Saturday, 4 May 2024
พรรคก้าวไกล

‘ก้าวไกล’ ร้องสภาทบทวน ตัดสโมสรหรูในรัฐสภา ชี้!! ส.ส.ไม่ควรสำราญในขณะที่ประชาชนลำบาก

‘ปดิพัทธ์ - ก้าวไกล’ ขอสภาทบทวนฟังก์ชันสโมสรรัฐสภา ย้ำชัด ส.ส.ไม่ควรสบายในขณะที่ประชาชนลำบากท่ามกลางวิกฤติประเทศ ควรใช้เป็นสถานที่ทำงานในฐานะตัวแทนราษฎร มากกว่าสุขสบายบนภาษีราษฎร 

ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล แถลงข่าวขอให้รัฐสภาทบทวนการใช้งานสโมสรของรัฐสภา ที่จะมีห้องสันทนาการ, สปา, ลู่วิ่ง, ห้องซ้อมลีลาศ, ห้องซ้อมร้องเพลง, ห้องนวดฝ่าเท้า, นวดแผนโบราณ และห้องตีกอล์ฟ ว่า ได้หารือเรื่องนี้ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเช้า เพื่อชี้ให้เห็นถึงประเด็นที่ต้องทบทวนทั้งด้านความจำเป็นและความเหมาะสมในการใช้งบประมาณก่อสร้างสโมสรรัฐสภาทั้งหมด 

ทั้งนี้ ปดิพัทธ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมและสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมและกิจกรรมนันทนาการวุฒิสภา ได้นำสื่อมวลชนชมสโมสรรัฐสภา ซึ่งมีสมาชิกวุฒิสภาหลายท่านร่วมชมด้วย ปรากฏว่าเป็นที่น่าตกใจ เนื่องจากมีห้องต่างๆที่ต้องบอกว่าเกินจำเป็น ซึ่งพวกตนไม่ได้เป็นผู้ติดตามแผนโครงการนี้แต่แรก แต่คิดว่าสื่อมวลชนและประชาชนคงเห็นกันอยู่ว่า ตลอดเวลาที่เปิดใช้รัฐสภาแห่งนี้มา พื้นที่สำหรับคนทำงานมันน้อยเหลือเกิน เจ้าหน้าที่รัฐสภาแทบไม่ใช่พื้นที่ในการทำงาน เอกสารกองไม่เป็นที่ สื่อมวลชนต้องอยู่ภายในพื้นที่ที่จำกัด มีน้ำรั่วจากฝนตกทุกครั้ง 

‘โรม’ รับทราบ ส.ก.โชว์หื่นใส่สาวสองแล้ว แจง สมาชิกเยอะ ดูแลไม่ทั่วถึง

(26 พ.ค.65) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความในลักษณะที่มีผู้เข้ามาร้องเรียนซึ่งเป็นสาวสอง ถูกสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตวัฒนา จากพรรคก้าวไกล ส่งข้อความคุกคามทางเพศ จนถึงขั้นเอามือลูบเป้ากางเกงโชว์ พร้อมเรียกร้องให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวว่า... 

พรรคก้าวไกลรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ทางนายวิโรจน์ ก็ได้แสดงความเห็นไปในโพสต์ดังกล่าว จึงได้ประสานข้อมูลกับผู้ใช้เฟซบุ๊กที่รับเรื่องร้องเรียน คือ นายนาดา ไชยจิตต์ นักสิทธิมนุษยชนด้านความหลากหลายทางเพศ เพื่อรอดูความพร้อมว่าผู้เสียหายจะเข้าให้ข้อมูลกับพรรคก้าวไกลเมื่อไหร่ และเราได้เตรียมคณะกรรมการวินัยพรรคก้าวไกล ที่มี นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานคณะกรรมการฯ พร้อมด้วยส.ส. และสมาชิกพรรคก้าวไกล ร่วมเป็นกรรมการฯ จะลงไปดูในรายละเอียดว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร ยืนยันว่าไม่นิ่งนอนใจ การคุกคามทางเพศเป็นเรื่องใหญ่ที่เราจะไม่อดทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
 

‘ส.ก.เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ผนึกกำลังทำงานในสภากทม. เพื่อไทยนั่งประธานสภาฯ ก้าวไกลนั่งตรวจหาทุจริต

‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ จับมือแถลงข่าวความร่วมมือ พร้อมผลักดันนโยบายร่วมกันในสภา กทม. เบื้องต้นเห็นร่วมนโยบายก้าวไกล ตั้งกรรมการ ป.ป.ช. ประจำสภา กทม. พร้อมให้มีการถ่ายทอดสดประชุมสภา กทม. ด้าน 'วิโรจน์' พร้อมหนุน ส.ก. ก้าวไกลผลักดันทุกนโยบายต่อเนื่อง

แกนนำพรรคก้าวไกล นำโดยชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) จากพรรคก้าวไกล ร่วมกับแกนนำพรรคเพื่อไทย และ ส.ก. พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวความร่วมมือในการทำงานร่วมกันของ ส.ก. จากทั้งสองพรรคในอนาคต

จากการหารือ ส.ก. จากทั้งสองพรรคมีข้อตกลงในการทำงานร่วมกันในประเด็นต่างๆ กล่าวคือ ส.ก. จากทั้งสองพรรคจะร่วมกันทำงานยกระดับประสิทธิภาพและความโปร่งใสของสภา กทม., ร่วมกันเห็นชอบลงมติเลือกประธานสภา และรองประธานสภา กทม. ให้การทำงานมีเอกภาพ โดยในหลักการให้ประธานสภา กทม. มาจากพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคที่ได้ ส.ก. มากที่สุด ตามมาด้วยตำแหน่งรองประธานจากพรรคก้าวไกล และพรรคอื่นๆ ที่ได้จำนวน ส.ก. ลดหลั่นไปตามลำดับ

นอกจากนี้ ส.ก. จากทั้งสองพรรคจะร่วมเห็นชอบให้มีการแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภา เพิ่มคณะกรรมการป้องกันและปราบการการทุจริต และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และจะร่วมเห็นชอบให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภา กทม. สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและความโปร่งใส ให้ประชาชนตรวจสอบการทำงานได้

‘พิธา’ เปรียบงบ 66 เหมือน ‘ช้างป่วยที่เต้นระบำไม่ได้’ ยัน!! ควรทำให้ดี เพื่อชี้ชะตาไทยใน 10 ปีข้างหน้า

(31 พ.ค.65) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วงเงินงบประมาณ 3,185,000 ล้านบาท ว่า ครั้งนี้คือ การอภิปรายงบประมาณครั้งสุดท้ายของการจัดสรรงบประมาณ โดยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งงบประมาณคือภาพสะท้อนว่า ประเทศของเราให้ความสำคัญกับอะไร ทุ่มทรัพยากรลงทุนไปกับเรื่องไหน และจากการลงทุนในวันนี้ อนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร

“พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณอย่างมาก เรานำเทคโนโลยีมาใช้แปลงเล่มงบประมาณ 2 ลัง 20,000 หน้า ให้กลายเป็นไฟล์ CSV เพื่อง่ายต่อการนำข้อมูลมาใช้ เราใช้การมีส่วนร่วมจากประชาชนมาร่วมกันวิเคราะห์ มีตั้งแต่ข้าราชการไปจนถึงน้อง ม.5 ที่มาช่วยกันถอดงบตั้งแต่ในด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ทำให้พบว่าประเทศไทยนี้เป็นประเทศเจ้ายศเจ้าอย่าง เป็นประเทศแห่งการประชุม หากลองใส่ keyword ลงไปในไฟล์ คำว่า ‘รับรอง’ ขึ้นมา 380 ล้านบาท ใส่คำว่า ‘เบี้ยประชุม’ ขึ้นมา 940 ล้านบาท ใส่คำว่า ‘สัมมนา’ ขึ้นมา 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศไทยยังเป็นรัฐของผู้รับเหมาด้วย ซึ่งสะท้อนจากงบก่อสร้างที่มีอยู่ในงบประมาณหลายแสนล้านบาท”

พิธา ยังย้ำว่า ปีนี้คือจุดตัดสำคัญและเป็นปีแห่งการฟื้นฟู เพราะวิกฤต Covid ทั่วโลกกำลังคลี่คลาย เราเพิ่งมีการเลือกตั้งที่กรุงเทพมหานครที่ทำให้ประชาชนมีความหวังผ่านการเลือกตั้ง และที่สำคัญก็คือกำลังจะครบ 8 ปีการดำรงค์ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อาจจะทำให้ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป การจัดงบประมาณในปีนี้ จึงมีความสำคัญมาก ต้องมียุทธศาสตร์มากกว่าปกติ ต้องสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการฟื้นฟูประเทศ เพราะถ้าเราจัดได้ดีประเทศก็จะไปได้ดีในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่ถ้าเราไม่ปรับตัวอีกหลังจากทศวรรษที่สูญหายเพราะการมีผู้นำประเทศอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ และระบอบ คสช. แล้วยังจัดงบประมาณแบบเดิมๆ ความหายนะที่เกิดขึ้นกับประชาชนจะตามมาและลูกหลานอนาคตก็จะพัฒนาไม่ได้

พิธา กล่าวต่อไปว่า ภาพรวมของงบประมาณปี 66 เป็นเหมือน ‘ช้างป่วยที่เต้นระบำไม่ได้’ ในขณะที่เรากำลังเจอสถานการณ์รายได้ผันผวน รายจ่ายแข็งตัว การกู้ที่จะมีต้นทุนมากขึ้น ในเรื่องของรายจ่าย ส่วนใหญ่ยังใช้งบไปเพื่อเป็นรายจ่ายบุคลากรที่สูงถึง 40% อีกส่วนเป็นงบที่เอาไว้ชำระหนี้ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นงบบุคลากร ใช้หนี้สาธารณะ ใช้หนี้นโยบาย หนี้ ธกส. สุดท้ายเหลือจริงๆ แค่ 1 ใน 3 เพื่อเอาไว้รับมือกับปัญหาปีต่อปีและความท้าทายในอนาคต

ต่อมา เรื่องรายได้ มีปัญหาว่าเก็บภาษีต่ำกว่าเป้า 2-3 แสนล้านบาท ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยเค้าโครงเศรษฐกิจของเราเน้นแต่การท่องเที่ยวในเชิงปริมาณไม่ใช่เชิงคุณภาพ และเน้นอุตสาหกรรมส่งออกรถยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ยังไม่สามารถจัดเก็บรายได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะมีเศรษฐกิจที่อยู่นอกระบบการเก็บภาษีสูงถึง 40% และระบบภาษีแบบ 1 คนเลี้ยง 9 คน มีจำนวนผู้เสียภาษีเพียง 4 ล้านคนจากแรงงาน 40 ล้านคน

“เมื่อรายได้ผันผวนลดลงได้แต่รายจ่ายแข็งตัว ก็ต้องกู้มากขึ้น ซึ่งในขณะนี้มีวิกฤตเงินเฟ้อทั่วโลก ธนาคารกลางในประเทศพัฒนาแล้วต่างขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ถึงธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ต่อไปนี้รัฐบาลก็ต้องกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น” พิธา ระบุ
 

‘กรุณพล' แจง!! 'งบช้างป่วย' ไม่ใช่การลดบำนาญขรก. แต่ลดรายจ่ายประจำป้อนระบบราชการที่ใหญ่โต

กรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ภายหลังจากพรรคก้าวไกลประกาศคว่ำงบ 66 มีความพยายามบิดเบือนคำอภิปรายของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่กล่าวถึง 'งบช้างป่วย' เช่น กรณีของ ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่รีบออกมาตีธงตั้งแต่ก่อนการอภิรายว่า พรรคก้าวไกลต้องการของการคว่ำงบประมาณเนื่องมาจากไม่พอใจการจัดสรรงบประมาณแบบเดิมที่ส่วนใหญ่ใช้ไปกับงบบำนาญและสวัสดิการข้าราชการ ต่อมายังมีการกระจายความเข้าใจผิดแบบนี้ส่งต่อกันไปในโซเชี่ยลมีเดียนั้น

กรุณพล กล่าวว่า ต้องยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่มีและไม่เคยมีนโยบายลดเงินเดือนข้าราชการหรือบำนาญ แต่สิ่งที่ พิธา อภิปรายคือการฉายให้เห็นภาพรวมของงบประมาณว่า ส่วนใหญ่ใช้ไปกับอะไร และมี 'งบประจำ' อะไรที่ป้อนระบบราชการใหญ่โตแต่เทอะทะเหมือนช้างป่วยที่สามารถปรับลดได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นงบสัมมนา งบดูงานเมืองนอก งบโครงการที่ทับซ้อนกัน รวมถึงงบกลางที่เป็นเงินสำรองเพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลเอาไปใช้ได้ตามใจชอบ เป็นต้น

'ศิริกัญญา' แฉไลน์กลุ่ม 'รมช. สธ.' ปล่อยเฟคนิวส์ ปมตัดบำนาญข้าราชการ ทั้งที่ก้าวไกลไม่เคยพูด

ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปราย พ.ร.บ. งบประมาณ 66 อัดยับผลงานรัฐบาล 3 ปีไม่มีอะไรเข้าเป้า พร้อมเผยภาพไลน์กลุ่มรมช. สาธารณสุข แพร่เฟคนิวส์ใส่ร้ายพิธาปมตัดบำนาญข้าราชการ

ในช่วงหนึ่งของการอภิปราย ศิริกัญญาได้เปิดภาพกลุ่มไลน์ ชื่อกลุ่มว่า 'ที่ปรึกษา รมช. สธ.' ซึ่งมีจำนวนสมาชิก 37 คน ซึ่งในภาพกลุ่มไลน์ดังกล่าวได้ปรากฏชื่อ “satit” พิมพ์ข้อความลงกลุ่มไลน์ว่า “นายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายเรื่องงบประมาณ แล้วอัดว่าบำนาญเป็นตัวปัญหาของการพัฒนาประเทศ แล้วมันไม่บอกว่าข้าราชการแต่ละคนกว่าจะได้รับบำนาญ ต้องทำงานด้วยค่าตอบแทนต่ำเตี้ยมากี่ปี แต่พวก ส.ส. ทำไม่กี่ปีก็ได้บำนาญเหมือนข้าราชการด้วย จงจำไว้ว่าพรรคนี้ถ้าได้เข้ามาบริหารประเทศ ข้าราชการบำนาญทั้งประเทศเดือดร้อนแน่”

ศิริกัญญา ย้ำว่าพรรคก้าวไกลไม่เคยพูด และไม่มีนโยบายที่จะปรับลดบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ อย่างที่กำลังมีเฟคนิวส์ส่งกันไปทั่วในขณะนี้ ขอประชาชนอย่าเชื่อเฟคนิวส์ 

สิ่งที่พรรคก้าวไกลจะทำเพื่อเพิ่มพื้นที่ทางการคลังยังทำได้อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บรายได้จากแหล่งใหม่ๆ ที่ไม่ได้กระทบกับคนส่วนใหญ่ เช่น ภาษีทรัพย์สิน ปฏิรูประบบราชการ ลดกำลังคน ปรับโครงสร้างหนี้ ก่อหนี้ใหม่และภาระผูกพันอย่างระมัดระวัง

ศิริกัญญา ยังกล่าวว่า รู้สึกผิดหวังต่อคำชี้แจงของรัฐมนตรี ที่ใช้เวลายาวนาน แต่กลับมีแต่การปัดความรับผิดชอบ และเอาดีเข้าตัว โดยไม่ได้เสนอแนวทางในการแก้ปัญหาประเทศผ่านการใช้งบประมาณอย่างสมเหตุสมผลเลย

“เราพบว่า รัฐมนตรีหลายท่านชี้แจง แบบเอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่โควิด และสงคราม หลายท่านพูดถึงปัญหาค่าครองชีพ ของแพง น้ำมันแพง ปุ๋ยแพง เงินเฟ้อ ท่านรัฐมนตรีบอก อ๋อ มันเป็นเพราะสงคราม มันเป็นกันทั่วโลก พอราคาสินค้าเกษตรหลายราคาขึ้น ทั้งยาง ปาล์ม ข้าวโพด ก็บอกว่า อ๋อ เป็นผลงานของผมเอง” ศิริกัญญากล่าว

ที่ปรึกษาองค์กรด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ ถามพรรคก้าวไกล คำขอโทษอยู่ไหน คนไม่เท่ากัน ทีพรรคอื่นแถลงการณ์เท่าฝาบ้าน แต่พรรคตัวเองเล็กเท่ารูหนู ซ่อนข้อความให้เปิดอ่านเอง หลังลงโทษ ส.ก.หื่นเบาหวิว 

วันนี้ (4 มิ.ย.) จากกรณีที่พรรคก้าวไกลได้ออกเอกสารข่าว หัวข้อ "แถลงกรณีมีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของสมาชิกพรรค" หลังได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมสมาชิกพรรค ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) กระทำการคุกคามหรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญทางเพศต่อพนักงานในบริษัทของตน พบว่ามีมาตรการเพียงแค่ตัดสิทธิที่จะดำรงตำแหน่งในพรรค และจะไม่เสนอรายชื่อให้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองในสภา กทม. มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี พร้อมกันนี้ได้กำหนดให้มีการภาคทัณฑ์ หากกระทำความผิดในกรณีเดียวกันอีก จะดำเนินการลงโทษทางวินัยขั้นเด็ดขาด

ล่าสุด นาดา ไชยจิตต์ ปรากฎว่า ที่ปรึกษาองค์กรด้านสิทธิความหลากหลายทางเพศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Nada Chaiyajit ระบุว่า "ไม่เอาสมาชิกสภากรุงเทพคุกคามทางเพศ พรรคก้าวไกลก้าวไปไกลได้แค่นี้? คำขอโทษอยู่ไหน คนไม่เท่ากัน เรื่องอื่นแถลงการณ์ใหญ่เท่าฝาบ้าน เรื่องคุกคามทางเพศแถลงการณ์เล็กเท่ารูหนู #JusticeForอลิส

ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายของผู้เสียหาย ขอขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่พยายามมอบความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย แต่อยากให้กล้าหาญกว่านี้ค่ะ นอกจากจะซ่อนข้อความให้ต้องไปเปิดหาอ่านเอง ไม่แถลงข่าว ลงข้อความ Twitter ตอน 6.00 เช้าของวันเสาร์ แล้วประชาชนที่ไหนจะเข้ามาเห็นคะ Facebook page พรรคก็ไม่ลง ตอนพรรคประชาธิปัตย์เขาแถลงข่าวกันปาวๆ เช้า สาย บ่าย เย็น แบบนี้พรรคตั้งใจให้ประชาชนมองไม่เห็นใช่ไหม

'ก้าวไกล' เชือดขั้น 3 ส.ก.เขตวัฒนา หลังมีผู้ร้องเรียนคุกคามทางเพศ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่พรรคก้าวไกล น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม และรองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของสมาชิกพรรค ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตวัฒนา โดยผู้ร้องเรียนระบุว่าสมาชิกพรรคคนดังกล่าวกระทำการคุกคามก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญทางเพศต่อพนักงานในบริษัท ว่า พรรคก้าวไกล โดยคณะกรรมการวินัยจรรยาบรรณสมาชิกพรรคได้แสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องที่นำมาชี้แจง และได้พิจารณาบนพยานหลักฐานที่มี

น.ส.สุทธวรรณ กล่าวว่า ปรากฏข้อเท็จจริงดังนี้ กรณีที่ผู้ร้องระบุว่าผู้ถูกร้องมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมีการสัมผัสเป้ากางเกงของตนเองต่อหน้าผู้ร้อง จากการตรวจสอบพยานหลักฐานในวันดังกล่าวมีคนอยู่ในห้องหลายคน ฝ่ายผู้ร้องไม่มีพยานและหลักฐานมาแสดง ส่วนผู้ถูกร้องมีพยานยืนยันว่าอยู่ในห้องที่เกิดเหตุและพยานไม่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว พรรคจึงไม่สามารถวินิจฉัยกรณีนี้ว่าผู้ถูกร้องกระทำความผิดจริงได้

น.ส.สุทธวรรณ กล่าวว่า กรณีที่ผู้ร้องระบุว่าถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมและไม่ได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย โดยผู้ถูกร้องยืนยันว่าเป็นการเลิกจ้าง เนื่องจากไม่ผ่านการทดลองงาน ซึ่งตามกฎหมายนายจ้างมีสิทธิ์เลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย แต่ต้องจ่ายค่าไม่บอกกล่าวการเลิกจ้างล่วงหน้าในอัตราเท่ากับเงินเดือน 1 เดือน ซึ่งผู้ถูกร้องยินดีจ่ายให้ผู้ร้องและจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด

น.ส.สุทธวรรณ กล่าวว่า กรณีที่ผู้ร้องมีหลักฐานในการพูดคุยในไลน์ 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2564 กรณีนี้มีหลักฐานทางไลน์ชัดเจน ข้อความในไลน์มีการชมว่าผู้ร้องสวยหุ่นดี และขอดูรูปถ่ายของผู้ร้อง เป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญทางเพศด้วยวาจาและกระทบต่อความรู้สึกและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ร้องเรียนเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงเนื่องจากพฤติกรรมไม่สอดคล้องกับอุดมการณ์และคุณค่าของพรรคที่ยึดถือเคารพความหลากหลายเท่าเทียมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

“ความผิดทางวินัยของสมาชิกพรรคมี 4 สถาน 1.ตักเตือน 2.ภาคทัณฑ์ 3.ตัดสิทธิที่พึ่งมีในฐานะสมาชิก 4.ให้พ้นจากสมาชิกภาพ โดยพรรคมีมาตรการตัดสิทธิ์บางประการในฐานะสมาชิกพรรคซึ่งเป็นความรับผิดทางวินัยขั้นที่ 3 ซึ่งผู้ถูกร้องจะไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพรรคและพรรคจะไม่เสนอรายชื่อให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในสภากรุงเทพมหานครเป็นเวลา 1 ปีและหากผู้ถูกร้องยังมีการกระทำโทษให้พ้นจากสมาชิกภาพทันที” น.ส.สุทธวรรณ กล่าว

‘พิธา’ ตอบจดหมายตัวแทน ‘ข้าราชการบำนาญ’ ยืนยัน ไม่ตัด ไม่ลด บำนาญ

‘งบช้างป่วย’ หมายถึง วิธีการจัดการงบประมาณประเทศของประยุทธ์ ชี้ หากการหารายได้ไม่สอดคล้องรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปัญหาอาจย้อนกลับและกระทบถึงสวัสดิการข้าราชการในอนาคตด้วย เผย รู้ว่าเสี่ยง แต่ถ้าไม่พูดตั้งแต่ตอนนี้ สถานการณ์วิกฤติขึ้นมาจริงอาจสายเกินแก้ 

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตอบจดหมาย ศรศักดิ์ อ้วนล้วน ประธานศูนย์พิทักษ์สิทธิและสวัสดิการข้าราชการบำนาญแห่งประเทศไทย ที่มีคำถามต่อกรณีการอภิปรายงบประมาณปี 66 เกี่ยวกับผลกระทบต่อข้าราชการบำนาญ ว่า เป็นการตอบจดหมายตามสัญญาเพื่อตอบข้อสงสัยที่มีต่อการอภิปรายงบประมาณของตนในสภา 3 ประเด็น

ประเด็นที่ 1 มีอคติกับข้าราชการบำนาญหรือไม่ ? อะไรคือความหมายของ ‘งบช้างป่วย’ 

พิธา ตอบว่า  ‘งบช้างป่วย’ ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง ‘ข้าราชการบำนาญ’ แต่หมายถึง ‘วิธีในการจัดงบประมาณประเทศของรัฐบาล’ ที่รวมถึง รายได้ รายจ่าย การกู้ชดเชยขาดดุล ซึ่งจะไม่สามารถทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้อย่างยั่งยืน

“ผมต้องเรียนท่านว่าผมมีคนในครอบครัวเป็นข้าราชการบำนาญ ตัวผมเองก็เคยทำงานที่กระทรวงพาณิชย์มาก่อน เข้าใจหัวอกข้าราชการเรื่องค่าตอบแทนที่น้อยกว่าเอกชนและปัญหาของข้าราชการไทยในการดูแลประชาชนไม่มากก็น้อย จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะมีอคติต่อข้าราชการครับ”

'ก้าวไกล' ปลื้ม!! หลัง 'สุราก้าวหน้า' ผ่านวาระหนึ่ง วอนรัฐแก้กฎให้สอดรับ อย่าต้มคนดูในวาระถัดไป

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.เขตบางกอกใหญ่ คลองสาน ธนบุรี พรรคก้าวไกล ผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าโดยเมื่อวานนี้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวในวาระแรก 

เท่าพิภพ กล่าวว่า รู้สึกขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่สนับสนุนและให้ความสนใจร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ซึ่งถือเป็นร่างของฝ่ายค้านที่ผ่านสภาแม้การลงมติเมื่อวานนี้จะเป็นเพียงการรับหลักการในวาระแรก แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ประเทศไทยจะเริ่มต้นทลายทุนผูกขาด ตนในฐานะผู้ที่ต่อสู้เพื่อความก้าวหน้าของผู้ผลิตสุรารายย่อยมาตลอดตั้งแต่ก่อนเข้ามาทำงานการเมือง มาจนถึงพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล หวังว่าฝ่ายนิติบัญญัติจะยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก และช่วยกันผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นจริงได้ในวาระถัด ๆ ไป 

โดยหลังขั้นตอนจากนี้เป็นเรื่องของกรรมาธิการฯ ที่จะปรับแก้และนำเอาข้อเสนอแนะจากการอภิปรายไปปรับใช้ และหวังว่าจะผ่านวาระ 2 และ 3 แต่หากถูกตีตกในวาระ 2 ก็มองว่า จะเป็นเหมือนปาหี่มวยล้มต้มคนดู สุดท้ายอยากให้คำนึงถึงประชาชน พร้อมฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และกรมสรรพสามิต ให้ไปแก้กฎกระทรวงให้สอดคล้องกับร่าง พ.ร.บ สุราก้าวหน้าให้พร้อมถึงเวลาอย่าอ้างข้อจำกัดนี้เพื่อขัดขวางความเท่าเทียมของประชาชน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top