมาอย่างปลอดภัย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผบช.ภ.7,  พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม ร่วมกับ ผกก.สภ.บางหลวง เข้าตรวจพื้นที่โดยละเอียดอีกครั้งโดยให้ความสนใจในทุกประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์ของตัวบิดามารดา

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เริ่มทำการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง เช่น การตรวจสอบโถส้วมซึ่งพบรอยปูนใหม่ แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ ตรวจสอบบริเวณภายในบ้านที่เกิดเหตุ พบหมอนที่มีคราบเลือด นอกจากนี้ยังได้กำหนดพื้นที่ค้นหาเป็นระยะไข่แดง-ไข่ขาว รวมเส้นผ่านสูญกลางระยะประมาณ 10 กม. แต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ รวมทั้งยังได้นำเอาตัวพยานและผู้ต้องสงสัยมาสอบประกอบมากถึง 100 ปาก เพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานที่ที่อาจพบตัวน้องต่อได้ แต่ยังไม่พบเบาะแสเพิ่มเติม ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ก.พ.66 น.ส.พิไลภรณ์ ได้รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนได้อุ้มน้องต่อแล้วมิได้ระมัดระวัง เป็นเหตุให้น้องต่อร่วงกระแทกพื้นจนถึงแก่ความตาย ตนจึงได้นำร่างของน้องต่อไปไปทิ้งที่บริเวณแม่น้ำท่าจีน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจสอบภายในแม่น้ำท่าจีนและขุดลอกแม่น้ำเป็นระยะทางมากกว่า 10 กม. แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.พิไลภรณ์ และนายสิทธิโชค รวมทั้งผู้ต้องสงสัยไปตรวจเปรียบเทียบพบว่า ดีเอ็นเอของนายสิทธิโชคไม่ตรงกับน้องต่อ จึงได้สืบสวนเพิ่มเติมจนพบข้อเท็จจริงว่า นายสิทธิโชค ได้มีการพาเอา น.ส.พิไลภรณ์ ไปแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ โดยมีผู้ซื้อบริการจำนวน 1 ราย ได้แก่ นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี

จากผลการสืบสวนทั้งหมดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 4 ราย ประกอบด้วย

ม.แม่โจ้ เจ้าภาพจัดลงนาม knowledge sharing สร้างความร่วมมือการบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี ระดับนานาชาติ ไทย - ฟิลิปปินส์

(20 มี.ค.66) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยอุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเกษตรและอาหาร ได้ดำเนินการจัดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเบงเก็ต ประเทศฟิลิปปินส์ (Benguet State University,Philippines) ในฐานะมหาวิทยาลัยประสานดำเนินการเครือข่าย Agi-Aqua Technology Business Incubator (AATBI) จำนวน 22 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศฟิลิปปินส์ 

ทั้งนี้ ได้มีแนวทางการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือหน่วยบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยีร่วมกันระหว่างเครือข่าย AATBI กับเครือข่ายหน่วยบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี ภายใต้อุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค เครือข่ายแนวคิดการทำงานให้เกิดวิสัทัศน์ เปิดโลกทัศน์สู่ความเป็นสากล รวมไปถึงการเพิ่มพูนประสบการณ์การปฏิบัติของผู้บริหารและบุคลากร

'มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง' ลงพื้นที่จว.นครราชสีมา มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัว 'เรือนยากจน' พร้อมมอบ' จักรยาน' ให้แก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน ในโครงการ 'จักรยานเพื่อน้องสัญจร' และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี

วานนี้ (วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2566) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก และนายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ ร่วมในพิธีมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับครัวเรือนยากจนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา (จังหวัดที่ 3 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จำนวน 18 ครัวเรือน โดยมี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานร่วมในพิธี พร้อมด้วย คณะผู้บริหารมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน (หลักเสียงเซี่ยงตึ๊ง) และคลินิกการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว สาขาโคราช ร่วมในพิธี ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 

พร้อมกันนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดมอบรถจักรยาน ในโครงการจักรยานเพื่อน้องสัญจร ครั้งที่ 3 จำนวน 30 คัน ให้แก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 3 โรงเรียน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพและรถจักรยานในจังหวัดนครราชสีมา เป็นเงินทั้งสิ้น 437,570.50 บาท (สี่แสนสามหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทห้าสิบสตางค์) รวมทั้งได้จัดทีมหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ตัดผม และ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น โดยมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

POLITICS

‘ภูมิใจไทย’ แจง!! เงินบริจาคถูกต้องตาม กม. ยัน!! ที่ผ่านมาแค่ 'ชูวิทย์' จินตนาการไปเอง

(22 มี.ค.66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายธนิต ศรีประเทศ อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หนึ่งในทีมกฎหมายพรรค ภท. ร่วมกันแถลงถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นต่อ กกต.ให้ยุบพรรคภท. อันเนื่องมาจากเงินบริจาคพรรคการเมือง ไม่เป็นไปตาม ม.72 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง

โดยนายศุภชัย กล่าวยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ การบริจาคเงินให้พรรคการเมือง เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ได้กำหนดรายละเอียด ว่า ถ้าหากจะมีการดำเนินการใดๆ จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ที่แบ่งเป็นสองส่วนคือการบริจาคเงินจากบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ซึ่งเมื่อมีการบริจาคจากทั้ง 2 ส่วน ทางพรรคภท.ในฐานะเป็นผู้รับบริจาค จะต้องตรวจสอบว่า แหล่งที่มาของเงินถูกต้องหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าเราทำถูกต้องทุกประการ โดยยอดบริจาค ตั้งแต่ปี 2561 -ปัจจุบัน อยู่ที่ 355,033,639 บาท แบ่งเป็นปี 2561 จำนวน 10 ล้านบาท ปี 2562 จำนวน 161 ล้านบาท ปี2563 จำนวน 24,884,289 บาท ปี 2564 จำนวน 35,952,000 บาท ปี2565 จำนวน 123,197,350 บาท และปี2566 จำนวน 8,730,000 บาท โดยทั้งหมดบริจาคเป็นเงินสด รวมถึงมีบางส่วนที่บริจาคเป็นทรัพย์สิน ซึ่งต้องมีการลงทะเบียนแล้วแจ้งต่อ กกต. เพื่อประกาศต่อสาธารณะ และขอยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทย ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

ด้านนายธนิต กล่าวยืนยันว่า การบริจาคของพรรคเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของกกต. รวมถึงมีระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้หมดแล้ว ที่พรรคการเมืองจะต้องพึงสังวร เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมือง โดนโทษจนถึงขั้นถูกยุบพรรค ขณะที่ขั้นตอนการบริจาคทั้ง ในส่วนของบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ได้กำหนดไว้ให้บริจาคไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะต้องมีหลักฐานยืนยัน อาทิ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หนังสือบริคณห์สนธิ (ตราสารที่ผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทได้ตกลงร่วมกันจัดทำขึ้น) หนังสือลงนามมอบอำนาจต่างๆ ที่จะต้องรวบรวมแล้วส่งไปยัง กกต.ทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจากส่งให้กกต.ตรวจแล้ว ก็จะต้องไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบในแง่ของนิติบุคคลอีกด้วย ทั้งนี้เงินบริจาคไม่สามารถนำไปใช้อย่างอื่นได้ ซึ่งจะต้องนำมาดำเนินการ เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองและการเลือกตั้งเท่านั้น

'โทนี่’ เย้ย ‘บิ๊กป้อม’ แค่ที่เกาะหากินของลูกน้อง ยัน!! ไม่มีดีล 'พปชร.' ตั้งรัฐบาลแน่นอน

(22 มี.ค.66) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม ตอบคำถามผ่าน CareTalk x Care ClubHouse เลือก•เคลื่อน•ไทย 2566 EP4: เติมเงินครั้งใหญ่ คนไทยไร้จน! ไม่จกตาแน่นะวิ? เรื่องกระแส การดีลระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรคพลังประชารัฐ จะจับมือกันไหม เพื่อฝ่าด่าน 250 ส.ว. ดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น นายกฯ และป้องกัน รัฐประหาร ว่า ผมว่าน่าจะยาก เพราะลุงป้อมเองวันก่อนไปที่จ.เชียงใหม่ ก็เป็นนายกฯขึ้นนายกฯลงแล้ว คือเดี๋ยวต้องยกขึ้นยกลงจากเวทีแกคงต้องพักผ่อนแล้วลูกน้องก็อยากค้ำแกไว้ เพื่อไว้เกาะทำมาหากิน ซึ่งผมสงสารแกนะ ต้องพักได้แล้ว สังขารมันไม่ได้แล้ว จะมานั่งทำงานให้ประเทศก็ไม่ไหวแล้ว ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ยากที่ใครจะไปนั่งคุยกัน

วันนี้ประชาชนเขาบอกว่า เดี๋ยวเขาเลือกให้เอง ไม่ต้องไปรบกวน ส.ว. หรอก ให้ ส.ว. ที่เขาอิสระ ไม่สังกัดใคร เขาก็จะใช้ดุลพินิจตามประชาชน ก็มีจำนวนหนึ่งอยู่แล้ว คือ เขามีอิสระ เขาจะไม่ยกให้ ก็คงช่วยไม่ได้

ส่วนที่มีการโยงคอนเน็กชั่นระหว่าง พล.อ.ประวิตร กับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า นายทักษิณ กล่าวว่า ถามว่าคุณหญิงกับป้อมรู้จักกันดีไหมก็รู้จัก แต่ไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้น ส่วนกับ พล.ต.อ.พัชรวาท (น้องชาย ‘บิ๊กป้อม) ก็รู้จักกัน แต่ไม่สนิท ขนาดมาชี้นำการเมือง คุณหญิงไม่ยุ่งการเมือง ยุ่งแต่เรื่องสังคม ที่ไปมาหาสู่ ไม่บอกชี้นำการเมือง

‘ทักษิณ’ เชื่อ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ ได้ดีกว่าตน ลั่น!! แม้เป็น ‘พ่อ’ ก็ไม่สามารถชี้นำได้

(22 มี.ค.66) เพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่บทสนทนาของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม กล่าวผ่าน CareTalk x Care ClubHouse เลือก•เคลื่อน•ไทย 2566 EP4 : เติมเงินครั้งใหญ่ คนไทยไร้จน! ไม่จกตาแน่นะวิ? ตอนหนึ่งกล่าวถึงบุตรสาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่า
“...ผมชี้นำเขาไม่ได้ เขาต้องตัดสินใจเอง เพราะผมครอบงำเขาไม่ได้...”

TRENDING
ECONBIZ

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! ฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ สำเร็จในรอบ 32 ปี ขึ้นแท่นคู่ค้ารายใหญ่ ขยายโอกาสทางเศรษฐกิจรอบด้าน

(22 มี.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับความสำเร็จหลังการฟื้นความสัมพันธ์ประเทศไทยและราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เปิดโอกาสความร่วมมือ เพิ่มตัวเลขการค้าระหว่างกัน โดยในปี 2565 มีมูลค่าการค้ารวม 323,113.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 37.64%

ทั้งนี้ ช่วงต้นปี 2565 รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการเป็นผลสำเร็จ เปิดโอกาสความร่วมมือระหว่างกัน 9 ด้าน ได้แก่ ด้านการท่องเที่ยว, ด้านแรงงาน, ด้านอาหาร รวมถึงความร่วมมือใน ด้านสุขภาพ, ด้านพลังงาน, ด้านการศึกษาและศาสนา, ด้านความมั่นคง, ด้านกีฬา และด้านการค้าและการลงทุน ทั้งภาครัฐและเอกชนของทั้ง 2 ฝ่าย โดยภาคเอกชนไทยสนใจลงทุนธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าตกแต่งภายใน ส่วนซาอุดีอาระเบียสนใจลงทุนด้านพลังงานในพื้นที่ EEC ซึ่งซาอุดีอาระเบียพร้อมลงทุนสูงถึง 300,000 ล้านบาทใน EEC

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) ขยายความร่วมมืออีกหลายฉบับ จับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างภาครัฐซาอุดีอาระเบีย และภาคเอกชนไทย มากกว่า 500 คู่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดมูลค่าการค้าใหม่ 3 หมื่นล้านบาท และสร้างการลงทุนระหว่างกันมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2566

ในช่วงต้นปี 2566 ซึ่งเป็นโอกาสครบรอบ 1 ปีฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย ตัวเลขการค้าของสองฝ่ายมีมูลค่ารวมกว่า 323,113.42 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขทางการค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 37.64% ทำให้ซาอุดีอาระเบียกลายเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 17 ของไทยในตลาดโลก และอันดับที่ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง

‘ก.คลัง’ เล็งดึง BRT-สองแถวรับจ้าง-เรือโดยสารสาธารณะ ร่วมโครงการ ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิ

‘คลัง’ กางยอดยืนยันตัวตนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 แล้ว 11.38 ล้านราย ส่วนยอดยื่นอุทธรณ์พุ่ง 1.12 ล้านราย พร้อมแจงลุยศึกษาประเภทระบบขนส่งเล็งดึงรถเอกชนร่วมขสมก.-BRT-สองแถวรับจ้าง-เรือโดยสารสาธารณะ เพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิ

(22 มี.ค.66) นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ณ วันที่ 21 มี.ค. 2566 เวลา 13.00 น. ว่า มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ 11,383,700 ราย คิดเป็น 77.99% ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 14,596,820 ราย โดยมีจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ทั้งสิ้น 1,122,950 ราย

สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์และยืนยันตัวตนสำเร็จ ภายในวันที่ 26 มี.ค. 2566 จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2566 ตามกำหนดการที่กำหนดไว้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะได้รับสวัสดิการ ดังนี้ 

1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน โดยผู้มีสิทธิสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่เวลา 05.00 - 23.00 น. ของทุกวัน 

2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคน ต่อ 3 เดือน โดยผู้มีสิทธิสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่เวลา 05.00 - 23.00 น. ของทุกวัน

3. วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง ได้แก่ รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.), รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS-รถไฟฟ้ามหานคร (MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด และรถไฟ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ โดยผู้มีสิทธิสามารถใช้บริการระบบขนส่งดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2566 ตั้งแต่เวลา 00.30 น. เป็นต้นไป

“คลังอยู่ระหว่างเตรียมการเพิ่มเติมประเภทระบบขนส่งเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิ ได้แก่ รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (BRT) รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน รถสองแถวรับจ้างและเรือโดยสารสาธารณะ ซึ่งจะแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบต่อไป” นายพรชัย กล่าว

ยุทธศาสตร์คานงัดเศรษฐกิจไทย 10 ล้านล้าน โอกาสที่ 'อาเซียน-จีน-ตะวันออกกลาง' พร้อมเสิร์ฟ

“...ปีนี้จะเป็นปีแห่งโอกาสในวิกฤติทางด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวของไทย...”

“…เราทำเงินจากโอกาสการค้าของไทยกว่า 10 ล้านล้านบาท ในตลาดอาเซียน-จีน-ตะวันออกกลาง...”

นี่คือคำกล่าวโดยนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ และอดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นภาคต่อ (ติดตามตอนแรก >> https://thestatestimes.com/post/2023031438) ในการฉายภาพเศรษฐกิจไทยที่กำลังพุ่งทะยาน โดยมีประชาธิปัตย์ทันสมัยเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนผ่านกระทรวงเกษตรฯ 

สำหรับในตอนล่าสุดนี้ นายอลงกรณ์ ได้พา THE STATES TIMES ไปโฟกัสถึงโอกาสขนาดใหญ่ที่ไทยกำลังปั้นให้เกิดเป็นผลลัพธ์จาก ตลาดอาเซียน-จีน-ตะวันออกกลาง ซึ่งเข้ามามีบทบาทต่อการเติบโตของภาคเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้...

ปลายปี 2565 ไทยเป็นเจ้าภาพในการประชุม APEC ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญและมีผลต่อเศรษฐกิจของไทยและภูมิภาคอาเซียนอย่างมาก รวมถึงการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ในรอบ 30 ปี ถือเป็น 'ลมส่งท้าย' ถึงปีนี้ ซึ่งจะเป็นปีแห่งโอกาสในวิกฤติของไทยทางด้านการค้า, การลงทุน, การท่องเที่ยว

เริ่มต้นปีด้วยข่าวดี เมื่อจีนเริ่มผ่อนคลายนโยบายการควบคุมโควิดและเปิดประเทศในเดือนมกราคม

ทั้งนี้ภาคการเกษตรของไทยถือเป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยพร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรไทย ภายใต้วิสัยทัศน์เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในประเทศ พร้อมทั้งมุ่งเน้นการขับเคลื่อนการผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรม องค์ความรู้ ศาสตร์พระราชาภูมิปัญญาไทยโดยจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม (Agritech and Innovation Center : AIC) ทั้ง 77 จังหวัด และศูนย์ AIC ประเภทศูนย์ความเป็นเลิศ (Center of Excellence) อีก 23 ศูนย์ เมื่อ 1 มิถุนายน 2563 ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่สำคัญของการยกระดับอัพเกรดการพัฒนาประเทศภายใต้ยุทธศาสตร์เทคโนโลยีเกษตร 4.0 และยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตบนความร่วมมือระหว่าง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์กับ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ

สำหรับโอกาสการค้าการลงทุนของไทยในจีน-ตะวันออกกลาง และอาเซียน ประเทศไทยถือได้ว่ามีศักยภาพสูงโดยใช้จุดแข็งของไทยที่ขอเรียกว่า...

>> '8 ลมใต้ปีก' ช่วยผลักดันโอกาสของไทยและหุ้นส่วนเศรษฐกิจให้เดินหน้าสู่ความสำเร็จ ได้แก่...

1. การฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย 
- สร้างระเบียงเศรษฐกิจใหม่ (New Economic Corridor) ระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย อาเซียนและตะวันออกกลาง

2. รถไฟลาว-จีน เชื่อมไทย เชื่อมโลก 
- การพัฒนาโลจิสติกส์เชื่อมการขนส่งการค้า และการลงทุนของไทยไปยังตลาดทุกมณฑลในจีน อาเซียนตะวันออกกลาง เอเซียกลาง ยุโรป และอังกฤษเพราะการขนส่งสินค้าจะเร็วขึ้น ต้นทุนจะลดลง โดยเฉพาะอีสานเกตเวย์ และท่าเรือหวุ่งอ๋างเปิดเส้นทางสู่แปซิฟิก

3. 'ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค' (RCEP:Regional Comprehensive Economic Partnership)
- เป็นเขตการค้าเสรี (FTA) ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้ภาษีนำเข้าสินค้าไทยเหลือศูนย์ทันทีเกือบ 30,000 รายการ ใน 14 ประเทศที่ร่วมเป็น FTA Partner ของ RCEP เริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 โดยมีสมาชิก 15 ประเทศรวมทั้งจีน และประเทศอาเซียนซึ่งผู้มีบทบาทสำคัญคือรองนายกรัฐมนตรีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีพาณิชย์และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นประธานการประชุมตั้งแต่ต้นจนบรรลุข้อตกลงRCEP

4. มินิ-เอฟทีเอ (Mini-FTA)
- เป็นกลยุทธ์ใหม่เพิ่มโอกาสความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าการลงทุนเปิดตลาดเมืองรองในประเทศต่างๆ ปูทางสร้างโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยรัฐมนตรีพาณิชย์เดินหน้าเชื่อมสัมพันธ์กับเมืองต่างๆในหลายประเทศ เช่น ไห่หนาน, กานซู และเสิ่นเจิ้นของจีน / เมืองโคฟุของญี่ปุ่น / เมืองเตลังกานาของอินเดีย และปูซานของเกาหลีใต้ เป็นต้น

5. FTA และการเปิดเจรจา FTA รอบใหม่ 
- ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่มีผลบังคับใช้แล้วถึง 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ทำให้ไทยมีศักยภาพในการเป็นจุดหมายการลงทุนและการค้า รวมทั้งการเปิดเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป อังกฤษ EFTA และ UAE

6. การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่
- เป็นอีกปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญต่อการค้าการลงทุนในการสร้างศักยภาพเศรษฐกิจ และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น โครงการรถไฟสี่รางทางคู่ โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3 โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 โครงการทางหลวงระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์)

LITE

22 มีนาคม พ.ศ. 2277สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เสด็จพระราชสมภพ

วันนี้ เมื่อ 189 ปีก่อน หรือ วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2277 เป็นวันเสด็จพระราชสมภพ ของ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ ที่คนไทยนิยมเรียกว่า พระเจ้าตากสิน

ในปีพุทธศักราช 2311 ได้ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ทรงพระนามว่า ‘สมเด็จพระบรมราชาที่ 4’ แต่ประชาชนนิยมเรียกว่า ‘พระเจ้าตากสิน’ หรือ ‘สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี’

แม้กรณีวันพระราชสมภพ ของ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือที่เราคนไทยคุ้นเคยเรียกขานพระนามกันว่า พระเจ้าตาก จะยังเป็นที่ถกเถียง โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์ เสนอไว้ในหนังสือการเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี โดยใช้การคำนวณย้อนหลังจากวันเสด็จสวรรคตตามที่บันทึกไว้ในจดหมายเหตุโหรว่า เสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมพรรษาได้ 48 ปี 15 วัน และตามหลักฐานของชาวฝรั่งเศสบันทึกว่า ทรงถูกประหารชีวิตในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2325 และวันพระราชสมภพคือวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2277

เมื่อเราขาดผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ (ธัญญ่า) เราก็เลือกทำแบบนี้ (เลิกเจ้าชู้)

เมื่อเราขาดผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ (ธัญญ่า) เราก็เลือกทำแบบนี้ (เลิกเจ้าชู้) แต่ถ้าเราคิดไม่ได้ จะลุ่มหลงชั่วขณะหรืออะไรก็แล้วแต่ มันอาจจะทำให้ชีวิตเราพังไปเลย แล้วก็ต้องเสียผู้หญิงคนนี้ (ธัญญ่า) 
 

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา เจ้านายที่ 'คณะราษฎร-ปรีดี-จอมพล ป.' ชื่นชอบ

ในตอนนี้ผมจะมาเล่าถึง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา เจ้านายพระองค์หนึ่งที่สามารถทำงานร่วมกับคณะราษฎรได้ อย่างกลมกลืน และขึ้นถึงจุดสูงสุดโดยเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 ด้วยพระชนมายุเพียง 31 พรรษา สามารถฝ่ามรสุมทางการเมืองภายในคณะราษฎรมาได้อย่างตลอดรอดฝั่ง แถมเป็นที่ 'ปลาบปลื้ม' ของคณะราษฎรอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ ผู้นำฝ่ายพลเรือนอย่าง นายปรีดี พนมยงค์ มาถึงผู้นำฝ่ายทหารอย่าง พระยาพหลพลพยุหเสนา ก่อนที่คณะราษฎรจะกลายเป็นคณะของข้าพเจ้าภายใต้การปกครองของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม พระองค์ทำได้ยังไง ? 

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประสูติแต่พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทิพยสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2447 มีพระนามแรกประสูติว่า หม่อมเจ้าอาทิตย์ทิพอาภา เมื่อพระองค์มีพระชนมายุ 4 พรรษา พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทิพยสัมพันธ์ พระมารดาได้ปลงพระชนม์ชีพพระองค์เองด้วยการเสวยยาพิษ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงรับหม่อมเจ้าอาทิตย์ทิพอาภาไปทรงเลี้ยงดู ต่อมาไม่กี่ปี หม่อมเจ้าอาทิตย์ทิพอาภาตามเสด็จฯ แปรพระราชฐานไปพระราชวังบางปะอิน วันหนึ่งทรงเล่นน้ำแล้วพลาดจมน้ำ เผชิญมีผู้ช่วยเหลือไว้ได้ พระพุทธเจ้าหลวงจึงทรงทำขวัญ พระราชทานน้ำมหาสังข์ ทรงเจิม และผูกข้อพระกร แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาฐานันดรศักดิ์เป็น 'พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา' เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452 นับว่าได้รับความเอ็นดูเป็นพิเศษต่างจาก เจ้าพี่ เจ้าน้อง 

เมื่อ พ.ศ. 2460 พระชนมายุได้ 13 พรรษา เข้าศึกษาที่โรงเรียน Fessenden สหรัฐอเมริกา ต่อมาจึงย้ายมาศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ โดยแรกเริ่มราว ๆ 2 ปี พระองค์ทรงศึกษาวิชาทหารเรือ จากนั้นพระองค์ทรงมีอาการประชวร จึงลาออก แล้วเข้าศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จนทรงจบหลักสูตรวิชาปกครองในปี พ.ศ. 2470 ได้ปริญญา B.A. และ M.A. จึงเสด็จกลับประเทศสยาม ซึ่งที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์นี่เอง ที่พระองค์ได้ศึกษากับศาสตราจารย์จอห์น ฮอลแลนด์-โรส ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์การปฏิวัติฝรั่งเศสและนโปเลียน หลังทรงสำเร็จการศึกษาแล้วก็ทรงกลับมารับราชการอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย ในยุคที่มีสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศวร์เป็นเสนาบดี โดยตำแหน่งเจริญก้าวในการทรงงานจนได้เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ตั้งแต่ พ.ศ. 2473 นอกจากนี้ยังทรงเป็นสมาชิกของราชบัณฑิตสภา ซึ่งก่อตั้งโดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวใน พ.ศ. 2470

ณ ราชบัณฑิตยสภานี้เองที่พระองค์ได้ทรงรู้จักกับนักเรียนนอกสายฝรั่งเศสที่ชื่อ 'ปรีดี พนมยงค์' ด้วยความที่ทั้งสองต่างสนใจในเรื่องฝรั่งเศส จึงค่อนข้างให้ความเคารพและมีความสนิทกันพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว ทรงเป็นพระอาจารย์พิเศษสอนวิชาประวัติศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างที่เป็นพระอาจารย์อยู่นี้ พระองค์ได้ทรงนิพนธ์หนังสือประวัติศาสตร์การปฏิวัติฝรั่งเศสและชีวประวัติของนโปเลียนเป็นภาษาไทยใน พ.ศ. 2477 เพื่อใช้เป็นตำราเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ซึ่งคนที่ผลักดันให้เกิดหนังสือเล่มนี้พร้อมเขียนคำนำให้ก็คือ 'ปรีดี พนมยงค์' นั่นเอง ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้เล่าเรื่องเปรียบเทียบสภาพแวดล้อมทางการเมืองของไทยก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครองกับประเทศฝรั่งเศสก่อนการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นหนังสือที่ 'สร้างความชอบธรรม' ให้เกิดขึ้นกับคณะราษฎรนั่นเอง ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจที่ 'ปรีดี' จะใช้โอกาสอันงามนี้ในการทั้งผลัก ทั้งดัน ให้เกิดหนังสือเล่มนี้ขึ้น และเกิดขึ้นโดยฝีมือของเจ้านายชั้นสูงในราชวงศ์ !!! 

ย้อนกลับนิดนึงในวันที่คณะราษฎรยึดอำนาจจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น พระองค์ยังทรงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้ทรงเรียกข้าราชการทั้งหมดอาณัติมาประชุมหารือ โดยได้ข้อสรุปว่าพระองค์และข้าราชการจังหวัดนครปฐม ตัดสินใจ 'สนับสนุนคณะราษฎร' ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง คือยืนข้างคณะราษฎรเลยล่ะ 

แต่การอยู่ฝั่งคณะราษฎรก็ใช่จะไม่โดนจัดหนัก เพราะในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ ๆ 'เจ้านาย' ที่คณะราษฎรชื่นชอบพระองค์นี้ถูกชาวคณะจัดหนัก กราบบังคมทูลฟ้องพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภาเป็นเจ้านายที่ 'ได้ใช้ถ้อยคำอันเป็นเสี้ยนหนามแก่ความสงบ…เสียดสีคณราษฎรด้วยอาการอันไม่สมควร' งง พอสมควร ยึดอำนาจมาแล้ว แต่เวลามีปัญหาก็ไปกราบบังคมทูลฟ้อง สุดยอดความย้อนแย้งจริง ๆ แต่ในหลวงรัชกาลที่ 7 ท่านก็ทรงมีพระเมตตา ทรงเรียกให้มาปรับความเข้าใจกัน 

พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา จึงเสด็จฯ มารีบมอบพระองค์และให้คำมั่นว่าจะไม่คิดร้ายต่อคณะราษฎร และได้ส่งสุนทรพจน์เรื่อง 'การปกครองในระบอบใหม่' ที่พระองค์ประทานแก่ราษฎรจังหวัดนครปฐมให้คณะราษฎรทราบ ซึ่งได้รับความชื่นชอบอย่างมาก จนคณะราษฎรถึงกับกล่าวสรรเสริญพระองค์ว่า 'เป็นเจ้าที่รักชาติพระองค์หนึ่ง สมควรเป็นเยี่ยงอย่างแก่เจ้าอื่นๆ ได้' ถึงขนาดที่ พระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคณะราษฎร มีหนังสือชมเชยสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยยึดแนวทางของพระองค์ไปใช้ในการอบรมข้าราชการและประชาชนเพื่อให้เข้าใจในระบบการปกครองใหม่ด้วย เอาสิ !!! 

ซึ่งการแสดงพระองค์ลักษณะนี้ก็ทำให้พระองค์ทรงได้รับความไว้วางใจ จากนครปฐมพระองค์ก็ได้ย้ายไปทรงดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และรักษาการแทนสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ซึ่งในช่วงนั้นได้เกิดเหตุกบฏบวรเดชขึ้น หลังจากพระองค์ทรงได้รับหนังสือเตือนจากรัฐบาล พระองค์ทรงสั่งให้หน่วยความมั่นคงของจังหวัด จัดเตรียมการลาดตระเวนและจับทหารของกลุ่มกบฏ อย่างเข้มแข็ง รัฐบาลก็เลยได้โอกาสปราบปรามกบฏทางฝั่งอีสานโดยไม่ต้องห่วงภาคใต้เลย หลังจากเหตุการณ์สงบ รัฐบาลได้มอบ 'เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ' ให้แก่ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ และประชาชนที่มีส่วนร่วมในการปราบกบฏ ซึ่งพระองค์ ทรงเป็นพระบรมวงศานุวงศ์เพียงพระองค์เดียวที่ได้รับทูลเกล้า ฯ ถวายเหรียญดังกล่าว เรียกว่าคณะราษฎรไว้วางใจมาก สุด สุด 

ความไว้ใจนี้ยังไปต่อครับทุกท่าน เมื่อจบเหตุกบฏบวรเดชแล้ว จากภูเก็ตพระองค์ก็ได้รับตำแหน่งเป็น 'ราชเลขานุการในพระองค์' พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว แทน ม.จ.วิบูลย์สวัสดิวงศ์ สวัสดิกุล ที่ถูกปลด ด้วยพระชันษาเพียง 29 เท่านั้นเอง แต่ตรงนี้ก็พอจะเข้าใจ เพราะ 'หม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา' หม่อม ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา เป็นนางพระกำนัลใน สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ซึ่งตรงนี้ส่งผลดีต่อทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคณะราษฎรยังมั่นใจได้ว่าพระองค์เจ้าอาทิตย์นั้นจะไม่หันกลับไปสนับสนุนสถาบันฯ เหมือนเจ้านายพระองค์อื่น ๆ แต่การเป็นราชเลขานุการในพระองค์เป็นแต่เพียงไม่นานเพราะในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงเสด็จ ฯ ไปต่างประเทศ โดยมีสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จนกระทั่งในหลวงรัชกาลที่ 7 ทรงสละราชสมบัติ เข้าสู่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล คณะราษฎรได้เลือก 'พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์' ให้ทรงดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และสมาชิกอีก 2 ท่านคือ เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา ก่อนที่ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา 'กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์' ได้ทรงปลงพระชนมชีพเนื่องจากความกดดันจากทั้งพระราชวงศ์และคณะราษฎรที่ถาโถมใส่พระองค์ หลังจากนั้นคณะราษฎรตัดสินใจเลือก พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภาให้ทรงดำรงตำแหน่งดังกล่าว พร้อมกับการแต่งตั้ง นายเสวก นิรันดร หนึ่งในสมาชิกคณะราษฎรซึ่งใกล้ชิดกับ จอมพล ป. ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการของคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (นายเสวกนี่เองคือตัวเบียดบังทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เลยขอบอก) และนายเสวกก็ยังเป็นเลขาส่วนพระองค์ในพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภาไปพร้อมๆ กัน

REGION

ครบรอบ 7 ปี มหพัสต์ ยังสุข ประธานสโมสร ปากน้ำ อะคาเดมี่ จัดเลี้ยงสังสรรค์ ครอบครัวนักเตะเยาวชนร่วมฉลอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ภายในสนามฟุตบอลหญ้าเทียมเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นายมหพัสต์ ยังสุข ประธานสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างทีมผู้ปกครองของนักเตะน้องๆ หนูๆ รุ่นเยาวชน อายุตั้งแต่ 5 ปี ถึง 17 ปี ของทางสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ ประจำปี 2566 ณ สนามหญ้าเทียมเทศบาลเมืองแพรกษาใหม่

โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี ในกลุ่มผู้ปกครอง อีกทั้ง ยังเป็นการพบประสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ปกครองที่นำบุตรหลานมาเข้าร่วมรับการฝึกสอนทักษะ และฝึกความรู้เบื้องต้นของกีฬาฟุตบอลกับสโมสรปากน้ำ อะคาเดมี่ 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง บินด่วนแก้ปัญหาชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ หลังนายทุนปิดทางสัญจรกระทบชาวบ้านและนักท่องเที่ยว

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.65 กลุ่มชาวบ้านและนักเรียนบนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ได้รวมตัวกันประท้วงกลุ่มนายทุน เนื่องจากได้สร้างประตูปิดทางและนำสิ่งของมาวางขวางกั้นทางสัญจรซึ่งนักเรียนและชาวบ้านใช้ในการเดินทางเข้าออกโรงเรียนและสถานที่สำคัญหลายแห่งภายในเกาะ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยวบนเกาะในวงกว้าง ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหา ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นประธานกรรมการ ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วย อาทิเช่น กรมที่ดิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมทรัพยาการทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นต้น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน

สมุทรปราการ - ‘ทรงพล ทองวิจิตร’ นักธุรกิจชื่อดัง ทุ่มเงินกว่า 15 ล้าน เปิดร้านอาหารสุดหรู ‘ลา คาแนล คาเฟ่’

นายทรงพล ทองวิจิตร ผู้บริหาร ลา คาเเนล คาเฟ่ และ กรรมการบริหาร บริษัท ทรงพลการบัญชีและกฎหมาย จำกัด ถือฤกษ์ดี วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 ตัดลิ๊บบิ้นเปิดร้านอาหารสุดหรู อย่างยิ่งใหญ่อลังการ หลังทุ่มเงินในการก่อสร้างจำนวนกว่า 15 ล้านบาท ในพิธีประกอบไปด้วย การถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสฉลองเปิดร้านอาหารใหม่ สไตล์วิคตอเรียล ซึ่งเป็นสไตล์แนวยุโรป ใช้ชื่อว่า ลา คาเเนล คาเฟ่ โดยร้านนั้นตั้งอยู่บริเวณด้านหลัง ตรอ. ถนนเทพารักษ์ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เยืองกลับธนาคารไทยพาณิชย์ ติดกับโรงพยาบาลสินแพทย์เทพารักษ์

ภายในงานยังได้รับเกียรติ จากท่าน พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้เกียรติมาเป็นประธานตัดริบบิ้นเปิดงานและร่วมแสดงความยินดีกับนายทรงพล ทองวิจิตร ผู้บริหาร ลา คาเเนล คาเฟ่ เนื่องในโอกาสฉลองเปิดร้านอาหารใหม่ ภายในงานยังมี พลตำรวจตรี ดร.พัลลภ แอร่มหล้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และ ข้าราชการระดับสูง นักธุรกิจ ร่วมแสดงความยินดีกันเป็นจำนวนมาก

ภายในงานยังได้พบกับศิลปินชื่อดัง บ่าววีอาร์สยาม / ติ๊ก ชีโร่ / ศร ศรศักดิ์ สวนแก้ว เจ้าของเพลงดัง “ใจปลาซิว” และ รอน อรัญฯ อีกทั้ง ยังได้พบกับ เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟชื่อดังระดับประเทศ ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารไทย มาโชว์การทำอาหารให้กับแขกผู้มีเกียรติได้ลิ้มลอง

โดย นายทรงพล ทองวิจิตร ผู้บริหาร ลา คาเเนล คาเฟ่ กล่าวว่า ตนเองนั้นมีความคิดริเริ่มที่อยากจะเปิดร้านอาหาร ซึ่งเดิมทีสถานที่แห่งนี้เป็นที่รกร้าง ก่อนจะถูกรีโนเวทและถูกสร้างเป็นร้านอาหาร ซึ่งร้านอาหาร ลา คาเเนล คาเฟ่ เป็นเอกลักษณ์ของสภาปัตยกรรม สไตล์วิคตอเรียล ออกแบบการสร้างอย่างสวยหรูโดยนักออกแบบมืออาชีพ และในส่วนการตกแต่งร้านรวมถึงเฟอร์นิเจอร์นั้น เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดยการประยุคประสมประสานในรูปแบบสไตล์ยุโรปเข้าด้วยกัน

มีห้องจัดเลี้ยง ที่สามารถรองรับได้ถึง 300-400 คน เป็นอาคารสูงสามชั้น บรรยากาศดี ด้านหลังติดกับคลองสำโรง เหมาะสำหรับจัดงานเลี้ยงรับรอง งานฉลอง งานเทศกาลปีใหม่ หรืองานสังสรรค์ต่างๆ ในส่วนความโดดเด่นของร้าน ลา คาเเนล คาเฟ่ นั้น มีทั้งอาหาร ไทย จีน ฝรั่ง ในส่วนเชฟประจำร้านเป็นเชฟมืออาชีพ มีประสบการณ์และมีความชำนาญในด้านการปรุงอาหารที่โดดเด่น 

อีกทั้ง ในการฉลองเปิดร้านใหม่ในครั้งนี้ ทางร้าน ลา คาแนล คาเฟ่ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษไว้สำหรับแขกผู้มีเกียรติและผู้ที่มาร่วมภายในงาน โดยทางร้านจะมีส่วนลดพิเศษ 15 % และมีระยะเวลานานถึง 1 ปี สำหรับประชาชนท่านใดที่สนใจจะเดินทางมาลิ้มรสกับรสชาติความอร่อยของร้าน ลา คาแนล คาเฟ่ บรรยากาศแบบธรรมชาติ และมีอาหารที่หลากหลายให้เลือก สามารถโทรสอบถามได้ที่ 095-459-2483 และ 081-554-4435 


คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

PODCAST

เส้นทางการเมือง ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง | TIME TO LISTENING EP.12

จากลูกชายกำนัน สู่นักการเมืองระดับชาติ ‘ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคพลังประชารัฐ มาเล่าประวัติเส้นทางการเมืองของตนที่มาพร้อมความตั้งใจ เข้าใจปัญหา ดูแลทุกข์สุขให้กับชาวลำลูกกา ปทุมธานี กับน้ำตาของลูกผู้ชายที่กลั่นออกมาจากความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างแท้จริง เพื่อขอโอกาสให้กับ ‘คนทำงาน’ อย่างตนเองเข้าสภา ติดตามรายละเอียดได้ในคลิปนี้…

ดำเนินรายการโดย ไอยรา อัลราวีย์
Content Manager

แขกรับเชิญ คุณดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง 
ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคพลังประชารัฐ

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES PODCAST
และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ :https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLBnnkZJ5-QgtyID5DqrnG4

ทฤษฎีสมคบคิดเพื่อหา ‘แพะ’ และความ ‘เสื่อม’ การล่มสลายของ ‘กรุงศรีฯ’ ครั้งที่ 2 | THE STATES TIMES STORY EP.111

วันนี้ THE STATES TIMES Story จะพาคุณไปรับฟัง
เรื่องราวประวัติศาสตร์การเสียกรุงครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2310 และ ‘แพะ’ ที่ถูกตราหน้าว่าทำให้เสียกรุง พร้อมย้อนรอยไปกับทฤษฎีสมคบคิดเพื่อหา ‘แพะ’ และความ ‘เสื่อม’ จนทำให้เสียกรุงในครั้งนี้…

ไปติดตามกันได้ใน THE STATES TIMES Story ใน EP. นี้ได้เลย

รับชม THE STATES TIMES STORY ตอนอื่นๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PL60bae1syuyLbSZPZIUmXvd6NiToeX5qW

🎥 ช่องทางรับชม
Facebook: THE STATES TIMES PODCAST
YouTube: THE STATES TIMES PODCAST
TikTok: THE STATES TIMES PODCAST

“จุดแข็งของ ฮุนได EV ดีไซน์สวย มีความคลาสสิก ผสมกับรูปแบบของรถไฟฟ้า ดูกลมกล่อม ลงตัว”

🚗 คุณต้น กันย์ เย็นสบาย ได้วิเคราะห์ จุดเด่น ความแตกต่างของรถยนต์ไฟฟ้า ‘วอลโว่’ รุ่น XC40 กับ C40 มีความแตกต่างอย่างไร การบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีที่น่าสนใจ

รับชมคลิปเต็มได้ที่ : https://youtu.be/u888j9yNpjw

 

VIDEO

'นายกใหญ่' สะบัดธง 'พลังประชารัฐ' รับใช้ 'ปทุมธานี' ยกจังหวัด | CONTRIBUTOR EP.25

นายเสวก ประเสริฐสุข หรือ ที่พี่น้องชาวปทุมธานี ต่างรู้จักกันดีในฉายา ‘นายกใหญ่’ . อดีต นายก อบต.เชียงรากใหญ่ และ อดีตรอง นายก อบจ.ปทุมธานี ผู้ได้รับฉายา ‘พี่ใหญ่ มีแต่ให้’ ของชาวปทุมฯ

บุคคลที่ชาวปทุมฯ กล้าพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘กุมหัวใจ’ ผู้คนทั้งจังหวัด จากความมีน้ำใจสไตล์นักเลงเมืองปทุมฯ . ทุ่มเทพัฒนาผืนถิ่นในส่วนที่ทำได้ (เชียงรากใหญ่) นำความเจริญในแง่ของสาธารณูปโภค เศรษฐกิจ และการเกษตรมาสู่ปทุมธานีอย่างต่อเนื่อง ใต้บทบาทของคนทำงานเบื้องหลัง

ทว่า วันนี้ ‘พี่ใหญ่’ ของคนปทุมฯ พลิกบทบาทครั้งใหญ่ ก้าวขึ้นมายืนอยู่แนวหน้า ขออาสารับใช้ชาวปทุมธานีแบบเต็มตัว ภายใต้เสื้อคลุมแห่งพลังประชารัฐ นำทัพว่าที่ผู้สมัครทั้ง 7 เขตของ จังหวัดปทุมธานี

เป้าหมายใหญ่ พัฒนาปทุมธานี ให้กลายเป็นเมืองที่ผู้คนต้องหยุดมอง และกลายเป็นอีกเมืองสำคัญของประเทศ ที่ผู้คนต้องแวะมาท่องเที่ยว เศรษฐกิจดี ปากท้องต้องดี สาธารณูปโภคพร้อม ไร้ยาเสพติด และสลายสีขั้วการเมือง นี่คือการประกาศศักดา!! . ‘ปทุมธานี’ ต้อง พัฒนา!!

รู้จัก 'ปรเมษฐ์ ภู่โต' คนข่าวสวนกระแส | CONTRIBUTOR EP.24

รู้จัก 'ปรเมษฐ์ ภู่โต' คนข่าวสวนกระแส . ผู้กล้าเปิดฉากตีสวนข่าวปลอม หล่อหลอมข้อมูลจริงมาเล่าสู่สังคมไทย แม้จะถูกฝ่ายไม่เห็นด้วยตามแก๊งรถทัวร์มาไล่จอด ก็หาได้แคร์ . เพราะยึดหลักในวิชาชีพสื่อสารมวลชนที่ว่า...แก่นแท้ของความจริง ไม่ใช่สิ่งที่คนกล้าต้องกลัว . ร่วมเปิดมุมมองจากคนจริง ที่ไม่ทิ้งลวดลายการเล่าอย่างเมามันกับเขาได้ใน Contributor EP นี้

ฟิลิปปินส์วิกฤต!! ส่อเค้าปัญหาขาดแคลนอาหารและเงินเฟ้อ | Summary Reporter EP.31

หัวหอมในฟิลิปปินส์ กลายเป็นของฟุ่มเฟือยไปแล้ว ภายหลังจากราคาสูงกว่าไทยถึง 16 เท่า ถ้าเทียบต่อกิโลกรัมก็ตกอยู่ที่ 422 บาท สูงเกินค่าแรงขั้นต่ำของคนในประเทศเป็นเท่าตัว ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะกำลังสะท้อนถึงวิกฤตขาดแคลนอาหารรุนแรง และเงินเฟ้อในประเทศฟิลิปปินส์กันเลยทีเดียว
.
รับชม Summary Reporter ตอนอื่น ๆ ได้ที่
https://youtube.com/playlist?list=PLq_3bZE25J9ifbJu1zakb0XyrHOu4upxS
.
#THESTATESTIMES
#ReporterJourney
#SummaryReporter
#หัวหอมฟิลิปปินส์
#วิกฤตขาดแคลนอาหาร
#ฟิลิปปินส์เงินเฟ้อ

Y WORLD

'วาทกรรมอำพราง' สูตรสำเร็จคำพูดมัดใจประชาชนของนักการเมือง | THE STATES TIMES Y WORLD EP.67

ไม่ว่าจะเลือกตั้งปีไหนๆ ประชาชนอย่างเราก็มักจะตกเป็นเหยื่อทางการเมืองไม่ว่าจะฝ่ายซ้ายหรือฝ่ายขวา เรื่องราวเหล่านี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไร ไปรับชมและหาคำตอบกันได้เลย....

 

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World

และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PLvNTQ_fOAFugvfiWfiUXJ8JJYho1ADnG8

เปิดไทม์ไลน์ เลือกตั้ง!!! คาด 7 พ.ค. ได้เลือกตั้งแน่ | THE STATES TIMES Y WORLD EP.66

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด!! คนไทยเตรียมตัวหย่อนบัตรเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 7 พ.ค. 2566 กันได้เลย...ว่าแต่ระหว่างทางก่อนการเลือกตั้ง จะมีกระบวนการใดเกิดขึ้นบ้าง

ลองไปสืบค้นข้อมูลเป็นความรู้ประดับตนกันไว้สักหน่อยดีกว่า... .

 

ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World x ELECTION TIME

และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PLvNTQ_fOAFugvfiWfiUXJ8JJYho1ADnG8

 

ต้องเรียน 'ศาสตร์' ไหน ? ถึงจะได้เป็น 'นายกฯ' | THE STATES TIMES Y WORLD EP.65

ทุกคนจำกันได้หรือป่าว ตอนเด็ก ๆ ตอนที่ใครหลายๆคนถามว่า "โตขึ้นอยากเป็นอะไร?" มักจะมีคำตอบที่อยากเป็น 'นายกฯ' มาอยู่บ้าง แต่เพื่อน ๆ รู้ไหม ถ้าเราอยากเป็น 'นายกฯ' ต้องเรียนอะไรจบจากสาขาไหนกันแน่ ไปรับชมและหาคำตอบกันได้เลย....
.
ติดตามได้ใน THE STATES TIMES Y World 
และสามารถรับชมคลิปอื่น ๆ ได้ที่ : https://youtube.com/playlist?list=PLvNTQ_fOAFugvfiWfiUXJ8JJYho1ADnG8
.
#THESTATESTIMES
#THESTATESTIMESYWORLD
#โตไปเป็นนายกฯ
#เรียนเป็นนายกฯ
#นายกรัฐมนตรี

SPECIAL

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2566

เราจะวางจิตอย่างไร
เมื่อต้องเจอคน ที่ทำไม่ดีกับเรา
ให้คิดว่า จิตเค้าอยู่ตรงนั้น
จิตของเรา มันข้ามไปแล้ว
เค้าทำไม่ดี...
ก็อย่าไปทำเหมือนเค้า

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2566

ทุกข์นี่แหละ...
จะทำให้เราฉลาดขึ้น
ทำให้เกิดปัญญา

สุขนั่นสิ!
มันจะปิดหูปิดตาเรา
ความสุขสบายทั้งหลาย
จะทำให้เราประมาท

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2566

อายุมากขึ้น เราก็ใกล้ศพมากขึ้น
จากเดิมวัยเด็ก ไปงานศพนั่งไหนก็ได้
พอโตมา เจ้าภาพเรียกไปนั่งหน้าเรื่อย ๆ
จนในที่สุดก็ระดับเป็นเจ้าภาพ
พอใกล้มากขึ้นนั่งนานขึ้น
บ่อยเข้าเราก็เมื่อย พอเมื่อยถึงจุดหนึ่ง
เราก็เปลี่ยนจากนั่ง...มาเป็นนอนเอง

CRIMES

‘ตร.’ บุก มาบุญครอง ทลายเครือข่ายมาเฟีย ‘บาบู’ ปลอมสินค้าแบรนด์ดัง หลอกขายนักท่องเที่ยว

(22 มี.ค. 66) สืบเนื่องจากศูนย์ปรายปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปลป.ตร.) ได้รับรายงานว่า มีเครือข่ายขบวนการมาเฟียเชื้อสายอินเดียชื่อว่า ‘บาบู’ ลักลอบนำสินค้าแบรนด์เนม รองเท้า, กระเป๋า, เสื้อผ้า, นาฬิกา เลียนแบบสินค้าแบรนด์ดัง มาหลอกขายให้คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในมาบุญครอง และย่านปทุมวัน โดยหลอกลวงว่าเป็นสินค้าหิ้ว หรือ สินค้า Outlet โดยเครือข่ายนี้ส่งของกว่า 30 ร้านค้าในบริเวณใกล้เคียง

กระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) พร้อมชุดทำงานชุด ศปลป.ตร. ขออนุมัติหมายค้นจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ประสานสนธิกำลัง 191 ปอศ. และพื้นที่เข้าตรวจค้นห้องเช่าอเนกประสงค์ ขั้น 3 ของศูนย์การค้า เอ็มบีเค เซ็นเตอร์

‘สธ.’ เร่งเข้าช่วยเหลือเด็กชายวัย 14 ปี ติดกัญชางอมแงม ยายหวั่นถูกหลานทำร้าย เผย เคยโดนเอาน้ำสาดหน้า

(22 มี.ค. 66) จากเหตุการณ์ชาวบ้าน ชุมชนห้องแถว ย่านซอยเขาตาโล หมู่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พบเห็นครอบครัว ซึ่งเป็น 2 ยายหลาน อาศัยอยู่ในห้องแถวดังกล่าว ในทุก ๆ วันจะเห็นหลานชายมีพฤติกรรม ขอเงินไปซื้อกัญชาเสพ อีกทั้งยังแสดงอาการโมโหร้าย จนผู้เป็นยายต้องเดินหนีออกมา ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าว

นางดา ผู้เป็นยาย จับได้ว่าหลานชายติดกัญชาหนักมาก ต้องดูดกัญชาทุกวัน โดยจะต้องขอเงินวันละ 1-2 ร้อยบาท ไปซื้อกัญชามาเสพ หากวันไหน ไม่ได้เสพจะมีอาการหงุดหงิด จุกท้อง พูดไม่ชัด พูดจาโวยวาย ทำร้ายข้าวของ หนักสุด คือ ‘เอาน้ำในแก้วสาดใส่หน้ายาย’ ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทุก ๆ ครั้งที่หลาน มีอาการอยากเสพกัญชาหรือหงุดหงิด ยายจะเดินหนีไปอยู่กับเพื่อนบ้านทันที เพราะกลัวหลานจะทำร้าย

'มิจฉาชีพ' เปลี่ยนรูปแบบ 'หลอกหลอน' ชาวบ้านไม่พักเลย

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร./หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วยคณะทำงาน ได้ร่วมกันนำเสนอสถิติการรับแจ้งความออนไลน์รอบสัปดาห์และภัยที่เกิดขึ้นใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้มีภูมิป้องกันภัยออนไลน์ ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (12-18 มี.ค.2566) รวมทั้งสัปดาห์มีผู้แจ้งความ 4,291 เคส/351,191,412.31 บาท สถิติการรับแจ้งลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว 1,496 เคส/26,093,473.69 บาท โดยสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุดยังเป็นคดีเดิมๆ 5 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1) คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า 1,500 เคส/14,003,677.05 บาท  2) คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม 578 เคส/71,469,279.03 บาท  3) คดีหลอกลวงทางโทรศัพท์ที่เป็นขบวนการ(call center) 529 เคส/65,547,808.73 บาท 4) คดีหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน 429 เคส/17,113,573.64 บาท  และ 5) คดีหลอกเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน 236 เคส/10,637,571.37 บาท 

ภัยออนไลน์ที่น่าสนใจและเกิดขึ้นมากในรอบสัปดาห์ เรื่องที่ 1 คือ  คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้า นม Thai-Denmark โดยมิจฉาชีพสร้างเพจ Facebook 'Thai-Denmark นมไทยแท้ ส่งทั่วไทย' คล้ายของจริง  เมื่อมีผู้หลงเชื่อมาสอบถามเพื่อขอซื้อนม เพจจะให้ผู้หลงเชื่อโอนเงินให้ก่อน แล้วปิดเพจหนีไป จุดสังเกตุ ของปลอม พบการกดปุ่มโกรธ (angry) จำนวนมาก สถานะของเพจเป็นอสังหาริมทรัพย์ เพิ่งเปิดเพจ และผู้จัดการเพจอยู่ต่างประเทศ  ส่วน ของแท้ เป็นธุรกิจท้องถิ่น และ เปิดมานานและผู้จัดการเพจอยู่ประเทศไทย จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนควรสงสัยไว้ก่อนว่าของดีและถูกเกินกว่าราคาตลาดมากๆ และบัญชีรับโอนเงินบุคคลธรรมดา น่าจะหลอกลวง 

เรื่องที่ 2 คดีแก๊งคอลเซนเตอร์ติดต่อร้านอาหารผ่านแอปพลิเคชันไลน์หลอกสั่งข้าวกล่อง และโอนมัดจำให้ร้านค้าก่อน  วันต่อมา คนร้ายได้โทรศัพท์บอกให้ร้านอาหารสั่งชุดอาหารพิเศษเพิ่ม 7 ชุด และส่ง QR Code มาให้ร้านแอด และบอกว่าจ่ายเงินเพิ่มให้ภายหลัง และอ้างด้วยว่าเป็น QR Code แอดไลน์เท่านั้น แต่เมื่อแสกน QR Code พบว่า หน้าจอค้าง เจ้าของโทรศัพท์จึงรีบเข้าแอปฯ ธนาคาร เพื่อโอนเงินออกไปบัญชีอื่นก่อน และปิดเครื่อง  จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของ  QR Code ให้ดีก่อนที่จะ Scan หรือโอนเงิน

เรื่องที่ 3 คดีกลรักออนไลน์(Romance Scam) ถูกหลอกซ้ำซ้อน คือหลอกให้โอนเงิน 2 ครั้ง และหลอกให้ผู้เสียหายเปิดบัญชีม้าโดยไม่รู้ตัว  เรื่องนี้คนร้ายได้ติดต่อพูดคุยกับผู้เสียหายทาง Facebook จากนั้นอ้างว่าอยากจะมาอยู่เมืองไทย มาใช้ชีวิตคู่กับผู้เสียหาย และส่งสินค้ามีค่ามาให้ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินชำระภาษี ถือเป็นการหลอกให้โอนเงินรอบแรก จากนั้นจะหลอกว่าต้องการทำธุรกิจร่วมกับผู้เสียหาย แล้วให้ผู้เสียหายเปิดบัญชีไว้สำหรับการลงทุน จากนั้นคนร้ายได้หลอกผู้เสียหายคนที่ 2 และให้โอนเงินเข้าบัญชีผู้เสียหายคนแรก และให้ผู้เสียหายคนแรก ซื้อเหรียญคลิปโตให้คนร้าย ทำให้ผู้เสียหายคนแรก กลายเป็นผู้ต้องหาในคดี  จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนร้าย 

ด้วยความปรารถนาดีจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT)

คดีหลอกลวงซื้อขายผลิตภัณฑ์สินค้า 'Thai-Denmark นมไทยแท้ ส่งทั่วไทย'
กลโกง จุดสังเกต วิธีป้องกัน
1. สร้างเพจ Facebook ขึ้นมาโดยใช้ชื่อ รูปโปรไฟล์ รูปปก ที่อยู่ ข้อความแนะนำ ใกล้เคียงกับเพจ 'Thai-Denmark' ที่เป็นของจริง  
2. สร้างเป็นเพจ Facebook หรือซื้อโฆษณาเพจเพื่อให้คนเห็นได้จากระบบอินเตอร์เน็ต
3. เมื่อมีผู้หลงเชื่อมาสอบถามเพื่อขอซื้อ เพจจะให้ผู้หลงเชื่อโอนเงินให้ก่อน 
4. เมื่อถึงวันรับสินค้า เหยื่อจะส่งข้อมูลไปสอบถาม คนร้ายจะถ่วงเวลา 
5. เปลี่ยนเป็นเพจใหม่ เพื่อหลอกขายเช่นเดิมไปเรื่อยๆ ของปลอม 
1.พบการกดปุ่มโกรธ (angry) จำนวนมาก
2.สถานะของเพจเป็นอสังหาริมทรัพย์ 
3. เพิ่งเปิดเพจ และผู้จัดการเพจอยู่ต่างประเทศ
ของแท้ 

1.สถานะของเพจเป็นธุรกิจท้องถิ่น
2. เปิดมานานและผู้จัดการเพจอยู่ประเทศไทย
1. ตรวจสอบเพจ Facebook ให้แน่ใจก่อนซื้อ โดยกด เกี่ยวกับ 'ความโปร่งใส' ก็จะเห็นว่าเปิดมานานเท่าใด  ผู้จัดการเพจอยู่ประเทศไทยหรือไม่(อยู่ต่างประเทศ ควรหลีกเลี่ยง)  
2. ดูช่องกดไลค์(มีเครื่องหมาย 'โกรธ' ดูโพสต์เป็นหลัก อย่าดูด้านใต้ชื่อเพียงอย่างเดียว เพราะสามารถซื้อ 'ไลค์' ได้  
3. ลองนำชื่อเพจนั้น ไปใส่ช่องค้นหาใน Facebook ว่ามีเพจอื่นอีกหรือไม่ แล้วนำมาเปรียบเทียบกันดูว่า เพจไหนจริง/ปลอม
4. 'ของดีและถูกเกินกว่าราคาตลาดมากๆ' ให้สงสัยไว้ก่อนว่าหลอกลวง
5. บัญชีรับโอนเงินควรเป็นบัญชีชื่อร้าน หากเป็นบัญชีบุคคลธรรมดา ให้สงสัยไว้ก่อนว่าหลอกลวง

INFO & TOON

States TOON EP.118

นิยามความงาม...ตามเจ้าของเวที

เปิด 10 รายชื่อในดวงใจ ที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี ในศึกเลือกตั้ง 2566

19 มี.ค. 2566 – ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-8 มีนาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1 การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0 

จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 38.20 ระบุว่าเป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 2 ร้อยละ 15.75 ระบุว่าเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) อันดับ 3 ร้อยละ 15.65 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา (พรรครวมไทยสร้างชาติ) อันดับ 4 ร้อยละ 9.45 ระบุว่า ยังหาคนที่ เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 5 ร้อยละ 5.10 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) อันดับ 6 ร้อยละ 4.45 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) อันดับ 7 ร้อยละ 2.35 ระบุว่าเป็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) อันดับ 8
ร้อยละ 1.60 ระบุว่าเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 9 ร้อยละ 1.55 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) อันดับ 10 ร้อยละ 1.40 ระบุว่าเป็น นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคชาติพัฒนากล้า) อันดับ 11 ร้อยละ 1.15 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ และร้อยละ 3.35 

ระบุอื่น ๆ ได้แก่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา) นายเศรษฐา ทวีสิน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ (พรรคไทยศรีวิไลย์) ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนากล้า) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์) ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) 

ผู้ใหญ่ใจดี ชีวิตนี้มีแต่ให้

รู้จัก 4 ผู้ใหญ่ใจดี ที่ ‘ชีวิตนี้มีแต่ให้’ 

COLUMNIST

เจ้าถิ่นเจ๋ง!!! ร้านสะดวกซื้อเจ้าถิ่นใน ‘อินโดนีเซีย’ แข็งแกร่ง!! แม้แต่ ‘7-11’ ยังต้องยอมแพ้ - ล้มเลิกกิจการ

สวัสดีนักอ่านทุกท่านครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวน่าสนใจจากประเทศเพื่อนบ้านมาเล่าสู่กันฟังครับ หากพูดถึงร้านสะดวกซื้อในไทยที่เราเห็นได้บ่อย เข้าใช้บริการบ่อย ก็ต้องนึกถึง 7-Eleven ถูกต้องไหมครับ และเป็นที่รู้กันโดยทั่วว่า 7-Eleven ประสบความสำเร็จในประเทศไทยอย่างยิ่ง

แต่ถึงแม้ว่า 7-Eleven จะประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายในหลาย ๆ ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็น ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมาร์ แต่ใน ‘อินโดนีเซีย’ แล้วนั่น กลับเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก และไม่มีทีท่าว่าจะสามารถเจาะตลาดร้านสะดวกซื้อของประเทศนี้ได้

เหตุผลหลัก ๆ ที่เป็นเช่นนั้น คือ ‘อินโดนีเซีย’ มีเครือข่ายร้านค้าสะดวกซื้ออยู่แล้ว เช่น ‘Indomaret’ และ ‘Alfamart’ ที่สามารถพบเจอได้เกือบทุก ๆ ๑ กม. หรือน้อยกว่านั้น และร้านค้า ๒ เจ้านี้จะกระจายตัวอยู่ตามเมืองใหญ่หรือเมืองเล็ก ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ 7-Eleven ทำแล้วได้ผลดีในประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้ร้านสะดวกซื้ออย่าง Lawson's และ Family Mart ก็ใช้วิธีการนี้ด้วยเช่นกัน

นอกจาก 7-Eleven จะนิยมเปิดร้านสะดวกซื้อภายในอาคาร สำนักงาน หรือในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่าน โดยกำหนดเป้าหมายไปยังพื้นที่ที่ Indomaret และ Alfamart ตั้งอยู่ หวังให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้ว 7-Eleven ยังอัปเกรดร้านให้เป็นร้าน ‘ระดับพรีเมียม’ โดยมีบริการสถานที่นั่งรับประทานอาการ ดื่มเครื่องดื่ม และมี Wi-Fi ให้ใช้ฟรีอีกด้วย

ดูเหมือนว่ากลยุทธ์นี้จะดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้ แต่ก็เพียงแค่ในระยะแรกที่เป็นกระแสเท่านั้น เพราะเมื่อเวลาผ่านไปผู้คนมักจะเข้ามาซื้อเพียงเครื่องดื่มที่มีราคาถูก เพียงหวังจะได้นั่งในร้านเพื่อใช้ Wi-Fi ฟรีเป็นเวลาหลายชั่วโมง ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้ 7-Eleven มีรายได้น้อย ในขณะที่ค่าใช้จ่ายสูง (ค่าไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และค่าเช่าพื้นที่ในพื้นที่ระดับพรีเมียม) 

7-Eleven เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษา อายุระหว่าง 18 - 25 ปี โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะใช้ 7-Eleven เป็นสถานที่แฮงก์เอาต์ และสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในกลางวันและกลางคืน (24 ชม.) โดยมีการนำเสนอรายการอาหารและเครื่องดื่มของ 7-Eleven แบบดั้งเดิมเช่น Slurpee และของว่างพร้อมกับอาหารท้องถิ่นและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั่นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงฮิตในกล่มวัยรุ่น

ในปี ค.ศ. 2020 7-Eleven มีสาขามากถึง 70,750 แห่งทั่วโลก แต่ร้าน 7-Eleven แต่กลับไม่มีสักสาขาเดียวในอินโดนีเซีย เนื่องจากในปี ค.ศ. 2017 7-Eleven ได้ประกาศปิดสาขาทั้งหมด หลังเข้ามารุกธุรกิจในประเทศนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 

การดำเนินงานของ 7-Eleven ในอินโดนีเซียจะดำเนินงานผ่านผู้ให้บริการท้องถิ่นคือ PT Modern Internasional ซึ่งจัดการบริการที่ตรงกันข้ามกับร้านสะดวกซื้อในอเมริกาที่เน้นการซื้อกลับบ้านและของกินเล่นยามดึก หลังเริ่มธุรกิจได้ไม่นาน บริษัท PT Modern Internasional ก็เริ่มขยายตัวภายในกรุงจาการ์ตา โดย 7-Eleven เปิดสาขาแห่งที่ 21 ภายในปี ค.ศ. 2010 และมีสาขาครบ 100 แห่งในปี ค.ศ. 2012 

ในปี ค.ศ. 2013 บริษัทมียอดขายสูงสุดประมาณ 78 แห่งจากร้านค้าทั้งหมด 190 แห่ง ดูเหมือนว่าอนาคตของ 7-Eleven ในอินโดนีเซียจะสดใส แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่ เนื่องจากประสบปัญหาที่แก้ไม่ตกเพราะลูกค้าไม่ยอมใช้เงินในร้าน แม้ว่าจะมีลูกค้าจำนวนมากใน 7-Eleven แต่ก็จ่ายเงินซื้อเครื่องดื่มเพียงแก้วเดียว แล้วนั่งนาน ๆ หลายชั่วโมง 

บริษัท PT Modern Internasional ได้ออกมาบอกด้วยว่า “ยอดขายที่ขาดหายไปเป็นเพราะการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งรายเดิมและรายใหม่ เช่น Family Mart และ Alfamart”

มองชีวิตเป็นที่ตั้ง เปิดทาง 'หลากศาสตร์' สู่กระบวนการทางการแพทย์ เพื่อรักษาผู้ป่วยสิ้นหวังด้วยหลักเมตตาธรรม

ทุกวันนี้สังคมไทยยังคงขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวทางการแพทย์อยู่อีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของกระบวนการรักษาที่มีความสลับซับซ้อน แต่สิ่งซึ่งผู้เขียนอยากนำมาเสนอในบทความนี้คือ ความปรารถนาให้ผู้คนได้รู้และเข้าใจเรื่องราวของการเข้าถึงกระบวนการการรักษาด้วยหลักเมตตาธรรมทางการแพทย์  รวมทั้งไม่เพิกเฉยละเลยในศาสตร์ต่าง ๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือและรักษาชีวิตมนุษย์ทุกผู้ทุกคนบนโลกใบนี้

ในการรักษาตามศาสตร์ทางการแพทย์แผนปัจจุบันนั้น กระบวนการในการรักษาต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานทางการแพทย์โดยหน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกำหนดขึ้นมา ครอบคลุมตั้งแต่ บุคลากร วิธีการปฏิบัติ ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ ฯลฯ ดังนั้นกระบวนการรักษาโดยรวมจึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานต่าง ๆ ที่ถูกกำหนดขึ้นมา แต่ก่อนถึงการกำหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานต่าง ๆ เหล่านั้นจะมีกระบวนการที่เรียกว่า “การวิจัยทางคลินิก” (Clinical Trial) อันเป็นหนึ่งในกระบวนการทดสอบใน “มนุษย์” ว่า ยา วัคซีน วิธีการรักษา วิตามิน อาหารเสริม หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ ที่คิดค้นขึ้นมาใหม่นั้น สามารถรักษาโรคได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่ และปลอดภัยเพียงพอสำหรับการขึ้นทะเบียนเพื่อใช้และจำหน่ายแล้วหรือยัง 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว วิทยาการทางการแพทย์ในยุคปัจจุบันมีการศึกษาค้นคว้าวิจัยอยู่ตลอดเวลา ทำให้มียาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากล แต่ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าวเหล่านี้ได้ผ่านการทดลองในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นเดียวกับมนุษย์ในแต่ละสิ่งอย่างนับร้อย ๆ ชีวิต เป็นร้อย ๆ ครั้ง ไม่ว่าจะเป็น หนู สุกร กระต่าย หรือ ลิง ซึ่งผ่านการทดลองอย่างปลอดภัยจนมั่นใจว่า สามารถนำไปใช้ในมนุษย์ได้แล้ว แต่อาจจะใช้ในการรักษาโรคผู้ป่วยที่หมดหนทางในการรักษาตามมาตรฐานสากลเท่าที่มีอยู่ และได้ใช้วิธีการรักษาที่มีอยู่จนหมดแล้ว 

โดยเฉพาะผู้ป่วยในกลุ่มที่เรียกว่า “ผู้ป่วยสิ้นหวัง” (Desperate patient) อันได้แก่ ผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคทางกายและ/หรือทางใจ โดยไม่มีโอกาสที่จะพ้นทุกข์ทรมาน และไม่สามารถใช้เวลาที่เหลือในชีวิตของตนให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นได้ ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ ๆ ดังกล่าวอาจสามารถใช้รักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้ และเป็นหลักการที่ยอมรับของวงการแพทย์ทั่วโลก ตามที่เรียกกันว่า Compassionate treatment หรือการรักษาด้วยหลักเมตตาธรรม ตามปฏิญญาเฮลซิงกิของแพทยสมาคมโลก ค.ศ. 2013 (WMA Declaration of Helsinki 2013)

การรักษาด้วยหลักเมตตาธรรมจึงเป็นหลักการทางการแพทย์ที่ถือว่า มีความเป็นสากล เพราะการใช้ยาหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ยังไม่ผ่านการอนุมัติ อาทิ ยาชนิดใหม่เพื่อการวิจัย หรือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกการทดลองทางคลินิก โดยผู้ป่วยที่มีสภาวะร้ายแรงหรือมีภาวะถูกคุกคามชีวิต ซึ่งไม่ตรงตามเกณฑ์การลงทะเบียนสำหรับการทดลองทางคลินิกที่กำลังดำเนินอยู่

ในสหรัฐอเมริกา การรักษาด้วยหลักเมตตาธรรมเริ่มต้นจากการจัดหายาสำหรับผู้ป่วยบางรายในช่วงปลายทศวรรษ 1970 โดยโครงการที่เป็นทางการเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1987 เพื่อตอบสนองต่อผู้ป่วย HIV/AIDS ที่ร้องขอการเข้าถึงยาที่กำลังพัฒนา และทำให้เกิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างสำคัญคือ Right-to-try laws (กฎหมายว่าด้วยสิทธิในการทดลอง) กลายเป็นกฎหมายของมลรัฐในสหรัฐอเมริกากว่าสี่สิบมลรัฐแล้ว 

แล้วที่สุดกลายเป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางที่จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายสามารถเข้าถึงการรักษาเชิงทดลอง (ยา สารชีวภาพ อุปกรณ์) ที่ได้ผ่านการทดสอบระยะที่ ๑ แล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) เมื่อ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ก่อนที่จะมีกฎหมายว่าด้วยสิทธิในการทดลองใช้ ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) เพื่อใช้ยาทดลอง ในปี ค.ศ. 2018 มี ๔๑ มลรัฐของสหรัฐอเมริกาได้ผ่านกฎหมายว่าด้วยสิทธิในการทดลอง กฎหมายว่าด้วยสิทธิในการทดลองใช้ของรัฐบาลกลางผ่านในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2018 นับตั้งแต่การลงนามในร่างกฎหมาย ผู้ป่วยหลายพันคนสามารถใช้วิธีการรักษาแบบทดลองตามกฎหมายนี้ได้ จากข้อมูลของ Scott Gottlieb ซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมาธิการของ FDA ในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ องค์การอาหารและยา (FDA) ได้อนุมัติคำขอของผู้ป่วยถึง 99% ในการเข้าถึงยาทดลอง ทั้งทางโทรศัพท์ทันทีหรือภายในไม่กี่วันก่อนที่จะมีการลงทะเบียนตามขั้นตอนของกฎหมายดังกล่าว

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของความสำเร็จในการรักษาด้วยหลักเมตตาธรรมคือ กรณีของ Martin A. Couney ผู้คิดค้นตู้อบทารกซึ่งคลอดก่อนกำหนด (Neonatal incubators) เมื่อย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษ 1900 นักสุพันธุศาสตร์ (นักวิชาการซึ่งทำการประมวลความเชื่อและวิธีปฏิบัติว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพทางพันธุกรรมของประชากรมนุษย์) หลายคนได้เผยแพร่ความเชื่อที่ว่า ทารกที่คลอดก่อนกำหนดควรถูกกำหนดให้ตาย และไม่คุ้มค่าที่จะทำการรักษา

แต่ Martin Couney ท้าทายแนวคิดนั้นด้วยนิทรรศการของเขา ซึ่งเขาสร้างขึ้นหลังจากที่เขาดัดแปลงตู้ฟักไก่ให้เป็น “โรงเพาะฟักเด็ก” ในงาน Chicago world fair โดย Martin Couney ผู้ซึ่งไม่เคยได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ใด ๆ เลย แต่เขาได้ช่วยชีวิตทารกที่คลอดก่อนกำหนดมากกว่า ๗,๐๐๐ คนตลอดช่วงชีวิตของเขา โดยจัดแสดงไว้ในตู้อบทารกในนิทรรศการของเขาที่ Coney Island

สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ณ กรุงปักกิ่ง สถานที่ที่ปลอดภัยมากที่สุดในโลก

สวัสดีนักอ่านทุกท่านครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ณ กรุงปักกิ่ง มาเล่าให้อ่านครับ ต้องบอกเลยว่าเรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่จะน่าสนใจขนาดไหน ไปอ่านกันเลยครับ

ต้องบอกก่อนว่าโดยปกติแล้วสถานทูตสหรัฐฯ ทั่วโลกจะมีเจ้าหน้าที่ทหารจากนาวิกโยธินสหรัฐฯ ทำหน้าที่คุ้มกันอยู่ภายในอาณาบริเวณของสถานทูต แต่สถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศจีนนั้นจะมีความแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ในโลก เนื่องจากได้รับการคุ้มกันโดยกองกำลังติดอาวุธ Chinese wujing หรือ the People's Armed Police ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ไม่ใช่โดยเจ้าหน้าที่ทหารของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ดังเช่น สถานทูตสหรัฐฯ อื่น ๆ ทั่วโลก

เพราะเหตุนี้จึงทำให้สถานทูตสหรัฐฯ ณ กรุงปักกิ่งได้รับการปกป้องมากที่สุด โดยกองทัพของประเทศที่ตั้งของสถานทูตเลยทีเดียว

เจ้าหน้าที่ของกองกำลังติดอาวุธ the People's Armed Police หรือ Chinese Military Police ซึ่งทำหน้าที่คุ้มกันสถานทูตสหรัฐฯ

เรามาทำความรู้จักกองกำลังติดอาวุธ the People's Armed Police หรือ Chinese Military Police กันดีกว่า

กองกำลังติดอาวุธ the People's Armed Police หรือ Chinese Military Police เป็นทหารหน่วยพิเศษ หรือสารวัตรทหาร (ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ) ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) มักจะปฏิบัติงานด้านความมั่นคงภายใน เช่น คุ้มกันสถานทูต กวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดอันตราย ต่อต้านการก่อการร้าย การปราบปรามความไม่สงบ ฯลฯ

เจ้าหน้าที่ของกองกำลังติดอาวุธ the People's Armed Police หรือ Chinese Military Police ซึ่งทำหน้าที่คุ้มกันสถานทูตสหรัฐฯ

นอกจากนี้การรักษาความปลอดภัยภายในอาณาบริเวณของสถานทูตสหรัฐฯ ในประเทศจีนนั้นจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานทูตสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พลเรือนจาก The Diplomatic Security Service (DSS or DS) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในประเทศของรัฐบาลสหรัฐฯ ในคดีที่เกี่ยวกับกระทรวงการต่างประเทศ อาทิ การปลอมแปลงหนังสือเดินทางหรือวีซ่า การค้ามนุษย์ การปลอมแปลงเอกสาร การลักพาตัวระหว่างประเทศ การละเมิดรัฐบัญญัติการป้องกันผู้ได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลกลาง การจับกุมผู้ที่หนีคดีในต่างประเทศ และคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ


เจ้าหน้าที่พลเรือนจาก The Diplomatic Security Service (DSS or DS) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯขณะอพยพพลเมืองอเมริกันชุดแรก ๑๙๕ คนออกจากเมืองวูฮั่น อันเนื่องมาจากสถานการณ์ COVID-19 ในปี ค.ศ. 2020

การที่รัฐบาลจีนสั่งห้ามสถานทูตไม่ให้ที่พักแก่ทหารจากประเทศของตน ด้วยเพราะด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ 

ในปี ค.ศ. 1898 ระหว่างการกบฏนักมวยมีทหารต่างชาติซึ่งประจำการในสถานทูตแปดชาติ ได้แก่ อเมริกา ออสเตรีย-ฮังการี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น และรัสเซีย ได้กระทำการทารุณต่อประชาชนในท้องถิ่น 

นอกจากนี้ ยังมีความทรงจำที่เลวร้ายเกี่ยวกับสนธิสัญญาที่ไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งมหาอำนาจตะวันตกหลายชาติได้ประกาศสงครามกับจีน และมีการบังคับรัฐบาลจีนให้จ่ายเงินชดเชยจำนวนมหาศาล สร้างสถานทูตและที่พักทหาร ฯลฯ 

ดังนั้นสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎของรัฐบาลจีน โดยเจ้าหน้าที่พลเรือนจาก The Diplomatic Security Service (DSS or DS) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในอาณาเขตของสถานทูต

"Discipline, Vigilance, Professionalism" (มีวินัย ระวังตัว มืออาชีพ) คำขวัญของ Marine Security Guard

แต่สถานทูตสหรัฐฯ ทั่วโลกโดยปกติแล้วใช้ทหารจาก Marine Security Guard (MSG) หรือ Marine Embassy Guard (หน่วยนาวิกโยธินรักษาความปลอดภัยประจำสถานทูตสหรัฐฯ) เป็นสมาชิกของกองกำลังนาวิกโยธินซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานทูตสหรัฐฯ ทั่วโลก (เดิมชื่อกองพันหน่วยนาวิกโยธินรักษาความปลอดภัย) ซึ่งเป็นองค์กรขนาดกองพันของกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ (USMC) ซึ่งกองกำลังนาวิกโยธินรักษาความปลอดภัยของสถานทูตสหรัฐฯ สถานกงสุลอเมริกัน และหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เช่น คณะผู้แทนสหรัฐประจำองค์การ NATO กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม 

นาวิกโยธินสหรัฐฯ มีประวัติในการร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน โดยย้อนกลับไปในยุคแรก ๆ ของประเทศ ตั้งแต่การชักธงชาติอเมริกันที่เมืองเดอร์นา กรุงตริโปลี ประเทศลิเบีย และภารกิจลับของ Archibald H. Gillespie ในแคลิฟอร์เนียช่วงสงครามระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก ไปจนถึงการกบฏนักมวยที่กรุงปักกิ่ง นาวิกโยธินสหรัฐฯ ได้ทำหน้าที่พิเศษหลายครั้งในภารกิจพิเศษในฐานะผู้นำสาร เป็นผู้คุ้มกันสถานทูตและคณะผู้แทนฯ และปกป้องพลเมืองอเมริกันในพื้นที่ที่ไม่สงบ 

WORLD

‘สี จิ้นผิง’ เผยพร้อมขยายความร่วมมือกับ ‘รัสเซีย’ มุ่งผลักดันให้บรรลุเป้าหมายแบบรอบด้าน

(22 มี.ค.66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า... เมื่อวันอังคาร (21 มี.ค.) สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวว่าจีนพร้อมขยายความร่วมมือกับรัสเซียในด้านการค้า การลงทุน ห่วงโซ่อุปทาน โครงการขนาดใหญ่ พลังงาน และเทคโนโลยีระดับสูง

'สี จิ้นผิง' กล่าวถึงประเด็นข้างต้นขณะพบปะกับมิคาอิล มิชูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซีย

'สี จิ้นผิง' กล่าวว่าจีนและรัสเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ใหญ่ที่สุดของกันและกันและหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านแห่งความร่วมมือ พร้อมกล่าวว่าการรักษาการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-รัสเซียที่แข็งแรงและมั่นคงนั้น สอดคล้องกับตรรกะทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศและผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนทั้งสองประเทศ

‘ญี่ปุ่น’ พิชิตแชมป์ ‘เวิลด์ เบสบอล คลาสสิค 2023’ โค่น ‘สหรัฐฯ’ คว้าถ้วยใบที่ 3 กลับบ้านในรอบ 14 ปี

ทีมเบสบอลของญี่ปุ่นพิชิต สหรัฐฯ ในรอบชิงดำของศึก เวิลด์ เบสบอล คลาสสิค 2023 ทำให้พวกเขาได้แชมป์โลกไปเชยชมเป็นสมัยที่ 3

ทีมเบสบอลชายทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์ เวิลด์ เบสบอล คลาสสิค ประจำปี 2023 ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากเอาชนะ สหรัฐอเมริกา ในรอบชิงชนะเลิศ 3-2 ที่สนาม โลนเดพ็อต พาร์ค ในเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอังคารที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา

ญี่ปุ่น ทำผลงานได้ดีมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มด้วยการชนะครบทั้ง 4 นัดจนทำให้ได้เข้าสู่รอบน็อกเอาต์ โดยในรอบก่อนรองชนะเลิศนั้นพวกเขาผ่าน อิตาลี มาได้ ด้วยสกอร์ 9-3 แล้วจากนั้นก็เฉือนชนะ เม็กซิโก 6-5 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะมาพิชิต สหรัฐฯ ในรอบชิงดำ

ธนาคารกลางยุโรป ส่งสัญญาณ ดัน 'สกุลเงินดิจิทัลแบงก์' เชื่อมต่อ 'แอปฯ ชำระเงิน-บัตร' ไม่ยึดติดเฉพาะของยุโรป

ในขณะที่ทั่วโลกมีวิกฤต Bank Run อยู่นี้ ล่าสุดก็มีความคืบหน้าสำคัญเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency : CBDC) ออกมาแล้ว

โดยไม่นานมานี้ World Maker ได้เปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB (European Central Bank) ประกาศถึง Digital Euro ที่จะมีบทบาทสำคัญในการชำระเงินอย่างอิสระในอนาคต พร้อมเผยอีกว่าการเชื่อมต่อจะเป็นในรูปแบบกว้าง แอปฯ ชำระเงินและบัตรไม่จำเป็นต้องเป็นของยุโรปด้วยซ้ำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบการเงินทั่วโลกน่าจะมีการเชื่อมต่อกันเกือบทั่วทั้งระบบ

นอกจากนี้ มีการเปิดเผยอีกว่าจะเริ่มเสนอกรอบกฎหมายสำหรับ Digital Euro ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้  ขณะที่การตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะมีการดำเนินการต่อหรือไม่จะมีขึ้นในภายหลัง แต่มาถึงขนาดนี้แล้วหลายคนก็คิดว่าจะต้องมีการออก CBDC มาในที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีพื้นฐานที่รองรับระบบการเงินโลกกำลังเปลี่ยนไปสู่ระบบ Blockchain Base ที่ประมวลผลได้ดีกว่าระบบเดิมหลายเท่า

📌 Christine Lagarde ประธานของ ECB กล่าวว่าแนวโน้มหลักคือการใช้เงินสดน้อยลงในระบบ และเปลี่ยนไปสู่การชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้นอีก ซึ่งภาพในปัจจุบันเราก็ได้เห็นแนวโน้มนี้กันแล้ว เพราะแม้แต่คนไทยจำนวนมากก็หันมาใช้จ่ายผ่านการโอนหรือแสกน QR Code แทนการกดเงินสด เนื่องจากมีความสะดวกรวดเร็วมากกว่า และไม่จำเป็นต้องพกเงินไว้ในกระเป๋าจำนวนมาก ๆ อีกด้วย !

“มีจุดมุ่งหมายให้ปลอดภัย มีไว้เพื่ออำนาจอธิปไตย และตั้งใจให้พร้อมใช้งานสำหรับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา และในราคาที่ถูกที่สุดที่เป็นไปได้ อาจไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับฟังก์ชันพื้นฐานที่สุด” Lagarde กล่าวเสริมเกี่ยวกับ Digital Euro

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องยอมรับคือการเปลี่ยนไปสู่ Digital Euro จะทำให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถตรวจสอบหรือสอดส่องข้อมูลสำคัญได้ง่ายกว่าเดิมด้วย นั่นหมายความว่าความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานจะลดลงเมื่อเทียบกับระบบธนบัตรสมัยก่อน

แต่คนส่วนใหญ่ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวเรื่องเหล่านี้ เพราะถ้าเราทำอาชีพสุจริตถูกกฎหมาย ไม่ได้ทำธุรกิจดำมืดหรือสีเทา และมีการเสียภาษีถูกต้อง เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรเลย ส่วนคนที่ประท้วงถึงประเด็นนี้ส่วนใหญ่ ก็น่าตั้งคำถามว่าพวกเขามีอะไรปิดบังอยู่หรือไม่ หรือว่าได้เงินมาอย่างผิดกฎหมาย ?

ELECTION TIME

‘บิ๊กป้อม’ ลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ‘พลังประชารัฐ’ ‘ชัยวุฒิ’ เห็นพ้อง โดยหลักการต้องเป็น ‘หัวหน้าพรรค’

‘บิ๊กป้อม’รอกรรมการบริหารพรรคพิจารณา ลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 หรือไม่ พร้อมระบุจะเป็นนายกฯที่มาจากประชาธิปไตยหรือไม่ ให้ประชาชนพิจารณา พร้อมยิ้มกว้างต้อนรับหาก ‘ลุงตู่’ ลงปาร์ตี้ลิสต์ อันดับ 1 รทสช.ชี้ใครก็ลงทั้งนั้น ‘ชัยวุฒิ’ชี้โดยหลักการปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 พปชร. เป็นของ ‘บิ๊กป้อม’ เว้นเจ้าตัวจะติดขัด แขวะบางพรรคอันดับ1 อาจเป็นหัวหน้าครอบครัว

(22 มี.ค.66) ที่ห้องบอลรูม ชั้น 4 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กทม. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้น ๆ ถึงกรณีเมื่อช่วงค่ำวันที่ 21 มีนาคม 2566 นายพูน แก้วภราดัย ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความ “ลุงตู่ ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 รวมไทยสร้างชาติ” ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นและแชร์ต่อ

พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่าใครลงปาร์ตี้ลิสต์ ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า พล.อ. ประยุทธ์ จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การลงก็ดีทั้งนั้นแหละ ใครก็ลงทั้งนั้นแหละ ทุกคนก็ลง

เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ ลงเป็นทางเลือกที่ดีใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร เพียงแต่ยิ้มกว้าง ๆ โดยไม่ได้ตอบคำถาม จากนั้นเดินเข้าห้องประชุมทันที เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา PDPA Going Forward

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา ช่วงสายวันที่ 22 มีนาคม 2566 นายพูน ได้ลบเนื้อหาที่โพสต์ออกทั้งหมด

ต่อมาเวลา 10.55 น.พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการลงสมัคร ส.ส. บัญชีราย ชื่ออันดับ 1 ของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ขอรอให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาก่อน 

ผู้สื่อข่าวถามว่าการลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นการปูทางเป็นนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตย หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าขึ้นอยู่กับประชาชน

'วิทยา' แจงปมโพสต์ 'บิ๊กตู่' ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 พบเป็นความผิดพลาดก่อนโพสต์ ลบทิ้งแล้ว

‘วิทยา’ แจงแทนบุตรชาย เหตุโพสต์ข้อความระบุ ‘พลเอกประยุทธ์’ เป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 พรรค รทสช. อ้างแอดมินนำมาจากสื่อทีวีช่องหนึ่ง และไม่ได้ตรวจสอบ ก่อนลบทิ้ง ยืนยันพรรค รทสช.ส่งผู้สมัครครบ 400 เขต

(22 มี.ค.66) นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกมากล่าวถึงกรณีที่ นายพูน แก้วภราดัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นบุตรชาย ได้โพสต์รูปภาพ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมข้อความ ‘ลุงตู่ ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 รวมไทยสร้างชาติ’ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แต่ภายหลังลบข้อความดังกล่าว ว่า...  

ทีมเศรษฐกิจก้าวไกล กร้าว!! ขอมุ่งโตอย่างเป็นธรรม ปัก 3 เป้า ‘ชีวิตมั่นคง-แข่งขันเป็นธรรม-ลุยโกลบอล'

‘ก้าวไกล’ เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ ประกาศ 7 วาระสู่อนาคต ปักธงสร้างเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างเป็นธรรม ตั้ง 3 เป้าหมาย รากฐานชีวิตคนไทยมั่นคง - กติกาแข่งขันเป็นธรรม - พาธุรกิจไทยบุกตลาดโลก

(22 มี.ค.66) พรรคก้าวไกลเปิดตัวแกนนำหลักทีมเศรษฐกิจ 7 คน ซึ่งมีส่วนผสมที่หลากหลายอย่างลงตัว ทั้งในแง่อาชีพ มีทั้ง ส.ส. นักวิชาการ ข้าราชการ นักธุรกิจ ในแง่ช่วงวัย มีทั้งคนรุ่นใหม่ รุ่นกลาง รุ่นเก๋า และในแง่มิตินโยบายเศรษฐกิจ ที่ครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจภาคเมือง เศรษฐกิจภาคชนบท เศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และอุตสาหกรรมไฮเทค

โดยทั้ง 7 คน ประกอบด้วย (1) วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร (2) สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล (3) วรภพ วิริยะโรจน์ (4) อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล (5) ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร (6) เดชรัต สุขกำเนิด และ (7) ศิริกัญญา ตันสกุล

ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล คือการเติบโตอย่างเป็นธรรม (Inclusive Growth) ด้วยการทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ขณะเดียวกันดอกผลของการพัฒนาต้องถูกกระจายอย่างเป็นธรรม ซึ่งจะทำแบบนี้ได้ มีเป้าหมาย 3 เรื่อง คือ การสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจให้มั่นคง (Firm Ground) การสร้างกลไกภาครัฐและกติกาการแข่งขันที่เป็นธรรม (Fair Game) และ การทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตพุ่งทะยานรองรับความท้าทายใหม่ๆ ของโลก (Fast Forward Growth)

วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยด้านนโยบายสาธารณะ National Graduate Institute for Policy Studies (GRIPS) ประเทศญี่ปุ่น ประกาศวาระ ‘เปลี่ยน Made in Thailand เป็น Made with Thailand’ โดยกล่าวว่า นโยบาย Made in Thailand ถูกใช้มาตั้งแต่ยุคพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี คือการชวนคนเข้ามาลงทุน ลดแลกแจกแถม มีมาตรการภาษีสร้างแรงจูงใจ ทำให้จีดีพีประเทศโตขึ้น แต่คนไทยได้ส่วนแบ่งดอกผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และนโยบายนี้ไม่เหมาะกับอุตสาหกรรมในปัจจุบัน ที่ห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ไม่ได้ยึดติดกับดินแดนของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เกี่ยวข้องกับหลายพื้นที่ทั่วโลก เช่น การผลิตสมาร์ทโฟน ซึ่งประเทศไทยตกขบวนไปแล้ว มีการออกแบบในสหรัฐอเมริกา ใช้ชิปจากไต้หวัน ตัวเก็บประจุ (Capacitor) จากญี่ปุ่น จอภาพจากเกาหลีใต้ ประกอบในจีนและอินเดีย ใช้สิทธิบัตรจากสวีเดน ดังนั้น ประเทศไทยต้องไม่ยึดติดกับคำว่า ‘In’ หรือการลงทุนในดินแดน แต่ต้องคิดใหม่ว่าจะทำอย่างไรให้ คนไทย การผลิตแบบไทย สิทธิบัตรไทย เข้าไปเชื่อมโยงเป็นส่วนผสมหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของโลก เปลี่ยนจาก Made in Thailand เป็น ‘Made with Thailand’

“พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมและภาคการผลิต ให้เป็นหัวใจของการพัฒนาเศรษฐกิจ เราต้องคิดใหม่ เปลี่ยนวิธีการ เปลี่ยนยุทธศาสตร์ รวมถึงเปลี่ยนผู้ทำนโยบายเท่านั้น ถึงจะเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยได้” วีรยุทธกล่าว

สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล อดีตผู้พิพากษาศาลสมทบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ อดีตกรรมการบริษัทเอกชนสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทย Moshi Moshi ประกาศวาระ ‘เปิดโอกาส เปิดตลาด SME’ โดยกล่าวว่า ปัจจุบันไทยมี SME 3 ล้านราย จ้างงานถึง 1 ใน 3 ของประเทศ แต่ที่ผ่านมา SME อ่อนแอลงเรื่อยๆ พรรคก้าวไกลเสนอนโยบาย 5ต ทำให้ SME กลับมาเข้มแข็งเป็นพลังของเศรษฐกิจไทย ประกอบด้วย (1) ‘เติมทุน’ คือทุนตั้งตัว 100,000 บาท และทุนสร้างตัว 1,000,000 ล้านบาท ให้ผู้ประกอบการ SME เข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้น โดยภายใน 4 ปีภายใต้รัฐบาลก้าวไกล ตั้งเป้าจะสร้างผู้ประกอบการ SME ที่เข้มแข็งกว่า 1 ล้านราย (2) ‘เติมตลาด’ เพื่อให้ SME เข้าถึงตลาดได้มากขึ้น (3) ‘ตั้งสภา’ SME ให้สามารถรวมกลุ่มกันได้ มีปากเสียงทัดเทียมกับทุนใหญ่ รวมถึงกำหนดนิยาม SME ให้เข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาบริษัทขนาดใหญ่แตกบริษัทขนาดย่อยมาแข่งขัน (4) ‘ตัดรายจ่าย’ โดยปรับโครงสร้างภาษีนิติบุคคลในระบบก้าวหน้า ให้ SME เสียภาษีอัตราต่ำลง และเมื่อรัฐบาลก้าวไกลขึ้นค่าแรงขั้นต่ำสำเร็จ SME สามารถนำค่าจ้างลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าเป็นเวลา 2 ปี และ (5) ‘แต้มต่อ’ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทขนาดใหญ่ที่สนับสนุน SME สร้างระบบบริษัทใหญ่ช่วยบริษัทเล็ก เติบโตไปด้วยกัน รวมถึงนโยบายหวยใบเสร็จ อุดหนุนสินค้าจากร้านรายย่อย ลุ้นได้เงินล้านทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

วรภพ วิริยะโรจน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประกาศวาระ ‘ทลายทุนผูกขาดเพื่อลดค่าครองชีพ’ โดยกล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ SMEs จำเป็นค้องทลายทุนผูกขาด ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมสุราที่มีมูลค่า 500,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งพรรคก้าวไกลจะแก้กฎหมายให้ประชาชนมีสิทธิ์เติบโตไปแข่งขันกับเจ้าสัวได้ การผูกขาดพลังงานหรือค่าไฟฟ้า ซึ่งพรรคก้าวไกลจะเสนอให้ยุติการผูกขาดสายส่ง เปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้า, ปลดล็อกหลังคา เปิดให้บ้านเรือนใช้ ระบบ Net Metering ได้ ประชาชนติดตั้งโซลาร์บนหลังคา กลางวันไม่ได้ใช้ไฟฟ้าก็ขายคืนเข้าระบบ และจัดสรรก๊าซธรรมชาติของอ่าวไทยใหม่ให้คนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่กลุ่มทุนเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลจะยกเครื่องกฎหมายแข่งขันทางการค้าฉบับใหม่ เปลี่ยนที่มาและเพิ่มอำนาจในการยุติการควบรวม และสั่งให้มีการแยกกิจการที่ผูกขาดได้เหมือนกับประเทศที่ทลายทุนผูกขาดได้สำเร็จ

อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ประกาศวาระ ‘UNLOCK เศรษฐกิจสร้างสรรค์’ โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยมีมูลค่า 1.2 ล้านล้านบาท มีคนทำงานในอุตสาหกรรมราว 900,000 คน พรรคก้าวไกลพร้อมพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยให้เทียบเท่านานาอารยประเทศ โดยจะเข้าไปแก้ปัญหาที่ฝังรากลึกทั้งหมด 4 อย่าง ประกอบด้วย (1) เติมงบประมาณ โดยต้องมีทิศทางการใช้จ่ายที่ชัดเจนไปในทางเดียวกัน ผ่านการเติมเงินกองทุนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของคนตัวเล็กในการแสดงความสามารถ และกองทุนนี้ต้องทำหน้าที่เหมือนกองทุนตั้งตัวของ SME (2) สร้างสวัสดิการให้แก่คนทำงานสร้างสรรค์ ซึ่งมีทั้งคนเบื้องหน้าและเบื้องหลังหลายส่วน เช่น คนยกของ คนจัดไฟ ทุกคนต้องมีสวัสดิการรองรับ ให้มีคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานที่ดี รองรับความไม่แน่นอน (3) เพิ่มทักษะความรู้และคุณภาพแก่คนในอุตสาหกรรม รวมถึงเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ในจังหวัดต่างๆ โดยนำพื้นที่ราชพัสดุหรือพื้นที่ทหารมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และ (4) ให้เสรีภาพแก่คนทำงาน ทบทวนแก้ไขกฎหมายที่กดทับวิธีคิดสร้างสรรค์ เช่น กฎหมายเซ็นเซอร์

© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top