Saturday, 4 May 2024
พรรคก้าวไกล

‘ก้าวไกล’ ชี้เป้า!! ‘ไอ้โม่ง’ ปกปิด ‘ASF - หมูแพง’ นั่งข้าง ‘ประยุทธ์’ หยัน ไม่มีน้ำยาปรับ ครม. ก็ออกไป

17 ก.พ. 65 ที่รัฐสภาในการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตาม มาตรา 152 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล อภิปรายในประเด็นความล้มเหลวฉ้อฉลในการจัดการโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever : ASF) และปัญหาหมูแพง โดยระบุว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้ความเสี่ยงโรคระบาดเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก และเพื่อไม่ให้เกิดการกินรวบอุตสาหกรรมสุกร 

>> ราคาหมูทะยานสูง-ลงเร็ว ไม่ใช่ความปกติ

“ราคาเนื้อหมูแพงขึ้นสูงสุดในประวัติศาสตร์ และลดลงอย่างผิดปกติหลังการประกาศเจอโรค ASF เหตุการณ์นี้เริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 หมูเนื้อแดงจาก 125 บาท ขยับขึ้นเป็น 136 บาท ในเดือนพ.ย. ต่อมาเป็น 165 บาท ในเดือน ธ.ค. และร้ายแรงที่สุดในเดือน ม.ค. 65 คือ 190-220 บาท สำหรับหมูเนื้อแดง และสาหัสที่สุดคือ 260-300 บาท สำหรับหมูสามชั้น สวนทางกับดัชนีราคาเนื้อสุกรของโลก หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่า ราคาเนื้อหมูหยุดปรับขึ้นและค่อยๆ ปรับตัวลดลง จุดตัดสำคัญอยู่ที่เดือนมกราคม 65 คือ วันที่การเปิดเผยว่ามีโรคระบาด ASF ในประเทศไทย นำมาสู่การตรวจสอบการกักตุนเนื้อสุกรในห้องเย็นตั้งแต่กลางเดือนมกราคมเป็นต้นมา จากการตรวจสอบพบหมูในห้องเย็น 1,366 แห่ง มีหมูเก็บหมู 24.66 ล้านกิโลกรัมเป็นอย่างน้อย”

ปดิพัทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลออกมาเคลมผลงานว่า แก้ไขปัญหาได้ถูกจุด แต่ต้องย้ำว่า การที่ราคาทะยานขึ้นสูงและลดลงอย่างรวดเร็วได้ไม่ใช่เรื่องปกติ แต่เป็นความชั่วร้ายของรัฐบาล คณะรัฐมนตรี และโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ที่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ปี 62-64 ท่องตามโพยอยู่อย่างเดียวว่า “ประเทศไทยไม่มี ASF” ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า “ไม่รู้ว่าหมูแพงได้อย่างไร” สั่งการขึงขัง ตรึงราคา ตั้ง War room ทุกจังหวัด ตรวจสอบห้องเย็น หลอกพี่น้องประชาชนว่าแก้ปัญหาได้แล้ว

“มันคือละครตบตาคนไทยทั้งประเทศ เพราะจริงๆ แล้วคณะรัฐมนตรีรู้มานานแล้วว่ามีโรคระบาด ASF และมีคนจำนวนเล็กๆ กลุ่มหนึ่งรู้สถานการณ์เป็นอย่างดี จึงแสวงหาความร่ำรวย เหยียบย่ำพี่น้องประชาชนผู้บริโภคและเกษตรรายเล็กรายน้อย บางคนล้มละลาย หนี้สินท่วมหัว บางคนเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต ความเสียหายย่อยยับเกิดขึ้นในฟาร์มขนาดย่อย ขนาดกลาง และขนาดใหญ่บางที่ แต่ทุนใหญ่ไม่กระทบมากเพราะมีหมูขายไม่อั้น ทุกคนต้องวิ่งหาหมูจากทุนใหญ่ เพราะไม่มีหมูของรายย่อยเหลือแล้ว กินรวบ เบ็ดเสร็จ ฟาร์มขนาดใหญ่กำลังเพิ่มการผลิต ขึ้นฟาร์มใหม่กันเต็มไปหมด เพราะรู้มาตลอดว่ามีการระบาด และรู้ด้วยว่าจะทำกำไรได้มหาศาล ถ้าใครมีหมูในช่วงปลายปี 64 และสามารถกักตุนไว้ในห้องเย็นต่างๆ ได้”

>> ตั้งธงอย่าให้รู้ว่า ASF ระบาด 

ปดิพัทธ์ กล่าวว่า ทั่วโลกมีองค์ความรู้และแนวปฏิบัติในการกำจัดของ ASF คือ การแจ้งเตือนสถานการณ์การระบาด (Alertness), ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ (Cooperation) และ ความโปร่งใสในการรายงาน (Transparency) แต่ประเทศไทยไม่มีสักอย่างและทำตรงข้ามกันหมด เพราะมีธงตั้งไว้อย่างเดียว ว่าทำยังไงก็ได้ ไม่ให้รู้ว่ามีการระบาด 

“ผมกล้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร ผมจะแสดงให้ดูว่า รัฐบาลนี้ทำอะไรกับพวกเราบ้าง ปี 2562 รู้ว่ามี ASF และเสนอเป็นวาระแห่งชาติ แต่ไม่มีผลงาน ไร้น้ำยา สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแจ้งในวันที่ 16 ตุลาคม 2562 ให้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ในหนังสือฉบับนี้ อ้างอิงถึง 3 คน คือ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกรฯ และรองนายกรัฐมนตรี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทราบแล้ว ดังนั้น อย่ามาบอกไม่รู้  

“ปี 2563 เริ่มมีสุกรตาย มีการทำลายหมู สหกรณ์เชียงใหม่ ลำพูน พังย่อยยับ ตั้งแต่ปี 2563-2564 มีมติ ครม. ออกมาชดเชยค่าทำลายหมู 3 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1,000 ล้านบาท ทำลายหมูไปแล้ว 300,000 ตัว จะไม่เจอ ASF สักตัวเลยหรือ ที่อ้างว่า ทำลายเพราะโรค PRRS แต่โรค PRRS เป็นโรคประจำถิ่นที่มีวัคซีนใช้กันมานานแล้ว และก่อนหน้าประเทศไทยไม่เคยมีการทำลายหมูเพราะโรค PRRS นับแสนตัวมาก่อน แต่หลังปี 2562 ทำลายหมูจำนวนมากโดยบอกว่าเพราะ PRRS จึงเป็นเรื่องที่ฟังดูตลกมาก 

“จบปี หมูตายไป 300,000 ตัว แต่รัฐบาลตบตาเกษตรกรจัดงานเลี้ยงในปี 2563 เห็นรัฐมนตรีเกษตร เฉลิมชัย ศรีอ่อน ท่านอธิบดีกรมปศุสัตว์ ไปยืนยิ้ม ประกาศว่า ประเทศไทย คือ ประเทศเดียวในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ยังไม่พบการระบาดของโรค ASF ในสุกร โดยในปีนั้นประเทศไทยสามารถส่งออกไปยังประเทศกัมพูชาในปริมาณสูงกว่าปี 2562 อย่างก้าวกระโดดถึง 400% จะไม่ให้ตัวเลขการส่งออกเติบโตได้อย่างไร เพราะประเทศเพื่อนบ้านติดโรคกันหมด มีแต่บ้านเราที่หลอกขายคนอื่นไปทั่ว แถมปิดปีด้วยงานเลี้ยงฉลองยอดการส่งออก จนนึกว่าท่านอธิบดีนี่เป็นผู้จัดการบริษัท แต่พอ เข้าปี 2564 การระบาดลงมาที่ภาคตะวันออกและตะวันตก กลายเป็นเอาไม่อยู่แล้ว ฟาร์มขนาดใหญ่เสียหาย เพราะ ปี 2563 ปกปิดข้อมูลไว้จนหมูเสียหายย่อยยับ เกิดการหนีตาย ระบายหมูขายกันถูกๆ ตัวละ 300-500 พ่อค้าคนกลางกดราคาหน้าฟาร์มกันอย่างเต็มที่ แต่ราคาเนื้อแดงหน้าเขียงราคาเดิม รวยขึ้นกันมหาศาล ด่านกักสัตว์ก็ผ่านกันอย่างสบาย ช่วงเร่งๆ จ่ายกันถึงคันละ 10,000 บาท โดยไม่มีใครสนว่าจะกระจายโรคแค่ไหน เพราะรัฐมนตรีและอธิบดีกรมปศุสัตว์ท่องไว้อย่างเดียวว่า ไม่มี ASF” 

‘วิโรจน์’ ร้อง ครม.ถอดวาระต่อสัมปทานสายสีเขียว หวั่น!! มัดมือชกค่าโดยสารแพงยาวอีก 30 ปี

‘ก้าวไกล’ ค้านสุดประตู เรียกร้อง ครม.ถอดวาระต่อสัญญาสัมปทาน รฟฟ.สายสีเขียว หวั่นมัดมือชกค่าโดยสารแพงอีก 30 ปี ย้ำ!! ต้องให้ผู้ว่าฯ จากการเลือกตั้งมีส่วนตัดสินใจ ท้า ‘อัศวิน’ เปิดสัญญาแจงต่อประชาชน

21 ก.พ. 65 ที่อาคารรัฐสภา ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการ และ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล รับหนังสือจาก ประจวบ ทิทอง ประธานศูนย์สิทธิผู้บริโภค เขตบึงกุ่ม พร้อมคณะ ในฐานะภาคประชาชนเครือข่ายผู้บริโภค ที่มีข้อเรียกร้องคัดค้าน ‘การต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว’ โดยคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้ 

ชัยธวัช กล่าวว่า ต้องขอบคุณเครือข่ายผู้บริโภคที่ช่วยกันผลักดันรณรงค์คัดค้านการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในเวลานี้ พรรคก้าวไกลมีจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการขยายสัมปทานและขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับภาคประชาสังคม เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีถอดถอนวาระนี้ออกจากการประชุม และขอให้เร่งรัดให้มีการเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม.โดยเร็ว เพราะเรื่องนี้ควรมีการพิจารณาเมื่อมีผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงมีรัฐบาลใหม่
.
“เราทราบกันดีว่ารัฐบาลชุดนี้ใกล้จะหมดอายุเต็มที เรื่องใหญ่ที่สร้างผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนขนาดนี้ เราไม่อยากเห็นการกระทำเหมือนตอนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ 1 อีก นั่นคือแอบต่อสัญญาทิ้งทวนภายหลังจากที่มีการเลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างกำลังรอรัฐบาลชุดใหม่ เราไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง 

“พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เราจะช่วยกันกดดันเรียกร้องต่อรัฐบาลทุกวิถีทาง เพราะหากอนุญาตให้มีการต่อสัมปทานในขณะนี้ จะเป็นการมัดมือชกประชาชนให้จ่ายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวในราคา 65 บาท ไปอีก 30 ปี และจะเป็นการสูญเสียโอกาสครั้งใหญ่ในการทบทวนสัมปทานและการทำสัญญากับเอกชนในทุกสาย เพื่อทำให้เกิดระบบตั๋วร่วมในการลดค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน จะกระทบเป็นลูกโซ่ ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.พ. 65) ที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี เราไม่อยากเห็นเรื่องนี้เข้าสู่การประชุม จึงขอให้มีการถอดถอนวาระออกโดยเร็ว” ชัยธวัช กล่าว

ด้าน สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคณะกรรมาธิการคมนาคม ประเด็นนี้เคยมีการเรียกหน่วยงานมาชี้แจงในคณะกรรมาธิการหลายครั้ง ซึ่งในกรรมาธิการมีทั้ง ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน มีมติชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยต่อการขยายสัญญาที่ไม่ชอบธรรมฉบับนี้ ล่าสุดเรามีการจัดสัมมนา โดยเชิญทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยมาร่วม ฝ่ายรัฐบาล เราเชิญตัวแทนรัฐมนตรีคมนาคมและกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงก็มีการส่งตัวแทนมา พร้อมกันนั้นเราเชิญตัวแทนทุกพรรคการเมืองด้วย แต่ปรากฏว่า ในเสวนาดังกล่าวกลับไม่มี ส.ส.คนใด หรือพรรคใด กล้าพูดเปิดอกกับประชาชนว่าเห็นด้วยกับการขยายสัมปทานฉบับนี้ต่อหน้าสาธารณชน ไม่มีใครกล้าบอกว่าจะสนับสนุนเรื่องดังกล่าว กรณีนี้จึงเป็นการขยายสัมปทานอย่างน่าเกลียดที่สุด เป็นเรื่องที่จะส่งผลเสียหายอย่างมหาศาลหลายแสนล้านบาท นาทีนี้ประชาชนจะต้องเห็นความสำคัญและมาร่วมกันเรียกร้องในการหยุดการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว” สุรเชษฐ์ ระบุ 

ขณะที่ วิโรจน์ กล่าวว่า ความพยายามต่ออายุสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นการรวบรัด หักคอไม่เคารพคนกรุงเทพมหานคร หากปล่อยให้มีการต่ออายุสัมปทานฉบับนี้ออกไป หมายความว่า ตั้งแต่วันนี้จนถึง พ.ศ. 2602 ซึ่งมีเวลานานเท่ากับ 1 ชั่วอายุการทำงานของคนหนึ่งคน เช่น ในวันนี้ อายุ 23 ปี เริ่มอายุการทำงาน ในปี 2602 จะครบอายุ 60 ปี หรือเกษียณอายุจากการทำงานก็ยังต้องจ่ายค่าเดินทางแพง เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาการเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนหรือเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะระหว่างรถไฟฟ้ากับรถเมล์ได้เลยตลอดอายุสัญญานี้

‘วิโรจน์’ เสนอ 4 ข้อเร่งด่วน ยุทธศาสตร์ตั้งเกมรับโควิด หวังหยุดตายจากการบริหารที่ผิดพลาดของผู้ว่าฯ 

22 ก.พ. 65 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล เดินทางเยี่ยมชุมชนคลองเตย พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครส.ก.เขตคลองเตย ไชยพงษ์ พุฒวิบูลย์วุฒิ เพื่อรับฟังปัญหาชุมชนแออัดและการระบาดของโควิด สายพันธุ์โอมิครอน ระหว่างการพูดคุยมีเสียงสะท้อนเรื่องการระบาดของโควิดและพิษเศรษฐกิจ ทำให้พ่อค้าแม่ขายได้รับผลกระทบมาโดยตลอด

ตามสถิติการระบาดของโควิดล่าสุดตามรายงาน ศบค. ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 18,363 รายต่อวัน เสียชีวิต 35 ราย ผลตรวจ ATK 14,605 คน รวมกับยอดผู้ป่วยใหม่ ตัวเลขรวม 32,968 ราย ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่การฉีดวัคซีนเข็ม 3 ยังเป็นนโยบายที่ไม่ชัดเจน การบูสวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าโควิด สายพันธุ์โอมิครอนมีจุดเด่นที่การระบาดรวดเร็ว สถิติปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ทั่วประเทศเพียง 26.5% และในกทม. 56.74% ซึ่งเป็นจำนวนที่รับได้แต่ยังไม่เพียงพอ วิโรจน์จึงเสนอ 4 ข้อเร่งด่วน เปลี่ยนยุทธศาสตร์ตั้งเกมรับโควิด

'พรรณิการ์' ชี้ การยุบพรรคอนาคตใหม่ ทำให้คณะก้าวหน้ามุ่งทำการเมืองท้องถิ่นได้มากขึ้น และยิ่งทำให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่แข็งแกร่ง 

น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า กล่าวระหว่างร่วมงานเสวนา Thai Politics Update: Polls, Players, Prospects ของ สถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยระบุว่า…

การเลือกตั้งครั้งที่จะเกิดขึ้นนี้จะแตกต่างไปจากการเลือกตั้งปี 2562 และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจไม่ลอยลำเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้ง่ายนัก

"ประยุทธ์บริหารประเทศมานานมาก และนานเกินไปแล้ว ประยุทธ์บริหารประเทศมา 8 ปี แล้วเป็นการบริหารประเทศมาผิดทาง ทำให้มีการทุจริตคอร์รัปชันในส่วนต่างๆ มากมาย และมีการบิดกฎหมายต่างๆ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลประยุทธ์ นี่เป็นเหตุผลให้คนเรียกร้องการเลือกตั้งกันมากขึ้น" น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า ประยุทธ์น่าจะจบไม่สวยนัก หากดูตามการแบ่งเขตใหม่ กรุงเทพมหานครมีถึง 33 เขต หมายความว่าใครสามารถครองพื้นที่ กทม. ได้ ก็จะได้เก้าอี้ ส.ส. ไปได้จำนวนมากพอสมควร ซึ่งพรรคพลังประชารัฐไม่น่าจะสามารถครองพื้นที่ กทม. ไปได้มาก หากมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ใครชนะไปก็มีโอกาสสร้างโมเมนตัมส่งต่อให้ได้เก้าอี้ ส.ส. ในกทม. ด้วยซึ่งคราวนี้ก็เชื่อว่าผู้สมัครจากฟากประชาธิปไตยจะชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการเลื่อนให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพื่อให้มีการต่อรองผลประโยชน์กันก่อนจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

นอกจากนี้ การเปลี่ยนกติกาการเลือกตั้งให้กลับมาใช้บัตร 2 ใบก็อาจไม่เป็นประโยชน์กับพรรคพลังประชารัฐอย่างที่ได้วางแผนไปตอนแรก เพราะปัจจุบัน พรรคพลังประชารัฐแตกออกเป็นหลายก๊กหลายเหล่า มีการแยกออกมาเป็นพรรคเล็กๆ เพราะฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็จะต้องมาต่อรองผลประโยชน์กับพรรคกลางพรรคเล็กหลายทาง ถึงตอนนั้นก็ไม่แน่ใจว่าใครจะตั้งรัฐบาลได้

'โรม’ รุกต่อ!! สอบปมค้ามนุษย์​ ผ่าน​กมธ.กฎหมาย คาดวีกหน้าเรียก 3 ป. แจงข้อเท็จจริง​ เหตุ ‘ปวีณ ลี้ภัย’

25 ก.พ. 65​ รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงต่อสื่อมวลชนว่า จากกรณีที่ได้อภิปรายในประเด็นการค้ามนุษย์และการลี้ภัยของพลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ วันนี้จะนำเรื่องดังกล่าวขอมติต่อคณะกรรมาธิการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมติกรรมาธิการเห็นด้วย จะเสนอต่อที่ประชุมให้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ โดยพุ่งประเด็นไปที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี,​ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี,​ พลตำรวจเอก สุวัจน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงผู้บัญชาการทหารเรือ ยืนยันว่าเรื่องนี้พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญมากจริงๆ และจะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด

นอกจากนี้ วันเดียวกัน กมธ.กฎหมายฯ ยังได้รับหนังสือร้องเรียนจาก นายธนารัตน์ น้ำคำ ตัวแทนประชาชนที่มาเรียกร้องต่อคณะกรรมาธิการ ขอให้ตรวจสอบมาตรฐานโรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี ที่เกิดกรณีคนงานพลัดตกลงไปในเครื่องบีบน้ำตาลจนเสียชีวิตแต่ยังคงดำเนินการผลิตต่อไปโดยไม่มีการยับยั้งชั่วคราวใดๆ จากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 

'ก้าวไกล'​ ลงทุ่งครุ​ พบวิกฤตผู้ป่วยไม่มีเตียง ด้าน​ 'วิโรจน์'​ แนะกทม.เร่งขยายศูนย์พักคอย

25 ก.พ. 65​ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ธนนรินทร์ ศิริกิรัญพงษ์ ว่าที่ผู้สมัครส.ก. เขตทุ่งครุ เดินทางไปยังศูนย์พักคอยและแยกกักตัวชุมชน หรือศูนย์ CI (Community​ Isolation)​ ในเขตทุ่งครุ เพื่อตรวจสอบปัญหาและเสนอแนะแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์เตียงเต็ม 

ปัจจุบันพื้นที่ทุ่งครุมีศูนย์ CI สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 51 เตียง แต่เกิดปัญหาเตียงเต็ม สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการจัดการที่ไม่ลงตัว มีการส่งตัวผู้ป่วยข้ามเขตมาใช้บริการ ซึ่ง กอล์ฟ ธนนรินทร์ มองว่า กทม. และหน่วยงานเขตสามารถออกแบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้มีประสิทธิภาพกว่านี้ได้ เพื่อให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่สามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย และมีการเดินทางเคลื่อนย้ายให้เหมาะสมกับตัวผู้ป่วย

ระหว่างการสำรวจปัญหาที่เขตทุ่งครุ วิโรจน์ ได้ไลฟ์เสนอแนะปัญหา พร้อมอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เขาย้ำว่า เกมโควิดเปลี่ยน ยุทธศาสตร์การรับมือต้องเปลี่ยนตามสายพันธุ์โอมิครอน การระบาดรอบนี้เป็นการต่อสู้กับความเร็วของการระบาด ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการซึ่งถือเป็นผู้ป่วยสีเขียว 

'เท่าพิภพ' สุดทน!! จี้ 'อัศวิน' ลาออกผู้ว่า กทม. ปูดถลุงงบกลาง-สร้างความนิยม ไม่สมชื่ออัศวินนักรบ

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565 เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 22 บางกอกใหญ่ ธนบุรี คลองสาน พรรคก้าวไกล กล่าวแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัว ถึงกรณีที่ตนได้รับร้องเรียนจากประชาชนและเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ที่ให้เบาะแสถึงพฤติกรรมการใช้งบประมาณของพลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อย่างน่าสงสัยเพื่อเอื้อแก่การสร้างฐานนิยมให้ตนเองหรือไม่นั้น 

เท่าพิภพ กล่าวว่า พฤติกรรมการใช้งบประมาณของผู้ว่าอัศวิน ส่อไปในทางที่สงสัยได้ว่าเป็นไปเพื่อการสร้างความนิยมส่วนตัว โดยมีการให้งบประมาณไปกับโครงการในลักษณะที่ตัวเนื้อหาโครงการที่ใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า ไม่มีประสิทธิภาพ โดยกลุ่มเป้าหมายในการใช้งบประมาณเฉพาะเจาะจงไปยังหัวคะแนนเพื่อสร้างฐานเสียงทางการเมืองของตัวเอง

"หลายโครงการที่มีชื่อหรูหราและดูดีแต่ข้างในเน่าเฟะ อย่างโครงการ งบช่วยเหลือผู้ประสบภัยโควิดหัวละ 5,000 บาท ซึ่งตั้งงบประมาณไว้คือเขตละ 200 คน รวมทั้งสิ้น 50 เขต รวม 50 ล้านบาท โครงการอ้างว่าจะช่วยให้เป็นเงินให้เปล่าเพื่อช่วยเหลือให้ไปประกอบธุรกิจ โดยให้ประชาชนทั่วไปเขียนโครงการมาคัดเลือก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงนั้น การประชาสัมพันธ์โครงการทำด้วยวิธีการเลือกประธานชุมชนไปประชุมที่เขตเพื่อรับทราบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจำกัดวงของผู้เข้าร่วมมากๆ ประธานชุมชนคนไหนดีก็จะมาแจ้งลูกบ้าน ประธานชุมชนที่ไหนเน้นผลประโยชน์ส่วนตนก็จะเก็บข่าวไว้กับพวกตัวเอง โครงการเหล่านี้พอยื่นไปแล้วยังพบว่ามีความไม่ยุติธรรมในการคัดเลือกจัดสรร ผู้ที่ได้รับเงินเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเป็น 'เครือข่ายของที่ปรึกษา' ผู้ว่าอัศวิน ซึ่งคนกรุงเทพฯ ทั่วไปก็จะรู้ว่าคนเหล่านี้คือว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ทีม #รักษ์กรุงเทพ ของผู้ว่าอัศวิน"

‘คนก้าวไกล’ พ้อ!! ขอลาออกจากกรรมาธิการ หลังรัฐไร้น้ำยาแจงปม ‘อหิวาต์หมู-หมูแพง’

‘ปดิพัทธ์’ รุกปฏิบัติการโรยเกลือ ยื่น ป.ป.ช. ลงดาบ นายกฯ-รมต.-อธิบดีกรมปศุสัตว์ ปมปกปิดละเว้นหน้าที่ ปล่อย ‘อหิวาต์หมู’ ระบาดหนัก พร้อมประกาศไขก็อก กมธ.แก้ปัญหาหมูแพง เหตุไร้น้ำยาเรียกหน่วยงานมาชี้แจงได้

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล เดินหน้ายุทธการโรยเกลือ ยื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผ่านนายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. ให้ไต่สวนและตรวจสอบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสรวิศ ธานีโต อธิบดีปศุสตว์ กรณีปล่อยให้ราคาหมูแพง จากการปกปิดการแพร่ระบาดโรคอหิวาต์หมู (ASF) ว่า เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ สืบเนื่องจากการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152

“โดยอ้างอิงข้อมูลที่ได้รับจากเอกชน ว่ากรมปศุสัตว์รับทราบเรื่องการเกิดโรคระบาดอหิวาต์หมูทั้งทางวาจาและเอกสาร ซึ่งชี้ได้ว่าอธิบดีฯ รับทราบมาโดยตลอด ทุกประเทศเมื่อพบการแพร่ระบาดก็จะสามารถยับยั้งได้โดยเร็วอยู่บริเวณชายแดน แต่ประเทศไทยกลับละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดมาถึงใจกลางเมืองที่จังหวัดนครปฐม และราชบุรี สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินประชาชน เกิดการกินรวบผูกขาดทำให้หมูราคาแพง จึงย้ำว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจของ ป.ป.ช. ในการสอบสวน”

'วิโรจน์-ศิริกัญญา' เปิดนโยบายที่อยู่อาศัยเมืองกรุง หวังเปลี่ยนที่ดินกองทัพ ปรับเป็นที่ดินเพื่อปชช.

ยกแฟลตทหารเทียบ!! 'วิโรจน์-ศิริกัญญา' เดินสำรวจที่อยู่อาศัย 'นายพล' ใจกลางเมือง พร้อมเปิดนโยบายที่อยู่อาศัย 'เพื่อประชาชน'

‘วิโรจน์ ลักขณาอดิศร’ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ‘ศิริกัญญา ตันสกุล’ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางไปยังแฟลตสวัสดิการข้าราชการกองทัพบก เพื่อเปิดนโยบาย Affordable Housing ที่อยู่อาศัยเพื่อประชาชน 

ทั้งนี้ วิโรจน์ ชี้แจงถึงเหตุผลที่เลือกแฟลตสวัสดิการข้าราชการกองทัพบกเป็นที่เปิดนโยบายนี้ว่า...

“หากเราสามารถสร้างที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองให้กับเหล่านายพลได้ เราก็ควรต้องสร้างที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนได้เช่นเดียวกัน”

“แฟลตนี้เป็นตัวอย่างให้กับเราในการพัฒนานโยบายสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อประชาชน แน่นอนว่าเราคงไม่สร้างขนาดใหญ่โตขนาดนี้ เพราะแฟลตแต่ละยูนิตประกอบด้วย ห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องนั่งเล่น 1 ห้อง โดยห้องนอนทุกห้องมีระเบียง เราคงสร้างหรูหราขนาดนี้ไม่ได้แน่ๆ”

“แต่ที่เราทำได้คือ ทำเลต้องดีแบบนี้ ขนาดห้อง 35-70 ตร.ม. แล้วแต่ขนาดครอบครัว ค่าเช่าเดือนละ 3,500 - 9,000 บาท แล้วแต่ขนาดห้อง โดยให้เช่าระยะยาว 1 ชั่วอายุคน (30 ปี) วัสดุในการก่อสร้างต้องได้มาตรฐานแบบนี้”

‘ครูธัญ’ หวั่น!! ความเสมอภาคของผู้คนในแดนกิมจิอาจมืดสนิท!! หลังผู้นำคนใหม่เตรียมยุบ​ 'ก.ความเท่าเทียมทางเพศ'

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส..แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี เกาหลีใต้ ซึ่ง ยูน ซอก-ยอล จากพรรคพลังประชาชน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งล่าสุดอย่างเฉียดฉิว ว่า...

เป็นว่าที่ประธานาธิบดีที่มีนโยบายขวาจัด และสิ่งหนึ่งที่ประกาศต่อสาธารณะ คือ​ การยุบกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศ จึงมีความเป็นห่วงอย่างมาก เพราะความเท่าเทียมทางเพศ​ คือ​ ตัวชี้วัดอย่างหนึ่งที่สะท้อนความเสมอภาคของประชาชนและความก้าวหน้าของประเทศ และยอมรับว่า ในปัจจุบันผู้มีอำนาจ มีตำแหน่งสำคัญๆ ยังมีความไม่เข้าใจประเด็นดังกล่าวว่าสำคัญอย่างไรอยู่

Gender หากแปลตรงตัวคือ ‘เพศสถานะ’ หากเราเข้าใจเพียงเท่านี้ก็คงไม่นำพาสู่การแก้ปัญหาใด ๆ แต่หากเราเข้าใจว่าเพศสถานะนั้นคือการกำหนดบทบาททางเพศโดยรัฐ หรือสังคมนิยมชาย #Patriachy ในอดีต เราก็จะพบความไม่เท่าเทียม ทั้งการให้คุณค่าด้านวัฒนธรรม มูลค่าทางเศรษฐกิจ และ ศักดิ์ศรีรวมถึงพื้นที่ของผู้หญิงและความหลากหลาย ดังนั้น Gender = เพศสถานะ = ความไม่เท่าเทียมทางเพศ เราจึงเติมคำว่า Equality ด้านหลังคำว่า Gender เพื่อให้ความไม่เท่าเทียมนั้นถูกทำให้เท่าเทียม จึงเป็นที่มาของคำว่า #GenderEquality”

ธัญวัจน์ กล่าวต่อไปว่า ความคิดการยุบกระทรวงความเท่าเทียมทางเพศ สะท้อนความคิดสังคมที่นิยมความเป็นชายในบุคคลนั้น แม้คนนั้นจะเป็นผู้หญิงก็ตาม ตัวอย่างข่าวที่ออกมาในเกาหลีใต้ คิมกอนฮีภรรยาของ ยูน ซอก-ยอล เคยมีบทสนทนาถึงความไม่เชื่อใน #Metoo หรือประเด็นการส่งเสียงต่อการล่วงละเมิดทางเพศที่เป็นกระแสเกิดขึ้นทั่วโลกเพื่อต่อสู้กับ ‘ความเงียบ’ ที่ถูกกดทับจากผู้ชาย สะท้อนความคิดสนับสนุนอำนาจชายเป็นใหญ่ที่มองว่าเป็นเรื่องผู้ชายเล่นสนุก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top