อีลอน มัสก์ จุดกระแสร้อนแรงอีกครั้ง หลังออกมาสนับสนุนให้ปิด Radio Free Europe/Radio Liberty (RFE/RL) และ Voice of America (VOA) ซึ่งเป็นสองสื่อที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยมัสก์ให้เหตุผลว่า "ไม่มีความจำเป็นอีกแล้ว ใช้งบภาษีไปปีละ 1 พันล้านดอลลาร์แบบไร้เหตุผล"
เรื่องนี้เริ่มจากโพสต์ของ ริชาร์ด เกรเนลล์ (Richard Grenell) อดีตผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติยุครัฐบาลทรัมป์ ที่โจมตี RFE/RL และ VOA ว่า "เป็นเครื่องมือของ Deep State เต็มไปด้วยอคติทางการเมืองและนักเคลื่อนไหวฝ่ายซ้าย" ซึ่งมัสก์ตอบกลับทันทีว่า "ถูกต้อง ควรปิดมันไปเลย"
RFE/RL - VOA: เครื่องมือ Deep State ที่มัสก์ต้องการโค่น ต้องเข้าใจก่อนว่า RFE/RL และ VOA ไม่ใช่แค่สื่อธรรมดา แต่มันคือ 'กระบอกเสียง' ของ Deep State สหรัฐฯ ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือแทรกแซงต่างประเทศมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น
RFE/RL ก่อตั้งในปี 1950 เพื่อเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลอเมริกัน ในการต่อต้านอิทธิพลของสหภาพโซเวียต
VOA ก่อตั้งในปี 1942 เพื่อตอบโต้โฆษณาชวนเชื่อของนาซีเยอรมนี และต่อมาได้กลายเป็นเครื่องมือที่ใช้แทรกแซงประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
ทั้งสององค์กรนี้ ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลกลาง และอยู่ภายใต้ United States Agency for Global Media (USAGM) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ Deep State ใช้ควบคุมวาระข่าวสารระดับโลก
แม้ว่าสงครามเย็นจะจบไปแล้ว แต่สื่อเหล่านี้ยังคงอยู่ เพราะ Deep State ยังต้องการมีเครื่องมือที่ใช้ควบคุมข้อมูลในเวทีระหว่างประเทศ
การโค่น USAGM: ภารกิจหินที่แม้แต่ทรัมป์ยังทำไม่สำเร็จ
การจะล้มองค์กรที่อยู่ภายใต้ United States Agency for Global Media (USAGM) ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเคยมีอำนาจเต็มมือ ก็ยังไม่สามารถรื้อถอนมันได้
ทรัมป์เคยพยายามปรับโครงสร้าง USAGM ในสมัยดำรงตำแหน่ง โดยแต่งตั้ง Michael Pack เป็นผู้อำนวยการ USAGM และออกคำสั่งปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนที่ควบคุมสื่อเหล่านี้ แต่สุดท้าย Pack กลับถูกเล่นงานจากภายใน และถูก Joe Biden ปลดออกหลังเข้ารับตำแหน่ง
การล้ม USAGM เป็นมากกว่าการปิดหน่วยงานรัฐ แต่มันหมายถึงการรื้อถอนเครื่องมือหลักของ Deep State ที่ใช้แทรกแซงโลกมาเกือบศตวรรษ นี่เป็นงานใหญ่ที่ต้องเผชิญแรงต้านมหาศาลจากนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง และเครือข่าย Deep State ภายในรัฐบาลเอง
มัสก์อาจมีอำนาจทางเทคโนโลยีและเงินทุน แต่เขาไม่มีอำนาจรัฐ ต่างจากทรัมป์ที่เป็นประธานาธิบดี ดังนั้น การผลักดันให้ปิด RFE/RL และ VOA อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสงครามใหญ่ที่รออยู่
มัสก์กำลังลดอิทธิพล Deep State และเปลี่ยนมืออำนาจสื่อ
สิ่งที่มัสก์ทำ ไม่ใช่แค่เรื่อง 'ภาษีประชาชน' แต่มันคือ การล้างไพ่กระดานข่าวสารระดับโลก และตัดแขนตัดขาของกลุ่ม Deep State อเมริกัน
1. Deep State สูญเสียเครื่องมือสำคัญ – สื่อของรัฐบาลอเมริกันเหล่านี้ เคยเป็นช่องทางหลักในการแทรกแซงข่าวสารของประเทศอื่นๆ หากปิดตัวลง Deep State จะสูญเสียอำนาจทางข้อมูลขนาดใหญ่
2. แพลตฟอร์มใหม่จะขึ้นมาครองเวที – มัสก์เองถือครอง X (Twitter) ซึ่งกำลังกลายเป็นแหล่งข่าวหลักของประชาชนทั่วโลก นี่อาจเป็นหมากสำคัญของเขาในการเปลี่ยนอำนาจจากสื่อดั้งเดิมมาสู่แพลตฟอร์มออนไลน์
3. สหรัฐฯ ยุคใหม่อาจไม่มี Deep State คุมเกมข่าวสาร – มัสก์ไม่ใช่แค่กำลังเปลี่ยนมือสื่อ แต่เขากำลังผลักดันให้สหรัฐฯ เข้าสู่ยุคใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งพาระบบ Deep State ในการครอบงำข้อมูลอีกต่อไป
ไทยต้องเรียนรู้อะไรจากเกมนี้?
สิ่งที่มัสก์กำลังทำ สะท้อนให้เห็นว่า อเมริกาไม่ได้แค่กำลังลดบทบาทของสื่อเก่า แต่มันคือสัญญาณของ 'การเปลี่ยนอำนาจ' ภายในสหรัฐฯ เอง
1. Deep State ไม่เคยถอนกำลัง เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการ – ตั้งแต่สงครามเย็นจนถึงปัจจุบัน สหรัฐฯ ใช้เครื่องมือสื่อและข้อมูลเพื่อแทรกแซงประเทศต่าง ๆ มาโดยตลอด แม้ RFE/RL และ VOA จะถูกปิด แต่พวกเขาจะหาทางใช้ช่องทางอื่นแทน
2. อเมริกาจะยังแทรกแซงไทย แต่เปลี่ยนรูปแบบ – อย่าคิดว่าอเมริกาจะเลิกสนใจไทย เพียงเพราะพวกเขาปิดสื่อแบบเดิม ในอนาคต การแทรกแซงอาจมาในรูปแบบแพลตฟอร์มโซเชียล อินฟลูเอนเซอร์ หรือ AI แทน
3. ไทยต้องหยุดมองโลกสวย – อเมริกาไม่ได้ทำแบบนี้เพื่อ 'ลดอำนาจ' ของตัวเอง แต่เป็น การเปลี่ยนยุทธศาสตร์ เราต้องตามเกมให้ทัน
อเมริกายุคใหม่: ใครควบคุมข้อมูล ใครกำหนดวาระโลก?
อย่าคิดว่าการปิด RFE/RL และ VOA เป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่นี่คือ 'การเปลี่ยนเกมข้อมูลระดับโลก' Deep State กำลังถูกท้าทาย และพยายามปรับตัว
มัสก์กำลังสร้างระบบข่าวสารใหม่ ที่อาจอยู่ในมือของแพลตฟอร์มเอกชน
สหรัฐฯ จะยังมีบทบาทในโลก แต่ในรูปแบบใหม่
สุดท้ายแล้ว การควบคุมข้อมูลข่าวสารยังคงเป็นอำนาจสำคัญของโลกยุคปัจจุบัน อเมริกาอาจลดบทบาท Deep State แต่ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาจะเลิกควบคุมข้อมูล เพียงแต่ มือที่ถือไพ่ อาจเปลี่ยนไปอยู่ในกลุ่มคนที่พร้อมเล่นเกมใหม่แทน