Saturday, 4 May 2024
พรรคก้าวไกล

‘ก้าวไกล’ รุกหนักช่วย ‘เพชร กรุณพล’ ลงพื้นที่หาเสียง - ด้านเจ้าตัวรอลุ้นชู 3 นิ้ว

ทีม ‘ก้าวไกล’ เดินตลาดบางเขน ‘เพชร-กรุณพล’ ขอเป็นตัวแทน ‘การเมืองแห่งความหวัง’ ชวนลุ้นหลังสมัคร ส.ส. กทม. เขต 9 พรุ่งนี้ หากจับได้หมายเลข 3 ชู 3 นิ้ว แน่นอน ไม่หวั่นโดน ‘สิระ’ ขู่ฟ้อง 50 ล้าน

วันที่ 5 ม.ค. 65 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. เขต 1 จังหวัดพิษณุโลก และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. เขต 28 บางแค กรุงเทพฯ เดินทางไปแนะนำตัวและพบปะพูดคุยกับประชาชนย่านตลาดบางเขน

“หาเสียงมาระยะหนึ่งรู้สึกสนุก ยอมรับตอนแรกกังวลว่าประชาชนที่เคยชื่นชอบผลงานละครจะไม่เห็นด้วยกับการมาทำงานการเมืองหรือเปล่า แต่พอได้พูดคุยกันจึงรู้ว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ยิ่งรู้สึกดีใจเมื่อเขาบอกว่าอยากให้เราเป็นปากเสียงให้เขาด้วย มีหลายคนกล้าที่จะเดินมาบอกสะท้อนถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไขกับเรา ผมตั้งความหวังในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ว่าจะชนะเลือกตั้ง ผมเชื่อว่าคนกรุงเทพและคนในเขตเลือกตั้ง ไม่ว่าเขตบางเขน จตุจักร หรือหลักสี่ ต้องการเห็นการเมืองในรูปแบบที่แตกต่างออกไป หลายปีที่ผ่านมา ประชาธิปไตยไม่ได้เบ่งบานเต็มที่ ประชาชนได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไปก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันคือความฝืดเคืองรายได้ลด ภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น แต่การเมืองที่แตกต่างจากเดิมได้ทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความหวังมากขึ้น และในครั้งนี้ผมจึงขอโอกาสเป็นตัวเลือกเพื่อเป็นตัวแทนของความหวังนั้น”  

นายกรุณพล กล่าวต่อไปว่า หากได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จะรับปัญหาในพื้นที่ไปสู่การผลักดันแก้ไข ไม่ว่าด้วยกลไกสภาหรือด้วยนโยบายของพรรคที่มุ่งเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างประเทศ ซึ่งจะส่งผลถึงคุณภาพชีวิตของคนทุกคนด้วยเป้าหมายการสร้างสวัสดิการของรัฐที่ถ้วนหน้าเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ เรายังมีเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดการกระจายอำนาจเป็นจริง เพื่อคืนศักยภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ให้ประชาชนสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีความเข้มแข็ง สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วน ส.ส. และพรรคก้าวไกล จะเป็นส่วนหนึ่งของการหนุนเสริมขับเคลื่อนให้หน่วยงานภาครัฐตื่นตัวและคล่องตัวในการตอบสนองต่อปัญหาของประชาชนผ่านกลไกรัฐสภาและองคาพยพต่างๆ ที่พรรคมี 

นายกรุณพล ชี้ว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่เป็นการตัดคะแนนกันเอง เนื่องด้วยแต่ละพรรคมีผู้สนับสนุนของตัวเอง หากบอกว่าจะเอาประชาชนที่ชอบนโยบายของพรรคก้าวไกล ไปเลือกพรรคการเมืองอื่นเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง คงเป็นการไม่เคารพต่อเจตนารมณ์ของประชาชนในฐานะพรรคการเมืองและคงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการส่งเสริมให้ระบอบประชาธิปไตยเข้มแข็ง แต่จะเป็นการฮั๊วการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่แนวทางที่พรรคก้าวไกลต้องการเห็น 

‘พิธา’ แต่ง 'ไรเดอร์' ส่ง ปชต. ถึงมือชาวชุมพร หนุน ‘วรพล’ เข้าสภาฯ อาสาช่วยประชาได้จริง

เลือกตั้งซ่อมชุมพรคึกคัก! ‘พิธา’ ขอเป็นไรเดอร์ ส่งประชาธิปไตย ถึงมือคนชุมพร - พร้อมหนุน ‘วรพล’ เข้าสภาฯ ผลักดัน พ.ร.บ.ประมง ฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมพร

(10 ม.ค. 65) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลุยหาเสียงช่วย 'วรพล อนันตศักดิ์' ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 เบอร์ 3 พรรคก้าวไกล ที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมในวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม ที่จะถึงนี้

บรรยากาศหาเสียงในช่วงเช้า หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นรถแห่หาเสียงรอบตัวเมืองชุมพร เพื่อแนะนำผู้สมัคร เบอร์ 3 ของพรรคก้าวไกล จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังท่าเรือปากน้ำหัวถนน หรือปากน้ำเก่า เพื่อลงเรือหางยาวขนาดเล็กไปรับฟังปัญหาพี่น้องชาวประมง และในช่วงบ่าย ได้สวมบทบาทไรเดอร์ ที่เป็นอาชีพหลักของวรพล ผู้สมัคร ส.ส. เพื่อส่งอาหารและประชาธิปไตยให้ถึงมือประชาชนด้วยตนเอง

พิธา กล่าวว่า วันนี้ตนได้มีโอกาสไปรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน ก็พบว่า สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ประมง ที่พรรคก้าวไกลได้ส่งเข้าสภาไป และมีความตั้งใจว่า จะนำปัญหาของพี่น้องชาวชุมพรไปอภิปราย เพื่อที่จะสนับสนุนเรื่องเกี่ยวกับไมล์ทะเล ที่เราขีดเส้นไมล์ทะเลก็เหมือนกับขีดเส้นชีวิตของพี่น้องชาวประมง และตนยังได้ไปดูสุสานเรือ ที่ทั้งอุตสาหกรรมแทบจะล้มละลายจากคำสั่งของ คสช. เมื่อปี 2558 ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว แต่ความเดือดร้อนของโทษที่มีความรุนแรงไม่สมดุลกับความผิดก็ยังคงอยู่

‘หมอเก่ง’ ชี้!! ข้อมูลวัคซีนเป็นความลับ ทั้งที่รัฐควรมีหน้าที่ป้องกันอย่างเข้มงวด 

‘วาโย - ก้าวไกล’ โต้!! ‘อนุทิน’ ข้อมูลวัคซีนและเลขบัตรประจำตัวประชาชนเป็นความลับ ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย รัฐไม่ควรปล่อยให้ใครก็ได้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของประชาชน

จากกรณีที่อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงว่า ข้อมูลของประชาชนที่ฉีดวัคซีนไม่ได้รั่ว และข้อมูลดังกล่าวไม่ได้ถือว่าเป็นความลับ เมื่อกรอกหมายเลข 13 หลักในหมอพร้อมก็จะพบข้อมูลนี้นั้น ทาง นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า ตนรู้สึกตกใจมากที่เจ้ากระทรวงที่ดูแลข้อมูลส่วนตัวของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ให้ความสำคัญกับปกป้องข้อมูลของประชาชน

“ปัจจุบัน ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่ามาก เพราะสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์และคาดการณ์อะไรได้อีกมาก หลายประเทศที่เขาตระหนักเรื่องนี้ ตนถือว่ามันเป็นความมั่นคงของประชาชนเลยด้วยซ้ำ ทีนี้ของประเทศไทย ควรจะต้องมี พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล หรือ PDPA ออกมาใช้ตั้งนานแล้ว แต่มันก็ยังไม่มีผลบังคับใช้สักที แล้วพอผู้มีอำนาจออกมาบอกว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เป็นความลับอะไร มันก็แสดงให้เห็นว่ารัฐไทยไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้แบบสุดๆ ไปเลย”

นพ.วาโย กล่าวต่อว่า แม้ PDPA จะยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่ปัจจุบันก็มีกฎหมายเฉพาะคุ้มครองข้อมูลสุขภาพของประชาชนบังคับใช้อยู่แล้ว เขาชวนให้ทุกคนคิดตามโจทย์ทางกฎหมายว่า มาตรา 7 ของพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ระบุว่า ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลเป็นความลับส่วนบุคคล ใครจะนำไปเปิดเผยในลักษณะที่จะทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่คนนั้นจะยินดีเปิดเผยเอง

“แล้วข้อมูลวัคซีนถือเป็นข้อมูลสุขภาพหรือไม่? ก็ต้องย้อนไปดู พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 4 ระบุว่า การประกอบวิชาชีพเวชกรรมมีการรักษา บำบัด หรือป้องกันโรค ดังนั้น การฉีดวัคซีนเพื่อการป้องกันโรค ก็ถือว่าเป็นข้อมูลการรักษา เป็นข้อมูลสุขภาพ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ใดจะเปิดเผยไม่ได้”

‘ก้าวไกล’ ทวงถามค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาทอยู่ไหน วอนรัฐ ช่วยสนใจปากท้องก่อนเล่นเกมแย่งเก้าอี้ 

(20 ม.ค. 65) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น สวนทางกับค่าแรงของประชาชนที่ยังต่ำและขยับขึ้นน้อยมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ขณะนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบให้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้ชี้แจงแทน

นายจรัส กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนหลายพื้นที่ใน อ.ศรีราชา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี บ้านของตนกำลังลำบากไม่น้อยไปกว่าประชาชนทั่วประเทศ นอกจากต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ยังต้องเจอกับการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งยังต้องมาเจอกับพิษเศรษฐกิจค่าครองชีพที่สูงขึ้น สวนกับค่าแรงงานของพี่น้องประชาชน 

"แต่ในขณะที่บ้านเมืองกำลังวิกฤต พี่น้องประชาชนทั้งประเทศกำลังอดอยากจากปัญหาปากท้อง ข้าวของแพง ค่าแรงถูก ต้องถามว่าพวกท่านในฐานะที่เป็นรัฐบาลมัวเล่นอะไรกันอยู่ โฟกัสให้ถูกเรื่องได้แล้ว หยุดแย่งเก้าอี้ หยุดแย่งโควตา หันไปแก้ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนบ้าง ถึงตอนนี้จากที่เคยทนไหว เขาเริ่มที่จะทนไม่ไหวแล้ว เพราะทุกอย่างมันแพงขึ้นมาก"

นายจรัส อภิปรายต่อว่า ราคาน้ำมันก็ปรับขึ้นตั้งแต่ปลายปี รัฐบาลคุมราคาดีเซลก็จริง แต่คนทั่วไปใช้เบนซินหรือแก๊สโซฮอล์ ปกติเงิน 100 บาท เติมน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ได้เต็มถัง แต่ในขณะนี้ไม่ได้แล้ว คนขับรถยนต์เคยเติมเต็มถัง 500-600 บาท ตอนนี้เติม 1,000 บาท ก็ไม่เต็มถัง เดือนๆ หนึ่งต้องเสียค่าน้ำมันแพงมาก 

ตอนนี้ลามมาถึงค่าอาหาร แพงขึ้นทุกอย่าง ทั้งเนื้อสัตว์ ซึ่งที่เป็นประเด็นสำคัญ คือ ราคาเนื้อหมู ที่ปรับขึ้นจาก 120 เป็น 200 กว่าบาท เป็นปรับที่ก้าวกระโดด จนประชาชนปรับตัวไม่ทัน ขยายไปดึงราคาเนื้อสัตว์อื่นๆ ไข่ไก่ น้ำมันปาล์ม รวมไปถึงซีอิ๊วขาวจนสูงขึ้นตาม

"ท่านต้องไปกินข้าวจากอาหารตามสั่งบ้าง เขายิ่งเจอผลกระทบที่ราคาปรับขึ้น ทำให้ประชาชนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกจากค่าอาหาร สวนทางกับค่าแรงขั้นต่ำที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม ผลกระทบนี้พ่อค้า แม่ค้า ก็กระทบ เดี๋ยวก็จะมีค่าไฟ ที่เพิ่มสูงขึ้นในฤดูร้อน ยิ่งทำให้ส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ผิดกับคนที่อยู่บ้านหลวงใช้น้ำฟรี ใช้ไฟฟ้าฟรี แบบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้นที่คงไม่ได้รับผลกระทบใดใด 

‘พิธา’ ปลุกชาวจตุจักร-หลักสี่ ส่ง ‘เพชร’ เข้าสภาฯ ให้คำมั่นเปลี่ยนงบฯ กองทัพเป็นสวัสดิการปชช.

ยังไม่ละสายตาจากเป้าหมาย! ‘พิธา’ ลุยโค้งสุดท้ายเลือกตั้งซ่อมจตุจักร-หลักสี่ ปลุกทุกองคาพยพช่วยส่ง ‘เพชร กรุณพล’ เข้าสภา - เดินหน้าเปลี่ยนงบฯ กองทัพเป็นสวัสดิการประชาชน

(24 ม.ค. 65) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางรณรงค์หาเสียงให้กับ ‘เพชร - กรุณพล เทียนสุวรรณ’ เบอร์ 6 ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตจตุจักร-หลักสี่ ที่บริเวณตลาดเมืองทองนิเวศน์ (ตลาดริมบึง) ถ.แจ้งวัฒนะ 14 โดยนอกจากจะมีการปราศรัยย่อยบริเวณด้านหน้าตลาดแล้ว ยังเดินพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในตลาดด้วย

พิธา กล่าวถึง กรณีการเปิดตัวแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคก้าวไกลและการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่จะมีขึ้นว่า มีความสัมพันธ์เกื้อหนุนไปด้วยกัน และมองว่าผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล คือ ‘เพชร กรุณพล’ จะสามารถชนะใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตจตุจักร-หลักสี่ได้ โดยการร่วมมือทำงานแบบไร้รอยต่อทั้งของแคนดิเดตผู้ว่าฯ กทม., ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อย่าง เพชร กรุณพล จะช่วยส่งให้เขาได้เข้าไปเป็นผู้แทนในสภาได้ และความเชี่ยวชาญในฐานะคนในพื้นที่ของ เพชร กรุณพล เชื่อว่าจะทำให้เขาสามารถนำปัญหาของพี่น้องไปสะท้อนให้เกิดการแก้ไขได้ 

‘โรม’ ลุยช่วย ‘เพชร กรุณพล’ หาเสียงหลักสี่ ปรับกลยุทธ์ปูพรมแบบเคาะประตูบ้านขอคะแนน

"รังสิมันต์ โรม" ลุยช่วยหาเสียงเลือกตั้งจตุจักร-หลักสี่ ชี้รัฐบาลล้มเหลวหมดความชอบธรรมในการบริหาร อาจเหลือแค่ 2 พรรคได้ลุ้น - ลั่นเวลาที่เหลือพร้อมทำงานหนักส่ง "เพชร กรุณพล" เข้าสภา 

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางรณรงค์หาเสียงให้กับ เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ เบอร์ 6 ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตจตุจักร-หลักสี่ ที่บริเวณตลาดหน้าปากซอยแจ้งวัฒนะ 6 โดยนอกจากจะมีการปราศรัยย่อยบริเวณด้านหน้าตลาดแล้ว ยังเดินพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในตลาดด้วย

‘กรุงเทพฯ แบบไหนที่​ 'ผม'​ ต้องการ?’ | Click on Clear THE TOPIC EP.135

📌 ‘กรุงเทพฯ’ ในฝันต้องเป็นแบบไหน? หาคำตอบไปกับ ‘วิโรจน์ ลักขณาอดิศร' ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฝีปากกล้าแห่งพรรคก้าวไกล! 

📌ใน Topic : ‘กรุงเทพฯ แบบไหนที่​ 'ผม'​ ต้องการ?’ 

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

'พิธา' กร้าว!! เลิกจี้​ 'ก้าวไกล-ทหาร'​ ปฏิปักษ์กัน หลังคะแนนเสียงจากค่ายทหารเทให้มากกว่าเดิม

'ก้าวไกล'​ แถลงยินดี 'สุรชาติ'​ ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน "กรุณพล" ลุยต่อ-มั่นใจเลือกตั้งใหญ่ได้ ส.ส. ด้าน 'พิธา'​ เผยเปอร์เซ็นต์คะแนนดีขึ้น-ชนะเพิ่มในค่ายทหาร 

พรรคก้าวไกล แถลงข่าวผลการเลือกตั้งซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค, พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขตจุตจักร-หลักสี่ เบอร์ 6 โดยมี ส.ส. พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. และทีมอาสาสมัครสังเกตการณ์เลือกตั้งของพรรค ร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก 

พิธา กล่าวว่า ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับคุณสุรชาติ เทียนทอง และพรรคเพื่อไทย รวมถึงยินดีกับพี่น้องจตุจักร-หลักสี่ ที่จะได้คุณสุรชาติเข้าไปทำงาน ในส่วนพรรคก้าวไกล ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้​ 'เพชร กรุณพล'​ และพรรคก้าวไกล แม้เรายังไม่ได้เป็นผู้ชนะ แต่ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว และผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการยืนยันว่าการมีอยู่ของพรรคก้าวไกล การมีอยู่ของนักการเมืองแบบนี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ และเมื่อดูจากเปอร์เซ็นต์คะแนนเสียงที่ได้รับ ในการเลือกตั้งปี 2562 เราได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ครั้งนี้ได้ 24 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าครั้งที่แล้ว ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ให้ความไว้วางใจ 

"นอกจากนี้ นโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ก็ถือว่าเป็นที่ตอบรับดีมาก เพราะคะแนนเสียงจากในค่ายทหารในสมัยอนาคตใหม่เราได้ 26 เปอร์เซ็นต์ ครั้งนี้เพิ่มเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ นั่นแสดงให้เห็นว่า พี่น้องทหารเห็นด้วยกับสิ่งที่เราจะทำให้กองทัพทันสมัย เป็นทหารมืออาชีพ ชีวิตของทหารชั้นผู้น้อยดีขึ้น ชัดเจนว่า นโยบายปฏิรูปกองทัพที่เรานำเสนอดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีใครพยายามสร้างภาพว่าพรรคก้าวไกลกับทหารเป็นปฏิปักษ์กัน คิดว่าเลิกพูดแบบนั้นได้แล้ว เพราะแท้จริงเราพยายามทำให้ทหารมีสวัสดิการสวัสดิภาพที่ดีอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ทั้งนี้ เราตั้งใจที่จะทำงานอย่างมุ่งมั่นต่อไปสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงประเทศนี้" พิธา กล่าว 

‘วิโรจน์’ ยก 2 หลักการแก้ปัญหาทางม้าลายไทย ลั่น!! นั่งเจ้าเมืองกรุงเมื่อไร ความปลอดภัยมาเยือน

(3 ก.พ. 65) วิโรจน์ ลักขณาอดิสร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล ร่วมวงเสวนาเวทีสาธารณะ ‘หมอกระต่าย ต้อง (ไม่) ตายฟรี’ ซึ่งจัดโดย มูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์กรสิทธิมนุษยชน 

โดย วิโรจน์ ได้ย้ำนโยบายหลักของตนเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว 2 หลักการใหญ่ หากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. ภายในระยะ 6 เดือน โดยอิงอยู่กับพื้นฐานงบประมาณที่ได้รับจัดสรรของกทม. จะสามารถทำได้ทันที ดังนี้…

1.) ปรับปรุงโครงสร้างทางวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับทางม้าลาย ไม่ว่าจะเป็นการตีเส้น เพนต์สี ระบบสั่นสะเทือนเพื่อชะลอความเร็วของยานพาหนะบริเวณใกล้ทางม้าลาย และโครงสร้างหรือสัญลักษณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ปรับปรุงระบบสัญญาณข้าม พร้อมกันนี้ได้เสนอวิธีการสอดส่องและบำรุงรักษาโครงสร้างวิศวกรรมทางม้าลายดังกล่าว ด้วยวิธีการง่ายๆ โดยการติดกล้องตรวจจับไว้ที่ทรัพย์สินของกทม. เช่น รถเก็บขยะ รถน้ำ ฯลฯ ที่จะต้องเดินทางไปทุกเขตในกรุงเทพมหานคร และสามารถตรวจสอบความผิดปกติของทางม้าลาย ไฟจราจร หรือสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ 

‘ก้าวไกล’ จี้รัฐใช้ ‘กองทุนฟื้นฟูฯ’ แก้โครงสร้างหนี้เกษตรกร พร้อมแนะ ‘นโยบายเกษตรวิถีก้าวไกล’ เป็นทางออกควบคู่

‘คำพอง’ จี้ ภาครัฐใส่ใจแก้ปัญหา ‘หนี้ชาวนา’ เผย กลไก ‘กองทุนฟื้นฟูฯ’ ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ได้มาก แต่ต้องเร่งทำกว่านี้ ด้าน ‘เดชรัต’ สะท้อน เกษตรกรไทยยังขาดกลไกรองรับแบบใกล้ชิด แนะใช้ ‘นโยบายเกษตรวิถีก้าวไกล’ เป็นทางออก

ต่อกรณีที่ กลุ่มเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย (คนท.) เคลื่อนขบวนไปปักหลักชุมนุมบริเวณใกล้ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร โดยมีข้อเรียกร้องสำคัญ คือขอให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้ชะลอการฟ้องบังคับคดียึดทรัพย์ขายทอดตลาดทรัพย์สินของสมาชิก และเร่งดำเนินการโอนหนี้สินเข้าสู่กระบวนการการจัดการหนี้สินของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) พร้อมกับขยายเพดานวงเงินการซื้อหนี้ NPA จาก 2.5 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาทเพื่อออกเป็นมติ ครม. นั้น

นายคำพอง เทพาคำ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอให้กำลังใจพี่น้องเกษตรกรที่กำลังต่อสู้กับภาระหนี้สินทุกๆ คน หนี้สินเหล่านี้ต้องบอกว่าเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างอันเนื่องมาจากการมีรัฐบาลที่ไม่เคยใส่ใจปัญหาของพี่น้องเกษตรกรมาอย่างยาวนาน ปล่อยละเลยให้ต้องเผชิญชะตากรรมและแบกรับผลกระทบจากนโยบายเกษตรแบบทิ้งๆ ขว้างๆ เรื่อยมา ตนเองเป็นเกษตรกรก่อนจะมาเป็นผู้แทนราษฎรจึงรู้สภาพปัญหาเหล่านี้ดี

“รัฐบาลบอกเสมอว่าลดต้นทุนการผลิตสิ แต่ไม่เคยช่วยอย่างจริงจังอะไรเลย ทุกวันนี้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทุกอย่าง น้ำไม่มีต้องไปหา ค่าปุ๋ยไม่ต้องพูดถึงแพงมากโดยที่รัฐแทบไม่ได้ช่วย สวนทางกับราคาพืชผลการเกษตรที่มีแต่ต่ำลงๆ ภาพแบบนี้เกิดขึ้นวนเวียนจนเป็นวงจรหนี้ของเกษตรกรตามมาด้วยดอกเบี้ยสถาบันการเงิน ยิ่งถมทับมากขึ้นๆ ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายกลายเป็นมากกว่าเงินต้น แล้วแบบนี้พวกเขาจะลืมตาอ้าปากได้อย่างไร ยิ่งในสองปีที่ผ่านมา ยังต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้รายได้นอกภาคเกษตรลดลงอีก เมื่อก่อนยังมีเงินจากลูกหลานที่ออกไปทำงานในกรุงเทพฯ ส่งกลับมาจุนเจือได้ ตอนนี้ก็ลำบากเหมือนกัน บางคนต้องกลับมาบ้าน แต่งานใหม่ก็ยังไม่มี ผมจึงอยากให้รัฐบาลฟังเสียงเรียกร้องของเกษตรและชาวนาเพื่อตัดสินใจทางนโยบายที่เหมาะสมโดยเร็วด้วย 

“ผมคิดว่าหลังสถานการณ์โควิด ข้อเรียกร้องการพักหนี้ ชะลอหนี้ หรือการเยียวยาเป็นสิ่งที่รับฟังได้ พี่น้องเกษตรกรได้รับผลกระทบไม่แตกต่างๆ จากกลุ่มอื่น พวกเขาควรได้รับความเห็นใจจากรัฐบาลในการเจรจาหรือช่วยพยุงสถานทางเศรษฐกิจไม่ให้ทรัพย์สินของเขาถูกยึด ขณะเดียวกัน การปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการซื้อหนี้จากสถาบันการเงินไปให้กองทุนฟื้นฯ ดูแลต่อ เพื่อให้พวกเขาจ่ายหนี้ได้ยาวขึ้น ดอกเบี้ยต่ำลง ทรัพย์สินไม่สูญหาย พอจ่ายได้จนครบก็ได้รับที่ดินกลับคืน นี่เป็นแนวทางที่แก้ปัญหาได้จริง แต่เท่าที่ทราบ ที่ผ่านมากองทุนฟื้นฟูได้รับงบประมาณน้อย ไม่มีเงินไปซื้อหนี้ได้มากนัก จนทำให้คิวยาว พอมากเข้าเป็นล็อตใหญ่ก็อาจสร้างความกังวลให้สถาบันการเงินเจ้าหนี้ เมื่อภาครัฐเห็นปัญหาแบบนี้ก็ควรต้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อทำให้การโอนหนี้ไปให้กองทุนฟื้นฟูฯ ทำได้คล่องตัว หลังจากนั้นจะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีเพื่อทำให้กองทุนเป็นกลไกปกติที่เกษตรกรสามารถพึ่งพาได้เหมือนการรีไฟแนนซ์ในธุรกิจอื่น” คำพอง ระบุ 

ด้าน เดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต พรรคก้าวไกล (Think Forward Center : TFC)  กล่าวว่า ที่ผ่านมา กองทุนฟื้นฟูฯ มีข้อจำกัด คือการได้รับจัดสรรทรัพยากรในการชำระหนี้แทนเกษตรกรน้อย ปี 2560-2563 กองทุนฯ สามารถชำระหนี้แทนเกษตรกรได้เฉลี่ยปีละ 320 ราย คิดเป็นวงเงินโดยเฉลี่ย 105 ล้านบาท/ปี เท่านั้น ซึ่งหากรัฐบาลสามารถจัดสรรงบประมาณเพื่อการชำระหนี้แทนเกษตรกรได้ เกษตรกรก็จะสามารถปรับโครงสร้างหนี้ และเข้าสู่แผนฟื้นฟูของกองทุนฯ ได้มากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ เดชรัต ยังกล่าวด้วยว่า จากสถานการณ์โควิด สถานการณ์หนี้สินเกษตรกรยิ่งน่าเป็นห่วงขึ้น โดยหนี้สินเกษตรปี 2564 เมื่อเทียบกับ ปี 2562 พบว่า เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 22 ขณะที่รายได้เกษตรลดลงถึงร้อยละ 27 เป็นภาวะที่สวนทางกันคือรายได้ลดแต่หนี้เพิ่มขึ้น และหากดูที่ศักยภาพของลูกหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) จะพบว่า มีลูกหนี้ที่มีศักยภาพในการใช้หนี้ต่ำมากถึงร้อยละ 41 คือราว 2 ล้านคน ปัญหาหนี้สินเกษตรกรจึงเป็นปัญหาที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญและเร่งจัดการ

สำหรับแนวทางออก เดชรัต กล่าวว่า จำเป็นต้องใช้หลายมาตรการ โดย TFC มีข้อเสนอเรื่อง ‘นโยบายเกษตรกรวิถีก้าวไกล’ ที่จะต้องทำ 3 ปลดล็อก, 3 เปิดตลาดท้องถิ่น, 3 ยกระดับมาตรฐาน, 3 ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และ 3 กำกับดูแล 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top